การเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของรถยนต์ยี่ห้อ Audi ผ่านบริษัท Meister Technik ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก Audi AG ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถ Audi ในประเทศไทย สร้างผู้เล่นหน้าใหม่ในกลุ่มรถยนต์พรีเมียม Audi จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบใช้รถยนต์จากเยอรมัน หลังจากปล่อยรีวิว Audi A5 45 TFSI Quattro S-Line ก็มาถึงช่วงเวลาที่คอลัมน์แมนแอนด์แมชชีนจะได้ลองขับทดสอบ Audi New A4 รุ่นสูงสุด (ที่มีขายในประเทศ) นั่นก็คือ A4 45 TFSI Quattro S-Line ราคา 3,149,000 บาท Audi A4 รถซีดานขนาดกะทัดรัดคู่แข่งตัวกลั่นของ BMW Series-3 และ Mercedes Benz New C-Class แต่เหนือชั้นกว่าด้วยราคาและกำลังของเครื่องยนต์ในรูปแรงม้าและแรงบิด!
...
Audi New A4 รุ่น 45 TFSI Quattro S-Line เวอร์ชั่น 2017 ราคา 3,149,000 บาท มาพร้อมกับเรือนร่างที่ใหญ่โตขึ้นเมื่อเทียบกับ A4 รุ่นเก่า มิติตัวถังมีความกว้าง 1,842 มิลลิเมตร ยาว 4,726 มิลลิเมตร สูง 1,427 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อ วัดจากดุมหน้าไปหลัง 2,820 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหน้า 1,572 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างฐานล้อหลังอยู่ที่ 1,555 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,510 กิโลกรัม ขนาดของตัวรถพอฟัดพอเหวี่ยงสูสีกับ BMW Series-3 และ Mercedes Benz C-Class สำหรับ A4 รุ่น 45 TFSI ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อตลอดเวลา Quattro เสริมความคมเข้มด้านมุมมองด้วยอุปกรณ์ตกแต่งของ S-Line ไล่เรียงจากสปอยเลอร์หน้า-หลัง ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว กาบบันได ไฟหน้าที่มีความเฉียบคมของงานดีไซน์ กระจังหน้าทรงเหลี่ยม สัญลักษณ์ของ Audi รุ่นใหม่ และความสามารถในการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตรอัดอากาศด้วยเทอร์โบ
...
...
ด้านข้างของ A4 ไหลลื่นด้วยเส้นข้างลำตัวลากจากมุมไฟหน้าผ่านบานประตูไปจนถึงมุมของไฟท้าย เสาหน้ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ รวมถึงเสาท้ายก็ยังใหญ่ตามไปด้วยแบบช่วยไม่ได้ บานประตูทั้งสี่บริเวณขอบกระจกกรุทับด้วยงานอัลลอยสีเงินเพื่อยกระดับความหรูดูแล้วสบายตา ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว ห่อรัดเอาไว้ด้วยยางเกาหลียี่ห้อ Hankook รุ่น ventus s1 evo2 ไซส์ 245/40 R18 เท่ากันทั้ง 4 ล้อ เนื่องจากเป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อจึงมีความจำเป็นที่จะต้องยัดยางให้เท่ากันทั้งหมด ไฟท้ายหลอด LED มีดีไซน์ที่คมกริบราวกับมีดโกนและเชื่อมโยงเหลี่ยมมุมของตัวรถ A4 ได้อย่างกลมกลืน
...
