Series-5 ของ BMW เป็นรถยนต์ซีดานไซส์กลางที่ประสบความสำเร็จ (อย่างสูง) มาโดยตลอด ล่าสุดกับงานปรับจูน New Series-5 รุ่น 530e M Sport Pro รหัสตัวถังใหม่ G60 ให้กลายเป็นหนึ่งในโมเดลยานยนต์ผู้บริหารที่น่าสนใจ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซาลูนขนาดกลาง New Series-5 มีการผสมผสานการใช้งานจริงและศักยภาพของระบบส่งกำลัง ไม่ต้องพูดถึงไดนามิกของการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและดีขึ้นกว่าเดิม ควบรวมกับความสะดวกสบายและความประณีตของงานประกอบทั้งภายนอกและภายใน นอกจากนี้ยังมีระบบสาระบันเทิงและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสุดๆ คอยประคับประคองผู้โดยสารตลอดการเดินทาง อะไรจะดีขนาดนั้น! 

...

BMW Series-5 รุ่นล่าสุด รหัส G60 แม้จะใส่ความสบายมาให้อย่างเต็มเหนี่ยว แต่ไดนามิกของมันก็ไม่ได้ลดทอนความเฉียบคมตามแบบฉบับของซีดานไซส์กลางชั้นดีจากเยอรมัน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในกลุ่มรถซีดานหรู ด้วยตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ห้องโดยสารระดับไฮเอนด์และเทคโนโลยีใหม่ 530e วางตัวเองอยู่ในกลุ่มรถสี่ประตูที่มีคู่ต่อสู้อย่าง Audi A6 และ Mercedes-Benz New E-Class มีอุปกรณ์และขนาดที่เหนือกว่า Series-3 แต่วางตำแหน่งทางการตลาดต่ำกว่า Series-7 เบาะแบบใหม่นั่งนุ่มสบายทั้งด้านหน้าและด้านหลังเหมาะสำหรับทั้งการเดินทางไกล แผงหน้าปัด OS 8.5 เต็มไปด้วยจอแสดงผลดิจิทัลเพื่อให้คนขับได้รับข้อมูลและความบันเทิงแก่ผู้โดยสาร เครื่องยนต์สี่สูบเทอร์โบชาร์จ ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขั้นอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์ เป็นระบบปลั๊กอินไฮบริดเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่วิ่งไกลกว่าเดิม ข่าวดีก็คือ BMW ปรับแต่งฟีลลิ่งของ G60 โดยเน้นไปที่ความสะดวกสบาย ความสปอร์ตและความตื่นเต้นให้กับครอบครัว 5er อย่างเต็มรูปแบบ 

...

...

BMW Series-5 เป็นรถยนต์ในกลุ่มซีดานขนาดกลางที่มีอายุอานามยาวนานถึง 48 ปี จากเจเนอเรชัน 1 จนถึงเจเนอเรชันล่าสุดในลำดับที่ 8 สายพันธุ์ซาลูนไซส์กลางที่มีประสิทธิภาพจากโมเดลแรกสุดของตระกูล Series-5 ซึ่งใช้รหัสรุ่น e12 ผ่านการขัดเกลาจากกาลเวลาจนมาถึงรุ่นล่าสุดในรหัส G60 พัฒนาการของรูปทรง เครื่องยนต์ ตลอดจนสมรรถนะในการขับขี่ส่งถ่ายจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามจนได้รับความนิยมทั่วโลกว่ามันเป็นหนึ่งในรถยนต์สี่ประตูขนาดกลางที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ BMW เคยผลิตออกมา

...

