Lexus แนะนำ IS200t เวอร์ชั่นแต่งเต็ม F-SPORT ปลุกสัญชาตญาณของการขับขี่ในรูปแบบสปอร์ต กับรถซีดานหรูขนาดกะทัดรัดรุ่นล่าสุดจากแบรนด์หัวลูกศร นี่คือ Lexus IS ใหม่เวอร์ชั่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ ผสานความสปอร์ตเข้ากับเทคโนโลยีขับเคลื่อนล้ำอนาคต ลดขนาดเครื่องยนต์แต่ยังคงแรงบิดแบบสปอร์ตซีดานด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน รูปลักษณ์เชื่อมโยงกับรถต้นแบบ Lexus LF-LC ด้วยความประณีตพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียดของงานปรับปรุง รูปลักษณ์ดุดันด้วยชุดแต่ง F-SPORT กระจังหน้าแบบ Spindle Grille พร้อมเรือนร่างที่เน้นความปราดเปรียวลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ Lexus เทคโนโลยีการออกแบบแชสซีส์อันก้าวล้ำจาก Lexus ปรุงแต่งทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบรองรับ ชุดส่งกำลังอัตโนมัติแบบใหม่ที่มีอัตราทดมากถึง 8 สปีด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารยังคงยึดแนวทางของ Lexus ด้วยห้องโดยสารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอบสนองการใช้งานและความต้องการในการขับเคลื่อนเดินทาง ระบบเครื่องยนต์วางตามยาวขับเคลื่อนล้อหลังโดยกระจายน้ำหนักให้ตกอยู่ตรงกลางเพื่อการทรงตัวที่ดี ปล่อยราคาแพงไม่แคร์สังคมถึง 4,375,000 บาท! 

Lexus ตระกูล IS รุ่นปี 2017 ใช้กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Spindle Grille ทำจากพลาสติกที่ออกแบบให้มีทรงของกระจังที่ดุดันสอดคล้องกับชุดแต่ง F-Sport รอบคันเพิ่มความรู้สึกที่ปราดเปรียว ชุดแต่ง F-Sport ของ Lexus ผ่านการออกแบบและทดสอบด้านระบบอากาศพลศาสตร์มาเป็นอย่างดี เพื่อเสริมสมรรถนะการใช้งานและเพิ่มความหรูหราให้กับรถรุ่นปกติ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยางสปอร์ตประสิทธิภาพสูง Dunlop sport maxx ยางหน้า 225/40 R18 ยางหลัง 255/35R18 เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตที่ตัดเย็บอย่างประณีต อุปกรณ์ภายในยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ Lexus ทั้งอัลลอย หนังและพลาสติกเกรดสูง

...

...

Lexus ใช้ความพยายามในการดันโมเดล IS ให้เทียบเคียงรถคู่แข่งร่วมคลาส ศัตรูหมายเลขหนึ่งของ IS หมายถึงรถยนต์สมรรถนะสูงอย่าง Mercedes Benz C-Class C250 / BMW Series-3 F30 325i / Audi A4 2.0 S-Line ที่มันจะต้องเอาชนะทั้งด้านรูปทรงและประสิทธิภาพ รวมถึงราคาค่าตัวที่แพงโด่งโชว์ความเป็นยานยนต์พรีเมียมที่มีชาติกำเนิดมาจากดินแดนอาทิตย์อุทัย แบรนด์ Lexus ต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างแบรนด์ยาวนานนับเป็นสิบๆ ปีกว่าที่จะได้รับการยอมรับ ในปัจจุบัน โมเดล IS หมายถึงรถยนต์ในกลุ่มสปอร์ตซีดานขนาดกะทัดรัด ขณะเดียวกัน นวัตกรรมใหม่ของระบบขับเคลื่อน Lexus ได้เข้ามาช่วยเพิ่มเติมสมรรถนะของตัวรถรุ่นล่าสุดคันนี้ให้เทียบเคียงรถคู่แข่งจากเยอรมนีได้อย่างไม่เคอะเขินด้วยการวางเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2 ลิตรติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบกำลัง 245 แรงม้า ตามกระแสลดขนาดเครื่องยนต์เพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองกลดค่าปล่อยมลพิษแต่เพิ่มประสิทธิภาพแรงบิดด้วยเทอร์โบแปรผัน เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่วางใน NX200t / GS200t / RC200t และ RX200t 

...

...

