นี่คืออาหารเรียกน้ำย่อยพลัง 601 แรงม้า บวกแรงฉุดลากที่มากกว่า M5 ตัวเก่าในระดับ 820 นิวตันเมตร เป็น M5 จำแลงที่เร่ง 0-100 ได้เร็วเอาเรื่อง ใช่ครับ BMW i5 M60 xDrive คือหนึ่งในผลงานการพุ่งทะยานของรถไฟฟ้าล่าสุดจาก BMW ซึ่งไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง...ทั้งในด้านฟิลลิ่งและค่าตัว แน่นอนว่ามันเป็นรถ M ไฟฟ้า ที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับบรรดา M Electric รุ่นอื่นๆ อย่าลืมว่ามีรถเท่ๆอย่าง i4 M50 (จมูกยาว), i7 M70 (ไฟหน้าหรี่เล็กพร้อมกระจังใหญ่ยักษ์) และ iX M60 (พ่อนกฮูก) ที่ช่วยแบ่งปันความสะอาดซึ่งกันและกันอย่างขยันขันแข็ง เป็นรถ BMW ยุคใหม่ ในแบบฉบับของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าลูกค้าเก่าจะชอบมันหรือไม่
BMW i5 eDrive40 M Sport ราคา 4,999,000 บาท
BMW i5 M60 xDrive ราคา 5,599,000 บาท (คันทดสอบ)


...






...
ดีไซน์ภายนอก BMW i5 M60 ไฟหน้า BMW LED แบบ Adaptive ปรับทิศทางตามการหมุนของพวงมาลัย รวมถึงการทำงานในโหมดอัตโนมัติ ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ให้ทำงานได้ครอบคลุมและละเอียดเพิ่มขึ้น การมีไฟหน้าสว่างจัดช่วยในเรื่องของความปลอดภัยเมื่อขับบนถนนที่มืดมิดปราศจากแสงไฟ เมื่อมองได้ไกลและคมชัดในตอนกลางคืนทำให้อุบัติเหตุจากการมองไม่เห็นแทบจะเป็นศูนย์! ชุดแต่ง M Aerodynamics Package, ชุดแต่งระบบไฟหน้า BMW Individual high-gloss Shadow Line, ชุดแต่งระบบไฟหน้า M Lights Shadow Line และช่วงหน้ารถกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ พร้อมไฟส่องสว่างอันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ซาลูนหรูรุ่นไฟฟ้า ยังสร้างความโดดเด่นด้วยหลังคากระจก Panorama ไฟหน้าใน BMW ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบให้เชื่อมโยงกับโมเดลนั้นๆ สำหรับ Series-5 รุ่นใหม่ ไฟหน้าแบบ Adaptive LED มีระบบปรับการกระจายแสงให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแสงสว่างในมุมอับในขณะเข้าโค้ง ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติในระยะไกลสุด 550 เมตร ไฟหน้าจะทำงานเป็นอิสระ โดยไม่ทำให้แสงไฟไปรบกวนรถยนต์คันอื่น การลดหรือยกไฟสูง เมื่อวิ่งเข้าไปใกล้รถยนต์คันข้างหน้า แม้ระบบจะยังคงเปิดไฟสูงแต่ใช้การแบ่งช่องเพื่อเบี่ยงเบนแสงไฟไม่ให้ไปแยงตารถคันข้างหน้า หรือรถที่แล่นสวนมา การทำงานและกำลังในการส่องสว่างใกล้เคียงกับ DIGITAL LIGHT ของ new E-Class

...



...

บั้นท้ายของ G60 รุ่นไฟฟ้า มาพร้อมไฟท้าย LED แบบใหม่ กันชนหลัง M พร้อมชิ้นงานพลาสติกสีดำเงา พลาสติกสีดำเงา ใช้ตกแต่งบริเวณชายล่างของกันชนหลัง พร้อมแผ่นพลาสติกสะท้อนแสงมัลติรีเฟคเตอร์ ฝาท้ายทำงานด้วยไฟฟ้า มีเซนเซอร์ที่ใช้ขากวาดไปบริเวณใต้กันชนขณะถือของสองมือแล้วไม่สามารถเอื้อมมือไปกดเปิดฝาท้ายได้ จุดอื่นๆ ที่ยังคล้ายรุ่นที่แล้วก็คือ เสาอากาศแบบใหม่ที่ลู่ลม กล้องมองรอบคันที่สามารถเลือกมุมมองรอบทำให้การขับเดินหน้า-ถอยหลังในที่คับแคบมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ขอบอกว่ากล้องใหม่นั้นมีความคมชัดสูงกว่าเดิม


มิติตัวถังและอุปกรณ์ภายนอกเหมือนกับ 530e แต่มีกระจังแบบปิดทึบที่ดูดุดันมากกว่า ความยาว 5,060 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,505 มิลลิเมตร ความกว้างรวมกระจกมองข้าง (ฝั่งคนขับ / ผู้โดยสาร) 2,156 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,995 มิลลิเมตร น้ำหนักรถเปล่า 2,380 กก. น้ำหนักรวมที่อนุญาต 2,895 กก. น้ำหนักบรรทุกสัมภาระ 590 กก. รองรับน้ำหนักลากพ่วงแบบมีเบรกไม่เกิน 12% รองรับน้ำหนักลากพ่วง 2,000 กิโลกรัม ความจุพื้นที่เก็บสัมภาระ 80-490 ลิตร





