แนวคิดของ e-4orce ก็คือ ฟิลลิ่งการขับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะ X-Trail e-Power ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (คู่) การสร้างพลังงานไฟฟ้าป้อนแบตเตอรีเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์เบนซิน KR15DDT 3 สูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ ระบบขับเคลื่อน e-Power ใน X-Trail ผสมผสานกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้าแบบใหม่ที่ Nissan เรียกว่า e-4orce ใช้มอเตอร์คู่ที่มีกำลังรวม 157 กิโลวัตต์ (213 แรงม้า)
New NISSAN X-TRAIL e-POWER x e-4ORCE) ราคาอย่างเป็นทางการ 1,699,000 บาท นำเข้าจากญี่ปุ่น (CBU)
...
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจากพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ติดตั้งอยู่บนเพลาหน้า-หลัง ตอบสนองเร็วกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในเครื่องสันดาปภายใน (แต่เป็นรองรถไฟฟ้า 100% มอเตอร์คู่ในด้านความฉับไวและพลังแรงบิด) เนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ได้รับหน้าที่ในการสร้างแรงบิด เป็นเพียงเจนเนอเรเตอร์หรือเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้าใส่แบตเตอรี่ที่คอยป้อนกำลังไฟใส่มอเตอร์ Nissan แจ้งว่า e-4orce ตอบสนองเร็วกว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเครื่องสันดาปขับเคลื่อนโดยตรงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังมีความสามารถที่หลากหลายกว่า ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ (AWD-by-wire) เช่น การควบคุมแรงบิดของล้อแต่ละล้อด้วยการกระจายกำลังที่แม่นยำ การกระจายแรงบิดจากด้านหน้าไปด้านหลัง หรือจากด้านข้าง (ซ้าย ไปด้านข้าง ขวา) เพื่อรักษาสมดุลสูงสุดของรถผ่านระบบรักษาเสถียรภาพ ESP ระบบเฉลี่ยแรงบิดในชุดขับเคลื่อน e-4orce ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ของ Nissan แน่นนอนว่าการทำงานของมันนั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่ฟิลลิ่ง อารมณ์ ความรู้สึกขณะขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็ว เข้าโค้ง เบรก ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรถไฟฟ้าล้วน คล้ายรถขับสี่มีเครื่องยนต์ที่เงียบกว่าและมีศักยภาพในการเร่งความเร็วเหนือกว่า (เล็กน้อย)
...
...
...
แบตเตอรี่วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้เพียงแค่ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่การชาร์จไฟกลับของเครื่องสามสูบกลับพบว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก ชาร์จไฟใส่แบตฯได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่า เครื่องยนต์เบนซินยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในขณะที่เร่งความเร็ว แต่กลับเงียบอย่างน่าประหลาดในรอบต่ำเมื่อขับเคลื่อนในเมืองโดยใช้ความเร็วต่ำ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันเป็นรถเอสยูวีไซล์กลางที่ปรับจูนมาให้ขับบู๊ได้อย่างดุดัน ระบบจะจ่ายพลังงานให้มอเตอร์มากขึ้นเมื่อใช้คันเร่งอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์ซึ่งเป็นเจนเนอเรเตอร์ จึงต้องทำหน้าที่อย่างต่อเนื่องตามไปด้วย