Lexus IS200t F-SPORT ได้รับอิทธิพลด้านเส้นสายและความอ่อนพริ้วของตัวถังมาจากรถต้นแบบ Concept LF-LC โดยเฉพาะกระจังหน้าแบบใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Spindle Grille ซึ่งเข้ามาสร้างความแตกต่างด้านมุมมองเมื่อเปรียบกับรถยี่ห้ออื่น เอกลักษณ์ของกระจังหน้าแบบใหม่ทำให้มันกลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว มากกว่าการมองผ่านตราสัญลักษณ์หัวลูกศร สำนักงานออกแบบในอเมริกาเหนือของ Lexus พยายามผ่องถ่ายรถ IS ให้มีความใกล้เคียงกับรถต้นแบบมากที่สุด ไล่เรียงตั้งแต่ด้านหน้า ไปจนถึงเสาหน้าและแนวหลังคาที่ยาวโค้งมนสอดรับกับเสาท้ายที่เทลาดไปยังฝากระโปรงท้าย แนวของแก้มข้างถูกดึงออกให้บานประตูมาขนาดที่หนาขึ้น แม้จะมีกรอบกระจกแบบรถซีดานทั่วไปซึ่งไม่ค่อยเข้ากับเรือนร่างแบบสปอร์ต การออกแบบที่ดีทำให้มุมมองคล้ายกับมันกำลังเตรียมพร้อมที่จะพุ่งทะยาน รูปแบบภายนอกที่สอดคล้องกับงานตกแต่งภายในจากการสื่อสารที่ดีระหว่างทีม ออกแบบรูปทรงของตัวรถและทีมที่ออกแบบตกแต่งภายใน

สัดส่วนของความยาวยังมากกว่า IS รุ่นที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ขนาดความยาว 4,665 มิลลิเมตร กว้าง 1,810 มิลลิเมตรและสูง 1,430 มิลลิเมตรแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการพัฒนารูปทรงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่โตขึ้นและตัวโตเกือบจะเท่ารุ่น GS ซึ่งเป็นยนตรกรรมในกลุ่มซาลูนขนาดกลางคู่แข่งของ E-Calss และ 5-Series รูปทรงที่โค้งเว้าของสปอยเลอร์หน้ามีเหตุผลด้านอากาศพลศาสตร์นอกเหนือไปจากความสวยงาม มันจะช่วยให้กระแสลมไหลผ่านได้สะดวกขึ้นโดยเหนี่ยวนำเอาลมบางส่วนไประบาย ความร้อนให้กับตำแหน่งที่มักเกิดการแพร่ความร้อนเช่นห้องเครื่องยนต์และชุดจานกับดิสเบรกหน้า สำหรับสัดส่วนบั้นท้ายใช้ไฟท้ายทรงเหลี่ยมลากยาวไปจนเกือบถึงแนวซุ้มล้อหลัง  

สปอยเลอร์หลัง F-SPORT ไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามอยู่กึ่งกลางภายในกระจกบังลมบานหลัง ฝาท้ายออกแบบให้เปิดออกได้ด้วยมุมสูง มีพื้นที่สำหรับการขนสัมภาระพวกกระเป๋าเดินทาง ถุงกอล์ฟ แผ่นปิดกั้นเมื่อเปิดออกมาจะพบกับชุดเครื่องมือวางอยู่บนแผ่นโฟมแข็งสีดำ รูปทรงของสปอยเลอร์หลังที่สอดคล้องไปกับงานออกแบบด้วยชิ้นงานพลาสติกสีดำทำ เป็นช่องเพื่อความสวยงาม ฝาท้ายที่โค้งมนจากการดีไซน์เข้ารูปกับกระจกบานฝาท้าย เหนือที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนยังมีกล้องมองหลังแบบจอสีที่ทำงานร่วมแกนกับ ตำแหน่งเกียร์ถอยเพื่อเพิ่มมุมมองขณะขับถอยหลังให้มีความปลอดภัยพร้อมไปกับ สัญญาณเตือนเมื่อขับเข้าใกล้วัตถุกีดขวาง

ห้องโดยสารแบ่งโซนของผู้ขับขี่และผู้โดยสารออกจากกันอย่างชัดเจนด้วยการออกแบบ กั้นพื้นที่เพื่อความเป็นสัดส่วนและความสะดวกในการใช้อุปกรณ์ เบาะแบบสปอร์ต หุ้มด้วยหนังแท้สีดำเย็บเดินตะเข็บด้ายสีขาว เบาะคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้าโดยมีพัดลมไฟฟ้าอยู่ภายในตัวเบาะ สามารถสั่งให้ทำงานทั้งการสร้างความเย็นเมื่อขับท่ามกลางอากาศที่ร้อน หรืออุ่นให้ร้อน เมื่อขับขี่ในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิติดลบ เบาะคนขับมีสวิตช์ที่ช่วยปรับให้แผ่นรองด้านหลังสามารถดันตัวเองหรือยุบตัว เพื่อรองรับแผ่นหลังของคนขับเมื่อต้องขับขี่เดินทางไกล ความสะดวกสบายสูงสุดภายในห้องโดยสารคือสิ่งที่วิศวกรนักออกแบบของ Lexus คำนึงถึง ส่วนเบาะของผู้โดยสารตอนหลังยังมีช่องแอร์คอยเป่าให้ความเย็นกระจายตัวอย่างรวดเร็วอีกด้วย