ฝากระโปรงหลังถูกออกแบบให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นขอบล่างของกระโปรงปรับให้มีระดับต่ำลงกว่าในรุ่นก่อน ทำให้จัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้ง่าย ภายในช่องเก็บของที่ทั้งเปิดฝากระโปรงได้กว้างขึ้น และมีขนาดที่กว้างกว่าเดิม ฝากระโปรงหลังที่ทำจากอลูมิเนียมทั้งบาน ล้อ M aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี Black Grey ขนาดล้อและยาง ล้อหน้า : 8.5 J × 21 /ยาง: 255/35 R 21
ล้อหลัง: 9.5J × 21 /ยาง: 285/30 R 21 เป็นล้อ M รุ่นใหม่ ขอบ 21 นิ้ว ใส่ยางต่างไซส์แบบหน้าเล็กหลังใหญ่ ยาง Pilot Sport 4S ไม่มียางอะไหล่






ห้องโดยสารที่หรูหราโอ่อ่า เพิ่มความสบายด้วยเบาะนั่งแบบ Comfort Seat หุ้มด้วยหนัง BMW Individual Merino ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant) แบบ Professional ระบบเสียง IconicSounds Electric สัมผัสกับเสียงการขับอันเป็นเอกลักษณ์ ระบบเสียงรอบทิศทางจากแบรนด์เครื่องเสียง Bowers & Wilkins งานตกแต่งภายในและอุปกรณ์ต่างๆ มุ่งไปที่การเสริมความสะดวกสบายอย่างเต็มเหนี่ยว 5er รุ่นใหม่พลังไฟฟ้า ยังคงสร้างบรรยากาศหรูหราคล้าย 7er รุ่นพี่ เพียงแต่ไม่มีเบาะหลังที่ปรับเอนนอนได้เท่านั้น แถบ BMW Interaction Bar ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ผสานฟังก์ชันควบคุมชุดไฟส่องสว่าง ปรับแต่งบรรยากาศในห้องโดยสารด้วยไฟตกแต่ง Ambient Light ที่สวยงามแปลกตา ดูทันสมัย และแตกต่างไปจากงานตกแต่งของรถคู่แข่งอย่างสิ้นเชิงคุณสามารถปรับสภาวะของแสงจากหลอด LED ได้ตามต้องการ เบาะนั่ง Comfort ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน เพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร วัสดุบุหลังคา Alcantara แดชบอร์ดตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงา Piano Finish Black สื่อยานยนต์หลายสำนักทั้งไทยและเทศต่างลงความเห็นให้ห้องโดยสารของ New Series-5 G60 เป็นค็อกพิตที่สวยงามที่สุด ตั้งแต่ BMW เริ่มสายการผลิตรถยนต์ในตระกูล 5 Series รหัส e12 เมื่อปี 1975 (พ.ศ. 2512) หรือกว่า 55 ปีมาแล้ว








รถทดสอบ i5 M60 XDrive คันนี้ มาพร้อมกับชุดแต่งภายนอกภายใน M มีอุปกรณ์หรูหรามากมาย เช่น เบาะนั่งด้านหน้าแบบพิเศษ BMW Individual Merino สีน้ำตาล Copper/เทา Atlas กระจกหลังคา Panoramic Roof ผลิตด้วยเทคนิคพิเศษ, สวิตช์ปรับตั้งต่างๆ ทั้ง ปุ่ม iDrive สวิตช์คันเกียร์ ปุ่มควบคุมระดับเสียงของลำโพง ทำจากกระจกแก้วคริสตัลทั้งหมด, ม่านไฟฟ้าทั้งแบบแมนนวลและไฟฟ้า, ระบบเสียง Bowers & Wilkins ที่อัปเกรดกรวยลำโพงอะลูมิเนียมใหม่ แต่ ประตูดูดนั้นหายไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรตัดออกอย่างยิ่ง งานตกแต่งภายในของ New 5 Series เป็นแนวทาง Luxury ของรถเยอรมันสายหรูที่มักจะขยายขอบเขตการใช้งานด้วยเทคโนโลยีอนาคต และ ณ ตอนนี้ BMW Operating System 8.5 หรือ OS 8.5 ดึงความสนใจของคนขับมากกว่าเดิม แต่คุณก็ควรที่จะปรับตั้งอะไรต่อมิอะไรซึ่งมากเกินบรรยายให้ลงตัว ก่อนที่จะใส่เกียร์ D เพื่อเคลื่อนที่เดินทาง ทั้งหมดทั้งปวง หากละสายตาไปปรับโน่นนี่นั่นบนจอภาพ อาจทำให้การเฝ้าระวังสภาพการณ์ด้านหน้าหดหายไปจนไม่ปลอดภัย






คุณสมบัติทางเทคโนโลยีที่ติดตั้งบนรถ i5 ส่วนใหญ่เราจะพบในรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราขนาดกลางที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้ สายการผลิตรถยนต์พลังงานสะอาดของ BMW ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแทบไม่มีวันหยุดพัก รถยนต์ไฟฟ้า Luxury รุ่นล่าสุด กลายเป็นเครื่องจักรที่ส่งแรงดึงดูดไปถึงนักขับหน้าใหม่ซึ่งมองหาของแรง รถยนต์ไฟฟ้าไซส์กลางที่หรูหราอย่าง Genesis Electrified G80 และตัวเปิดวาร์ป Mercedes-AMG EQE 53 รวมถึงกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าหรูหราที่ครองความเป็นเจ้าตลาดอย่าง Porsche Taycan Turbo Audi e-Tron GT และ Tesla Model S