เพื่อให้ทันกับความต้องการพลังงานไฟจากแบตเตอรี่ของมอเตอร์ที่อยู่บนเพลาขับ หน้า-หลัง เครื่องยนต์ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างกระแสไฟฟ้า (ปั่นไฟ) สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยตรงในสถานการณ์หลักๆของการขับเคลื่อน แต่ regenerative braking สร้างพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากการเบรกแบบสร้างพลังงานกลับคืน กำลังไฟฟ้าสูงสุดของชุดแบตเตอรี่คือ 66 กิโลวัตต์
สำหรับคนที่ลองใช้ระบบขับเคลื่อน e-Power เป็นครั้งแรก X-Trail e-Power มักจะมีความรู้สึกไม่สอดคล้อง หรือ งงๆ กับระบบขับเคลื่อนในขณะที่รถกำลังวิ่งกับเครื่องยนต์กำลังชาร์จไฟ บ่อยครั้งที่เครื่องยนต์ทำงานเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ และส่งเสียงหึ่งๆ (หรือเสียงครางที่รอบสูง เพราะเป็นเครื่องเบนซินสามสูบ) เมื่อจอดอยู่กับที่และไฟในแบตเหลือน้อย เครื่องยนต์จะติดขึ้นมาเพื่อปั่นไฟใส่แบตเตอรีทันที นั่นเป็นวิธีการทำงานของเทคโนโลยี e-Power ที่ดูแปลกๆในการขับครั้งแรก แต่พอใช้งานไปได้สักระยะ มันจะคล้ายกับรถยนต์ไฮบริด HEV ทั้งการขับเคลื่อนที่ความเร็วต่ำหรือใช้ความเร็วสูงต่อเนื่องบนทางด่วน
X-Trail มีมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สอง ติดตั้งอยู่ที่เพลาล้อหลัง มอเตอร์ด้านหลังของ X-Trail ให้กำลัง 100 กิโลวัตต์ แต่กำลังสูงสุดของรถไม่ได้บวกกับกำลัง 150 กิโลวัตต์ของเพลาล้อหน้า เป็น 250 กิโลวัตต์ เพราะเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ของระบบ e-Power ไม่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากขนาดนั้น กำลังสูงสุดของระบบอยู่ที่ 157 กิโลวัตต์ แต่แรงบิดสูงสุดสูงถึง 525 นิวตันเมตร จุดเด่นด้านแรงบิด ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการกระจายกำลังแรงบิดระหว่างเพลาหน้า-หลัง ให้มีความสมดุล เพื่อลดการโยกตัวขณะเร่งความเร็วและเบรก
ด้วยกำลังขับ 150 กิโลวัตต์/330 นิวตันเมตรที่เพลาหน้า และ 100 กิโลวัตต์/195 นิวตันเมตรที่เพลาหลัง X-Trail e-4orce ออกตัวได้เร็วกว่ารถขับสี่เครื่องยนต์สันดาป 2.0 ลิตร (ของญี่ปุ่น) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7 วินาที กระชับรัดกุมใช้ได้ เพราะถ้าแรงกว่านั้นในระดับ 6 วินาที ผู้ขับทั่วไปอาจควบคุมได้ยาก ถังเชื้อเพลิง ความจุ 55 ลิตร เมื่อเติมเต็มถังจะวิ่งได้ไกล 900 กิโลเมตร
X-Trail e-Power พร้อมระบบ e-4orce สร้างความประทับใจแรกพบที่ดี มันเงียบและนุ่มนวลในย่านความเร็วต่ำ วิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ได้สองหรือสามกิโลเมตร หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย ในย่านความเร็วต่ำ มอเตอร์ไฟฟ้าก็ไม่ได้ต้องการพลังไฟเพื่อป้อนให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน เครื่องยนต์สันดาปภายในจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรอบสูงต่อเนื่อง X-Trail ใหม่ ยังติดตั้งระบบ ANC (ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ) ทำให้เสียงเครื่องยนต์สันดาปภายในเงียบกว่าปกติ และแทบจะไม่ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อไม่ได้เร่งรอบ แต่.....การออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้ามอเตอร์คู่ ทั้งแรงดึงหนักๆ และการตอบสนองที่ว่องไวของรถยนต์ไฟฟ้ามอเตอร์คู่ เนื่องจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน ต้องใช้เวลาในการเร่งรอบจนถึงระดับที่สร้างพลังงานสูงสุดได้ ระบบ e-Power ตอบสนองได้เร็วขึ้นเมื่อขับด้วยความเร็วปานกลางถึงสูง เหยียบคันเร่งจนสุด ทำให้ระดับเสียงจากห้องเครื่องยนต์ดังขึ้นกว่าเดิมไม่มากนัก เทคโนโลยี e-4orce ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพในการควบคุมเรือนร่างขณะขับเคลื่อน เพราะ X-Trail ไม่กดหัวรถลงเมื่อเบรกอย่างรุนแรง และไม่ย้วยเมื่อเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่องในโค้งสลับซ้าย-ขวา
Regenerative Braking สามารถเลือกระดับการตอบสนองของระบบเบรกแบบสะสมพลังงาน ในโหมด D จะเบา แต่เพิ่มการ Regenerative ได้โดยการขยับคันเกียร์สั้นกุดไปด้านหลังเพื่อเข้าสู่โหมด B X-Trail ยังมีปุ่มสำหรับเลือกโหมด e-Pedal คล้ายกับ Nissan Leaf แต่มีการสร้างพลังงานกลับคืน Regenerative แรงกว่า ทำให้แทบจะไม่ต้องใช้เบรกแต่ผู้โดยสารอาจไม่สบายตัวหากคนขับยกคันเร่งเร็ว แรงหน่วงกลับก็จะทำให้รู้สึกว่าถูกโน้มไปข้างหน้านิดๆ แต่ถ้าปรับการทำงานของระบบเบรกสะสมพลังงานให้อยู่ในระดับกลาง การตอบสนองจะเหมาะสมกับการใช้งานจริงมากกว่า สำหรับโหมด Eco บนแป้นหมุน ปิดการสร้างพลังงานกลับคืน เหมาะกับการขับไปเรื่อยๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของรถในด้านความประหยัด
การขับทดสอบสั้นๆ ในสนามทดสอบ Yokohama แถบระยอง ซึ่งมีทั้งทางลาดยางขึ้นลงเนินเตี้ยๆ สลับโค้งสารพัดรูปแบบ ต้องยอมรับว่าสนามทดสอบยางแห่งนี้มีโค้งเยอะกว่าสนามแข่งแบบเทียบกันไม่ติด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4orce กับช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้านั้นทำให้รู้สึกประทับใจ เมื่อขับเร็วขึ้นในรอบท้ายๆ ทุกระบบตอบสนองรวดเร็วและทำงานประสานกันได้อย่างไหลลื่น Yokohama มีเส้นทางเป็นถนนบนภูเขาที่คดเคี้ยว ไปจนถึงสนามทดสอบความเร็วสูงบนผิวถนนลาดยางโดยเฉพาะ ทุกอย่างก็รู้สึกง่ายดายอย่างเหลือเชื่อแม้ขณะวิ่งผ่านสถานีที่มีน้ำเจิ่งนองอยู่บนพื้นผิว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกเส้นทางของสนามทดสอบแห่งนี้ ถูกออกแบบมามาเพื่อเน้นจุดแข็งของรถ ให้โผล่ออกมา โดยเฉพาะการยึดเกาะของยางเกาหลี hankook ventus s1 evo3 SUV ยางสมรรถนะสูงพิเศษ (UHP) สำหรับรถ SUV ที่เน้นการยึดเกาะถนนดีเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและแห้ง ควบคุมพวงมาลัย บังคับทิศทางมุดเข้าออกโค้งในสนามทดสอบอย่างแม่นยำ ให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยี ProMileage และ HSSC Silica compound เหมาะกับรถ SUV ที่ต้องการสมรรถนะสปอร์ตและความสบาย Ventus S1 evo3 SUV (K127) ใช้เป็นยางติดรถสำหรับแบรนด์ยุโรปดัง ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดีและเข้ากันกับช่วงล่างหนึบๆ โดยภาพรวม X-Trail ไม่ใช่รถอเนกประสงค์ทรงสปอร์ตหรือรถเอสยูวีออฟโรดสายลุย แต่เป็นรถครอสโอเวอร์ครอบครัวที่สามารถใช้งานได้อย่างสมดุลในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพภูมิประเทศ
โหมดการขับขี่ห้าโหมด แต่แทบจะไม่ได้เปิดใช้ เพราะระบบส่งกำลังฉลาดพอที่จะคำนวณแรงบิดที่จำเป็นสำหรับทุกล้อ e-4orce มีระบบควบคุมการลงเนิน หากตั้งใจที่จะลุยเส้นทางที่ขรุขระก็ยังมีโหมดรองรับถึงสองโหมด พร้อมกับโหมดลดค่าการตอบสนองของคันเร่งเมื่อขับบนผิวถนนที่เปียกลื่นและโหมดสูงสุดที่ขับได้อย่างคล่องแคล่ว
การขับขี่ควบคุม และสมรรถนะโดยรวมนั้นถือว่าดีเลยทีเดียว X-Trail e-4orce ขับขี่ได้อย่างราบรื่นและมั่นใจบนถนนลาดยางที่มีโค้งวกไปวนมา e-4ORCE ทำงานได้ดี ช่วยให้ X-Trail มุ่งไปในทิศทางที่ต้องการอย่างแม่นยำ สร้างความมั่นใจแม้ขับเร็วบนถนนลาดยางที่เปียกชื้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ความสามารถในการส่งกำลังจากด้านหน้าไปด้านหลังหรือจากด้านข้างไปอีกข้างหนึ่งได้อย่างรวดเร็วเกือบจะในทันที ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีและเสถียรภาพ
สิ่งที่ขาดหายไป คือ ฟิลลิ่งการ"เร่งรอบ" ที่รู้สึกได้ในรถไฮบริดเกียร์ CVT เมื่อเหยียบคันเร่ง เพื่อกระตุ้นให้เครื่องยนต์สันดาปทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า Nissan กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเครื่องยนต์สามสูบขนาดเล็ก ถูกออกแบบให้หมุนหรือทำงานด้วยความเร็วรอบที่เหมาะสมกับความเร็วของรถ (อยู่ตลอดเวลา) ไม่จำเป็นต้องเร่งเครื่องอย่างกะทันหันเมื่อต้องการความเร็วเพิ่มขึ้น Nissanหลีกเลี่ยงความรู้สึกเหมือนยางยืดที่ขาดการเชื่อมต่อเหมือนเกียร์ CVT ในรถไฮบริดบางรุ่น การเพิ่มความเร็วของเครื่องยนต์ให้สอดคล้องกับความเร็วของรถในลักษณะเชิงเส้น จำลองการเร่งความเร็วแบบเกียร์คงที่ของรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า เมื่อเร่งความเร็วอย่างนุ่มนวล เครื่องยนต์จะถูกจำกัดรอบไว้ที่ระดับต่ำ นั่นทำให้เงียบมาก แต่แม้ในขณะเร่งความเร็วอย่างรุนแรงต่อเนื่อง เครื่องยังส่งเสียงไม่ดังมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการติดตั้งลำโพงตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟในช่องเก็บสัมภาระ การขับเคลื่อนปกติ จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์เบาๆ เมื่อเร่งความเร็วอย่างแรง แม้ว่าจะไม่รบกวนมากนัก และมีหลายครั้งที่แทบไม่ได้ยินเสียงเลย
X-Trail มีห้องโดยสารที่หรูหราพอใช้ได้ งานประกอบและคุณภาพของวัสดุในรถคันทดสอบที่ได้ลองขับนั้นถือว่าทำออกมาได้ดี การออกแบบห้องโดยสาร ผสมผสานเทคโนโลยีและการใช้งานจริงได้อย่างลงตัว จอแสดงผลกลางและจอภาพมาตรวัดแบบดิจิทัลมาครบ จอแสดงผลมาตรวัดและระบบอินโฟเทนเมนท์ที่คอยให้ความบันเทิง มีขนาด 12.3 นิ้วทั้งสองจอ รวมถึงจอแสดงผล Head-Up Display ขนาดใหญ่ที่ Nissan อ้างว่าให้พื้นที่มุมมอง 35.5 นิ้ว
คุณภาพของหน้าจอยังไม่สามารต่อสู้กับความคมชัดของจอภาพในรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นของจีน จอภาพของ X-Trail ไม่คมหรือสดใสเท่ารถคู่แข่ง ในระดับราคาเดียวกัน แต่ New X-Trail มีพื้นที่เก็บของเพียบ เบาะหลังที่ปรับเปลี่ยนการพับได้ ทั้งเลื่อนและปรับเอน เมื่อเลือกใช้แบบ 6 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีระบบพับเบาะแบบ 40/20/40 ที่ใช้งานได้สะดวก ทำให้การขนขอชิ้นยาวๆ เป็นเรื่องง่าย เบาะแถวสามมีพื้นที่วางขาไม่มากนัก เหมาะกับเด็ก หรือหมาแมวมากกว่าจะให้คนตัวสูงๆ ลงไปนั่ง