พวงมาลัย F-SPORT แบบสามก้าน ก้านวงทำจากอัลลอยหุ้มหนังแท้ มีสวิตช์ ปรับตั้งโหมดต่างๆ ติดมาเพียบ พวงมาลัยวงเล็กจับได้อย่างกระชับมือจากการออกแบบให้มีร่องตรงนิ้วโป้ง มันถุกห่อหุ้มด้วยหนังแท้สีดำ หลังวงมีแป้น Paddle Shift สำหรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ Lexus สร้างเกียร์ 8 สปีดลูกนี้ขึ้นมาโดยทำให้มันเหมือนมีอัตราทดที่กว้างเพื่อลดรอบเครื่องยนต์เมื่อขับที่ความเร็วเดินทาง เกียร์แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ 8 สปีด จูนประสิทธิภาพและอารมณ์ความรู้สึกแบบสปอร์ตในการใช้งาน

คอนโซลกลางทำจากโฟมขึ้นรูปหุ้มด้วยหนังแท้ การใช้โฟมขึ้นรูปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซับเสียงแปลกปลอมขณะขับขี่ได้ดี คอนโซลของ IS200t F-SPORT มีดีไซน์ที่เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุมและการจัดวางอุปกรณ์ที่ไม่เหมือนใคร มันค่อนข้างเป็นเอกเทศสำหรับงานดีไซน์ห้องโดยสารในลักษณะนี้ การแบ่งโซนแยกออกจากกันระหว่างผู้ขับและคนโดยสารสร้างความรู้สึกเป็นส่วนตัว โดยมีดีไซน์และการคัดสรรวัสดุชั้นดีเป็นตัวเชื่อมโยงกับความน่าใช้งานของอุปกรณ์ วัสดุที่ใช้ตกแต่งไม่ว่าจะเป็นหนังแท้ หนังสังเคราะห์ อะลูมิเนียม พลาสติก ผ้าบุหลังคา และพรมปูพื้น ล้วนแล้วแต่ใช้ของดีเกรดสูงทั้งสิ้น

มาตรวัดแบบเรืองแสง TFT ในเวอร์ชั่น F-SPORT ขนาด 4.2 นิ้วคล้ายรถแข่ง เน้นความคมชัดในการอ่านค่าต่างๆ ทั้งค่าความเร็วรอบและความเร็วของตัวรถ แม้จะใช้จอ TFT คล้ายกับมาตรวัดของ Lexus LFA ตรงกึ่งกลางของมาตรวัดมีจอ MID คอยให้ข้อมูลรายละเอียดที่สำคัญขณะขับขี่ ทั้งข้อมูลของเชื้อเพลิงในถังต่อระยะทาง แจ้งการทำงานของระบบ ต่างๆ อัตราสิ้นเปลือง เชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่สามารถวิ่งถึง ตำแหน่งเกียร์ โหมดขับเคลื่อน การเลือกโหมดของฟังก์ชั่นให้ความบันเทิงเริงรมย์พวกการปรับตั้งเครื่องเสียง และเลือกโหมดสำหรับการเล่น CD/DVD/FM/AM จอ MID ที่มีความคมชัดสูง ทำให้การอ่านค่าไม่ต้องเพ่งสายตากันทริปมิเตอร์ทั้ง A และ B ช่วยให้การคำนวณระยะทางไกลมีความแม่นยำ คอนโซลกลางเป็นที่อยู่ของจอมอนิเตอร์ขนาด 8 นิ้ว ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รองรับการทำงานแบบอินเตอร์เฟคทั้งการแสดงผลหน้าจอของระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง กล้องมองหลัง สำหรับ IS200t F-SPORT รุ่นนี้ติดตั้งระบบนำทางด้วยดาวเทียมมาจากโรงงานจอภาพควบคุมด้วยปุ่มทรงเหลี่ยมทำหน้าที่คล้ายกับ iDRIVE ของ BMW แต่การใช้งานยังยากกว่าเล็กน้อย ปุ่มควบคุมการขับเคลื่อน 4 รูปแบบ เริ่มจาก ECO / Normal / Sport /Sport+