สิ่งที่น่าสนใจกับห้องโดยสารไม่ใช่ปริมาณพื้นที่ แต่เป็นการออกแบบแผงด้านหน้า จอแสดงผล BMW Curved Display สองจอ (12.3 นิ้วและ 14.9 นิ้ว) เชื่อมต่อกันและโค้งเล็กน้อย ช่องแอร์ซ่อนไว้อย่างเนียน เปลี่ยนเป็นช่องเล็กๆที่มองแทบไม่เห็น คอนโซลกลางมีองค์ประกอบของความแวววาว ด้วยชิ้นงานคริสตัล สองชิ้น - คันเกียร์และ iDrive ทรงกลม สำหรับควบคุมระบบมัลติมีเดีย องค์ประกอบที่น่าสนใจ คือ BMW Interaction Bar: แผงโปร่งแสงที่มีโครงสร้างคริสตัล สามารถส่องสว่างได้หลายสี ขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือก หรือการเปิดใช้งานไฟฉุกเฉิน แผงแท่งแก้วแนวนอนยังมีระบบควบคุมแบบสัมผัส เพื่อควบคุมความเข้มข้นของการไหลของอากาศผ่านช่องแอร์ จุดเด่นที่แท้จริงของห้องโดยสารเป็นโซลูชันที่ยอดเยี่ยม สวยงามและใช้งานได้จริง เบาะผู้โดยสารด้านหลัง ไม่มีระบบความบันเทิงมาให้ แต่มีพื้นที่เพียงพอ รวมถึงการเอนเบาะหลังได้ ระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 4 โซน จุดติดตั้งแท็บเล็ตที่ด้านหลังของเบาะหน้า พอร์ต USB C เพิ่มเติม ช่องแอร์ที่เสากลาง ตะแกรงลำโพง B&W ตกแต่งเข้ากับแผงประตูดูสวยงาม ทุกอย่างทำขึ้นเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นรถซาลูนไซล์กลางระดับไฮเอนด์ แต่ Series-5 G60 ยังคงให้ความเคารพยำเกรง ไม่ก้าวข้ามขอบเขตความหรูของเรือธง 7 Series









ความสำเร็จของ BMW ยุคใหม่ก็คือ พลังในการคิดค้นเพื่อบูรณาการฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดของ OS 8.5 ให้เข้ากันได้แบบไร้ปัญหา ห้องโดยสารมีจินตนาการเจิดจรัสมากกว่ารถหรูหลายแบรนด์ งานตกแต่งทั้งหมดของ 530e มุ่งเน้นไปที่คุณภาพ พร้อมสภาพแวดล้อมภายในที่เรืองแสงอย่างสวยงามในตอนกลางคืน แสงโดยรอบส่องผ่านแผ่นโปร่งใสทั่วทั้งห้องโดยสาร ทำให้สว่างเรืองรองราวกับกำลังขับรถอยู่ท่ามกลางแสงสีของป่าตอง แสงตกแต่งภายในปรับไปตามโหมดการขับเคลื่อนที่ถูกคำนวณแล้วว่าไม่รบกวนการขับรถของคุณ แดชบอร์ดตกแต่งด้วยคาบอนไฟเบอร์ถักเคลือบเงา ไปจนถึงขอบโลหะสีเงินยวงที่ให้ความรู้สึกหรูหรา G60 เข้ามาแทนที่ G30 ด้วยความรู้สึกก้าวล้ำนำสมัย ตอบสนองความต้องการของลูกค้า อุปกรณ์ที่ลงตัว ในราคาไม่ถึงสี่ล้านบาท ระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive 8.5 แบบหน้าจอคู่ panorama ของ BMW เวอร์ชันเดียวกับ BMW Series-7 ที่ไม่รู้สึกว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง จอภาพมอนิเตอร์กลาง และจอภาพมาตรวัด มีความคมชัดสูง แสดงผลด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย จากความหนาแน่นของฟังก์ชันทำให้ต้องใช้เวลาเรียนรู้ และทำความคุ้นชินกับการใช้งานนานเป็นเดือน กว่าจะใช้งาน OS 8.5 ได้อย่างคล่องแคล่ว ซอฟต์แวร์ถูกออกแบบให้ค่อนข้างง่ายต่อการเข้า-ออกจากเมนูต่างๆ โดยใช้ตัวควบคุม i Drive ที่เป็นปุ่มทรงกลมข้างคันเกียร์ทำจากแก้วคริสตัล





นอกจากซุ้มเกียร์แบบ Glass application 'CraftedClarity' for interior elements ที่มีภายในตกแต่งด้วยผลึกแก้ว 'CraftedClarity' แล้ว พวงมาลัย M แบบใหม่ที่เริ่มแพร่ระบาดในรถตราใบพัดก็ยังจับถนัดมือดีมาก พวงมาลัยสามก้านหุ้มหนังแท้ มีรอบวงที่อวบบวมพร้อมการออกแบบร่องกริ้บที่จับกระชับมือ แป้นเปลี่ยนเกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ดี ยกเลิกการใช้พลาสติกสีเงินโดยเปลี่ยนไปเป็นสีดำที่ดูน่าเกรงขามมากกว่า ขอบก้านวงตกแต่งด้วยพลาสติกที่ทำเลียนแบบงานอะลูมิเนียม ทรงแบบฐานตัดทำให้เข้า-ออกจากเบาะคนขับได้สะดวก สวิตช์มัลติฟังก์ชันที่ด้านขวา ปรับแต่งการแสดงผลบนจอภาพมาตรวัด ปุ่มควบคุมระดับเสียง ปุ่มเลือกการแสดงผลของ MID multi function display ปุ่มสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มรับหรือวางโทรศัพท์บลูทูธ ก้านวงด้านซ้ายเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมและปรับตั้งระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control ทั้งหมดนี้ทำให้คุณอยากขับ i5 แบบเต็มพิกัดสักครั้ง แต่ i5 M60 มีสัมผัสที่ไม่เหมือนกับการขับรถสปอร์ต ไม่มีแรงสั่นสะเทือนส่งผ่านตัวถังรถ ภายในดูหรูหราเกินไปจนทำให้รู้สึกว่านี่คือ M5 เมื่อเลือกใช้โหมดสปอร์ต ระบบจะปรับแสง LED ภายใน ทำให้ห้องโดยสารมีไฟส่องสว่างสีแดงและน้ำเงิน เพื่อให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับเครื่องจักรไฟฟ้าของ M Power กราฟิก M ปรากฏบนจอแสดงผลข้อมูลความบันเทิง iDrive 8.5 แบบสองหน้าจอ พวงมาลัย M จับถนัดมือแต่บางคนไม่ชอบ พวงมาลัยมีแถบสีแดงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เบาะนั่งแบบปรับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะบีบเข้าเพื่อควบคุมข้างลำตัว ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะขับเร็ว