ห้องโดยสารของ A4 45 TFSI Quattro S-Line แม้จะไม่ใช่ Virtual cockpit เหมือน A5 รุ่นพี่ แต่ก็มีดีที่วัสดุและงานตกแต่งสุดประณีต อุปกรณ์ไฮเทคเพียบ ไล่จากระบบเชื่อมต่อสมารท์โฟนเวอร์ชั่นล่าสุด ปุ่มควบคุมระบบ MMI ห้องโดยสารของ A4 รุ่นล่าสุดแม้จะคล้ายกับ New A5 Coupe แต่มีความแตกต่างในบางจุดบางตำแหน่ง กลิ่นไอของ BMW โชยมาฉุนขึ้นจมูกเหมือน A5 ไม่ว่าจะเป็นงานหุ้มหนัง ชิ้นงานอัลลอย ผ้าเนื้อดีที่ใช้บุหลังคา พรมปูพื้นกับปุ่มและสวิตช์ที่มีหน้าตาคล้ายกับงานตกแต่งใน BMW
แผงแดชบอร์ดขึ้นรูปด้วยโฟมหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ดูหรูหราและส่งถ่ายความทันสมัยออกมาให้สัมผัส ชิ้นงานอะลูมินั่มอัลลอยคาดกลางคอนโซลทำให้ดูมีสง่าราศีขึ้นเยอะ ชุดควบคุมอุณหภูมิแบบแยกโซนออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย ปุ่มปรับอุณหภูมิแยกซ้าย- ขวา ถัดจากแผงควบคุมชุดแอร์ บริเวณด้านล่างเป็นที่อยู่ของสวิตช์ปรับโหมดการขับเคลื่อน ปุ่มเปิด-ปิดระบบ Auto Start - Stop ปุ่มสัญญาณเซนเซอร์รอบคัน
ซุ้มเกียร์ยกขึ้นจากอุโมงค์เกียร์ขนาดใหญ่ โดยทำการเอียงอุปกรณ์ทั้งหมดให้เข้าหาตัวคนขับเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ปุ่มทรงกลมควบคุมระบบ MMI ของ Audi ยกมาทั้งยวงจากรถ A5 แม้จะทำงานได้รวดเร็วแต่ผมกลับชอบปุ่ม iDRIVE ของ BMW ซึ่งมีการออกแบบให้ปุ่มควบคุม iDRIVE เป็นสวิตช์แบบ 4 ทิศทาง สำหรับสวิตช์ Control Knob ทำงานรูปแบบเดียวกับการใช้เม้าส์ในคอมพิวเตอร์ ผู้ขับสามารถลากนิ้วเป็นตัวอักษรบนหน้าสัมผัสของแป้น Control Knob เพื่อป้อนข้อมูลให้กับระบบ MMI ได้อย่างสะดวก รองรับการทำงานทั้งในส่วนของโทรศัพท์ วิทยุ และ Multi Media ต่างๆ ระบบเครื่องเสียงจัดเต็มด้วยเครื่องเสียงชุดใหญ่บิ๊กบึ้ม ออกแบบโดยแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำ Bang & Olufsen ให้มิติของเสียงเพลงครบถ้วนกระบวนความ ทั้งความคมชัดกรุ้งกริ้งของทวิตเตอร์กับความหนักแน่นของเสียงเบส Audi จัดลำโพงทั้งใหญ่และเล็กมาให้ถึง 19 ตัว ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ดังกันเลยทีเดียว ส่วนหัวเกียร์รูปทรงประหลาดล้ำคล้ายคันเร่งของเรือยอชต์ เป็นหัวเกียร์ทรงเหลี่ยมทำจากอัลลอยพร้อมกับหุ้มด้วยหนังแท้ดูดีมีราคา ช่องวางแก้วน้ำออกแบบได้ดี โดยมีแก้วของ Audi แถมมาให้เพื่อคนชอบพกพากาแฟหรือน้ำอัดลม
เบาะโดยสารทุกตำแหน่งของ Audi A445 TFSI หุ้มด้วยงานหนังแท้โทนสีอ่อน เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง ซึ่งคนขับสามารถปรับเบาะให้กระชับหรือผ่อนคลายได้ตามสะดวกด้วยสวิตช์ปรับตั้งเบาะด้านข้าง เบาะผู้โดยสารตอนหลังพับได้แบบ 40-60 ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระได้อีกเพียบ โดยเฉพาะการยัดจักรยานเสือหมอบคันโตใส่เข้าไปแบบสบายๆ
พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ทรง 3 ก้านฐานตัดออกแนวสปอร์ต ก้านวงมีสวิตช์ปรับตั้งมัลติฟังก์ชั่นสำหรับการปรับเครื่องเสียง รับหรือวางสายโทรศัพท์ ก้านสวิตช์ปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หลังพวงมาลัย Paddle Shift พวงมาลัยหนังแท้ของ A4 มีขนาดกำลังพอดีไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ทำให้ยึดจับได้อย่างถนัดมือ พวงมาลัยของมันยังปรับได้ถึง 4 ทิศทาง แต่ใช้การปรับด้วยมือแทนที่จะเป็นการปรับด้วยไฟฟ้า
มาตรวัดแผงหน้าปัดแบบอนาล็อกใช้เข็มวัดรอบเครื่องยนต์และวัดความเร็วที่ดูคล้ายกับแผงมาตรวัดของรถ Volkswagen มาตรวัดความเร็วยัดตัวเลขมาให้ถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่วิ่งจริงๆ ได้แค่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จอภาพ MID multi information display แบบ TFT หรือ thin film transistor คอยแจ้งข้อมูลของการขับเคลื่อน เช่น อุณหภูมิภายนอก เวลา ทริปมิเตอร์ แรงดันลมยาง เชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง ตัวเลขความเร็วแบบดิจิตอล คำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และตัวเลขการประหยัดพลังงานในโหมด Efficiency
ขุมกำลังของ Audi ยุคใหม่นั้นขึ้นชื่อมากในเรื่องของความแรง Audi A4 45 TFSI Quattro S-Line วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Audi valvelift system เครื่องยนต์วางตามยาว ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ Quattro เครื่อง 4 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบประสิทธิภาพสูงมีกำลังมากขึ้น 17% และประหยัดขึ้น 22% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ของ A4 รุ่นที่แล้ว เครื่องยนต์ของซีดานตัวกลั่นรุ่นนี้ยังใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบผสมผสาน Dual Injection ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง Direct Injection และ Manifold Injection ในแต่ละสูบของเครื่อง 2.0 TFSI ใช้หัวฉีดเชื้อเพลิง 2 หัว ระบบ Dual Injection จะควบรวมการทำงานโดยขึ้นตรงกับโหลดและรอบเครื่องเป็นหลัก โดยมี Direct Injection เป็นหัวฉีดฝั่งแรงดันสูง ใช้เทคโนโลยีล่าสุดของหัวฉีดแบบ Piezo สามารถฉีดจ่ายเชื้อเพลิงได้เร็ว ปลดปล่อยแรงดันสูงสุด 250 บาร์ โดยที่แรงดันในการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงจะแปรผันไปตามโหลดของเครื่องยนต์เป็นหลัก
Manifold Injection เป็นหัวฉีดฝั่งแรงดันต่ำ ใช้หัวฉีดแบบ MPI หรือ Multi Point Injection สำหรับการฉีดเชื้อเพลิงแบบฝอยละออง 360 องศารอบทิศทาง เพื่อคลุกเคล้ากับอากาศซึ่งรออยู่ภายในท่อร่วมไอดีจากการอัดของเทอร์โบประสิทธิภาพสูง Manifold Injection จึงทำหน้าที่ป้อนเชื้อเพลิงให้กับเครื่อง 45 TFSI ขณะที่ใช้รอบต่ำตั้งแต่รอบเดินเบาไปจนถึงการออกตัว ส่วน Direct Injection จะเข้ามารับหน้าที่ต่อในรอบกลางถึงรอบสูงสุด ในบางสภาวะการทำงานของเครื่องยนต์ หัวฉีดทั้งสองระบบจะทำหน้าที่ผสมผสานกันเพื่อทำให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดการจุดระเบิดหรือสันดาปที่มีประสิทธิภาพและทำให้มีมลพิษที่ปะปนมากับไอเสียในปริมาณที่ต่ำลงมาก