ต่ำลงมาจากจอมอนิเตอร์มัลติฟังก์ชั่นเป็นนาฬิกาแบบแอนาล็อกของ Lexus นาฬิกาแบบหน้าปัดกลมใช้เข็มบอกหน่วยของเวลาที่ทำให้การตกแต่งภายในของ IS200t F-SPORT ครบองค์ประกอบของความหรูหรา สำหรับชุดควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิทัลอยู่ติดเป็นชิ้นเดียวกับชุดปรับตั้ง เครื่องเสียง แผงของหน่วยควบคุมระบบปรับอากาศใช้ระบบสัมผัสในการปรับหรือเพิ่มน้ำยา คอมเพรสเซอร์ซึ่งใช้งานได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควรจากความไวของแถบที่ใช้ สัมผัส เมื่อแตะเพียงนิดเดียวมักจะเลยอุณหภูมิที่ต้องการจะปรับตั้ง ชุดเครื่องเสียงใน IS200t F-SPORT เป็นเครื่องเสียง Lexus surround sound วางลำโพง 10 ตัวรอบห้องโดยสาร ลำโพงคุณภาพสูงกับกำลังขับที่ดีและตำแหน่งที่ผ่านการคำนวณจากการออกแบบ ทำให้มันเป็นรถยนต์ซีดานที่มีระบบเสียงขั้นแนวหน้าของวงการ แม้จะไม่ใช่ยี่ห้อ Mark levinson surround sound แต่คุณภาพของเสียงที่ขับออกจากลำโพงผ่านการเล่นเพลงบนแผ่น CD/DVD หรือ iPOD USB ให้ความคมชัดสูง การปรับตั้งที่สะดวกง่ายดายจากโปรแกรมการทำงานสร้างความพึงพอใจในระดับที่ดีมาก นับเป็นซีดานหรูขนาดเล็กที่มีเครื่องเสียงดีเยี่ยมติดอันดับต้นๆ ของวงการรถหรู

Lexus IS200t F-SPORT รุ่นที่ Lexus Thailand นำเข้ามาขายในไทยวางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC รหัส 8AR-FTS พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT-iW เป็นเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่แบบ 4 กระบอกสูบ มีปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี วางตามยาวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดทำได้ที่ 350 นิวตันเมตร ในย่าน 1,650-4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 ECT แบบใหม่ที่มีอัตราทดมากถึง 8 สปีดเทียบเคียงเกียร์ ZF-8HP ของ BMW ได้อย่างสบายๆ เป็นเกียร์ขับหลังรุ่นใหม่ที่ทำงานเชื่อมต่อกับโหมดขับเคลื่อน 4 รูปแบบ เช่น ECO / Normal / Sport S / Sport S+ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงวางหัวฉีดไฟฟ้า EFI D-4ST อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ว่ากันพอหอมปากหอมคอไม่ได้แรงมุทะลุดุดันเกินงามที่ 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุดทะยานไปได้ถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ 8AR-FTS 4 สูบเรียงให้อัตราเร่งราบรื่นต่อเนื่องตั้งแต่รอบต้นยันรอบปลาย เสริมด้วยเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVT-iW ระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแกนคู่ พร้อมชุดลดอุณหภูมิไอดีก่อนประจุเข้าไปในห้องเผาไหม้หรืออินเตอร์คูลเลอร์แบบ Air-to Liquid ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและปล่อยไอเสียต่ำ 

ระบบรองรับหรือกันสะเทือนของ Lexus นั้น ชนะเลิศในด้านของความหนึบและความนุ่มที่ผสมปนเปออกมาเป็นความรู้สึกที่หนักแน่น ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบนปีกนกคู่ โดยมีชิ้นส่วนบางตำแหน่งผลิตจากอะลูมินั่มอัลลอย Independent double-wishbone with forged aluminum components, coil springs, monotube gas-filled shock absorbers and hollow stabilizer bar ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ โช็กอัพ สปริงและกันโคลง Independent multi-link with forged aluminum components, coil springs, monotube gas-filled shock absorbers and stabilizer bar ระบบบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัยไฟฟ้าคอยแปรผันน้ำหนักอย่างละเอียดผ่าน ECU ที่ใช้ควบคุมสั่งงาน พวงมาลัยไฟฟ้า Electronic Power Steering (EPS) เครื่องยนต์และเกียร์ใหม่ ทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ IS200t ทั้งการขับในและนอกเมืองอยู่ที่ 14 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนมาตรฐานมลพิษอยู่ระดับ EURO-5 ค่าการปล่อย Co2 อยู่ที่ 174 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ไม่ได้สะอาดเอี่ยมแต่ก็ไม่ได้ทำตัวสกปรกอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไป


VDIM (Vehicle Dynamics Integrated Management)
เทคโนโลยี เพื่อความปลอดภัยคือสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย IS เล็งเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยที่จะพาคุณไปสู่ทุกจุดหมาย ด้วยระบบจัดการรวมไดนามิกของตัวรถ VDIM (Vehicle Dynamics IntegratedManagement) ทำหน้าที่ประสานการทำงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ ของตัวรถเพื่อให้ผู้ขับและผู้โดยสารมั่นใจในระบบความปลอดภัยของ New IS200t

TRC (Traction Control)
ระบบปัองกันการลื่นไถลช่วยเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะถนนในสภาพถนนที่ลื่นหรือพื้นผิวขรุขระ

VSC (Vehicle Stability Control)
ระบบควบคุมการทรงตัวของรถจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้รถสูญเสียการทรงตัวในการหักเลี้ยวอย่างรวดเร็ว หรือเกิดการลื่นไถล