ดีไซน์ภายนอก BMW 530e M Sport Pro2024 มีการเติมอุปกรณ์ใหม่ทุกจุด เช่น ไฟหน้า BMW LED แบบ Adaptive ปรับทิศทางตามการหมุนของพวงมาลัย รวมถึงการทำงานในโหมดอัตโนมัติ ที่ได้รับการปรับใหม่ให้ทำงานได้ครอบคลุมและละเอียดเพิ่มขึ้น ชุดแต่ง M Aerodynamics Package, ชุดแต่งระบบไฟหน้า BMW Individual high-gloss Shadow Line, ชุดแต่งระบบไฟหน้า M Lights Shadow Line และช่วงหน้ารถโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ พร้อมไฟส่องสว่างอันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ซาลูนหรูรุ่นใหม่ 530e M Sport Pro ยังสร้างความโดดเด่นด้วยหลังคากระจก Panorama ไฟหน้าใน BMW ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบให้เชื่อมโยงกับโมเดลนั้นๆ สำหรับ Series-5 รุ่นใหม่ ไฟหน้าแบบ Adaptive LED มีระบบปรับการกระจายแสงให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแสงสว่างในมุมอับในขณะเข้าโค้ง ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติในระยะไกลสุด 550 เมตร ไฟหน้าจะทำงานเป็นอิสระ โดยไม่ทำให้แสงไฟไปรบกวนรถยนต์คันอื่น การลดหรือยกไฟสูง เมื่อวิ่งเข้าไปใกล้รถยนต์คันข้างหน้า แม้ระบบจะยังคงเปิดไฟสูงแต่ใช้การแบ่งช่องเพื่อเบี่ยงเบนแสงไฟไม่ให้ไปแยงตารถคันข้างหน้า หรือรถที่แล่นสวนมา การทำงานและกำลังในการส่องสว่างใกล้เคียงกับ DIGITAL LIGHT ของ new E-Class

มิติตัวถังของ BMW Series-5 G60 530e M Sport Pro มีขนาดความยาว 5,060 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร ตัวเลขความยาวฐานล้อ 2,995 มิลลิเมตร ยาวกว่า Series-5 G30 20 มิลลิเมตร (G30 2,975 มิลลิเมตร) ความกว้างฐานล้อหน้า 1,616 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหลัง 1,658 มิลลิเมตร สูง 1,515 มิลลิเมตร ฝากระโปรงหลังถูกออกแบบให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ความจุ 530 ลิตร ขอบล่างของกระโปรงปรับให้มีระดับต่ำลงกว่าในรุ่นก่อน ทำให้จัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้ง่าย ภายในช่องเก็บของที่ทั้งเปิดฝากระโปรงได้กว้างขึ้น และมีขนาดที่กว้างกว่าเดิม ฝากระโปรงหลังที่ทำจากอลูมิเนียมทั้งบาน สำหรับน้ำหนักมวลรวมอยู่ที่ 2,080 กิโลกรัม ล้อ M aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว แบบสลับสี Black Grey ขนาดล้อและยาง ล้อหน้า: 8.5 J × 20 /ยาง: 245/40 R 20 ล้อหลัง: 10J × 20 /ยาง: 275/35 R 20 เป็นล้อ M รุ่นใหม่ ขอบ 20 นิ้ว ใส่ยางต่างไซส์แบบหน้าเล็กหลังใหญ่ ยาง pirelli p zero runflat ทำให้ 530e M Sport ไม่ต้องพกพายางอะไหล่ และให้พื้นที่กับแบตเตอรี่ที่อยู่ใต้ห้องเก็บสัมภาระท้ายอย่างเต็มที่

บั้นท้ายของ G60 มีความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจาก G30 อย่างสิ้นเชิง ด้วยไฟท้าย LED แบบใหม่ กันชนหลัง M พร้อมชิ้นงานพลาสติกสีดำเงาปิดคลุมท่อระบายไอเสียจนมองไม่เห็นเนื่องจากการเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดที่เน้นการลด Co2 พลาสติกสีดำเงา ใช้ตกแต่งบริเวณชายล่างของกันชนหลัง พร้อมแผ่นพลาสติกสะท้อนแสงมัลติรีเฟคเตอร์ ฝาท้ายมีครีบสีดำเงาเล็กๆ ฝาท้ายทำงานด้วยไฟฟ้า มีเซนเซอร์ที่ใช้ขากวาดไปบริเวณใต้กันชนขณะถือของสองมือแล้วไม่สามารถเอื้อมมือไปกดเปิดฝาท้ายได้ จุดอื่นๆ ที่ยังคล้ายรุ่นที่แล้วก็คือ เสาอากาศแบบใหม่ที่ลู่ลม กล้องมองรอบคันที่สามารถเลือกมุมมองรอบทำให้การขับเดินหน้า-ถอยหลังในที่คับแคบมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ขอบอกว่ากล้องใหม่นั้นมีความคมชัดสูงกว่าเดิม