พื้นที่ด้านหน้ากว้างขวางใช้ได้ เมื่อเลื่อนเบาะหลังแถวกลางไปด้านหลังจนสุด ผู้ใหญ่สูง 180 Cm นั่งโดยสารสองคนได้อย่างสบายๆ แม้แต่การนั่งสามคนก็ยังนั่งได้ เนื่องจากเบาะกลางกว้างและแบน อุโมงค์เกียร์มีขนาดเล็ก เบาะหลังแถวสามค่อนข้างแบน แม้ว่าจะเข้าถึงได้ง่ายด้วยประตูบานหลังที่เปิดได้กว้างถึง 85 องศา
จริงๆแล้ว X-Trail ไม่ควรถูกมองว่าเป็นรถเจ็ดที่นั่ง แต่เป็นรถห้าที่นั่งมากกว่า โดยมีเบาะเสริมอีกสองตัวในบริเวณส่วนท้าย หากจะนั่งโดยสาร ต้องเลื่อนเบาะแถวกลางไปข้างหน้าพอสมควร เพื่อเปิดพื้นที่วางขาสำหรับเบาะแถวที่สาม ระบบปรับอากาศแบบสามโซนพร้อมการควบคุมอุณหภูมิอิสระ ม่านบังแดดที่ประตูหลังแบบในตัว พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 575 ลิตร เป็นหนึ่งในรถที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากสุดในประเภทเดียวกัน ระบบจัดเก็บสัมภาระ Divide-n-Hide เพิ่มความอเนกประสงค์ ด้วยเบาะหลังแบบพับได้และฝาท้ายไฟฟ้า หลังคาซันรูฟพาโนรามา จอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง จอแสดงผล HUD บนกระจกหน้ารถขนาด 10.8 นิ้ว ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย จอภาพมาตรวัดดิจิทัล TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับการแสดงผลได้สองแบบ
ภายในตามสไตล์รถยนต์ญี่ปุ่น มีปุ่มกดสำหรับฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อย เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิ คันเกียร์เป็นแบบ "e-shifter" ขนาดเล็ก พร้อมปุ่มแยกสำหรับโหมด EV (เพื่อจัดลำดับความสำคัญของพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่จนกว่าจะหมด) และปุ่ม e-Pedal – การตั้งค่าที่ช่วยให้ขับขี่แบบ BEV โดยการเพิ่มการชาร์จไฟกลับ (regen) เพื่อให้เพียงแค่ยกเท้าออกจากคันเร่ง รถก็จะชะลอและหยุดได้เหมือนกับ Nissan Leaf ลูกเล่นที่ใช้งานได้จริง คอนโซลกลางแบบ "เปิดออกเหมือนผีเสื้อ" (ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถยุโรป) เบาะหลังแถวสามสองที่นั่งแบบพับได้ 40/20/40 เบาะหลังเลื่อนได้ 220 มิลลิเมตร ฝาท้ายไฟฟ้า เปิดได้ถึง 85 องศา ซึ่งเกือบ 90 องศา ระบบเสียง Bose ลำโพง 9 ตำแหน่ง ม่านบังแดดอัตโนมือด้านหลัง ฝากท้ายเปิด-ปิดแบบแฮนด์ฟรี
สรุป
X-Trail e-POWER สร้างรถอเนกประสงค์ที่ทรงพลังและมีการขับเคลื่อนและการยึดเกาะน่าประทับใจ อัตราสิ้นเปลือง สูสีกับ CR-V e:HEV แต่จุดเด่นของ X-Trail e-Force อยู่ที่สมรรถนะและความสามารถในการขับขี่ที่คล่องตัวไม่ใช่รถที่คุณซื้อเพราะความประหยัดน้ำมันเป็นหลัก แต่เป็นรถที่ถูกเลือกเพราะสมรรถนะและไดนามิกการขับขี่ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ลองขับแล้วก็พบว่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของรถคู่แข่งในระดับเดียวกัน มันประหยัดน้ำมันได้ดีพอสมควร มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูดีครบครัน ควรจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในโชว์รูมได้มากกว่านี้ ด้วยราคาที่ถูกกว่านี้ แต่พอเป็นการนำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่น ราคา 1.69 ล้านบาท เลยดูแพงไปหน่อยเท่านั้นเอง.