i5 M60 มอเตอร์คู่ขับสี่ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานอย่างน่าตกใจ การระเบิดความเร็วทางตรงที่ต้องเปิดระบบทุกอย่างเต็มที่ วางแผนล่วงหน้าหลายขั้นตอน เพื่อให้เร่งได้สุดกำลัง ต้องออกแรงกับการควบคุมพวงมาลัยในโค้ง แต่รถกลับตอบสนองอย่างไม่หยุดนิ่ง มันเข้าโค้งแรงขึ้นและยึดเกาะถนนได้ดีมาก หากเข้ามาเร็วเกินไป อาการหน้าดื้อจะโผล่ออกมาทันที ตามด้วยส่วนท้ายที่เริ่มกวาดออกด้านข้าง แต่ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) จะเข้ามาช่วยปะคองรถให้กลับเข้าสู่เส้นทาง ระบบรักษาเสถียรภาพของ i5 M60 ให้การควบคุมตัวอย่างมั่นคงเมื่อขับเข้าโค้งด้วยความเร็วเกินนิดๆ สามารถใช้คันเร่งเพื่อควบคุมรถและกระตุ้นส่วนท้ายรถได้ แต่สนุกสนานได้ไม่มากนักเพราะถ้าองศาคันเร่งผิดเพี้ยนอาจสร้างความยากลำบากในการเอารถกลับเข้าสู่เส้นทางจากแรงบิดที่มากกว่า 5 ER เครื่องสันดาป






Executive Express ของ BMW รุ่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลัง เรือนร่างซีดานขนาดกลางเข้ามาเติมเต็มช่องว่างระหว่าง i4 ที่เคยคว้ารางวัลรถยนต์ไฟฟ้าขับดีที่สุด 10 อันดับ รวมถึงยังอยู่ใกล้กับเรือธงอย่าง i7 ยานยนต์ซาลูนหรูหราระดับพรีเมียม i5 M60 xDrive ผสมผสานความสนุกสนานของการควบคุม เข้ากับความสะดวกสบายพร้อมอุปกรณ์ไฮเทคแบบจัดเต็ม มอเตอร์คู่ กับกลไก xDrive ชุดขับเคลื่อนสี่ล้อ มีพลังงานมากถึง 601 แรงม้า การยึดเกาะแบบรถสปอร์ตขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยระบบกระจายแรงบิด xDrive ทำให้ i5 M60 เป็นรุ่นที่ทรงพลังและคล่องแคล่ว แม้น้ำหนักตัวจะบานเบอะ มอเตอร์คู่ เพื่อประสิทธิภาพความแรงโดยเฉพาะ เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ใน 3.8 วินาที มีเบรก M Sport สีแดง และระบบกันสะเทือน Adaptive M Professional กระจังหน้าไตคู่สไตล์ M, กระจกมองข้างสไตล์ M หรือล้อสำหรับรถยนต์ตระกูล M ขอบ 21 นิ้ว ยาง PS4 รุ่นยอดนิยมเหมาะสมสำหรับรถ 600 แรงม้า




มอเตอร์ที่ติดตั้งด้านหน้าเพิ่มเติม กำลัง 256 แรงม้า ทำให้ i5 M60 ขับเคลื่อนสี่ล้อ XDrive วิ่งฉิวราวกับยัดเครื่อง V8 ในขณะที่ช่วงล่าง Adaptive M Professional ช่วยเพิ่มความาดมั่นเมื่อขับเร็วการจูนแบบปรับได้ ลดความสูงของรถลง 5 มิลลิเมตร ยาง สปริง และโช้คอัพกับจุดยึดโยง ช่วยกันส่งเสริมให้แชสซีตอบสนองต่อพื้นผิวถนนได้อย่างสมบูรณ์แบบ พวงมาลัยไฟ้าคมขึ้น ทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว หน่วงหนึบจนรู้สึกได้เมื่อขับเร็ว เหล็กกันโคลงช่วยให้ตอบสนองบนทางโค้งได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถซ่อนมวลน้ำหนักมหาศาลของรถได้ สรุปแล้ว i5 รุ่นแรงสุดก็คือ สะดวกสบายมากขึ้น มีพลวัตที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอัตราเร่งแบบเปิดวาป




นอกจากตัวเลขอัตราเร่งแล้ว ยังมีรายละเอียดที่น่าสนใจอีกเพียบ ยกตัวอย่าง เช่น การใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า "Gen.5" หมายความว่ามอเตอร์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น (มอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสพร้อมขดลวดกระตุ้นโรเตอร์) ความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ดีขึ้น (มีความสำคัญในระหว่างการชาร์จเพื่อป้องกันแบตเตอรี่ร้อนเกินไป) มอเตอร์คู่ ผลิตแรงบิดสูงสุดในช่วง 0-5,000 รอบต่อนาที และกำลังสูงสุดในช่วง 0-8,000 รอบต่อนาที กระปุกเกียร์มอเตอร์ไฟฟ้ามีอัตราทดเกียร์ที่แตกต่างกัน - 9.374 ที่ด้านหลังและ 8.774 สำหรับด้านหน้า การกระจายกำลังไฟฟ้าระหว่างมอเตอร์ทั้งสองและความเร็วของการตอบสนองสามารถควบคุมได้อย่างยืดหยุ่น ช่วย กระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังได้อย่างยืดหยุ่น

