นี่คือรถครอสโอเวอร์คันจิ๋วจาก MINI และถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ครับ Aceman SE เดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อเติมช่องว่างระหว่าง Cooper 3 ประตู ซึ่ง MINI เรียกว่า Hatch และ Countryman 5 ประตูที่เติบใหญ่จนน่าตกใจแต่ชาวชนบทรุ่น S นั้นขับดีเหลือกำลังลาก!! วันที่ 6 กุมภาพันธ์ MINI Thailand เชิญสื่อสายยานยนต์ลงทดสอบ MINI Aceman ซึ่งเป็นอีเว้นท์ที่จัดยาวติดต่อกันสี่วัน เป็นการขับทดสอบตอนหัวค่ำ ไปจนถึงสี่ทุ่มแถบๆ กรุงเทพกรีฑา ร่มเกล้า สุวรรณภูมิ โดยใช้เวลาไม่มากนักแค่สามชั่วโมงเท่านั้นเอง


...





Aceman ประกอบในประเทศจีน ราคา 1,999,000 บาท มีหน้าตาเหมือนแมลงสีสวยที่ไม่มีพิษสงอะไร ไฟหน้า LED ทรงเหลี่ยมที่เข้ากับใบหน้าใหม่ กระจังปิดทึบสไตล์รถถ่าน มีเดินเส้นพลาสติกเพื่อทำให้ดูว่ายังคงมีกระจังแบบ MINI สมัยก่อน แต่ด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้า ไม่ต้องใช้อากาศเข้าไประบายอะไรทั้งสิ้น แอร์โรไดนามิกส์ของรถพวกนี้จึงมักจะดีกว่ารถสันดาป ฝากระโปรงหน้าสอดรับกับแนวของไฟหน้าโดยยกสันนูนขึ้นอย่างสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของ MINI ในอดีต ด้านข้างออกแบบได้ดี ดูกะทัดรัด แต่ไม่เล็กจนเกินไป เหมาะกับแม่บ้านที่ต้องรับส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนเนื่องจากมีบานประตูหลังพร้อมที่นั่งสบายๆ
...



...



...
บั้นท้ายคือจุดที่สมดุลของ Aceman ฝาท้ายอัตโนมือ ใช้มือยกเหมือนเดิม มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากกว่า Cooper Hatch ไฟท้ายติดกลิ่นธงยูเนียนแจ็ค เป็นไฟท้าย LED คมชัดมองเห็นแต่ไกล กันชนหลังใช้พลาสติกสีดำพร้อมกับพลาสติกสีออกทองอ่อนๆ ปิดทับกึ่งกลางของกันชนหลังเพื่อความหรูหราสวยงาม ความยาว 4,079 มม. สูง 1,514 มม. กว้าง 1,991 มม.ความยาวฐานล้อ 2,606 มม.หนัก 1710 กิโลกรัม ล้ออัลลอย ขอบ 18 นิ้ว ยาง Pirelli Cinturato P7 ไซล์ 225/45R18 95H ทั้งสี่ล้อ





MINI ยุคใหม่มีการปรับโฉมทุกโมเดลทั้งหมดในช่วงปีที่ผ่านมา สไตล์การออกแบบปัจจุบันถูกเรียกว่า 'Charismatic Simplicity' เมื่อมองจากบางมุม Aceman ดูเหมือน Countryman ที่กินยาลดความอ้วนจนตัวหดลง ไฟหน้าปรับได้สามแบบผ่านหน้าจอสัมผัส ซุ้มล้อทรงสี่เหลี่ยมและส่วนหน้าเหลี่ยม แต่มีบั้นท้ายสวยๆ เข้ามาช่วยทำให้ทุกอย่างดูดีและทันสมัยโดนใจแม่บ้านไฮโซหลายๆคนที่กำลังเล็งรถคันใหม่ ในไทยจะวางจำหน่ายเฉพาะรุ่น SE ใช้ชิ้นส่วนด้านล่างแบบเดียวกับ Cooper Electric หากคุณอยากได้ Cooper ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถเลือกได้เฉพาะรุ่น 3 ประตู Hatch เท่านั้น ส่วน Aceman มีประตู 5 บานรวมฝาท้าย พื้นที่เก็บสัมภาระมากกว่า 90 ลิตร นี่คือเหตุผลที่ MINI สร้างรถยนต์รุ่นนี้ออกมาให้อยู่ตรงกลาง ระหว่าง Cooper Hatch และ Countryman












ห้องเก็บสัมภาระมีพื้นที่ 300 ลิตร เพียงพอสำหรับรถเข็นเด็กเล็กน้ำหนักเบาหรือกระเป๋าเดินทางสองสามใบ แน่นอนว่าเบาะสามารถพับแยกแบบ 60/40 ได้ แต่ Lexus LBX จิ๋วติดหรูของญี่ปุ่น มีพื้นที่มากกว่า ด้วยห้องเก็บสัมภาระขนาด 400 ลิตร









