กันยายน 2023 Audi Thailand ใช้โรงแรมดังในเมืองโคราช เปิดตัวซุปเปอร์ครอสโอเวอร์ RS Q3 Sportback รุ่นพิเศษ Edition 10 Year รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดประสิทธิภาพสูง ตัวถังแฮตช์แบค หรือที่ Audi เรียกว่า Sportback สำหรับ RS Q3 รุ่นพิเศษ มาพร้อมประสิทธิภาพแบบเต็มเหนี่ยว ทั้งแรงม้าแรงบิดจากเครื่องยนต์ 5 สูบในตำนาน ช่วงล่างสปอร์ตเน้นการยึดเกาะระดับสูง ควบรวมกับความสะดวกสบายไฮเทค ขุมกำลังเวอร์ชันเดียวกับ Audi TTRS เครื่องยนต์เบนซิน 5 กระบอกสูบ ความจุ 2.5 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ กำลัง 294 กิโลวัตต์ 400 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ DCT S tronic 7 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro เป็นรถอเนกประสงค์ไซส์เล็ก คู่แข่งของ Mercedes-AMG GLA 35/45 กับ BMW X2 M35i


...



สปอร์ตครอสโอเวอร์ รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี มีความพิเศษเฉพาะตัวทั้งภายในและภายนอก เช่น สีเมทัลลิก Chronos Grey ใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 21 นิ้ว เบาะนั่ง RS ใหม่ ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมวัสดุไมโครไฟเบอร์ Dinamica สีดำเจ็ตแบล็กบนแผงหน้าปัด RS Q3 Edition 10 Year ราคา 5,299,000 บาท (ราคาเบาะหน้าคู่ละกว่า 500,000 บาท)



...



...



...

Audi ใช้สีที่แสดงออกถึงการเฉลิมฉลองให้กับ RS Q3 รุ่นพิเศษ ด้วยสีเมทัลลิก Chronos Grey สีใหม่นี้พ่นมาให้สำหรับ RS Q3 รุ่นพิเศษโดยเฉพาะ ในขณะที่สีเงินด้าน Dew Silver ถูกเพิ่มเข้าไปสีตัวถังของ Audi RS Q3 เจเนอเรชันที่ 3 เป็นครั้งแรก ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา สีเงินสลับดำขนาด 21 นิ้ว แบบก้านคู่ ยาง Continental Sport Contact 6 ขนาด 255/35R21 ระบบเบรกประสิทธิภาพสูง พร้อมจานเบรกเหล็กหล่อขึ้นรูป หรือจานเบรกคาร์บอนเซรามิก ซึ่งเป็นออปชันเสริมที่ต้องจ่ายเพิ่ม ชุดเบรกคาลิปเปอร์เบรก 6 พอตหน้า ซิงเกิลพอตหลัง สีเทาแอนทราไซต์ ชุดแต่ง Edition 10 Years ตกแต่งกันชนหน้า-หลังด้วยสีดำเงา กระจกมองข้าง ขอบประตู และโลโก้หน้า-หลังสีดำ ทริมสีเทา-ดำ บริเวณกันชนหลัง ชุดท่อระบายไอเสียทรงกลมขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่งด้านซ้าย-ขวา มิติตัวถังของ Audi RS Q3 Sportback Edition 10 Years มีความยาว 4,507 มิลลิเมตร กว้าง 1,851 มิลลิเมตร สูง 1,557 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,590 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,583 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงก์หน้า 913 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงก์หลัง 914 มิลลิเมตร





พลาสติกสีดำเงา ชิ้นส่วนเสริมของงานตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน เน้นรูปลักษณ์พิเศษเฉพาะของรุ่น Edition 10 ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ LED พร้อมไฟกะพริบแบบไดนามิก กรอบกระจกมองข้าง โครงหลังคา ขอบช่องหน้าต่าง และขอบประตูสีดำเงา เช่นเดียวกับชุดกระจังหน้าและชิ้นงานตกแต่งบนกันชนหน้า และแผ่นดิฟฟิวเซอร์ที่ใต้กันชนหลังสีดำเงา วงแหวนทั้ง 4 ห่วง บนกระจังหน้า Singleframe และตัวอักษร RS Q3 สีดำเงา