ระบบชาร์จไฟ AC 22kW ที่อัปเกรดแล้ว (เพื่อชาร์จไฟได้เร็วขึ้นที่บ้าน) การปรับแต่งภายนอกด้วยชุดแต่ง M5 ไฟ Adaptive LED ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วที่สวยงาม เบรก M Sport พร้อมคาลิปเปอร์สีแดง สปอยเลอร์ขอบฝาท้ายคาร์บอนไฟเบอร์ที่บางเฉียบราวกับมีดตัดเนย หลังคากระจกพาโนรามิค เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า ระบบเสียงขั้นเทพของแท้ Bowers & Wilkins ระบบปรับอากาศสี่โซน ซึ่งน่าจะเหมาะสมสำหรับการพาครอบครัวทะยานออกทางไกลพร้อมกับโปรแกรมการชาร์จระหว่างทางที่สมดุลกับการทำความเร็วแล้วรับประทานไฟในแบตฯแบบหล่นเห็นๆ แบตเตอรี่ 81.2kWh ดูเหมือนจะเล็กไปนิด มอเตอร์มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น และกำลังก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจนใกล้เคียงกับ M5 รุ่นที่แล้วซึ่งใช้เครื่อง V8 เทอร์โบคู่ การขับเร็วจี๋ออกทางไกล ทำให้คุณต้องหยุดรถบ่อยขึ้นเพื่อชาร์จไฟ แต่ราคาระดับนี้ เอามาคลานเรื่อยๆ ซื้อ 520d ดูจะเหมาะกว่า i5 M60 ชาร์จไฟเต็ม ทำระยะทางได้ประมาณ 450 กิโลเมตร ลองขับจริงๆ ทำได้เฉียดๆ 380 กิโลเมตร แต่ต้องไม่ใช้คันเร่งเลอะเทอะ โชคดีที่การชาร์จไฟ DC 205kW หมายความว่าคุณสามารถสั่งและรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวแกงภายในปั๊มที่มีแท่นชาร์จ DC หากไม่มีรถไฟฟ้าจีนมาแจมอยู่ข้างๆ คุณจะชาร์จไฟจาก 20 ไปถึง 80% ได้ในเวลาไม่ถึง 40 นาที หรืออาจเร็วกว่านั้นถ้าเจอเข้ากับตู้ DC ที่ปล่อยไฟราวกับโรงงานผลิตไฟฟ้าของ กฟผ




BMW 5 Series รุ่นไฟฟ้า มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดลูกค้าเก่าที่ชื่นชอบฟิลลิ่งของ Series-5 ให้หันมาเทใจกับรถยนต์ไฟฟ้าพลังสูง i5 เป็นรถ Series-5 G60 รุ่นไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน ด้วยกำลัง 442 กิโลวัตต์ / 601 แรงม้า และแรงบิด 820 นิวตันเมต ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะโดน D-MAX ดันรางสวนเอา ประสิทธิภาพด้านความสปอร์ตบวกอารมณ์รถผู้บริหารที่ชอบขับเองมากกว่าจะนั่งแอ็คท่าอยู่เบาะหลัง มองจากภายนอก i5 M60 เรียบง่ายสไตล์รถสปอร์ตซีดาน ไม่มีโป่งซุ้มล้อที่บานออกหรือแชสซีที่เปลี่ยนความรู้สึกเดิมๆ แม้ระบบขับเคลื่อนจะใช้มอเตอร์ แต่สัมผัสของไดนามิกส์ ยังคงเป็น New Series-5 ที่โคตรจะทรงพลัง นับเป็น 5 Series ที่สปอร์ตที่สุดและใกล้เคียง M5 มากที่สุดในด้านรูปลักษณ์และอัตราเร่ง




แบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็ม 99% แสดงระยะทาง 470 กิโลเมตร ชุดแบตเตอรี่ขนาด 81.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง รับประกันว่าสามารถวิ่งได้ 382 กิโลเมตร เป็นระยะทางกลางๆ ไมาไกลมากสำหรับรถเก๋งหรูพลังงานไฟฟ้า สำหรับเจ้าของ Series-5 ที่คุ้นเคยกับการเติมน้ำมันทุกๆ 700 กิโลเมตร ด้วย BMW 520d G60 การเปลี่ยนมาใช้รถที่แรงกว่าแต่ก็ต้องชาร์จไฟไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ปัจจุบัน BMW ยังตามหลังคู่แข่งที่มีระบบ 800 หรือ 900 โวลต์ ความสามารถในการชาร์จของ i5 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ได้โดดเด่นอะไร BMW แจ้งว่า i5 M60 มีอัตราการใช้พลังงานแบบผสมตามเกณฑ์ WLTP (กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.): 20.6 - 18.2; ระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามเกณฑ์ WLTP (กิโลเมตร): 455 - 516 ไม่มีใครอดใจไหวเมื่อขับรถที่มีกำลัง 600 แรงม้า การกดคันเร่งจนจมมิดจะรับประทานไฟจนคุณไม่อยากทำบ่อยๆ แต่แรงดึงมหาศาลของมอเตอร์คู่นั้นน่าประทับใจ รวมถึงการออกตัวจากจุดหยุดนิ่งแบบพุ่งทะยานตรงไปข้างหน้าแบบปราศจากอาการเป๋ปัด เพราะระบบรักษาเสถียรภาพของรถที่คอยเฝ้าระวังการกดคันเร่งจนสุดนั้นทำงานได้ดีมาก