การตกแต่งภายในของ SE สะท้อนให้เห็นถึงภายในของ Cooper และ Countryman มีกลิ่นของความ Classic และ Exclusive ด้วยสีที่ดูแปลกตา ขอบสีทองอ่อน หรือสีเงิน หน้าจอสัมผัสแบบวงกลม OLED ขนาด 24 ซม. ปุ่มและสวิตช์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่แต่ไม่มากแล้ว (เอาออกทำไมก็ไม่รู้) พวงมาลัยที่จับแล้วรู้สึกดี ภายในห้องโดยสาร เสริมบรรยากาศที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ ด้วยหลังคากระจก Panorama Glass Roof รับแสงจากภายนอกในเวลากลางวัน เสริมให้พื้นที่ภายในดูกว้าง กระจกหลังคาเปิดเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและสีสันจากภายนอกได้อย่างเต็มตาในยามค่ำคืน แต่วันที่มี PM2.5 หนาแน่นแบบนี้ควรจะปิดไว้ก่อนไม่งั้นเช็ดฝุ่นกันสนุก



MINI เพิ่มความสุนทรีย์ด้วยแถบไฟ LED Ambient Light ล้อมรอบ Panorama Glass Roof ส่วนหัวใจหลักของห้องโดยสารมินิในเจเนอเรชั่นนี้ คือ หน้าจอ OLED ทรงกลมบนคอนโซลหน้า มีขนาดความบางแค่ 1 เซนติเมตร บางเฉียบและใหญ่เต็มตาด้วยความกว้าง 240 มิลลิเมตร ทำหน้าที่เป็นทั้งจอแสดงผลข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่และแผงควบคุมระบบต่าง ๆ




หน้าจอทรงกลมนี้ยังเป็นศูนย์กลางของฟังก์ชัน MINI Experience Modes ปรับแต่งบรรยากาศภายในรถให้ตรงกับคาแรกเตอร์ของเจ้าของรถแต่ละคน เลือกคุมโทนตามโอกาสและอารมณ์ของการเดินทางแต่ละครั้งก็ยังได้ MINI ใหม่ ใส่โหมดขับเคลื่อนมากถึง 8 โหมด ซึ่งไม่ได้ปรับเพียงแค่โทนสีและข้อมูลที่แสดงผลบนหน้าจอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสีสันจากระบบไฟ Ambient Lighting ในห้องโดยสารที่ส่องสว่างออกมาจากใต้แผงคอนโซลหน้า กระจกข้าง และกรอบหลังคา Panorama Glass Roof จุดที่ไม่ค่อยจะชอบแต่ฟังๆไปตอนเร่งความเร็วก็คือ เสียงเครื่องยนต์แบบจำลองสไตล์อวกาศ สามารถ ปรับเปลี่ยนเสียงต่างๆ เมื่อกดคันเร่งไปตามแต่ละโหมด สำหรับเครื่องเสียงติดรถ แน่นนอนว่าเจ้าประจำที่ทำให้กับ BMW และ MINI ก็คือ ชุดเครื่องเสียงระบบเซอร์ราวด์โดย Harman Kardon










ฟังก์ชัน MINI Experience Modes เมื่อกด เลือกโหมด Go-Kart เพื่อตั้งค่าให้พวงมาลัยและคันเร่งที่เน้นการตอบสนองฉับไวมากขึ้น โหมด Trail ที่มีเฉพาะใน Countryman ก็ถูกยกมาใส่พร้อมหน้าจอที่เป็นทั้งเข็มทิศและตัวบอกระนาบองศาของรถเวลาไต่เนิน ในโหมดนี้ จอ OLED กลมจะแสดงข้อมูลเส้นทางในสไตล์เข็มทิศพร้อมด้วยองศาความชันของถนนและโทนสีอบอุ่น ส่วนโหมด Personal เพิ่มทางเลือกในการปรับแต่งบรรยากาศ คุณสามารถอัพโหลดภาพอะไรก็ได้มาใช้เป็นพื้นหลังหน้าจอ พร้อมปรับสีระบบไฟภายในห้องโดยสารให้ตรงกับโทนสีของภาพนั้นๆ โดยอัตโนมัติ ระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 มีอีกหนึ่งโหมดลับสำหรับสายปาร์ตี้ เพียงเปิดเพลงผ่านหน้าจอ OLED แล้วปาดนิ้วมือ 4 นิ้วบนหน้าจอ ระบบที่แสนรู้ว่าคุณกำลังมันจะเข้าสู่โหมด DJ ให้สแครชแผ่นกันได้แบบไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม














ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมดิจิทัล ยกระดับประสบการณ์ ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบริการ MINI Connected ครบชุด รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันจาก MINI Connected Store เพื่อเพิ่มออปชั่นและคุณสมบัติใหม่ๆ แท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน และระบบ MINI head-up display ที่แสดงข้อมูลสำคัญให้ผู้ขับขี่เห็นโดยไม่ต้องละสายตาจากถนนข้างหน้า ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Driving Assistant Plus เสริมทั้งความสะดวกและปลอดภัยด้วยตัวช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน พร้อม Adaptive Cruise Control ที่ติดตั้งมาให้เป็นฟังก์ชันมาตรฐาน ช่วยควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าแบบอัตโนมัติ และยังสามารถปรับความเร็วให้รับมือกับทางโค้งและทางชัน





ระบส่งกำลังพลังงานสะอาด MINI Aceman SE ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยววางคล่อมเพลาหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 7.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางขับขี่สูงสุดตามมาตรฐาน WLTP ที่ 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สามารถชาร์จ จาก 0-100% ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่กำลังไฟ 11 กิโลวัตต์ ในเวลา 5 ชั่วโมง 45 นาที ชาร์จความเร็วสูงด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่กำลังไฟ 95 กิโลวัตต์ จาก 10-80% ในเวลา 31 นาที

MINI Aceman SE ราคาเริ่มต้นที่ 1,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็กเกจบำรุงรักษา MSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
ตัวถัง มีให้เลือก 6 สี ได้แก่
สีแดง Rebel Red
สีน้ำเงิน Indigo Blue
สีน้ำเงิน Blazing Blue
สีขาว Nanuq White
สีเทา Melting Silver
สีเขียว Ocean Wave Green



คู่แข่งคือ?
Volvo EX30 Electric 1,890,000 บาท /Zeekr X 1349,000 บาท / Volvo C40 EV 2,090,000 บาท / Lexus UX300e 3,490,000 บาท หลังจาก BMW เข้าครอบครองและทำการรีแบรนด์ ทำให้ MINI กลายเป็นตัวเลือกระดับพรีเมียม เมื่อเลือก Aceman SE คุณจะได้รถที่มีภายในเหนือชั้นกว่า Tesla Model 3 ขับสนุกโดยที่เป็นรถไฟฟ้าแต่ยังไม่ละทิ้งจิตวิญญาณของรถโกคาร์ทที่อยู่ในไดนามิกส์ของ MINI ทุกคัน



Aceman SE ก้าวไปอีกขั้นด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า จากมอเตอร์ที่ทรงพลังกว่า ซึ่งให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า ความจุ 54.2kWh ชาร์จเต็ม ทำระยะทาง 405 กิโลเมตร (WLTP) ความเร็วในการชาร์จสูงสุด ที่ 95kW บนแท่นชาร์จด่วน DC ประมาณครี่งชั่วโมง ผมใช้โหมดโกคาร์ทตลอดระยะทางทดสอบที่วิ่งไปร้อยกว่ากิโลเมตร จากกรุงเทพกรีฑาไปยังร่มเกล้า ดิ่งเข้าสุวรรณภูมิ แล้วกลับไปแถบบางกะปิ เสียงขับเคลื่อน 'Mini Sound' ของ Aceman เป็นอีกเหตุผลที่แสดงออกถึงลูกเล่นที่ทันสมัยแต่ถ้าทำออกมาเป็นเสียงเครื่องยนต์จริงๆจะดีกว่านี้มาก หารเชื่อมต่อกับ Mini Connected เสียงจะตั้งค่าได้อย่างหลากหลาย แต่เสียงสไตล์อวกาศที่อยู่ในโหมดสูงสุดก็เร้าใจดี ไม่น่าเบื่อที่จะฟังด้วยการกดคันเร่งลงลึกสุดเมื่อถนนโล่งพอ เมื่อเพิ่มกำลังด้วยการกระแทกคันเร่งเสียงจำลองทางไฟฟ้าจะดังออกมาและยิ่งแปลกมากขึ้นเมื่อยกคันเร่งอย่างฉับพลันทันที มันจะดังคล้ายๆ ฟ้ากำลังแลบในขณะที่กระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านอากาศ คนคิดเสียงนี้น่าจะอยู่ท่ามกลางฝนฟ้าคะนองบ่อยครั้ง