ภายในของ RS Q3 Sportback Edition 10 Years คุณจะพบเบาะที่นั่งแบบรถแข่งแต่นั่งสบายและมีความกระชับรัดกุม คล้ายเบาะของ Lamborghini Urus Performante เบาะหุ้มด้วยหนัง Fine Nappa และวัสดุไมโครไฟเบอร์ Dinamica พร้อมสัญลักษณ์ RS บริเวณด้านล่างของพนักพิงศีรษะ แพ็กเกจงานตกแต่งภายในเน้นสีดำเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีนำตาลอ่อน พวงมาลัยสปอร์ตแบบสามก้าน หุ้มด้วยหนังกลับ Alcantara เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีน้ำตาล พร้อมไฮไลต์ RS ที่ขอบพวงมาลัย, สายเข็มขัดนิรภัยสีดำ, พรมปูพื้นประทับตราสัญลักษณ์ Edition 10 Years คันเกียร์ และกาบบันไดตรา RS พวงมาลัยหนัง RS Sport แบบฐานตัดพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ เครื่องเสียงระดับพรีเมียม Sonos แบบ 3 มิติ ลำโพง 15 ตำแหน่ง กำลังขับ 680 วัตต์ หลังคาพาโนรามิกเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เบาะด้านหลังสามารถพับเพื่อขยายพื้นที่การใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ พื้นที่เก็บสัมภาระจุได้ถึง 1,400 ลิตร






เบาะนั่งคู่หน้ารุ่นพิเศษพร้อมตราสัญลักษณ์ RS ที่บริเวณด้านล่างของพนักพิงศีรษะ ฝาครอบเบาะหลังคาร์บอนด้านถูกนำมาติดตั้งเป็นครั้งแรกใน RS Q3 เป็นไฮไลต์พิเศษราคาแพง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังผสม Dinamica สีดำเจ็ตแบล็กซึ่งเป็นสีใหม่ที่พยายามเน้นสไตล์สปอร์ตพร้อมความหรูหรา หนัง Dinamica ไมโครไฟเบอร์ ประกอบด้วยเส้นใย PET รีไซเคิลประมาณ 45% นอกจากส่วนของเบาะนั่งแล้วยังใช้กับแผงหน้าปัดและแผงประตู การเย็บแบบรังผึ้งตรงกลางเบาะ ที่วางแขนตรงกลาง ที่เท้าแขน แผงประตู และพวงมาลัย มีให้เลือกทั้งแบบทรงกลม หรือแบบเรียบ พรมปูพื้นสีดำพร้อมทองแดงเคลือบเงา