BMW 530e M Sport Pro เทคโนโลยี eDrive เจเนอเรชันที่ 5 แบตเตอรี่ขนาด 22.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบ AC 7.4 กิโลวัตต์ ส่งความเร็วสูงสุดเมื่อขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าล้วนที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเต็มขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆ โดยไม่ติดเครื่องยนต์ไกล 108 กิโลเมตร เร่งความเร็วด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาในการชาร์จไฟบ้าน AC 220 โวลต์ นานประมาณ 8-10 ชั่วโมง 

BMW 530e M Sport Pro เฉดสีตัวถังให้เลือก 5 สี
สีดำ Black Sapphire metallic
สีขาว Mineral White metallic
สีเทา Brooklyn Grey metallic (คันทดสอบ)
สีน้ำเงิน Phytonic Blue metallic,
สีเขียว Cape York Green metallic

BMW 530e PHEV ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสี Dark Silver M วัสดุตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุสีเงิน, ล้ออัลลอยสีเทาดำขนาด 20 นิ้ว สไตล์ M Aerodynamic, และเบรก M Sport คาลิปเปอร์สี Dark Blue Metallic

ห้องโดยสารที่หรูหราโอ่อ่า เพิ่มความสบายด้วยเบาะนั่งแบบ Comfort Seat หุ้มด้วยหนัง BMW Individual Merino ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistant) แบบ Professional ระบบเสียง IconicSounds Electric สัมผัสกับเสียงการขับอันเป็นเอกลักษณ์ ระบบเสียงรอบทิศทางจากแบรนด์เครื่องเสียง Bowers & Wilkins งานตกแต่งภายในและอุปกรณ์ต่างๆ ของ 530e G60 มุ่งไปที่การเสริมความสะดวกสบายอย่างเต็มเหนี่ยว 5er รุ่นใหม่ ยังคงสร้างบรรยากาศหรูหราคล้าย 7er รุ่นพี่ เพียงแต่ไม่มีเบาะหลังที่ปรับเอนนอนได้เท่านั้น แถบ BMW Interaction Bar ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ผสานฟังก์ชันควบคุมชุดไฟส่องสว่าง ปรับแต่งบรรยากาศในห้องโดยสารด้วยไฟตกแต่ง Ambient Light ที่สวยงามแปลกตา ดูทันสมัย และแตกต่างไปจากงานตกแต่งของรถคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง คุณสามารถปรับสภาวะของแสงจากหลอด LED ได้ตามต้องการ เบาะนั่ง Comfort ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน เพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร วัสดุบุหลังคา Alcantara แดชบอร์ดตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงา Piano Finish Black สื่อยานยนต์หลายสำนักทั้งไทยและเทศต่างลงความเห็นให้ห้องโดยสารของ New Series-5 G60 เป็นค็อกพิตที่สวยงามที่สุด ตั้งแต่ BMW เริ่มสายการผลิตรถยนต์ในตระกูล 5 Series รหัส e12 เมื่อปี 1975 (พ.ศ. 2512) หรือกว่า 55 ปีมาแล้ว 