ABS (Anti-lock Brake System)
ระบบป้องกันล้อล็อกทำงานประสานกับระบบกระจายแรงเบรก ให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างแม่นยำ แม้ในการเบรกกะทันหัน

EBD (Electronic Brake force Distribution)
ระบบกระจายแรงเบรกจะทำงานประสานกับระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก (ABS) เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการกระจายแรงเบรกไปยังล้อทั้งหมดอย่างสมดุลเหมาะสม

SRS Airbags (Supplemental RestraintSystem Airbags)
ระบบถุงลมเสริมความปลอดภัยกรณีที่เกิดการชน ถุงลมสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าบริเวณหัวเข่า บริเวณด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย

ถึงแม้จะมีราคาแพงแรงทะลุทะลวงถึง 4.3 ล้านบาท ซึ่งราคาขนาดนี้ซื้อ BMW Series-3 รุ่นถูกสุดได้ถึง 2 คันก็ตาม แต่ Lexus IS200t รหัสร้อน F-SPORT ก็เป็นรถที่เร็วคันหนึ่งในวงการซีดานเล็กแบบ 4 ประตู! แม้จะไม่ได้เร็วจี๋เหมือน Lexus LC แต่สมรรถนะโดยรวมก็ยังถือว่าสูสีออกเบียดกับรถคู่แข่งจากเยอรมันอย่าง BMW 320i หรือ Mercedes Benz C250 AMG Dynamic ท่านั่งที่สุดยอดบนความพอดิบพอดีของเบาะนั่งคนขับและคนนั่ง ที่ปรับตั้งด้วยไฟฟ้าพร้อมความจำ 3 ระดับ เบาะจะเลื่อนออกทันทีที่เครื่องยนต์ดับเพื่อเปิดพื้นที่ให้ลุกออกจากห้องโดยสารได้อย่างสะดวก และเมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ เบาะคนขับจะเลื่อนกลับมายังตำแหน่งเดิมที่ได้ปรับตั้งไว้ ความเตี้ยของรถกับตำแหน่งของเบาะคนขับที่สามารถปรับต่ำสุดๆ ทำให้ท่านั่งแบบจมลึกเหมาะกับการควบคุมรถสปอร์ตซีดานคันนี้

เครื่องยนต์ 2 ลิตรอัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน ทำงานด้วยความเงียบงันราวกับกำลังขับรถ Hybrid เป็นเครื่องยนต์สุดฮิตของ Lexus ที่วางในรถรุ่นใหม่เกือบทุกโมเดล ไล่เรียงจาก IS200t / NX200t / RX200t / GS200t และสปอร์ตคูเป้ค่าตัว 5.4 ล้านบาท ในรุ่น RC200t เมื่อประจำการอยู่ใน IS200t มันทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.9 วินาที โดยมีความเร็วปลายที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นตัวเลขสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่พอจะสูสีกับคู่แข่งทั้งสองคันแต่ IS200t มีอัตราเร่งที่ดุเดือดกว่าเล็กน้อย

ตัวอัดอากาศเทอร์โบติดตั้งอยู่ด้านข้างของเครื่องยนต์ ลักษณะการวางเครื่องโดยเน้นไปที่การกระจายน้ำหนักเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญ ทำให้เครื่อง 8AR-FTS ถูกวางร่นเข้าไปจนชิดกับผนังของห้องโดยสาร เครื่องวางอยู่ในตำแหน่งถัดจากแกนของล้อหน้าไปทางด้านหลัง ส่งผลไปถึงการควบคุมที่ดีคล้ายการวางเครื่องยนต์ของ BMW Series-3 F30 เครื่องยนต์ของ IS200t วางตามยาวขับเคลื่อนล้อหลังแบบ front mid engine น้ำหนักตกลงไปยังส่วนหน้า 54% หลัง 46% ค่อนข้างสมมาตร และทำให้การกระจายน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ดี เครื่องยนต์เบาลงเมื่อเทียบกับ IS250 รุ่นที่แล้ว แถมยังมีกำลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแม้ความจุจะลดลงแต่ไม่ได้บั่นทอนประสิทธิภาพของแรงบิด

การขับในเมืองมีความคล่องตัวสูง โหมด ECO มีระบบ Auto start/stop คอยดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่จอดรอสัญญาณไฟจราจรหรือรอการเคลื่อนตัว หากรำคาญอาการติดๆ ดับๆ ไปตลอดทางก็แค่กดปุ่มข้างคันเกียร์ยกเลิก Auto start/stop แต่เปิดไว้ใช้งานก็ช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและช่วยลดมลภาวะของกรุงเทพมหานครได้บ้าง รอบเครื่องยนต์ต่ำๆ เมื่อขับในเมืองแทบจะไม่ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ เนื่องจากมาตรการป้องกันเสียงแปลกปลอมกับการปิดผนึกตัวรถด้วยวัสดุซับเสียงนั้นทำออกมาได้ดีอยู่ในระดับแนวหน้าของรถยนต์พรีเมียมราคาแพง

