พายุโซนร้อนเซินกาทำให้สกลนครและอีกหลายจังหวัดกลายเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วม สถานการณ์ของอุทกภัยในประเทศที่กำลังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อยานพาหนะที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทัน เมื่อปริมาณฝนกระหน่ำโหดถึง 250 มิลลิเมตรในแถบภาคอีสานทำให้อ่างเก็บน้ำพังทลายน้ำทะลักไหล่บ่าเข้าท่วมจนเอารถออกมาไม่ทัน รถจมน้ำ คือสถานการณ์ที่เลวร้ายสำหรับเจ้าของ หลังน้ำลดก็จะต้องหาทางนำพาหนะคู่ใจกลับมาซ่อมแซมหรือไม่ก็ขายทิ้ง สภาวะดังกล่าวมีความรุนแรงจากมวลน้ำปริมาณมหาศาลที่พายุเซินกาหอบมาปล่อยแบบเต็มๆ กว่าจะผ่านพ้นวิกฤตการณ์ดังกล่าวไปได้ คงต้องใช้เวลากันอีกนานนับเดือนถ้าไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามาในช่วงนี้

...


วิธีแก้ไขเบื้องต้นสำหรับรถที่จมน้ำ

1- อย่าพยายามรีบร้อนติดเครื่องยนต์รถที่เพิ่งเอาขึ้นจากน้ำหรือน้ำลดลงไปจากการท่วมมิดเครื่องยนต์เป็นอันขาด เพราะน้ำที่แทรกซึมอยู่ในเครื่องยนต์อาจจะทำให้กลไกภายในตัวเครื่อง เช่น ก้านสูบกับก้านกระทุ้งวาล์วได้รับความเสียหาย 

2-ห้ามพ่วงต่อกระแสไฟ เช่น พ่วงแบตเตอรี่ เพื่อติดเครื่องยนต์รถที่ใหม่กว่ารุ่นปี ค.ศ. 1989 หรือ พ.ศ. 2532 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้แอลเทอร์เนอเตอร์ซึ่งมักจะเรียกกันง่ายๆ ว่าไดชาร์จ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีติดตั้งอยู่ เช่น กล่องสมองกลไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) กล่องควบคุมเกียร์หรือระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยเสริมแรงเบรก หรือระบบป้องกันล้อล็อก รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบให้ความบันเทิงเสียหายจนใช้ไม่ได้ ซึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วมีราคาแพง

3-เมื่อรู้ว่าไม่สามารถขนย้ายรถยนต์ส่วนตัวออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วม ควรถอดสายไฟที่เชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ออกทันที แล้วยกแบตเตอรี่ออกจากช่องเก็บ ถ้าทำไม่ทัน แบตเตอรี่จมน้ำอยู่อาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะตามมาด้วยความเสียหายในระดับที่ร้ายแรง เมื่อน้ำแห้งแล้ว วงจรของการเชื่อมต่อระหว่างสายไฟขั้วบวก-ลบ หากยังไม่เอาสายไฟที่เชื่อมต่อออก แล้วมีกระแสเข้าไปมันจะก่อให้เกิดการลัดวงจรแบบทันทีทันใด จึงควรรีบถอดสายแบตเตอรี่ออกทันทีที่สามารถกู้รถให้พ้นจากพื้นที่น้ำท่วม

...

4-ก่อนที่จะต่อขั้วแบตเตอรี่เข้ากับรถอีกครั้งหลังจากพ้นน้ำแล้ว จำเป็นจะต้องปลดฟิวส์ในกล่องควบคุมของระบบถุงลมนิรภัยเพื่อตัดการทำงาน หากวงจรไฟฟ้าในระบบถุงลมนิรภัยเกิดลงดินหรือช็อตลัดวงจรโดยที่ยังไม่ได้ปลดฟิวส์ออก ถุงลมนิรภัยของใหม่ที่มีมูลค่าหลายหมื่นบาทในรถยนต์แทบทุกรุ่นหรือบางรุ่น ราคาเป็นแสน (ทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า-หลัง ม่านนิรภัย) อาจระเบิดขึ้นเองได้จากการลัดวงจรของระบบ

...

5-เมื่อทำการตรวจสอบรถยนต์ ที่เพิ่งกู้ให้พ้นจากพื้นที่น้ำท่วมแล้ว หากพบน้ำในที่เขี่ยบุหรี่ แสดงว่าน้ำคงเข้าไปถึงระบบไฟฟ้าบนหน้าปัดหรือคอนโซล มาตรวัด จอมัลติฟังก์ชัน และสวิตช์สั่งงานควบคุมระบบต่างๆ วงจรของระบบเหล่านั้น สามารถนำออกมาทำความสะอาดและเป่าแห้งโดยช่างผู้ชำนาญ แต่มันอาจตามมาด้วยปัญหาของวงจรในการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จมน้ำ หรือเปียกน้ำ อายุการใช้งานอาจสั้นลงมากหรือไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก

6-ระบบส่งกำลัง แบบเกียร์อัตโนมัติกับชุดทอร์กคอนเวอร์เตอร์ ต้องถอดออกมาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันไฮดรอลิกและแยกชิ้นส่วนทั้งหมดออกมาทำความสะอาดทุกชิ้นส่วน รวมถึงน้ำมันเฟืองท้ายและชุดฟันเฟืองของเฟืองท้าย ชุดส่งกำลังทรานสเฟอร์ของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

...