เทอร์โบแบบ Twin Scroll อัดอากาศด้วยแรงดัน 1.4 บาร์ แรงกว่าเทอร์โบของ A4 รุ่น 40 TFSI ที่มีแรงดัน 0.8 บาร์อยู่พอสมควร กลไกของระบบวาล์วแปรผัน Audi valvelift system คอยปรับเปลี่ยนองศาของการเปิดวาล์วได้มากถึง 60 องศา ส่วนวาล์วไอเสียแปรผันได้ 30 องศา ระบบเพลาราวลิ้นของเครื่องยนต์ตัวนี้จะคอยปรับเปลี่ยนองศาของวาล์วไอเสียให้มีความสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์เป็นหลัก โดยปรับระยะของการเปิดวาล์วเพื่อระบายไอเสียออกจากห้องเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว
ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ของ A4 45 TFSI เป็นเกียร์ออโต้คลัตช์คู่แบบ 7 สปีด S-Tronic ส่วนกลไกขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro อัพเกรดด้วยเฟืองแบบ Torsen ไปเป็นแบบ Crown-gear ที่มีขนาดเล็กลงและมีน้ำหนักเบาขึ้น 2 กิโลกรัม Quattro ใน A4 ทำงานแบบกึ่งกลไกส่งถ่ายแรงบิดทั้งหมดไปยังล้อหน้าและหลัง ในสภาพการณ์ปกติ A4 จะมีแรงบิดที่ล้อหน้า 40% และที่ล้อหลัง 60% แรงบิดจะแปรผันไปตามสภาพการณ์ ล้อหน้าสามารถทำงานด้วยแรงบิด 70% ขณะเดียวกันล้อหลังก็สามารถรับแรงบิดได้ถึง 85% การปรับเปลี่ยนส่งกำลังไปยังล้อหน้าและหลังช่วยแก้อาการที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอาการหน้าดื้อโค้งหรือท้ายปัด
Sport Differential อุปกรณ์เสริมนอกเหนือไปจากเฟืองท้ายปกติ รับหน้าที่สร้างสมดุลของการส่งกำลังระหว่างล้อซ้าย-ขวาของล้อคู่หลัง โดยเฉพาะเมื่อกำลังขับเข้าโค้ง Sport Differetial รับข้อมูลจากพวงมาลัย รอบการหมุนของล้อแต่ละข้าง ระนาบการเอียงของตัวรถรวมถึงอัตราเร่ง เพื่อประมวลผลและจัดสรรแรงบิดไปยังล้อหลังที่อยู่นอกหรือในของโค้ง Sport Differetial ใช้ชุดคลัตช์หลายแผ่นซ้อนวางไว้ในตำแหน่งก่อนส่งกำลังไปยังเพลาขับทั้งสองฝั่ง โดยจะผกผันแรงบิดไปยังล้อหลังตามการทำงานของสมองกลไฟฟ้าที่ต่อเชื่อมกับองศาของพวงมาลัย รอบของล้อที่กำลังหมุน การเอียงของตัวรถและอัตราเร่ง
ระบบรองรับหรือช่วงล่างของ A4 45 TFSI Quattro S-Line ทั้งหน้าและหลังเป็นแบบ Five link การนำเอาชิ้นส่วนอัลลอยมาใช้ในช่วงล่างของรถคันนี้ทำให้น้ำหนักใต้สปริงหายไป 5 กิโลกรัม โช็คอัพแบบ MONO-tube ถูกปรับตั้งให้สอดคล้องกับรูปแบบของช่วงล่าง รวมถึงค่าสปริงที่มีการปรับให้ขับได้สบายมากยิ่งขึ้น ลดอาการกระด้างและทำให้เกิดความเสถียรเมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ
ร่ายยาวจนคนอ่านเริ่มหนี เนื่องจากในยุคนี้ความใส่ใจของคนนั้นสั้นยิ่งกว่าปลาทอง อะไรที่ยาวก็จะหนีทันทีโดยไม่พยายามหาความรู้ใส่ตัวใส่หัวให้ฉลาด โลกโซเชียลได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์มือถือจำนวนมากให้เป็นไปในทางที่แย่ลง จากที่เคยอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ที่มีทั้งความรู้และสาระที่มีประโยชน์ ก็เหลือแค่อ่านไม่กี่บรรทัดหากเห็นว่ายาวก็จะรูดผ่านทันที ทั้งๆ ที่ข้อมูลบางอย่างนั้นเป็นประโยชน์กับตัวเอง!!