ความพิเศษของ Edition 10 Years ก็คือ เบาะคู่หน้าปรับมือราคา 5 แสนบาท ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หุ้มหนัง Fine Nappa และวัสดุไมโครไฟเบอร์ Dinamica ตัดเย็บสไตล์หกเหลี่ยมแบบเดียวกับ Lamborghini Urus เบาะคาร์บอนที่ต้องใช้วิธีปรับด้วยมือ เพราะต้องการหั่นน้ำหนักของเบาะหน้าแบบปกติของ RS Q3 ที่หนักอึ้งออกไป ความหนักเกิดจากมอเตอร์และกลไกปรับทิศทางในตัวเบาะ รวมถึงวัสดุของเบาะที่ไม่ได้เน้นการลดน้ำหนักมากเท่ากับ Edition 10 Years รุ่นพิเศษ เบาะคาร์บอนสวยงาม นั่งสบาย แม้จะปรับมือ แต่ก็ปรับท่านั่งได้ครอบคลุมสรีระ ปีกเบาะกระชับแต่ไม่ได้บีบด้านข้างลำตัวมากเกินไป อยู่ในระดับที่กำลังพอดีสำหรับคนที่ค่อนข้างอ้วน นั่งขับทางไกลได้โดยไม่อึดอัด คาร์ลิปเปอร์เบรกหน้าดำ พร้อมสัญลักษณ์ RS ล้อ RS SPORT แบบใหม่ขอบ 21 นิ้ว ลองล้างดูปรากฏว่าล้างยากอีกเช่นกัน ก้านรูเล็กทำให้สอดฟองน้ำเข้าไปล้วงคราบฝุ่นละอองผ้าเบรกด้านในของขอบวงนี่ลำบากเลยทีเดียว แต่ก็ยังดีกว่าล้อ AMG ใน CLS220d หากอยากทำความสะอาดซี่วงทั้งด้านในและด้านนอก จะต้องถอดล้อออกมาล้าง ถึงจะเนียน RS Q3 รุ่นนี้ไม่เหมาะให้เด็กนั่งหลัง ถ้าเด็กซนเตะขาไปมา อาจเกิดริ้วรอยกับเบาะราคา 5 แสนได้ ทางที่ดีเอาไปเคลือบฟิลม์หนาๆ ก่อนจะดีที่สุด แม้จะเป็นผิวคาร์บอนด้าน แต่ก็เกิดริ้วรอยได้ถ้าไม่ระวัง









มีตัวเลขนัมเบอร์ของรถ กาบบันไดแบบเรืองแสงเฉพาะรุ่น ฉายภาพ 3 มิติสีแดงลงบนพื้นเมื่อเปิดประตู เบาะนั่งคู่หน้ารุ่นพิเศษประทับตราสัญลักษณ์ RS ที่บริเวณด้านล่างของพนักพิงศีรษะ ฝาครอบเบาะหลังคาร์บอนผิวด้าน นำมาใช้เป็นครั้งแรกใน RS Q33 เป็นไฮไลต์พิเศษราคาแพง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังผสม Dinamica สีดำเจ็ตแบล็กซึ่งเป็นสีใหม่ที่พยายามเน้นสไตล์สปอร์ตพร้อมความหรูหรา หนัง Dinamica ไมโครไฟเบอร์ ประกอบด้วยเส้นใย PET รีไซเคิลประมาณ 45% นอกจากส่วนของเบาะนั่งแล้วยังใช้กับแผงหน้าปัดและแผงประตู การเย็บแบบรังผึ้งตรงกลางเบาะ ที่วางแขนตรงกลาง ที่เท้าแขน แผงประตู และพวงมาลัย มีให้เลือกทั้งแบบทรงกลมหรือแบบเรียบ พรมปูพื้นสีดำพร้อมทองแดงเคลือบเงา จอแสดงผล MMI หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว มีตัวเลขนัมเบอร์ของรถ กาบบันไดแบบเรืองแสงเฉพาะรุ่น ฉายภาพ 3 มิติสีแดงลงบนพื้นเมื่อเปิดประตู















Audi Virtual Cockpit plus ติดตั้งจอ LCD ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว เลือกดูข้อมูลที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม “view” บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เมื่อเลือกมุมมองแบบ “classic” แสดงผลมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่อง หรือแบบ “infotainment” แบบ 3 มิติที่มีรายละเอียดรูปแบบ RS ที่แสดงผลในแบบสปอร์ต คล้ายมาตรวัดของรถแข่ง มาพร้อมกับหน้าจอมอนิเตอร์กลาง MMI Navigation plus with MMI touch ขนาด 10.1 นิ้ว บรรจุระบบอินโฟเทนเมนต์ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม กล้องมองหลัง การแสดงข้อมูลและการปรับตั้งค่าต่างๆ มาตรวัดจอภาพ TFT ปรับเปลี่ยนกราฟิกการแสดงผลใหม่ ทำให้สังเกต หรืออ่านค่าได้ง่ายขึ้น มาตรวัดปรับตั้งให้แสดงข้อมูลได้อย่างหลากหลาย มีทั้งมาตรวัดความเร็วและวัดรอบแบบดิจิตอล แสดงผลเส้นทางผ่านระบบนำทางด้วยดาวเทียม การแสดงข้อมูลของแรงจี แรงม้า และแรงบิด ตำแหน่งเกียร์ ระดับเชื้อเพลิง ระดับอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ และอื่นๆ อีกเพียบ!


เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงในตระกูล RS แบบ 5 กระบอกสูบ ความจุ 2.5 ลิตร ติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ จากมันสมองและความเชี่ยวชาญของวิศวกรในเมือง Ingolstadt ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Audi Sport เครื่องยนต์ปั่นกำลังได้มากถึง 294 กิโลวัตต์ หรือ 400 แรงม้า แรงฉุดลาก 480 นิวตันเมตร มากเกินพอสำหรับรถที่มีขนาดโตกว่า Toyota C-HR แค่นิดเดียว การส่งกำลังแรงบิดลงล้อทั้งสี่ ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ S tronic 7 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่สร้างความเสถียร Quattro เวอร์ชันล่าสุดที่สามารถผกผันแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างเพื่อสร้างสมดุลสูงสุดขณะทำความเร็ว RS Q3 Edition 10 Years เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปล่อย CO2 214 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร



ระบบไอเสียที่ถูกปรับแต่งใหม่ ติดตั้งตัวกรองอนุภาคแบบล่าสุดเพื่อลด Co2 แยกท่อระบายออกเป็นสองชุด ในสไตล์สปอร์ต เพื่อทำให้การระบายไอเสียคล่องขึ้น รวมถึงเสียงท่อระบายท้ายในโหมดสูงสุด RS 1/RS2 ที่เร้าใจ Audi พยายามอธิบายว่าเป็นเสียงท่อที่มีลักษณะเฉพาะตัวของรถยนต์ในเวอร์ชัน RS ในขณะที่ระบบไอเสียแบบ RS Sport จะได้ปลายท่อสีดำ ส่งเสียงคำรามผสมผสานกับการตั้งค่าในโหมดการขับขี่แบบใหม่ ผ่านโหมด RS1 และโหมด RS2 วาล์วบายพาสในท่อจะเปิดออกจนสุด มอบเสียงที่เต็มไปด้วยพลัง พร้อมเสียงระเบิดปะทุเวลาเปลี่ยนเกียร์ สาแก่ใจสาย Quattro




RS Q3 Edition 10 Years เซตอัปเพื่อสร้างอารมณ์การควบคุมที่แตกต่างจากรถครอสโอเวอร์คู่แข่ง เนื่องจากมีกำลังถึง 400 แรงม้า ช่วงล่างของมันจึงถูกปรับให้แข็งขึ้นจากการเลือกใช้สปริงและกระบอกโช้คที่โตกว่า Q3 รุ่นมาตรฐาน ช่วงล่างของ RS Q3 Sportback Edition 10 Years ปรับต่ำลงอีก 10 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ Q3 รุ่นตัวถังมาตรฐาน ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลงแบบปรังแต่งพิเศษ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5 Link ในขณะที่ระบบช่วงล่างแบบออปชันเสริมของ RS Sport plus ที่เจ้าของจะต้องควักเพิ่มหากอยากได้ความหนึบในระดับรถแข่ง มีการเพิ่มการควบคุมแชสซีแบบไดนามิกแต่ก็แข็งกว่าของเดิมพอสมควร ระบบรองรับของ RS Q3 Sportback Edition 10 Years ที่ได้รับการปรุงแต่งจาก Audi Sport ขึ้นชื่อในเรื่องของการตอบสนองต่อทุกสภาพถนน และความนิ่งในย่านความเร็วสูงเมื่อทำงานควบคู่ไปกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro





RS Q3 Sportback Edition 10 Years ใส่ล้ออัลลอยขอบ 21 นิ้ว ลายใหม่ล่าสุดยางสปอร์ต Continental Sport Contact 6 ไซส์ 255/35 R21 104Y XL ล้อ Audi RS Wheel ขอบ 21 นิ้ว น้ำหนักเบาลายใหม่ล่าสุดที่ Audi ใส่มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยไม่ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม ระบบเบรกติดตั้งคาร์ลิปเปอร์เบรกหน้าแบบ 6 พอต พร้อมจานดิสก์ขนาด 375 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้า และแบบซิงเกิ้ลพอตที่ด้านหลัง พร้อมจานเบรกเส้นผ่าศูนย์กลาง 310 มิลลิเมตร สำหรับระบบเบรกประสิทธิภาพสูงแบบคาร์บอนเซรามิก เป็นออปชันเสริมที่ต้องเพิ่มเงินกันอีกหลายแสนบาท หากอยากได้การหยุดยั้งในระดับสูงสุด




เป็นที่รู้กันดีว่าครอสโอเวอร์ หรือที่บางคนชอบเรียกว่า SUV ขนาดเล็กสมรรถนะสูงนั้น กำลังเป็นที่นิยมก่อนการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้า โลกของเรามีรถครอสแรงจัดอย่าง BMW X2 M35i, MINI Countryman John Cooper Works All4 2025 Mercedes-AMG GLA35 / AMG GLA45 4Matic + และ Porsche Macan Turbo ที่แพงอย่างจัด แต่ RS Q3 Quattro มีมาหลายปีแล้ว โดยวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2013 ช่วงนั้นยังไม่มีครอสโอเวอร์คันไหนที่เหมือนกับมันและจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีสปอร์ตครอสโอเวอร์คันไหนขับได้ดีเท่า จนกระทั่งการมาถึงของ Mercedes-AMG GLA45 4Matic+ ตามด้วย Porsche ที่เปิดตัว New Macan EV ไปเมื่อช่วงต้นปี





RS Q3 Sportback Quattro Edition 10 Years มีเบาะนั่งต่ำกว่า Q3 ปกติ 10 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือน Sport RS การเปลี่ยนแปลงที่สวยงามของ RS Q3 รุ่นพิเศษ ได้แก่ ล้อ RS 21 นิ้ว กับเบาะคู่หน้าคาร์บอนราคาแสนแพง ส่วนกันชนและสเกิร์ต ซุ้มล้อ ท่อไอเสียแบบทางออกคู่ พวงมาลัย Alcantara ยังคงเหมือนเดิม ราคา 5.2 ล้านบาท สำหรับ RS Q3 Sportback รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี กับตัวถัง Sportback เส้นหลังคาที่ต่ำกว่า 45 มิลลิเมตร ทำให้ส่วนท้ายเทลาดในแนว Coupe Audi คาดว่า RS Q3 ตัวถังคูเป้ Sportback จะได้รับความนิยมมากกว่า RS Q3 ตัวถังปกติ ซึ่งเมื่อดูจากยอดขายก็จะเป็นรุ่น Sportback มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และการตกแต่งภายในด้วยเบาะนั่งแบบรถแข่ง แต่ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ RS Q3 รุ่นครบรอบ 10 ปี ยังคงเหมือนเดิม