BMW i5 M60 ขับได้อย่างโดดเด่นในเส้นทางยาวไกล เบาะนั่งคู่หน้าระดับชั้นนำ มีพื้นที่กว้างขวาง ระดับของเสียงรบกวนจากภายนอกที่ต่ำมาก แม้จะไม่มีกระจกฉนวน คุณจะได้ยินแต่เสียงยาง Pilot Sport 4S ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรเป็นต้นไป ส่วนเสียงลม ต้องกดไปถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถึงจะได้ยิน จอแสดงผลทั้งสองจอคมชัด ใหญ่กว่าคู่แข่งและเต็มไปด้วยลูกเล่นนับร้อยๆรายการ ไม่มีหน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าซึ่งถือว่าดี บนถนน รถไฟฟ้าขับเคลื่อนสี่ล้อ ขนาดเกือบ 2.4 ตัน คันนี้มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม พวงมาลัยแม่นยำ จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ควบคุมในโค้งมุมแคบง่ายกว่า Series-5 เครื่องสันดาป แต่อย่าเร็วเกินไปไม่งั้นน้ำหนักของรถจะส่งผลต่อการบังคับทิศทาง ระบบเบรก มีการทำงานที่สลับกับไปมา ระหว่างดิสเบรกและ regenerative braking ได้อย่างราบรื่น ระบบนำทาง การควบคุม และความสะดวกสบาย ถือยอดเยี่ยมใกล้เคียง Series-7






การเปลี่ยนทิศทางคือสิ่งที่ M60 พยายามเอาชนะคู่แข่ง แรงยึดเกาะนั้นมหาศาลมาก M60 สวมยาง PS 4S ทำให้รถมีความมั่นคงที่ช่วยสร้างความมั่นใจแล้วเหยียบคันเร่งเข้าโค้ง ซึ่ง BMW รุ่นแรงๆ ในอดีตที่ผมเคยขับก็ทำได้แบบนั้นมานานแล้ว น้ำหนัก 2,380 กิโลกรัม ไม่มีทางหนีพ้นกฎฟิสิกส์ไปได้เลย แต่ i5 ถูกปรับจูนแชสซีพร้อมระบบรักษาเสถียรภาพ เพื่อทำให้รถที่มีมวลขนาดนั้นควบคุมได้ดี ส่วนหน้ารถมีแรงเหวี่ยงมากและเลี้ยวเร็วราวสายฟ้าแลบ บนไฮเวย์ ฟิลลิ่งของมันให้ความรู้สึกยืดหยุ่นเมื่อใช้โหมดประหยัด การป้องกันคนที่อยู่ในรถจากแรงสั่นสะเทือนนั้นดีงาม เบาะนั่งที่สบายมีส่วนอย่างมากในการผ่องถ่ายความนิ่มนวลร่วมกับช่วงล่าง Dynamic Handling Package พร้อมระบบกันสะเทือน Adaptive M Suspension และแพ็คเกจ M Sport Professional คุณสมบัติที่ดีใน i5 M60 คือ Sport Boost ซึ่ง BMW ได้กำหนดฟังก์ชันดังกล่าวด้วยการกดปุ่มเดียว ระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของรถจะปรับให้มีความสปอร์ตสูงสุดทันที




Sport Boost แป้นเปลี่ยนเกียร์ด้ายซ้ายของพวงมาลัย M จับแป้นเปลี่ยนเกียร์เพียงแป้นเดียวเป็นเวลา 0.8 วินาที แล้ว—ปัง! เสียงวีดของมอเตอร์เมื่อกดคันเร่งพร้อมแรงดึงระดับ M5 ที่ให้ทั้งความตื่นเต้นและหวาดเสียว กราฟิกสไตล์วิดีโอเกมในยุค 90 จะปรากฏบนจอแสดงผล HUD บนกระจกหน้ารถ รวมถึงด้านหน้าตรงกลางบนแผงหน้าปัด โดยนับถอยหลัง 10 วินาที ใน 10 วินาทีนั้น แรงบิดจะเพิ่มขึ้นเป็น 820 นิวตันเมตร ต้องระวังและเผื่อระยะเบรกให้ดี เว็บไซต์ของ BMW แจ้งว่า i5 M60 ทำความเร็วสูงสุดได้ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อัตราเร่งระดับซูปเปอร์คาร์ ทำให้ i5 M60 ไปถึงความเร็วสูงสุดโคตรไว มันไวจนคุณจะต้องคิดเผื่อระยะเบรก เพื่อหยุดยั้งหรือลดความเร็วของวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วจี๋และมีมวล 2.3 ตันให้มากพอ ใน Sport Boost ระบบจะเทแรงบิดของมอเตอร์คู่แบบจัดเต็ม และแน่นอนว่า ไม่มีทางตรงยาวมากพอที่จะระเบิดพลังงานของ i5 M60 ออกมาทั้งหมด การออกตัวแบบ Launch Control มาพร้อมกับแรงดึงมหาศาลและแรงจีที่กระทำต่อร่างกายของคนขับ แรกๆ อาจทำให้คุณสนุก แต่พอทำไปเรื่อยๆ สักสี่ห้าครั้งก็เริ่มเจ็บกล้ามเนื้อคอและมึนหัว พร้อมกับยางที่สึกหรอลงไปอย่างรวดเร็ว อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของ BMW i5 M60 xDrive อยู่ที่ 3.8 วินาที ช้ากว่า BMW M5 G30 เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ แค่ 0.4 วินาที ตามหลัง EQE 53 4Matic + แค่ 0.3 วินาที เท่านั้นเอง