ผมรับเจ้า 4 ห่วงรุ่น A4 45 TFSI จากสำนักงานของ Meister Technik ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก Audi AG ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถ Audi ในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาสั้นจู๋แค่ 4 วันในการทำความรู้จักกับมัน เจ้านี่คือศัตรูตัวร้ายของ BMW Series-3 รวมถึง Mercedes Benz C-Class ซึ่งคลอดออกมาในปี ค.ศ.2015 กว่าจะเข้ามาขายในไทยก็ปาเข้าไป 2 ปี แต่ความสดและความแรงยังคงเปล่งประกายออกมาจากตัวรถ แม้จะจอดนิ่งอยู่กับที่ก็ยังดูแรง การขับใช้งานในเมือง A4 45TFSI พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ทำตัวได้น่ารักสมราคา แค่โหมดต่ำสุดหรือโหมด Efficiency ก็เหลือเฟือต่อการขับในเมือง แถมยังได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่โดนใจ ขับในเมืองใน A4 มีตัวเลขฟ้องมาที่จอ MID โดยสามารถทำได้ที่ 8.6 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่ได้ประหยัดสุดเหมือนเครื่องดีเซลของ BMW 320d แต่ก็ไม่ได้กินจุอย่างที่เข้าใจกันแต่แรก การเก็บเสียงเมื่อขับใช้งานในกรุงเทพฯ อยู่ในเกณฑ์ดีสูสีกับคู่แข่งจากเยอรมนีทั้งสองแบรนด์ คันเร่งเบาหวิวตอบสนองแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็พร้อมที่จะท้ารบทันทีที่เผลอกดคันเร่งลงลึก!
การออกตัวจากสัญญาณไฟจราจรกินขาดคู่แข่งทั้งสองคัน อัตราเร่งจาก 0-100 ใน 5.8 วินาทีนั้นเร็วมากในรถซีดาน เร็วกว่า MINI JCW (John Cooper Work) ที่ทำได้ 6.7 วินาทีอยู่พอสมควร ทั้งๆ ที่ใช้เครื่อง 2 ลิตรเทอร์โบเท่าๆ กัน แถมเจ้า MINI JCW ยังมีขนาดที่เล็กและเบากว่ามาก! ส่วนอัตราเร่งของ BMW 320d กับ Mercedes Benz C250 นั้นยังคงห่างไกลกับเจ้า 4 ห่วงชนิดเทียบไม่ติดกันเลยทีเดียว อย่าลืมว่าราคา 3.1 ล้านของ A4 45 TFSI นั้นแพงกว่าคู่แข่งจากเยอรมันหลายแสน เป็นเงินที่จ่ายแพงกว่าเพื่อแลกกับระบบขับเคลื่อนทุกล้อกับแรงม้าระดับ 252 ตัว พร้อมแรงบิด 370 นิวตันเมตร ที่พร้อมจะระเบิดออกมาทันทีทันใดเมื่อคุณเกิดอารมณ์อยากไปให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
เมื่อขับออกทางไกลลากกันยาวๆ 300 กิโลเมตรไปยังปากน้ำปราณ เจ้า A4 ในโหมด Dynamic จะกลายเป็นรถซีดานบ้าพลังที่พร้อมจะปลดปล่อยความเร็วออกมาให้สัมผัสหากมีถนนที่โล่งมากพอ Dynamic Mode ปรับสภาพการควบคุมให้เปลี่ยนจากรถซีดานบ้านๆ เป็นรถสปอร์ตในชั่วพริบตา ผมสามารถทะยานไปรอบๆ ภูเขาของเมืองปากน้ำปราณได้ราวกับนักขับมืออาชีพ ที่ความเร็วสูงมันก็ยังทรงตัวได้อย่างเฉียบขาดจากระบบขับเคลื่อนทุกล้อ Quattro ที่แสดงออกถึงความมาดมั่นผ่านกลไกขบวนเฟืองที่มีความสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน
แรงบิด 370 นิวตันเมตร ทะลักออกมาในย่าน 1,600-4,500 รอบ แต่ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์แนวบ้ารอบทำให้คุณสามารถลากรอบเครื่องจนทะลุ 6,500 รอบได้อย่างง่ายดายที่เกียร์ 3!! เกียร์ทวินคลัตช์ 7 สปีดทำงานผ่านแป้น Paddle Shift ด้วยความรวดเร็วว่องไวจนจับความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ คุณสามารถสับเกียร์ลงต่ำจากเกียร์ 7 ไปที่เกียร์ 3 ก่อนจะมุดหัวรถเข้าโค้งได้อย่างว่องไวจนทำให้รู้สึกแปลกใจทั้งๆ ที่มีอัตราทดแค่ 7 สปีด แต่การมีคลัตช์ถึง 2 ชุดทำให้การสับเกียร์เป็นไปด้วยความละเอียดรวดเร็ว แค่กะพริบตาเกียร์ก็เปลี่ยนไปตามนิ้วที่กระดิกแล้วล่ะครับ อะไรจะไวปานนั้น
พวงมาลัยของมันถูกปรับให้คาอยู่ในโหมด Dynamic การกระทำแบบนั้นจะทำให้พวงมาลัยของ A4 หนักขึ้นเล็กน้อย แต่ก็มีความเหมาะสมกับการใช้ความเร็ว หากชอบพวงมาลัยที่เบาสบายข้อมือก็แค่เข้าไปปรับในโหมด Individual โดยคาไว้ที่ Comfort แค่นี้พวงมาลัยของมันก็จะเบาราวกับรถญี่ปุ่น การหักเลี้ยวไปตามโค้งยาวๆ แถบปากน้ำปราณนั้น พวงมาลัยอัตราทดแปรผันให้ความรู้สึกมั่นคงและเชื่องไม้เชื่องมือ หมุนไปเท่าไรก็เลี้ยวไปเท่านั้น ไม่มีขาดหรือเกิน การปรับตั้งพวงมาลัยให้เหมาะกับการขับไม่ว่าจะขับช้าหรือเร็วเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อการควบคุม หากตั้งพวงมาลัยให้เบาแต่ดันขับเร็วจิ๊ดก็จะทำให้เกิดการขัดแย้งกันอยู่บ้างตามหลักกลศาสตร์ของการเคลื่อนที่ เมื่อต้องการไปเร็วๆ ขับแรงๆ พวงมาลัยที่ตึงข้อไม่ไวหรือเบามากจนเกินไปจะทำให้คุณควบคุมรถได้ดีขึ้น
วิศวกรของ Audi ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากพอสำหรับ Audi A4 โดยเฉพาะรุ่น 45 TFSI นั้น มีแรงดึงที่ดีเยี่ยมเกือบจะทุกย่านของรอบเครื่องยนต์กันเลยทีเดียว แรงดึงส่งให้รถพุ่งทะยานลิ่วๆ ไปข้างหน้าราวกับก้อนหินที่ถูกดีดออกจากหนังสติ๊ก เผลอแผล็บเดียวหากไม่มองมาตรวัดแล้วยังกดคันเร่งลงลึกอย่างต่อเนื่อง มีหวังได้โดนใบสั่งข้อหาใช้ความเร็วเกินกำหนดอย่างแน่นอน แรงบิด 370 นิวตันเมตร ที่ทะลักออกมากลับไม่ทำให้เจ้าหมอนี่กินเชื้อเพลิงมากอย่างที่คิดไว้แต่แรก เมื่อลองดูตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่หน้าจอ MID ก็อยู่ที่ 9.6 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งๆ ที่ลากยาวอัดหนักมาตั้งแต่เส้นบายพาส ส่วนช่วงล่างก็ให้รสชาติเหมือนกับรถเยอรมันทั่วไป นั่นก็คือความหนึบแน่น ออกจะโดดเด่นกว่ารถคู่แข่งตรงที่ระบบขับเคลื่อนทุกล้อซึ่งทำให้มันเกาะจิกโค้งราวกับตีนตุ๊กแกคล้ายๆ กับ Audi A5 Coupe โดยมีกลิ่นของ BMW โผล่ออกมาบ้างเมื่อห้อเต็มสูบบนทางตรงยาว!
