X1 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาที่พอจะจับต้องได้ บวกกับสมรรถนะที่ไม่เป็นรองรถคู่แข่ง ปี 2023 BMW X1 เจเนอเรชันที่สาม รหัส U11 ก็โผล่ออกมาให้คนไทยได้ยลโฉมด้วยหน้าตาที่ดุดันกว่าเดิม X1 ใหม่ ตัวโตขึ้น และมีทุกสิ่งตามที่ต้องการ รถรุ่นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเพื่อเติมพื้นที่ใช้สอยให้มากยิ่งขึ้น จริงๆ แล้วมันเกือบจะใหญ่เท่ากับ X3 รุ่นแรกด้วยซ้ำ ความสดของ X1 ใหม่ ก้าวกระโดดอย่างมากในด้านเทคโนโลยีกับฟีเจอร์ที่รวมไว้ให้ใช้งาน ภายในห้องโดยสารที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด แชสซี 'UKL2' ปรับปรุงใหม่ ขยายขนาดตัวถังให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย X1 2023 มีหลายอย่างที่เหมือนกันกับ 2 Series Gran Coupe ที่วางจำหน่ายในไทย แต่รูปแบบรถยนต์อเนกประสงค์ที่เน้นพื้นที่ใช้สอยมีอรรถประโยชน์มากกว่ารถซีดานไซส์เล็กของแบรนด์
...
X1 ใหม่ เป็นรถซับคอมแพคครอสโอเวอร์ รูปแบบตัวถังและอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงกับ X2 ใหม่ ทำให้เป็นที่ต้องการของลูกค้าทั่วโลก ในไทย ราคาที่แพงกว่าเดิม บ่งบอกถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นของระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบความปลอดภัย เป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมและทำยอดขายโดยเฉลี่ยมากกว่ารถเก๋งซีดานและรถคูเป้สองประตูของ BMW รูปทรงของ X1 ใหม่ ออกแนวอ้วนล่ำ บานกระจกขนาดใหญ่สื่อถึงสถานะของยานยนต์อเนกประสงค์ การออกแบบภายนอก ด้วยชุดกระจังหน้าแบบใหม่ที่พยายามดูดคุณเข้าไปด้วยรูจมูกคู่โครเมียมขนาดมหึมา กระจังหน้าในรุ่น M Sport ไม่มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ พลาสติกสีเงินและสีดำ กับแนวตั้งของซี่กระจังหน้าบวกกับขนาดอันมหึมาทำให้กระจังไตคู่แบบใหม่ใน X1 ดูดีกว่าเดิม ไฟหน้า Adaptive LED ไฟหรี่กลางวันกับทรงของไฟหน้าทำให้ส่วนหน้าของครอสโอเวอร์รุ่นใหม่มีความดุดัน
...
...
ชุดแต่ง M Sport ทำให้ตัวถังด้านข้างมีเส้นสายที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เชื่อมโยงส่วนหน้าของรถให้กลมกลืนกับแนวด้านข้าง ซุ้มล้อพลาสติกกันกระแทกสีดำเงา เสาหน้ามีองศาความลาดเอียงที่ลงตัว ผืนหลังคาค่อยๆ ลดระดับลงไปยังส่วนท้าย แรคหลังคาสีเงิน กรอบตกแต่งกระจกบานประตูสีเงิน กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว LED ในตัว มือจับที่เปิดประตูแบบใหม่ แบนราบไปกับตัวถัง เส้นสายตัวถังด้านข้าง ลากจากแก้มข้าง ผ่านบานประตูไปจนถึงขอบของไฟท้าย ชายล่างของบานประตูมีเส้นที่เอียงขึ้นไปจนถึงบานประตูด้านหลัง พลาสติกสีเงินสลับสีเทาตกแต่งที่ชายล่างของบานประตูทั้งสอง ล้ออัลลอยลายสวย ขอบ 19 นิ้ว ห่อรัดด้วยยาง Continental Ecocontact 6 Q ไซส์ 245/45 R 19 ในทางวิศวกรรม X1 ใหม่ มีวิวัฒนาการของแพลตฟอร์มเดียวกันกับรถ X1 โมเดลที่แล้ว ซึ่งใช้งานร่วมกันใน BMW และ Minis แบบเครื่องยนต์ขวาง
...