จุดอ่อนของ i5 M60 คือน้ำหนักและพลวัตของตัวถัง น้ำหนักรวม 2.3 ตัน แม้ว่า BMW จะโฆษณาการกระจายน้ำหนักแบบ 50/50 แต่ความหนักนั้นโผล่ออกมาอย่างชัดเจนเมื่อเข้าโค้งเร็วๆ จุดศูนย์ถ่วงให้ความรู้สึกเหนือกว่า 530e และ 520d นี่คือความเร็วและแรงบิดที่คู่ควรกับรถแข่งมากกว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสำหรับบุลคลทั่วไป i5 M60 xDrive มีแผ่นอะลูมิเนียมเสริมความแข็งแกร่ง ประสิทธิภาพการลดแรงสั่นสะเทือน เสียงที่เป็นซาวด์แทรคปรุงแต่ง ระบบกันสะเทือน M Sport สปริง โช้คอัพ และเหล็กกันโคลง จึงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โช้คอัพควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่การตั้งค่าปกตินั้นยอดเยี่ยมมาก อาจจะหนักแน่นเกินไปสำหรับถนนที่ขรุขระ ระบบเลี้ยวล้อหลังแบบแอ็กทีฟ หักเหทิศทางของล้อหลังสวนทางกับล้อหน้า หรือไปในทิศทางเดียวกันได้สูงสุด 2.5 องศา i5 มีความเร็วทางตรงเกือบจะเท่ากับ M5 รุ่นที่แล้ว รถไฟฟ้ารุ่นนี้ยังมีการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม บวกกับการควบคุมตัวถังที่น่าทึ่งสำหรับรถที่หนักถึง 2.3 ตัน มันดีทุกอย่าง แต่ไม่มีความสามารถในการส่งถ่ายความรู้สึกถึงจิตวิญญาณของรถสปอร์ต เนื่องจากเสียงสังเคราะห์ที่ประหลาด แทนที่จะจำลองเสียงเครื่องยนต์แบบเปิด-ปิดได้ BMW กลับให้เสียงที่คล้ายยานต่างดาวซึ่งไม่ได้สร้างความเร้าใจในการซิ่งแม้แต่น้อย มันยังไม่ใช่ M5 ที่เต็มไปด้วยวิญญาณจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ก็ขับได้ดีน่าประทับใจ




BMW i5 ใหม่ มาพร้อมกับระบบ Driving Assistant Professional ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยและการเปลี่ยนเลน (Steering and Lane Change Assist) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (Active Cruise Control with Stop & Go function) ทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในระหว่างการจอดรถ ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Parking Assistant รุ่น Plus ใช้กล้อง ควบคู่กับระบบคลื่นอัลตราซาวนด์ เพื่อช่วยผู้ขับขี่ในหลายสถานการณ์ ผ่านระบบช่วยจอดรถ Parking Assistant ระบบช่วยถอยรถ Reversing Assistant ระบบเตือนระยะห่าง Active Park Distance Control ระบบการช่วยจอดแบบ Lateral Parking Aid และระบบกล้องรอบทิศทาง Surround View สามารถดูสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้ด้วยภาพแบบสามมิติผ่านแอปพลิเคชัน My BMW ฟังก์ชัน BMW Drive Recorder บันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบความละเอียดสูงจากกล้องรอบทิศทาง เป็นออปชันเสริมที่ต้องจ่ายเพิ่มของ BMW ConnectedDrive Store




ระบบ Proactive Care สังเกตการณ์ข้อมูลของตัวรถในทุกด้าน วิเคราะห์การทำงานของยาง การแจ้งเตือนปัญหาต่างๆ รอบการเข้ารับบริการ ระบบจะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ควบคู่ไปกับข้อมูลที่ผู้ขับขี่กำหนด และแจ้งข้อความแนะนำได้หลายช่องทาง ผ่านทางแอปฯ My BMW ผ่านระบบในตัวรถ ทางอีเมล ผ่านดีลเลอร์ที่กำหนด หรือโทรศัพท์จากบริการ Roadside Assistance ระบบ Proactive Care ให้คำแนะนำในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น การอัปเกรดซอฟต์แวร์ของตัวรถด้วยตนเอง การขอรับบริการขณะเดินทาง การแนะนำศูนย์บริการ
บริการ Proactive Care สำหรับรถยนต์ BMW ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7 (ตั้งแต่เวอร์ชัน 07/2019) หรือใหม่กว่า หากต้องการใช้บริการ จะต้องมีสัญญาใช้งานบริการ BMW ConnectedDrive พร้อมบันทึกข้อมูลรถยนต์ในแอปฯ My BMW หรือหน้าเว็บ My BMW Portal ซึ่งรวมถึง BMW ID และรายละเอียดการติดต่อ และการยินยอมในเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัว การอนุญาตให้ผู้จำหน่ายสามารถติดต่อได้