Key Features
หลังคากระจกพาโนรามิกเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติ
เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation)
ระบบปรับอากาศแบบแยกอิสระ 3 โซน
ระบบเครื่องเสียง BOSE® Premium Audio System พร้อม NissanConnect รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto
หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT จอสี ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบแสดงการขับขี่ Head-up Display
เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Brake Hold
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICC)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (DCS)
ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSW)
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางอัตโนมัติ (TPMS)
ระบบความปลอดภัยขั้นสูงอื่น ๆ
สีภายนอกทูโทน (สีขาว สตอร์ม ไวท์ หลังคา สีดำ, สีเงิน แชมเปญ ซิลเวอร์ หลังคา สีดำ และสีเทา สเตลท์ เกรย์ หลังคา สีดำ) เพิ่ม 20,000 บาท และสำหรับสีภายนอกสีขาว สตอร์ม ไวท์ เพิ่ม 12,000 บาท
เครื่องยนต์
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน
ระบบเกียร์ แบบอัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction
ระบบส่งกำลังe-POWER
มอเตอร์ไฟฟ้า (สำหรับขับเคลื่อน) - รหัสมอเตอร์ (หน้า / หลัง)BM46 / MM48
มอเตอร์ไฟฟ้า (สำหรับขับเคลื่อน) - แรงม้าสูงสุด (หน้า / หลัง) 204PS (150kW) ที่ 4,501-7,422 รอบต่อนาที / 136PS (100kW) ที่ 4,897-9,504 รอบต่อนาที
มอเตอร์ไฟฟ้า (สำหรับขับเคลื่อน) - แรงบิดสูงสุด (หน้า / หลัง) 330Nm ที่ 0-3,505 รอบต่อนาที / 195Nm ที่ 0-4,897 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์ (สำหรับการสร้างกระแสไฟฟ้า)
เครื่องยนต์KR15DDTเครื่องยนต์ (สำหรับการสร้างกระแสไฟฟ้า)
ระบบเครื่องยนต์3 สูบแถวเรียง VC-Turbo (เครื่องยนต์กำลังอัดแปรผันพร้อมเทอร์โบชาร์จ)
ระบบจ่ายเชื้อเพลิงไดเรกอินเจคชั่น
จำนวนกระบอกสูบ3
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก, มม.84.0 x 90.1
ปริมาตรกระบอกสูบ, ซีซี1,497
แรงม้าสูงสุด 144PS (106kW) ที่ 4,400-5,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 250 Nm ที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาที
อัตราส่วนกำลังอัดแปรผัน8.0-14.0 : 1
ความจุถังเชื้อเพลิง 55 ลิตร
อัตราสิ้นเปลือง|
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน (กิโลเมตร/ลิตร)17.
อัตราการปล่อย CO2 (กรัม/กิโลเมตร)130
มาตรฐานไอเสีย มอก. 3017-2563 (EURO 6)
ขนาดและน้ำหนัก
ความยาวทั้งหมด 4,680 มม.
ความกว้างทั้งหมด 1,840 มม.
ความสูงทั้งหมด 1,725 มม.
ระยะฐานล้อ 2,705 มม.
ระยะห่างระหว่างล้อ คู่หน้า / คู่หลัง 1,585 / 1,590 มม.
ความสูงใต้ท้องรถ 185 มม.
น้ำหนักรถโดยประมาณ 1,929 กก.