7-เมื่อตรวจสอบระบบส่งกำลัง ควรตรวจเช็กลูกปืนล้อทั้งสี่ล้อ โดยนำออกมาทำความสะอาดแล้วอัดสารหล่อลื่นพวกจาระบีใหม่ทั้งหมด

8-ยางหุ้มเพลาที่ขาด อาจมีน้ำเข้าไปแทนที่จาระบีภายใน ต้องถอดออกมาทำความสะอาดเปลี่ยนยางหุ้มเพลาใหม่ และอัดจาระบีหลังจากทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว รวมถึงลูกปืนล้อทั้งสี่ก็ต้องถอดออกมาทำความสะอาดแล้วอัดจาระบีด้วยเช่นกัน

9-ระบบระบายความร้อน เช่น หม้อน้ำ ต้องถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทั้งหมด แล้วเติมน้ำใหม่พร้อมน้ำยาลดอุณหภูมิน้ำตามระดับที่กำหนดในคู่มือประจำรถ พัดลมไฟฟ้าอาจได้รับความเสียหายเนื่องจากแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน มอเตอร์พัดลมข้อต่อสายไฟต่างๆ ถอดออกแล้วทำความสะอาดโดยการเป่าแห้งแล้วตากแดด หากโชคดีอาจทำงานได้เหมือนเดิม

10-รถที่จอดแช่น้ำเพียงแค่ครึ่งล้อเป็นเวลานานจะทำให้ระบบเบรกหรือลูกปืนล้อเกิดความเสียหาย บางรายถึงกับต้องซ่อมหรือเปลี่ยนเบรกกันทั้งระบบ ตรวจเช็กโดยการเปลี่ยนของเหลวพวกน้ำมันเบรก สายไฟเซนเซอร์ของระบบช่วยเบรก พวก ABS /BA ในรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีติดตั้ง ข้อต่อสายไฟที่เชื่อมต่อกับชุดควบคุม ลองถอดออกแล้วทำความสะอาด เป่าขั้วต่อให้แห้งก่อนการเสียบกลับคืนเพื่อทดสอบว่ามันยังสามารถใช้งานได้หรือเปล่า

11-แร็คพวงมาลัย โดยเฉพาะพวงมาลัยแบบพาวเวอร์ทั้งปั๊มไฟฟ้าและปั๊มสายพาน ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องตรวจระบบรองรับพวกโช้คอัพ ลูกหมากปีกนก ยางรองรับห่อหุ้ม ควรเปลี่ยนถ้าพบความเสียหายหรือไม่แน่ใจ

12-กล่อง ฟิวส์ รีเลย์เซ็นเซอร์ ต้องได้รับการตรวจเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเสียหาย โดยเฉพาะกล่องฟิวส์ถ้าเกิดมีการจมน้ำเป็นเวลานานอาจเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ ควรเปลี่ยนของใหม่ รวมถึงจานจ่าย คอยล์จุดระเบิด เมื่อเกิดความชื้นแทรกซึมในระบบแล้วใช้งานต่อไปมักทำให้เครื่องยนต์สั่น การถอดชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์หากไม่แน่ใจควรหาช่างหรืออู่ที่มีความชำนาญในการแก้ไขดีกว่าจะมานั่งลงมือด้วยตัวเอง

13-ตรวจสอบระบบปรับอากาศ พวกคลัตช์ของคอมเพรสเซอร์แอร์ พัดลมแอร์ อุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อความเสียหายมากที่สุดหลังจากแช่น้ำ คือ ชุดควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอลภายในห้องโดยสาร ส่วนใหญ่จะพังแทบทั้งสิ้นต้องทำใจ ส่วนระบบแอร์แบบปุ่มหมุนในกระบะรุ่นเก่ายังพอถูไถทำความสะอาดเป่าให้แห้งสนิทแล้วลองใช้งานดูว่าเสียหายหรือยังใช้ได้อยู่

14-ถอดพรมรองพื้นกับเบาะที่จมน้ำออกมาทำความสะอาดทั้งหมด แล้วผึ่งทั้งพรมทั้งรถโดยจอดตากแดดเปิดประตูทุกบานจนกว่าจะแน่ใจว่าภายในแห้ง และมีกลิ่นอับลดลง พรมกับเบาะสามารถทำความสะอาดป้องกันกลิ่นอับชื้นแล้วตากให้แห้งเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้

รถจมน้ำส่วนใหญ่ หลังจากแก้ไขปัญหาจากที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด อาจไม่สามารถกลับมาทำงานปกติเหมือนเดิมได้ บางระบบอาจรวนจนเจ้าของต้องขายทิ้ง หากทำเองไม่ได้ก็ต้องพึ่งบริการของช่างหรืออู่ซ่อมรถที่มีความชำนาญ ขอให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดีครับ.

ข้อมูลอ้างอิง เอกสารประกอบการเขียนจาก
ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (น้าหมู) คอลัมนิสต์อาวุโสสายยานยนต์ผู้ล่วงลับ.
สำนักพิมพ์ บริษัทพิฆเณศ พริ้นท์ติ้งเซ็นเตอร์ จำกัด 8 เมษายน 2543

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th