ไฟท้าย LED แบบใหม่ กันชนหลังเล่นเหลี่ยมมุม ตกแต่งขอบของกันชนหลังด้วยพลาสติกโครเมียม พลาสติกสะท้อนแสงมัลติรีเฟคเตอร์ เซนเซอร์ท้ายสี่จุด ฝาท้ายไฟฟ้า ไฟเบรกดวงที่สาม ติดตั้งอยู่บนสปอยเลอร์ครอบกรอบกระจกบานฝาท้าย เสาอากาศครีบฉลามหายไป แทนที่ด้วยเสาอากาศแบบใหม่รูปทรงคล้ายพีระมิด กระจกบานฝาท้ายมาพร้อมกับใบปัดน้ำฝนด้านหลัง มิติตัวถังของ BMW X1 SDrive 20i M Sport มีขนาดความยาว 4,500 มิลลิเมตร กว้าง 1,845 มิลลิเมตร สูง 1,642 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,692 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 875 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 933 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหน้า 1,592 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหลัง 1,593 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้ายเมื่อไม่พับเบาะ 540 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,600 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง น้ำหนักรถ 1,625 กิโลกรัม
ภายใน BMW X1 sDrive20i M Sport ติดตั้งจอแสดงผลทรงโค้ง BMW OS8 (BMW Operating System 8) จอแสดงผลประกอบด้วยแผงหน้าปัดมาตรวัดดิจิทัล ขนาด 10.25 นิ้ว และจอแสดงผลกลางควบคุมด้วยระบบสัมผัสขนาด 10.7 นิ้ว ระบบ BMW Live Cockpit Plus เบาะนั่ง Sensatec แบบเจาะรูสีน้ำตาล เบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า เบาะคู่หน้ามีพื้นที่กว้างกว่าเดิม นั่งสบายและปรับท่านั่งได้อย่างครอบคลุม แดชบอร์ดคอนโซล ตกแต่งด้วยลายไม้สีน้ำตาล ด้านบนของแดชบอร์ดหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาว ช่องแอร์ทรงสี่เหลี่ยมดีไซน์ให้เข้ากับแผงแดชบอร์ดและชิ้นงานตกแต่งบริเวณคอนโซล ที่ชาร์จมือถือแบบ wireless ช่องเชื่อมต่อ USB Type
พวงมาลัย M หุ้มหนังแท้แบบสามก้าน เป็นพวงมาลัย M Sport แบบใหม่ที่เริ่มใช้ใน X1 U11 พวงมาลัยปรับได้สี่ทิศทาง แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift มีให้เฉพาะรุ่นท็อป M Sport จุดที่แปลกตาและถือเป็นของใหม่ใน X1 U11 ก็คือ ที่วางแขนแบบลอยตัวที่ดูดีและใช้งานได้จริง การออกแบบภายในใหม่หมดทำให้ X1 U11 ไม่มีอุโมงค์ตรงกลาง เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในคอนโซลกลางให้มากกว่าเดิม แผงซุ้มเกียร์เปลี่ยนไปเป็นคันเกียร์อันเล็กๆ เหมือนกับ Series-3 LCI ดูไม่ค่อยจะเข้ากับรูปแบบของรถซึ่งมีคันเกียร์มานานแสนนาน การเปลี่ยนไปเป็นสวิตช์คันเกียร์สั้นกุดนั้นง่ายต่อการใช้งาน แต่ไม่สวยงามเหมือนอย่างที่เคยทำออกมาขาย ปุ่มและสวิตช์ปรับตั้งต่างๆ บริเวณซุ้มคันเกียร์ ประกอบไปด้วย ปุ่มปรับโหมดการขับเคลื่อน ปุ่ม Auto Brake Hold ปุ่มควบคุมระบบจอดรถอัตโนมัติ สวิตช์ไฟฉุกเฉิน และปุ่มหมุนเพื่อเพิ่มหรือลดเสียงของลำโพง
BMW My Modes มีทั้งหมดหกโหมด ใช้เพื่อปรับแต่งการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์และพวงมาลัย ประกอบด้วยโหมดที่มีประสิทธิภาพ เช่น Efficient, Sport, Relax, Expressive, Personal Mode, และ Art Modes ส่วนอุปกรณ์ภายในของ X1 sDrive20i xLine ประกอบด้วย กระจกมองข้างและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ เบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ Sport ตกแต่งด้วยไม้ลาย Eucalyptus แบบด้าน คอนโซลด้านบนแบบ Luxury ไฟส่องสว่างตกแต่งภายในห้องโดยสาร ambient lighting ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร BMW Live Cockpit Professional ระบบ BMW ConnectedDrive เครื่องเสียงแบบ Stereo ระบบเชื่อมต่อ Smartphone