รถทดสอบคันนี้ มาพร้อมกับชุดแต่งภายนอกภายใน M มีอุปกรณ์หรูหรามากมาย เช่น เบาะนั่งด้านหน้าแบบพิเศษ BMW Individual Merino สีน้ำตาล Copper/เทา Atlas กระจกหลังคา Panoramic Roof ผลิตด้วยเทคนิคพิเศษ, สวิตช์ปรับตั้งต่างๆ ทั้ง ปุ่ม iDrive สวิตช์คันเกียร์ ปุ่มควบคุมระดับเสียงของลำโพง ทำจากกระจกแก้วคริสตัลทั้งหมด, ม่านไฟฟ้าทั้งแบบแมนนวลและไฟฟ้า, ระบบเสียง Bowers & Wilkins ที่อัปเกรดกรวยลำโพงอะลูมิเนียมใหม่ แต่ ประตูดูดนั้นหายไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรตัดออกอย่างยิ่ง งานตกแต่งภายในของ New 5 Series เป็นแนวทาง Luxury ของรถเยอรมันสายหรูที่มักจะขยายขอบเขตการใช้งานด้วยเทคโนโลยีอนาคต และ ณ ตอนนี้  BMW Operating System 8.5 หรือ OS 8.5 ดึงความสนใจของคนขับมากกว่าเดิม แต่คุณก็ควรที่จะปรับตั้งอะไรต่อมิอะไรซึ่งมากเกินบรรยายให้ลงตัว ก่อนที่จะใส่เกียร์ D เพื่อเคลื่อนที่เดินทาง ทั้งหมดทั้งปวง หากละสายตาไปปรับโน่นนี่นั่นบนจอภาพ อาจทำให้การเฝ้าระวังสภาพการณ์ด้านหน้าหดหายไปจนไม่ปลอดภัย 

ความสำเร็จของ BMW ยุคใหม่ก็คือ พลังในการคิดค้นเพื่อบูรณาการฟังก์ชันการทำงานทั้งหมดของ OS 8.5 ให้เข้ากันได้แบบไร้ปัญหา ห้องโดยสารมีจินตนาการเจิดจรัสมากกว่ารถหรูหลายแบรนด์ งานตกแต่งทั้งหมดของ 530e มุ่งเน้นไปที่คุณภาพ พร้อมสภาพแวดล้อมภายในที่เรืองแสงอย่างสวยงามในตอนกลางคืน แสงโดยรอบส่องผ่านแผ่นโปร่งใสทั่วทั้งห้องโดยสาร ทำให้สว่างเรืองรองราวกับกำลังขับรถอยู่ท่ามกลางแสงสีของป่าตอง แสงตกแต่งภายในปรับไปตามโหมดการขับเคลื่อนที่ถูกคำนวณแล้วว่าไม่รบกวนการขับรถของคุณ แดชบอร์ดตกแต่งด้วยคาบอนไฟเบอร์ถักเคลือบเงา ไปจนถึงขอบโลหะสีเงินยวงที่ให้ความรู้สึกหรูหรา G60 เข้ามาแทนที่ G30 ด้วยความรู้สึกก้าวล้ำนำสมัย ตอบสนองความต้องการของลูกค้า อุปกรณ์ที่ลงตัว ในราคาไม่ถึงสี่ล้านบาท ระบบอินโฟเทนเมนต์ iDrive 8.5 แบบหน้าจอคู่ panorama ของ BMW เวอร์ชันเดียวกับ BMW Series-7 ที่ไม่รู้สึกว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง จอภาพมอนิเตอร์กลาง และจอภาพมาตรวัด มีความคมชัดสูง แสดงผลด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย จากความหนาแน่นของฟังก์ชันทำให้ต้องใช้เวลาเรียนรู้ และทำความคุ้นชินกับการใช้งานนานเป็นเดือน กว่าจะใช้งาน OS 8.5 ได้อย่างคล่องแคล่ว ซอฟต์แวร์ถูกออกแบบให้ค่อนข้างง่ายต่อการเข้า-ออกจากเมนูต่างๆ โดยใช้ตัวควบคุม i Drive ที่เป็นปุ่มทรงกลมข้างคันเกียร์ทำจากแก้วคริสตัล