เครื่องยนต์เทอร์โบห้าสูบที่ใช้ร่วมกับแฮตช์แบ็ก RS3 และ TT RS เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร สะอาดขึ้น (ด้วยตัวกรองอนุภาคของน้ำมันเบนซิน) เบากว่า (เพลาข้อเหวี่ยงอะลูมิเนียมและชิ้นส่วนอื่นๆ ลดน้ำหนักเครื่องยนต์ได้ถึง 18 กก. และทรงพลังกว่าที่เคย กำลัง 400 bhp แรงบิด 480 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 ใน 4.5 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือไปถึง 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยแพ็กเกจพิเศษ เครื่องยนต์ห้าสูบตัวนี้ได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมที่มีความจุไม่เกิน 2.5 ลิตร ติดต่อกันถึง 6 ปีซ้อน ถือเป็นคุณลักษณะเฉพาะของ RS Q3 RS3 และ TT RS เครื่อง 5 สูบ 20 วาล์ว ให้จังหวะเลขคี่ที่ไม่เหมาะสมอย่างน่าอัศจรรย์ใจ พร้อมเสียงคำรามกระหึ่มกึกก้องในโหมด RS และมันคือหนึ่งในเครื่องยนต์ที่สื่อมวลชนสายยานยนต์ทั่วโลกให้การยอมรับว่าเจ๋งจริง




เมื่อเร่งความเร็วเกิน 2,500 รอบ/นาที ไปจนถึง 5,800 รอบ/นาที มันจะพุ่งลิ่วๆ จาก 0-200 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 16.2 วินาที เบรก 6 พอตหน้าให้ความมั่นใจได้ดี แต่ควรเผื่อระยะเบรกเอาไว้บ้าง เครื่อง 5 สูบ เป็นขุมกำลังที่จูนให้เข้ากับเกียร์คลัตช์คู่ 7 สปีดได้อย่างดุดันเหลือกำลังลาก นั่นคือความเร็วที่คุณสามารถเข้าถึงได้อย่างมั่นใจใน RS Q3 กลไกขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ (มากถึง 85 เปอร์เซ็นต์ไปยังเพลาล้อหลัง หากจำเป็น) ผ่านทางระบบเกียร์คลัตช์คู่อัตโนมัติ 7 สปีดของ ZF ซึ่งทำงานได้อย่างไหลลื่นและเร็วกว่าการยัดเกียร์เอง การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นจะเร็วเมื่อใช้คันเร่งเกินครึ่ง และกลับมาเป็นเกียร์รถบ้านที่ราบรื่นเมื่อขับในย่านความเร็วต่ำ เกียร์ 7 สปีด คลัตช์คู่ ปรับเปลี่ยนโหมดควบคุมการทดกำลังได้สามรูปแบบ ทั้ง Auto Sport และ Manual ทั้งสามรูปแบบครอบคลุมการใช้งานทั้งขับในเมืองและซิ่งเต็มกำลังในสนามแข่ง




บนทางหลวงชนบทที่เงียบสงบ เครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบ มีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมพอกับที่คุณคาดหวังจากรถสี่ห่วงทุกรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้ มันดีหมดและจะดุร้ายมากสุดเมื่ออยู่ใน RS3 Sportback เครื่องยนต์ตอบสนองที่รอบต่ำและเพิ่มความเร็วรอบอย่างจิ้ดได้ถึง 7,000 รอบต่อนาที การรักษาเครื่องยนต์ให้หมุนเกิน 3,500 รอบต่อนาที เทอร์โบจะทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง แม้แต่ช่องว่างเล็กๆ ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น RS Q3 ก็ยังมีศักยภาพในการแซง ในขณะที่การเร่งความเร็วเต็มเหนี่ยว เนื่องจากการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้คุณไม่รู้สึกว่าเร็วหากไม่มองไปที่หน้าปัดแจ้งความเร็ว เสียงคำรามที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเครื่อง 5 สูบ ยังคงสื่อถึงอารมณ์ของรถแข่งได้มากกว่าเครื่องยนต์สี่สูบ โดยเฉพาะรถที่ใช้ท่อไอเสีย RS Sport Exhaust system