i5 M60 XDrive คือทางลัดในการบรรลุผลลัพธ์อันน่าทึ่งด้านอัตราเร่ง ปุ่ม BOOST สีแดง ที่ก้านวงพวงมาลัยด้านซ้าย ใช้ออกตัวแรงๆและทำแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ตามต้องการ ตราบใดที่ไฟยังเหลือในแบตฯก็ทำได้เรื่อยๆแหละ ส่วนใหญ่แล้ว รถไฟฟ้า 500-600 แรงม้า ของจีน เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มหรือเกือบเต็ม จะเร่งได้แบบนั้นหากอุณหภูมิของระบบขับเคลื่อนยังไม่ทะลุขีดจำกัด แต่เมื่อระดับแบตเตอรี่ลดลง หรือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเริ่มมีการแพร่ความร้อน แบตฯหรือมอเตอร์เกิดร้อนจัดจากการอัดอย่างหนักหน่วงต่อเนื่อง พลวัตของอัตราเร่งก็จะลดลงตามไปด้วย แต่...ไม่ใช่ในกรณีของ BMW i5 M60! เมื่อแบตเตอรี่มีไฟมากกว่า 90% หรือเหลือไฟแค่ 35% ฟังก์ชัน BOOST ก็ทำงานเต็มที่ทุกครั้ง คุณสามารถเปิดใช้งานจนแบตเตอรี่เหลือพลังงานเพียงแค่ 8% แม้จะเสี่ยงต่อการไปไม่ถึงสถานีชาร์จไฟ แต่ BMW i5 M60 ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของยานยนต์สายพันธุ์ M ที่ปราศจากมลพิษอย่างแท้จริง สุดท้าย... คนที่ซื้อรถราคา 5.5 ล้าน ไม่ค่อยจะมานั่งคำนวนค่าใช้จ่ายในการชาร์จหรืออัตราการสิ้นเปลืองไฟฟ้ามากเท่ากับฟิลลิ่งที่ตรงกับความชอบส่วนตัวหรอกครับ.
รายละเอียดทางเทคนิค BMW i5 M60 xDrive
เครื่องยนต์และสมรรถนะ
มอเตอร์ไฟฟ้า เทคโนโลยี BMW eDrive
กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 442 กิโลวัตต์ / 601 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 795 นิวตันเมตร
ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้า¹ , มาตรฐาน NEDC 466 กิโลเมตร
ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้า¹ , มาตรฐาน WLTP 455 - 516 กิโลเมตร
ชนิดแบตเตอรี่ Lithium-ion Lithium-ion แรงดันสูง
ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 83.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0 -100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 3.8 วินาที
อัตราการใช้ไฟฟ้า, มาตรฐาน NEDC 19.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร
อัตราการใช้ไฟฟ้า, มาตรฐาน WLTP 20.6 - 18.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร
18.9 - 15.9 20.6 - 18.2
ล้อและยาง
ล้ออัลลอย BMW Individualaerodynamic ขนาด 21
น้วิ ตกแต่งสี Jet Black แบบสลับสี
ขนาดยาง
ล้อหน้า: 8.5 J × 21 /ยาง: 255/35 R 21
ล้อหลัง: 9.5J × 21 /ยาง: 285/30 R 21
มิติรถยนต์
มิตริถยนต์ยาว 5,060 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,505 มิลลิเมตร
ปริมาตรในการบรรจุของ 490 ลิตร
น้ำหนักรถ 2,380 กิโลกรัม
การชาร์จแบบกระแสสลับ (AC)
รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC) สูงสุด 22 กิโลวัตต์
ระยะเวลาในการชาร์จจาก 0 - 100%
AC chargingat2.3kW (220-230V / 10A / 1ph) 43 ชั่วโมง 30 นาที
AC chargingat7.4k WWallbox(230V /32A / 1ph) 13 ชั่วโมง
AC chargingat11kWFlexible Fast Charger (230V /
16A /3ph) 8 ชั่วโมง 15 นาที 8 ชั่วโมง 15 นาที
AC chargingat 22kW Wallbox (230V /32A /3ph) 4 ชั่วโมง 15 นาที
การชาร์จแบบกระแสตรง (DC)
รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง (DC) สูงสุด 205 กิโลวัตต์
ระยะเวลาในการชาร์จจาก 0 - 80%
DC chargingvehicleat125A by EVSE 1 ชั่วโมง 23 นาที
DC chargingvehicleat250A by EVSE 46 นาที 46 นาที
DC chargingvehicleat500A by EVSE 34 นาที 34 นาที
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
เกียร์อัตโนมัติ
ช่วงล่าง Adaptive Suspension Professional
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยไฟฟ้า BMW xDrive electric all-wheeldrive
ระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant Professional
ระบบช่วยนํารถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant Plus
อุปกรณ์ภายนอก
ระบบไฟหน้า Adaptive LED
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Iconic Glow
หลังคากระจก Panorama
ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง M สีดำเงา
ภายนอกพร้อมชุดตกแต่ง M วัสดุสีดำเงา
โคมไฟหน้าตกแต่งดีไซน์ M สีดำ (M Lights Shadow Line)
สปอยเลอร์หลังดีไซน์ M
คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport สีแดง
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ M Sport
ระบบ เปิด ปิด บานประตูท้ายอัตโนมัตด้วยระบบไฟฟ้า
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉรยิะ (Comfort Access System)
อุปกรณ์ภายใน
ระบบระบายอากาศสําหรับเบาะนั่งตอนหน้า
พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M
เข็มขัดนริภัยดีไซน์ M
เบาะนั่งตอนหน้าแบบ Comfort ปรับไฟฟ้า
เพดานหลังคาภายในสี Anthracite
ภายในตกแต่งดีไซน์ M Sport
ภายในตกแต่งด้วยสี Dark Silver M ผสมกับ Carbon Fibre ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M
ภายในตกแต่งด้วยผลึกแก้ว 'CraftedClarity'
ระบบ Travel & Comfort
ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient
Light)
ม่านบังแดดที่ประตูหลังและกระจกหลัง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน
ระบบกล้องภายในรถ
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
BMW Live Cockpit Professional
เครื่องเสียงรอบทศิทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins
คุณลักษณะเฉพาะ i5 M60 xDrive
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
ระบบ BMW ConnectedDrive
ระบบ BMW Connected Package Professional
ระบบเชื่อมต่อ Smartphone
ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ Iconic sounds electric
BMW Interaction Bar
ระบบสั่งงาน BMW Natural Interaction
ระบบ eSIM ส่วนบุคคล (Personal eSIM)
ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยศรีษะสําหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง)
ถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสาร (บริเวณเบาะคนขับ)
ระบบ Teleservices
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ตัวยึดคาร์ซีท สำหรับเด็ก ISOFIX
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
ระบบช่วยเสรมิแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist)
ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC)
เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง
ชุดปะยางฉุกเฉิน
ระบบตรวจวัดลมยาง
ชุดตกแต่งพิเศษ
ชุดตกแต่ง M Sport Pro