แรงบิด 350 นิวตันเมตร หรือ 34 กิโลกรัมเมตร กับม้า 245 ตัว เหลือเฟือสำหรับการขับในเมืองหรือขับออกทางไกลยาวๆ เกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ที่ให้อัตราทดมาถึง 8 สปีด พอเหมาะพอดีกับย่านของกำลัง โหมด ECO หรือโหมดประหยัดจะดันเกียร์ 8 สปีดลูกใหม่ขึ้นไปยังเกียร์ 7-8 อย่างรวดเร็ว เพื่อลดรอบเครื่องยนต์ สัมผัสของโหมดต่ำสุดใน IS200t F-SPORT ออกมาในแบบย้วยๆหยุ่นๆ คันเร่งตอบสนองปานกลาง พวงมาลัยไฟฟ้าเมื่อคาอยู่ในโหมดประหยัดก็ไม่ได้เบาจนรู้สึกแย่ พวงมาลัยของ IS200t หนักแน่นตั้งแต่ต้นยันปลาย โดยมีน้ำหนักที่คงที่ตลอดเวลา การขับ IS200t เป็นเรื่องของประสิทธิภาพมากกว่าจะมาเน้นเรื่องของกำลังและความสนุกในการควบคุม พวงมาลัยทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สื่อสารกับคนขับได้เหนือกว่าพวงมาลัยใน Series-3 F30 ที่เอาแต่เบาสบายข้อมือหากไม่ปรับโหมดไปที่ Sport + น้ำหนักของพวงมาลัยใน BMW 320i ถือว่าเป็นรอง IS200t อยู่นิดๆ ส่วนช่วงล่างของรถคันนี้ก็แน่นเกินเหตุ อะลูมิเนียมที่ใช้ในปีกนกกับแขนยึดโยงต่างๆ ของช่วงล่าง ส่งถ่ายความมั่นคงจนออกมาในแบบเหนียวหนึบปราศจากอาการโคลงตัว

แม้จะเข้าโค้งแรงๆ อาการโคลงก็ยังถือว่าน้อยและให้ความมั่นใจได้ดีมาก เมื่อผมพยายามทะยานผ่านโค้งให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ความสูงที่ลดลงกับล้อขอบ 18 นิ้วและยางรันแฟลต 225/40 R 18 92Y ที่ล้อหน้า ส่วนล้อหลัง ซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนยัดยางใหญ่ขึ้นอีกนิดที่ไซส์ 255/35 R 18 92Y เป็นยางยี่ห้อ Dunlop รุ่น SP sport maxx ที่มีกริบใช้ได้แม้แก้มจะเตี้ยแถมยังเป็นยางแก้มแข็งโป้กแบบรันแฟลตก็ไม่ส่งถ่ายแรงสั่นสะเทือนหรือมีเสียงดัง ขณะบดลงไปบนผิวถนน ยางที่ดีบวกกับการเซตช่วงล่างแนวรถสปอร์ต ทำให้ Lexus IS200t เกาะถนนแห้งๆ ราวกับตีนตุ๊กแก 

ถึงแม้ IS200t จะมีศักยภาพสูง แต่ราคาก็สูงจนกลายเป็นซีดานไซส์เล็กที่แพงสุดในประเทศไทย เมื่อทะยานผ่านไฮเวย์ด้วยความเร็วเดินทาง คุณควรปรับโหมดไปที่ Normal หรือหากไม่สาแก่ใจกับคันเร่งที่ยืดหยุ่นก็ปรับไปที่ Sport Mode ได้เลย คันเร่งจะปรับสภาพตัวเองไปตามโปรแกรมโดยตอบสนองไวขึ้นมาก เกียร์ 8 สปีดคาเกียร์ 3-4 เพื่อเรียกแรงบิด และเมื่อเบรก เกียร์จะลดตำแหน่งให้อย่างรวดเร็วเพื่อให้เหมาะสมกับความเร็วรอบเครื่องยนต์ เป็นการเตรียมความพร้อมในโหมดที่ออกแบบให้สำหรับการขับเร็วๆ ซอฟต์แวร์ที่ควบคุมเครื่องยนต์ เกียร์และพวงมาลัยของ IS200t ต่อเชื่อมกับโหมดขับเคลื่อน 4 รูปแบบ มันทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โดยคำนวนและปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ตรงตามความต้องการของคนขับ