นอกจากซุ้มเกียร์แบบ Glass application 'CraftedClarity' for interior elements ที่มีภายในตกแต่งด้วยผลึกแก้ว 'CraftedClarity' แล้ว พวงมาลัย M แบบใหม่ที่เริ่มแพร่ระบาดในรถตราใบพัดก็ยังจับถนัดมือดีมาก พวงมาลัยสามก้านหุ้มหนังแท้ มีรอบวงที่อวบบวมพร้อมการออกแบบร่องกริ้บที่จับกระชับมือ แป้นเปลี่ยนเกียร์อยู่ในตำแหน่งที่ดี ยกเลิกการใช้พลาสติกสีเงินโดยเปลี่ยนไปเป็นสีดำที่ดูน่าเกรงขามมากกว่า ขอบก้านวงตกแต่งด้วยพลาสติกที่ทำเลียนแบบงานอะลูมิเนียม ทรงแบบฐานตัดทำให้เข้า-ออกจากเบาะคนขับได้สะดวก สวิตช์มัลติฟังก์ชันที่ด้านขวา ปรับแต่งการแสดงผลบนจอภาพมาตรวัด ปุ่มควบคุมระดับเสียง ปุ่มเลือกการแสดงผลของ MID multi function display ปุ่มสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มรับหรือวางโทรศัพท์บลูทูธ ก้านวงด้านซ้ายเป็นที่อยู่ของปุ่มควบคุมและปรับตั้งระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control

ยุคใหม่ของ BMW ไม่ว่ารถอะไรก็จะถูกนำมายัดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการทำตัวให้สะอาดและเข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น อะไรก็ตามที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นการแปลงร่างเป็นรถ Plug in Hybrid ไม่ว่ารถรุ่นนั้นจะมีขนาดที่ใหญ่โตอย่าง BMW X5 xDRIVE 50e Plug in Hybrid / BMW 750e Plug in Hybrid รวมถึงรถที่มีขนาดย่อมลงมาอย่าง BMW 330e และ iX3 จากความพยายามในการที่จะรักษาสภาพแวดล้อมของโลกให้ดีขึ้น ด้วยการทำตัวเป็นยานพาหนะที่ประหยัด ปล่อยมลพิษต่ำและมีประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน นี่คือซาลูนหรูไซส์กลางตระกูล Series-5 รหัส G60 ที่ถูกนำมาใส่ระบบเสริมพลังงานแบบ Plug in Hybrid ในรุ่น 530e M-Sport Pro เป็นรถคู่แข่งกับ Mercedes Benz E350e AMG DYNAMIC Plug in Hybrid

กำลังของ BMW 530e eDrive iPerformance M-Sport มาจากเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 2 ลิตร กำลัง 190 แรงม้า กับแรงบิด 310 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าที่ฝังอยู่ในชุดเกียร์ ZF 8 Speed โดยใช้ตัวอัดประจุไฟฟ้าเพื่อป้อนพลังงานให้กับมอเตอร์ด้วยแบตเตอรี่แบบใหม่ เพื่อทำให้สอดคล้องกับการเป็นยานพาหนะแบบ Plug in Hybrid มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 135Kw มีกำลัง 184 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร ติดตั้งโดยฝังตัวเองอยู่ในชุดเกียร์ ZF8HP คอยเสริมกำลังกับเครื่องยนต์ ทำให้สมรรถนะของ BMW 530e iPerformance M-Sport อยู่ในเกณฑ์ไม่ธรรมดา จากตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดว่ากันถึง 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟจนเต็มแบตฯ

ระบบขับเคลื่อนแบบผสมเครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้าของ 530e M-Sport G60 ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องยนต์เบนซินตัวเล็กในกลุ่มรถยนต์ iPerformance เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อน 4 ล้อที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้ประจำการอยู่ใต้ฝากระโปรง พื้นฐานของเครื่องยนต์เบนซินใน 530e เป็นเครื่องแถวเรียง 4 สูบ วางตามยาวขับเคลื่อนล้อหลัง ปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 82.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 94.6 มิลลิเมตร มีอัตราส่วนกำลังอัด 10.2:1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบยิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ high precision injection ของ BMW กลไกวาล์วแปรผันสองฝั่ง Double VANOS และระบบ valvetronic ส่วนระบบอัดอากาศที่กลายเป็นของจำเป็นของรถยนต์จากเยอรมนี ใช้เทอร์โบคู่แบบ TwinScroll ภายใต้นวัตกรรม BMW TwinPower Turbo เมื่อควบรวมกำลังของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เจ้า 530e จะมีเรี่ยวแรง 299 แรงม้า พร้อมแรงบิด 450 นิวตันเมตร เหลือเฟือสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