RS Sport Suspension ควบคุมได้การสั่นสะเทือนได้ดี และจะดีขึ้นอีกเมื่อขับเร็ว แร็คพวงมาลัยแบบโปรเกรสซีฟ ให้ทั้งความบันเทิงและความมั่นใจ สามารถตั้งค่าเพื่อให้ความรู้สึกของการควบคุมเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยในโหมด 'ไดนามิก' RS Q3 หรือหนักขึ้นอีกนิดในโหมด RS1/2 สปริงและโช้คอัพที่แข็งขึ้น รถเตี้ยลง 4 นิ้ว เมื่อเทียบกับ Q3 Sportback รุ่น 40TFSI เจ้า RS Q3 จึงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกว่า และแน่นอนว่าเข้าโค้งได้ดีขึ้นอีกด้วย ไดรฟ์โหมดของ 'Audi' กับโหมดปล่อยพลังงานสูงสุด 'RS1' และ 'RS2' สามารถตั้งค่าได้ตามใจชอบ การปรับระบบขับเคลื่อนเพื่อให้เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น การบังคับเลี้ยวเพื่อการเข้าโค้งที่ตอบสนองมากขึ้น เสียงเครื่องยนต์ และการตั้งค่าการตอบสนองของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 'Quattro' ด้วยโหมด 'Comfort' Auto หรือ Dynamic ปุ่ม 'โหมด RS' บนพวงมาลัยด้านขวา แค่กดเพียงครั้งเดียว RS Q3 จะเข้าสู่โหมดสูงสุด เมื่อขับเร็ว เบรกก็มีความสำคัญ จานดิสเบรกเจาะรูระบายความร้อนขนาด 375 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้า คาลิเปอร์ 6 ลูกสูบ (6 พอต) หน้าและแบบซิงเกิ้ลพอตที่ด้านหลัง เอาอยู่ถ้าไม่ระห่ำมากจนเกินไป




ระบบขับสี่ Quattro ให้ความมั่นใจและปลอดภัยในสภาพถนนและสภาพอากาศที่หลากหลาย ช่วยสร้างความมั่นใจในด้านการยึดเกาะเมื่อฝนตก การบังคับเลี้ยวบนถนนแห้งเฉียบคมแม่นยำและตรงไปตรงมา พวงมาลัยโปรเกรสซีฟที่แปรผันการหน่วงไปตามความเร็ว ทำให้มั่นใจว่า RS Q3 จะไปในทิศทางที่ต้องการ และเกาะติดกับถนนโดยโดยไม่เบี่ยงเบนร่อนซ้ายป่ายขวา แม้จะใช้ล้อที่ใหญ่ถึง 21 นิ้ว เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด นั้นเข้ากันได้ดีกับเครื่องยนต์ห้าสูบ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการทดกำลังที่แทบจะไม่แตกต่างไปจากเกียร์ 8 สปีด หรือ 9 สปีด เกียร์ทำงานราบรื่นไม่ว่าจะเค้นกำลังออกมาจนหมด หรือขับเรื่อยๆ ในย่านความเร็วต่ำ ห้องโดยสารเงียบ อย่าลืมว่าล้อ 21 กับยางสปอร์ตนั้น มีเสียงการทำงานที่ดังกว่าล้อและยางที่เล็กกว่า พวงมาลัยฐานตัดหน้าตาเรียบๆ และเบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์แบบรถแข่งแม้จะปรับมือและโอบกระชับมากกว่าเบาะทั่วไป แต่ท่านั่งขับนั้นพอดีไม่อึดอัด ห้องโดยสารตกแต่งอย่างสวยงามเน้นความเรียบง่ายและลดจุดที่ฉูดฉาดด้วยโทนสีเทาดำ แม้แต่หนังกลับ Alcantara ที่ตกแต่งบนเบาะ คอนโซลกลาง พวงมาลัยและแผงประตูก็ยังใช้สีเทาที่ดูเคร่งขรึม จุดที่แตกต่างอยู่ที่เครื่องยนต์ห้าสูบ เกียร์ ชุดขับสี่และช่วงล่างขั้นเทพ นับเป็นการปรับแต่งรถยนต์อเนกประสงค์ไซส์เล็กที่มีความลงตัวสูงสุด