ระบบช่วงล่าง
หน้า ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบสตรัท
หลัง ระบบกันสะเทือนหลังอิสระแบบมัลติลิงค์
ระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ปรับได้ 4 ทิศทางรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด, ม.5.4
ระบบเบรก
หน้า ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อ
หลัง ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
ล้อ และ ยาง
ขนาดล้อล้ออัลลอย 19 x 7.5 ET40 ยาง Ventus S1 evo3 SUV (K127) 235/55R19 ยางอะไหล่ ชุดซ่อมยางแบบฉุกเฉิน
ล้อ ล้ออัลลอย 19 x 7.5 ET40 สีดำ ไดมอนด์คัท19" Diamond-Cut Alloy Wheel
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
กระจังหน้าสีดำเงาตกแต่งพร้อมขอบโครเมียม
ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟ LED Signature Light
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟหน้า Follow-me-home
ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
ไฟท้ายแบบ LED
ระบบประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
กระจกมองข้างสีดำกระจกข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าตามความเร็วรถยนต์ (Speed Sensing Wiper) พร้อมระบบหน่วงเวลา
ระบบปัดน้ำฝนด้านหลังแบบหน่วงเวลาระบบไล่ฝ้า
กระจกหลังแบบตั้งเวลา
หลังคาไฟฟ้าแบบกระจกพาโนรามิค พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
ราวหลังคา
กระจกบังลมหน้าและประตูหน้าแบบ Acoustic Glass ลดเสียงรบกวนจากภายนอก
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้าได้ 10 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังปรับไฟฟ้า
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง แบบแยกพับ 40:20:40 เลื่อนตำแหน่งหน้า-หลัง, พับ-ปรับเอนได้, และมีช่องตรงกลางหรือที่วางแขนตรงกลาง
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สาม แบบแยก 50:50 ปรับแบนราบกับพื้นห้องโดยสารได้
วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้า - หุ้มวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ แบบเดินตะเข็บด้ายสีเทา (TBC)
พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง
ระบบโทรศัพท์บนพวงมาลัย
สวิตช์ควบคุมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT และสวิตช์ควบคุม Intelligent Cruise Control
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ปุ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ (Drive mode switch)
ปุ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า (EV mode switch)
ระบบการขับขี่คันเร่ง แบบ e-Pedal Step
หน้าจอสี แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบแสดงการขับขี่ Head-up Display ขนาด 10.8 นิ้วไฟอ่านแผนที่ด้านหน้าไฟ ส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
ไฟห้องสัมภาระท้าย
ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง
ที่วางแขนกลางแถวหน้า พร้อมที่เก็บของแบบกางออกสองข้าง
ที่วางแขนกลางแถวที่ 2
ที่เก็บของใต้คอนโซลกลาง และ กล่องเก็บของด้านหน้า
ม่านบังแดด ผู้โดยสารแถว 2
แผงบังสัมภาระด้านท้าย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิได้ 3 โซน สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารด้านหน้า และผู้โดยสารด้านหลัง
หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay® / Android Auto®
ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V
ช่องต่ออุปกรณ์ USB Type-A และ Type-C ข้างหน้า
ช่องต่อ USB Type-A และ Type-C ข้างหลัง สำหรับชาร์จไฟเท่านั้น
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
ระบบเครื่องเสียง BOSE Premium Audio System พร้อมลำโพง 9 ตัวไฟ Ambient Light
อุปกรณ์ความปลอดภัยและเทคโนโลยี
ระบบ e-Pedal Step
ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Airbags)
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค Anti-lock Braking System (ABS)
ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution System (EBD)
ระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist (BA)
เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
ระบบ Auto Brake Hold
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
กุญแจ Immobilizer
สัญญาณกันขโมย
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
สัญญาณหยุดฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ไฟเบรกดวงที่สาม
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC)
ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Descent Control System (DCS)
ระบบการเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน Intelligent Forward Collision Warning (IFCW)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking (IEB)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Alert (DAA)
ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM)
ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Control (ICC)
ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW)
ระบบเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW)
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA)
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยางอัตโนมัติ (TPMS)
ระบบเสียงเตือนคนเดินถนน VSP (Vehicle Sound for Pedestrian)
เข็มขัดนิรภัยคนขับ ELR แบบดึงกลับ ทุกที่นั่ง
เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติแบบสองทิศทาง สำหรับที่นั่งแถวหน้า (Double Pre-tentioner with Load Limiter)
เข็มขัดนิรภัย แบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ สำหรับที่นั่งแถวที่สอง (Pre-tentioner with Load Limiter)
ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลังจากภายในรถ
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358