X1 เวอร์ชันเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร sDRIVE 20i เครื่องยนต์วางตามขวาง ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า แรงบิดตอบสนองต่อการเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้าได้อย่างทันอกทันใจ ความหนักแน่นของช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยว พอได้ลองขับก็จะรับรู้ได้ถึงความแตกต่างจากรถคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLA200 และ Audi Q3 40TFSI โดยเฉพาะแรงฉุดลากหรือกำลังในรูปของแรงบิดที่เพียงพอต่อการใช้งาน วิ่งบนไฮเวย์ออกทางไกลก็ขับได้ดีกว่ารุ่นที่แล้ว การทรงตัวก็ทำได้ดี แม้จะลองไต่ระดับความเร็วขึ้นไปถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังนิ่งใช้ได้ พวงมาลัยที่ถูกปรับมาเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้านั้นให้สัมผัสแปลกๆ แตกต่างไปจากพวงมาลัยไฟฟ้าของ BMW ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง การย้ายระบบขับเคลื่อนมาเป็นล้อคู่หน้าพร้อมทั้งการวางเครื่องยนต์แบบตามขวาง ทำให้ระบบบังคับเลี้ยวให้สัมผัสที่เปลี่ยนไป พวงมาลัยไวขึ้นอย่างชัดเจน มีระยะฟรีตรงกึ่งกลางน้อย ขยับข้อมือนิดเดียวพวงมาลัยก็จะเปลี่ยนทิศทางอย่างเร็ว ทำให้ต้องระวังและใช้ความคุ้นเคยกันพอสมควร
เกียร์แบบอัตโนมัติ Steptronic 7 สปีด พร้อมคลัตช์คู่ เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างไหลลื่น ทำงานเร็ว เป็นเกียร์ขับหน้าที่มีอัตราครอบคลุมการใช้งานในทุกย่านความเร็ว ช่วยลดรอบเครื่องยนต์เมื่อใช้ความเร็วเดินทางที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง โดยเฉพาะการขับด้วยโหมด Efficient เกียร์จะเปลี่ยนไปสู่เกียร์สูงอย่างรวดเร็วเพื่อลดรอบเครื่องยนต์ ฟังก์ชันระบบควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้งเสริมความเสถียรของตัวรถขณะห้อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แม้จะขับเคลื่อนล้อหน้าและฝนกระหน่ำเส้นทางทดสอบตั้งแต่กรุงเทพฯจนมาถึงเขาโจด แต่ X1 ยึดเกาะกับถนนได้ดี โดยมีอาการทอร์คสเตียร์เมื่อกดคันเร่งหนักๆ ในขณะออกตัวเป็นของแถม ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ หรือ Auto Start-Stop ซึ่งจะดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่จอดรอสัญญาณไฟ การติดและดับของเครื่องยนต์นุ่มนวลขึ้นมาก รวมถึงเสียงการทำงานในรอบเดินเบาของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2 ลิตรก็ลดลง จากการเก็บเสียงที่ดีงามของห้องโดยสารแสนสบาย
พวงมาลัยไฟฟ้าแม่นยำแบบเล็งแล้วก็ไปตามสั่งแต่ไวไปนิด เนื่องจากเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า น้ำหนักที่ค่อนข้างมั่นคงในย่านความเร็วสูงของพวงมาลัยไฟฟ้า ทำให้การควบคุมครอสโอเวอร์ตราใบพัดมีความง่ายและส่งมอบความผ่อนคลาย BMW X1 ถูกออกแบบให้เป็นรถที่ขับได้ง่ายสไตล์รถแม่บ้านอเนกประสงค์ โหมดการขับขี่ ถ้าอยากประหยัดก็ Efficient อยากไปเร็วก็โหมด SPORT การตอบสนองก็จะรวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้น เกียร์ในโหมด SPORT จะคาอยู่เกียร์ 3-4 นานหน่อยเพื่อเรียกรอบเรียกแรงบิด สมรรถนะของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 204 แรงม้า มีแรงบิดที่ทำให้ขับได้อย่างกระฉับกระเฉง X1 U11 เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น กดคันเร่งเป็นพุ่งแม้จะไม่ดึงหนัก แต่ออกตัวจากจุดหยุดนิ่งเร็วใช้ได้ ทำให้การแซงรถช้าหรือรถบรรทุกไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าจะแซงพ้นหรือไม่พ้น