Audi Thailand นำเอารถสปอร์ตในตระกูล RS เข้ามาทำตลาด เพื่อเปิดทางเลือกให้กับนักขับที่ต้องการความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นรถขายดีอย่าง TT RS /RS3 RS4 Avant RS5 Coupe RS6 Avant RS7 Sportback RS Q8 รวมถึงการเปิดตัว RS Q3 Sportback Edition 10 Years รุ่นล่าสุด กับราคา 5,299,000 บาท ความเหนือชั้นของรถสปอร์ตในตระกูล RS ก็คือไดนามิกส์และการตอบสนองที่ไม่เป็นสองรองใคร จุดเด่นของการเอาชนะรถคู่แข่งเกิดจากการเซตรถที่ลงตัว ควบคุมง่าย ขับสนุก และมีราคาพอรับได้ เป็นรถสองบุคลิก ทั้งขับช้าแบบรถบ้าน และขับเร็วแบบรถแข่งก็ได้ทั้งนั้น.

RS Q3 Sportback quattro Edition 10 Years 5,299,000 บาท
แบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ แถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
แบบฉีดตรง (direct injection) และเทอร์โบชาร์จ
จำนวนวาล์ว 20 วาว์ล (4 วาว์ลต่อสูบพร้อมระบบวาว์ลแปรผัน)
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,480 ซีซี.
แรงม้าสูงสุด 294 กิโลวัตต์ 400 แรงม้า ที่ 5,850-7,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,950-5,850 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสี่ล้อ (quattro)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม./ชม.
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system)
พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า Progressive Steering
เบรกหน้า ระบบเบรกแบบ RS พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกด้วยสีแดง
เบรกหลัง ระบบเบรกแบบ RS พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกด้วยสีแดง
พื้นที่เก็บสัมภาระ 530-1,400 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน 63 ลิตร
ล้อ 21 นิ้ว ขนาด 8.5J x 21 พร้อมยาง ขนาด 255/35 R21
ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
ระบบความปลอดภัย RS Q3 Sportback quattro
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system)
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function)
ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน (Hill descent control)
ระบบ Audi pre sense basic
เซนเซอร์หน้า-หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
ชุดปฐมพยาบาล
อุปกรณ์มาตรฐาน RS Q3 Sportback quattro
ช่วงล่างแบบ RS Sports
ระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports
คาลิปเปอร์เบรกสีดำหน้า-หลัง
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ RS
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่น
ด้วยสี Glossy Black
ชุดตกแต่งภายในแบบ RS
ตกแต่งห้องโดยสารภายในลาย Carbon Twill
หลังคาพาโนรามิกเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ไฟหน้าแบบ Matrix LED
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า, ไล่ฝ้า
คันเกียร์หุ้มหนังกลับ Alcantara สีดำ
สายเข็มขัดนิรภัยสีดำ
พรมในห้องโดยสารด้านหน้าสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ RS
ความสะดวกสบาย
เบาะนั่งคู่หน้าคาร์บอนไฟเบอร์ RS Sports แบบ honeycomb หุ้มหนัง Fine Nappa และวัสดุไมโครไฟเบอร์ Dinamica
เบาะผู้โดยสารด้านหลังพับได้
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้ม Alcantara แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control)
กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ
ระบบข้อมูลและความบันเทิง
ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว
ระบบ MMI Navigation plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส (MMI touch) ขนาด 10.1 นิ้ว
ระบบ Audi smartphone interface
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับ MP3
ช่องเชื่อมต่อ USB ในห้องโดยสารด้านหน้าและด้านหลัง
ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับสีได้ (Contour/ambient lighting)