ประสิทธิภาพโดยรวมของ Aceman SE ค่อนข้างแข็งแกร่งตามมาตรฐานของคลาส โดดเด่นในบรรดารถ EV ด้วยแบรนด์ ฟิลลิ่งหลังพวงมาลัยและราคา เป็นรถที่ขับง่ายมาก แค่ระวังอาการทอร์คสเตียร์ หรืออาการดึงที่พวงมาลัยเมื่อลงคันเร่งจนสุดขณะออกตัว แม้ว่าระบบควบคุมการคืนพลังงานจะถูกฝังไว้ในเมนูหน้าจอสัมผัส โหมดปรับได้ (ซึ่งอาจรู้สึกแปลกเมื่อปรับการคืนพลังงานตามสถานการณ์การจราจรที่เปลี่ยนไปด้านหน้าคุณ) เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้รถแล่นได้อย่างอิสระเมื่อถนนเปิด และรักษาโมเมนตัมเอาไว้ และไม่สามารถเข้าถึงได้เพียงพอที่จะเปิดใช้งานตามโอกาส นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ผลิตรถ EV จำนวนมากขึ้นจึงใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์สำหรับการควบคุมด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว และ BMW และ Mini จำเป็นต้องเข้ามาช่วยจริงๆ





การยึดเกาะถนนดีและเด้งพองามในสภาพผิวถนนที่ไม่สม่ำเสมอ แต่พอเจอถนนเรียบๆ ก็นุ่มสบายใช้ได้เลย ไม่กระด้างออกแนวหนุบหนึบ อารมณ์คล้าย Cooper SE Hatch แต่ตำแหน่งนั่งจะสูงกว่า ช่วงล่างกับพวงมาลัยไฟฟ้า ให้ความรู้สึกค่อนข้างละเอียดอ่อนและพัฒนามาอย่างดี พลังขับเคลื่อนของ Aceman SE นั้นมั่นคงเมื่อขับเร็วและให้ความผ่อนคลายเมื่อไปช้าลง แต่ความรู้สึกที่เร้าใจออกแนวบู๊ล้างผลาญที่สามารถควบคุมได้อยู่มือนั้นเป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติใน MINI ยุคใหม่อย่างแท้จริง




เบรกมีพลังพอใช้ได้ ให้ ความรู้สึกในการเหยียบแป้นที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ จานเบรกและผ้าเบรกต้านทานการเฟรดได้ค่อนข้างดี ในระหว่างการทดสอบ ระบบส่งกำลังไฟฟ้าของ Aceman ไม่มีการลดทอนประสิทธิภาพเมื่อใช้คันเร่งอย่างต่อเนื่อง เมื่อเหลือประจุต่ำกว่า 10% กำลังแรงบิดจะลดระดับของความรุนแรงลง เมื่อปริมาณไฟฟ้าสำรองลดลงมากขึ้น ระบบจะแจ้งเตือนเพื่อให้หาสถานีชาร์จไฟที่ใกล้ที่สุดด้วยเนวิเกเตอร์อันฉลาดล้ำผ่านการสั่งงานด้วยเสียงที่ควบคุมด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI รูปหมาสุดน่ารัก!





Aceman ให้ความรู้สึกเหมือนรถ MINI สมัยใหม่มากกว่ารถครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัด ส่วน Countryman S คือการผสมผสานระหว่างขนาดที่ใหญ่ขึ้นและความคล่องตัว บวกช่วงล่างแสนสบายที่เหนือกว่า X1 แต่ Aceman SE มีบุคลิกบนถนนที่อ่อนวัยกว่า ห้าวหาญ เป็นรถที่เร็วและคล่องตัวสูง กระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่รถไฟฟ้าประเภทซึมกระทือ อย่างที่บอกว่าฟิลลิ่งที่คล้ายกับ Cooper S Hatch ทำให้มันเป็นรถเล็กขับมันอีกคันที่น่าใช้อยู่เหมือนกัน เมื่อดูจากราคากับสมรรถนะที่พอจะไปวัดไปวาได้เลย







MINI ทำ Aceman SE ออกมาได้ดี ให้ความรู้สึกกระชับรัดกุม คล่องตัว เบาเมื่อเลี้ยวหรือเหยียบเบรกหนักๆ น้ำหนัก 1.7 ตัน ไม่สร้างปัญหาเวลาเลี้ยวเร็วๆ พวงมาลัยไฟฟ้าสื่อสารได้ดี ทั้งน้ำหนักและความแม่นนี่มาครบ แรงบิดอิเล็กทรอนิกส์ที่ขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งแรงฉุดลากผ่านล้อหน้า ซึ่งทำได้อย่างแนบเนียนคล้ายรถสันดาป แต่ออกตัวจิ้ดจ้าดกว่า มีอาการทอร์คสเตียร์ที่บ่งบอกว่าเป็นรถขับหน้าประสิทธิภาพดี ที่ผ่านมา MINI เรียนรู้และแก้ใขสิ่งที่เคยไม่ดีให้ดีกว่าเดิม Cooper SE /Countryman ใหม่ และ Aceman คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการทำรถของ MINI รวมถึงราคาที่ไม่ถึงสองล้านบาท ทำให้เกิดความอยากได้ขึ้นมาอยู่เหมือนกันละครับ.