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนระบบรองรับหลังเป็นแบบมัลติลิงก์พร้อมปีกนกอัลลอย ให้สัมผัสที่ดีทั้งการขับบนผิวถนนเรียบๆ หรือขับบนทางลูกรัง สปริงและโช้คอัพเซตค่ามากลางๆ ทำให้นั่งนุ่มสบายก้น ไม่แข็งมากจนสั่นสะเทือนซาง หรือนิ่มเกินไปจนออกอาการย้วย X1 U11 ให้สัมผัสของระบบรองรับคล้ายกับ Mercedes Benz GLA เนื่องจากลักษณะการวางเครื่องยนต์ การใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและรูปแบบของช่วงล่างที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ส่วน Q3 40 TFSI นั้น ทำตัวแปลกแยกด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ทำให้การทรงตัวเหนือกว่าคู่แข่งร่วมสัญชาติเยอรมันทั้งสองคัน ยาง Continental Ecocontact 6 Q ไซส์ 245/45 R 19 ขับบนถนนเปียกลื่นพอใช้ได้ รีดน้ำได้ดี แต่ก็ต้องลดความเร็วลงมาเมื่อวิ่งผ่านทางหลวงชนบทแล้วมีน้ำเจิ่งนอง ยางคอนติ นุ่มเงียบจากคอมปาว์ดของเนื้อยางที่ใช้สูตรผสมพิเศษ เป็นยางเยอรมันติดรถมาจากโรงงานที่มีประสิทธิภาพดีพอสมควร
การตอบสนองของเครื่องเบนซิน 2 ลิตร เทอร์โบ อยู่ในเกณฑ์ดี แรงบิดแบบจัดเต็ม 300 นิวตันเมตร มากพอสำหรับการพุ่งทะยานด้วยความรวดเร็วทั้งการออกตัวจากจุดหยุดนิ่งและการเร่งความเร็วเพื่อแซง เครื่องยนต์เบนซินเป็นแบบแถวเรียง 4 สูบ มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo มีปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า ที่ 5,000-6500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร มาในรอบต่ำที่ 1,450 -4500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.6 วินาที เร็วกว่ารุ่นที่แล้วแบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น ส่วนความเร็วสูงสุดว่ากันถึง 236 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นี่ก็เร็วกว่าเดิมอีกเช่นกัน
ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทำได้ดีเหมือนกับสไตล์การขับของรถ เชื้อเพลิงเบนซิน 1 ลิตร ไปได้ไกล 14.2 กิโลเมตร เมื่อต้องการไปให้เร็วในโหมดสปอร์ตแบบเอากันถึงปลิวก็แค่กดคันเร่งลงจนสุด แรงดึง 300 นิวตัน-เมตร สมน้ำสมเนื้อกับขนาดและน้ำหนัก 1.6 ตัน ทำให้ขับสนุกเอาเรื่อง S Drive 20i M Sport รุ่นขับสองล้อหน้า เครื่องเสียงแม้จะไม่ใช่ harman kardon แต่ถือว่าพอฟังได้ เล่นเพลงจากยูทูบก็คมชัด แต่พลังขับของซัพวูฟเฟอร์ไม่เจ๋งเท่ารุ่นที่แพงกว่า BMW OS8 ใช้งานได้ดี มีความเสถียร กล้องมองรอบคันชัดแจ๋ว รูปแบบของกราฟิกสวยงาม แต่ฟังก์ชันแยกย่อยและการปรับสถานีวิทยุแบบแมนนวล อาจทำให้ใช้งานยาก BMW ปรับสมรรถนะการขับและงานตกแต่งทั้งภายนอกและภายในเพื่อเรียกร้องความสนใจ พื้นที่ภายในกว้างขวาง เก็บเสียงดี ยาง Continental Ecocontact 6 ไซส์ 245/45 R 19 แก้มไม่ได้เตี้ยมากจนขับลำบาก ไม่ต้องกลัวล้อวงสวยจะเป็นรอย ยางที่เหมาะกับรูปแบบของรถและเน้นการขับใช้งานจริงจังทำให้ขับง่ายกว่ายางแก้มเตี้ย 40 หรือ 35 โดยภาพรวม ราคา 2,399,000 บาท ได้ BMW รุ่นใหม่ที่มีพร้อมทุกอย่างสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นรถที่แสดงให้เห็นถึงสถานภาพของเจ้าของรถได้โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากละครับ.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/