การปรับโหมดนับว่าเร็วมากและมีความเป็นเอกเทศในแต่ละโหมดขับเคลื่อน ในที่สุดวิศวกรของ Lexus ก็สามารถจูนโหมดต่างๆ ให้เข้ากับรูปแบบของรถยนต์ภายใต้สัญลักษณ์หัวลูกศรได้อย่างลงตัว ซึ่งไม่ใช่งานง่ายๆ ที่จะทำได้แบบนี้ ถึงแม้ว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามามีบทบาทมากเพียงใด การขับ IS200t ก็ยังมีความเป็นธรรมชาติสูง ไม่ได้ออกมาในลักษณะสังเคราะห์มากจนบั่นทอนความรู้สึกของคนขับที่ต้องจ่ายแพงกว่ารถชาวบ้านหลายเท่า!! Lexus IS200t F-SPORT ใช้ขับได้ทุกวันไม่ว่าจะขับไปทำงานหรือขับออกทางไกลในวันหยุด แต่การขับที่ดีจะแสดงออกมาเมื่อคุณขับมันเร็วๆ บนทางข้ามจังหวัดยาวไกลเกิน 300 กิโลเมตร ถนนที่มีความหลากหลายในประเทศไทยกับช่วงล่างแบบปีกนกคู่อัลลอยนั้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะแต่เอาเข้าจริงๆ IS200t กลับทำได้ดีสมราคาด้วยการยึดเกาะและการถ่ายเทน้ำหนักที่สุดยอด การจะทำให้มันเสียอาการหรือแหกโค้ง คุณจะต้องใช้ความเร็วที่สูงเอามากๆ ซึ่งคนธรรมดาสามัญทั่วไปคงไม่บ้าขับแบบนั้นกันอยู่แล้ว 

น้ำหนักตัว 1,625 กิโลกรัม มากกว่ารถ BMW Series-3 320i เกือบ 100 กิโลกรัม IS200 ให้ความรู้สึกเร็วและหนักแน่นเมื่อลงคันเร่งลึกๆ เพื่อแซง ความเร็วไหลขึ้นไปเรื่อยๆ หากคุณยังคาเท้าขวาเอาไว้โดยไม่ยกคลายออกมาบ้างเพียงแค่แวบเดียวมันก็จะเร่งจนทะลุ 200 กิโลเมตรอย่างง่ายดาย ประสิทธิภาพของเกียร์ใหม่ 8 สปีดในโหมดสปอร์ตที่เน้นการขับเร็วๆ เมื่อผมลองใช้ Paddle Shift ชิฟเกียร์เอง เกียร์ตอบสนองได้เป็นอย่างดีคล้ายการทำงานของเกียร์ ZF8HP ใน BMW และไม่ได้เป็นรองเกียร์ออโต้ 9 สปีดของ Mercedes Benz แม้แต่น้อย เกียร์ของ Lexus ค่อนข้างไหลลื่น ราบเรียบและทำงานเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับเครื่องยนต์ แป้นเปลี่ยนเกียร์เล็กไปนิดและน่าจะทำออกมาให้คล้ายกับแป้นของ Lexus RCF หรือแม้แต่ Lexus LC ขนาดที่เล็กและความหนาของพวงมาลัยทำให้ต้องใช้นิ้วกลางในการกระดิกเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์

ที่รอบสูงๆ เสียงเครื่องยนต์ครางออกมาให้ความเร้าใจได้บ้างแต่ยังเป็นรอง Lexus RC200t ซึ่งมีซุ่มเสียงในรอบสูงออกแนวสปอร์ตเร้าใจกว่ามาก แม้จะเป็นเสียงเครื่องยนต์แบบสังเคราะห์ที่คุณสามารถปิดได้หากไม่ชอบ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบเสียงเครื่องยนต์ในรอบสูงๆ กับความเงียบเมื่อขับด้วยรอบเครื่องต่ำในเมือง ขับไปได้ไม่นานผมเริ่มมีความสุขกับไดนามิกที่ดีของมัน IS200t เวอร์ชั่น F-SPORT มีแรงยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมจากการปรับแต่งช่วงล่างด้านหลังแบบรถสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหลัง ช่วยทำให้เข้าโค้งได้ดี ขณะที่กำลังหวดหนักๆ ผมแทบไม่ได้รับรู้ถึงการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ที่ฉลาดหลักแหลม มีแค่การทรงตัวที่มั่นคงพร้อมการพุ่งทะยานลิ่วๆ ไปตามฝ่าเท้าผสานเป็นหนึ่งเดียวตามสไตล์ของยานยนต์ปฏิวัติจาก Lexus   