สิ่งที่ทำให้รู้สึกชอบใน Audi A4 45 TFSI ก็คือ ห้องโดยสารที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับทุกคน รวมถึงความทันสมัยและรูปแบบแนวๆ ของงานตกแต่งภายใน เป็นห้องโดยสารที่เน้นความประณีตบรรจงในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยกเว้น Audi R8 เครื่องยนต์ทำงานสุภาพเรียบร้อยเงียบๆ เบาๆ ในรอบต่ำและพร้อมที่จะโวยวายทันทีที่คุณปรับโหมดไปสู่ Dynamic แก่นแท้ของรถคันนี้คือการทำความเร็ว การทรงตัวและความสนุกหลังพวงมาลัยที่ไม่มีคำว่าเป็นรองใคร
ถามว่ามันจะสามารถเอาชนะคะคานรถเจ๋งๆ อย่าง BMW และ Mercedes Benz ได้หรือไม่ ก็ขอตอบแบบไม่ต้องมานั่งเกรงใจคนของ Benz และ BMW ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น Audi A4 มีจุดเด่นที่แตกต่างไปจากการขับอันเร้าใจของ BMW รวมถึงความหรูระดับเทพของ Mercedes จุดเด่นดังกล่าวก็คือระบบขับเคลื่อนทุกล้อ Quattro รวมถึงความโดดเด่นของรูปลักษณ์ที่เป็นเอกเทศ มองครั้งเดียวก็รู้ว่ามันคือ Audi รวมถึงส่วนผสมอันแปลกประหลาดของระบบขับเคลื่อนที่ควบรวมเครื่องยนต์ เกียร์ พวงมาลัย และช่วงล่างให้ทำหน้าที่เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แบบ มีแต่ความหรูหราเท่านั้นที่เป็นรอง Mercedes Benz นอกนั้น Audi กินขาดทุกกระบวนท่า ลองไปหาขับดูด้วยตัวและลูกกะตาของคุณเอาเองก็จะทราบว่าที่ฟุ้งมาทั้งหมดนั้นจริงหรือไม่จริง!
Audi A4 45 TFSI Quattro S-line ราคา 3,149,000 บาท
เครื่องยนต์................................เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง........................จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection),
ระบบอัดอากาศ...........................เทอร์โบชาร์จ
ระบบวาล์ว................................วาล์วแปรผัน (Audi valvelift system)
วาล์ว......................................4 วาล์วต่อสูบ
ปริมาตรความจุกระบอกสูบ..............1,984 ซีซี
แรงม้าสูงสุด.............................185 กิโลวัตต์ 252 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด.............................370 นิวตันเมตร ที่ 1,600- 4,500 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง............................เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน..........................ขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา (quattro
permanent all-wheel drive)
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง...5.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด.............................250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system)
ระบบบังคับเลี้ยว..........................พวงมาลัยไฟฟ้า EPAS
เบรกหน้า..................................ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
เบรกหลัง .................................ดิสก์เบรก
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) ...................1,510 กิโลกรัม
พื้นที่เก็บสัมภาระ(ลิตร)..................480 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)...................58 ลิตร
ล้อและยาง................................ล้อ 18 นิ้ว ขนาด 8J x 18 ยาง Hankook ventus s1 evo2 245/40 R18 พร้อมยางอะไหล่
มิติตัวถัง
ความกว้าง...............................1,842 มิลลิเมตร
ความยาว.................................4,726 มิลลิเมตร
ความสูง..................................1,427 มิลลิเมตร
ฐานล้อ....................................2,820 มิลลิเมตร
ความกว้างฐานล้อหน้า...................1,572 มิลลิเมตร
ความกว้างฐานล้อหลัง...................1,555 มิลลิเมตร
ระบบความปลอดภัย
A4 45 TFSI quattro S line
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Anti-slip regulation)
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with
stabilization function)
เซนเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
ชุดปฐมพยาบาล
อุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line
ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบฉีดน้ำทำความสะอาด
(Headlight washer system)
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
อุปกรณ์มาตรฐาน
A4 45 TFSI quattro S line
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, ไล่ฝ้า, พับไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง และปรับมุมมองกระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
ความสะดวกสบาย
เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต
เบาะนั่งหุ้มหนัง
เบาะผู้โดยสารด้านหลังพับได้
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบดีลักซ์ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน
พวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน แบบสปอร์ตท้ายตัด
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control)
ฟังก์ชันควบคุมความเร็ว (Programmable speed limiter)
ระบบ Comfort key พร้อมเซนเซอร์ควบคุมการเปิดที่เก็บสัมภาระท้ายรถ
ระบบข้อมูลและความบันเทิง
ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ความบันเทิง (Audi music interface)
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
ระบบ MMI Radio plus
จอสีขนาด 7 นิ้ว
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี
รองรับ CD, MP3 และ SD card
ช่องเชื่อมต่อ AUX-IN และ USB
ไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร (Ambient lighting)
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mailchang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/