การขับทดสอบต่อเนื่องบนถนนทั้ง 7 วันใน IS200t F-SPORT ขจัดความสงสัยเกี่ยวกับงานปรับปรุงครั้งล่าสุดจาก Lexus ได้ทั้งหมด IS200t เป็นซีดานเล็กที่ค่อนข้างพิเศษ แม้ระบบสั่งงานด้วยแป้นจะใช้งานยากและเป็นรอง iDRIVE ของ BMW กับ Command control panel ของ Mercedes แต่การขับขี่กลับใกล้เคียงกันมากเมื่อเทียบกับ Series-3 หรือ New C-Class เหลือแค่ราคาที่แพงแสบไส้แสบพุง ซึ่ง Lexus ตั้งเอาไว้ซะสูงลิบ เทียบกันแล้วราคาของ IS200t สามารถสอย Series-3 รุ่น 320i ได้ถึง 2 คัน!! IS200t มีแชสซีส์ที่มั่นคงมาก เทคโนโลยีระบบเครื่องยนต์นั้นยังคงเป็นรองรถเยอรมันอยู่นิดหน่อยแต่ระบบส่งกำลังทำออกมาได้ใกล้เคียง ส่วนระบบรองรับก็เหนือกว่านิดๆ ด้วยการผ่องถ่ายทั้งความนิ่มนวลและความหนักแน่นเมื่อขับเร็วๆ การเน้นประสิทธิภาพของการขับขี่บนถนนเปรียบเทียบกับรถเยอรมันแล้วออกมาในแบบพอฟัดพอเหวี่ยงกัน เหลือแค่ราคาเท่านั้นที่ยากจะทำใจหรือคุณว่าไม่จริง!!. 

LEXUS IS200t F-SPORT 2017 
engine type .........................turbocharged petrol
engine manufacturer ............Toyota
engine code ........................8AR-FTS
cylinders Straight................. 4
capacity.............................. 2 litre 1998 cc (121.925 cu in)
bore × stroke ......................86.0 mm × 86.0  mm  3.39 × 3.39 in
bore/stroke ratio ..................1
valves.................................double overhead camshaft (DOHC) 4 valves per cylinder  16 valves in total
maximum power output .........245 PS (241 bhp) (180 kW) at 5,800 rpm
specific output .....................120.6 bhp/litre 1.98 bhp/cu in
maximum torque ..................350 Nm (258 ft·lb) (35.7 kgm) at 1,650-4,400 rpm
specific torque...................... 175.18 Nm/litre  2.12 ft·lb/cu3

engine construction
sump .................................wet sumped
compression ratio................ 10:1
fuel system......................... EFI D-4ST direct petrol injection
bmep (brake mean effective pressure) 2201.3 kPa (319.3 psi)
maximum.......................... rpm
crankshaft bearings............... 5
engine coolant ....................Water
unitary capacity ..................499.5 cc
aspiration ...........................Turbo
compressor .........................N
intercooler ..........................Y
catalytic converter ...............Y

acceleration 0-60mph.......... 6.9 s
maximum speed ..................230 km/h (143 mph)
power-to-weight ratio ..........150.37 PS/g 110.59 kW/g 148.31 bhp/ton 0.07 bhp/lb
weight-to-power ratio ..........9.04 kg/kW 15.1 lb/bhp

engine position................... front
engine layout..................... longitudinal
drive wheels....................... rear wheel drive
torque split ........................N/A
steering............................. rack & pinion EPAS
turns lock-to-lock ...............2.840
turning circle
front suspension.................. 
rear suspension................... 
wheel size front.................. 8 x 18"
wheel size rear ...................8½ x 18"
tyres front .........................225/40 R 18 92Y Dunlop SP sport maxx
tyres rear.......................... 255/35 R 18 92Y Dunlop SP sport maxx
brakes f/r ..........................VeDi/VeDi-S-ABS
front brake diameter............ 334 mm
rear brake diameter .............310 mm
gearbox.............................. 8 speed automatic with paddle shift
top gear ratio...................... 0.69
final drive ratio.................... 3.13

body type ..........................4/5 seater Sport sedan
number of doors................. 4

wheelbase .........................2,800 mm
track/tread (front) ..............1,534 mm
track/tread (rear) ...............1,539 mm 
length ...............................4,681 mm
width ................................1,811 mm
height ...............................1,430 mm
ground clearance ................135 mm
length:wheelbase ratio ........1.67
kerb weight .......................1,625 kg 3,583 lb
weight distribution .............54 % front
fuel tank capacity................ 65.9 litres 14.5 UK Gal 17.4 US Gal
drag coefficient.................. 0.28


Introduction
Lexus IS 200t F Sport is a car that has a 4 door sport sedan type body with a front mounted engine supplying power to the rear wheels.

The power is produced by a turbocharged engine of 2 litre capacity. This unit features double overhead camshaft valve gear, 4 cylinder layout, and 4 valves per cylinder. It produces 241 bhp (244 PS/180 kW) of power at 5,800 rpm, and maximum torque of 350 N·m (258 lb·ft/35.7 kgm) at 1,650-4,400 rpm.

The engine supplies its power through to the wheels via an 8 speed automatic transmission.

It weighs a claimed 1625 kg at the kerb.
It is claimed to attain a top speed of 230 km/h (143 mph), stated fuel consumption is 22/32/26 US MPG city/highway/combined.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/