เมื่อรับรถมาและมีไฟที่ชาร์จใส่ให้จนเต็มแบตเตอรี่ ผมลองวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ เพื่อดูการทำระยะทางในชีวิตจริง BMW 530e M Sport Pro G60 ทำระยะทางในการวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ไกล 85 กิโลเมตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กว่าเครื่องจะติดขึ้นมาก็ผ่านระยะทางไปแล้ว 85 กิโลเมตร เป็นระยะทางค่อนข้างไกลโดยที่รถจะไม่มีการปล่อยของเสียใดๆ ออกมา ความเงียบขณะที่มอเตอร์รับผิดชอบขับเคลื่อนน้ำหนัก 2 ตัน โดยที่เครื่องยนต์ยังดับอยู่ หลังจากใช้กระแสไฟในแบตฯ จะหมดและเกือบจะถึงระยะ 90 กิโลเมตร เครื่องยนต์ก็ติดขึ้นมาอย่างนิ่มนวล หากขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อเนื่อง ระยะทาง 100 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าล้วน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรของ 530e รุ่นใหม่

BMW 530e M-Sport Pro G60 ใหม่ล่าสุด ประกอบในประเทศ ราคา 3,949,000 บาท สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ หน้าตาที่ทันสมัยที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ G30 ที่เพิ่งจะตกรุ่นไปหมาดๆ โดยเฉพาะสีเทาที่มาแรงและได้รับความนิยม 530e G60 เป็นรถที่เงียบจากวัสดุป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก เมื่อวิ่งในโหมด Electric การสตาร์ตระบบขับเคลื่อน จะเริ่มต้นด้วยการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อมีกระแสไฟมากพอ เครื่องยนต์ยังคงดับอยู่ หากขับในย่านความเร็วต่ำหลังจากชาร์จไฟมาทั้งคืนคุณจะวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ โดยไม่ใช้น้ำมันไกลถึง 108 กิโลเมตร วิ่งทดสอบจริงเมื่อมีไฟเต็มแบตฯ และไม่ใช้คันเร่งแบบประหยัด อยู่ที่ 85 กิโลเมตร เป็นระยะทางไฟฟ้าที่ไกลกว่าเดิมมาก จากขนาดของแบตเตอรี่ไฮบริดที่มีความจุมากขึ้น

การวิ่งตัวเปล่าโดยปราศจากมลพิษ เงียบและนุ่มนวล คือความสามารถของ 5-Series แบบเสียบปลั๊ก ช่วงล่างดูจะยืดหยุ่นมากกว่าเดิม เมื่อเคลื่อนตัวผ่านผิวถนนที่ขรุขระจากการก่อสร้างทางยกระดับ ราคาเฉียดๆ 4 ล้านบาทของ 530e M-Sport Pro CDK รุ่นใหม่ประกอบใน คุณจะได้ซาลูนที่มีความยาวถึง 5 เมตร ยาวกว่าเดิมพอสมควรเลยทีเดียว ฟีลลิ่งของระบบรองรับเมื่อขับไปเรื่อยๆ ดูเหมือน 530e รุ่นใหม่ จะเน้นความนุ่มมากเป็นพิเศษ โช้คอัพ Adaptive แปรผันความหนืดไปตามสภาพทางและโหมดของการขับเคลื่อน เจ้าของ BMW ที่ชอบขับเร็วจะพบกับสัมผัสและการตอบสนองแบบผ่อนสั้นผ่อนยาวของช่วงล่างที่ดีขึ้นโดยเฉพาะความสบายตัวในตำแหน่งคนขับ ระบบรองรับที่ปรับจูนมาใหม่ทำให้ New Series-5 ก้าวไปอีกขั้นในเรื่องของช่วงล่าง แม้จะขับบนผิวถนนที่เป็นปูนซีเมนต์ก็ยังนุ่มกว่ารถคู่แข่ง ความรู้สึกดังกล่าวถูกส่งถ่ายออกมาจากช่วงล่างอัลลอยที่มีการเซ็ตอัพมาเป็นอย่างดี พอเปลี่ยนมาใช้โหมด Sport โช้คอัพไฟฟ้าก็มีการปรับการทำงานเพื่อสอดรับกับการใช้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นทำให้ควบคุมง่ายในย่านความเร็วสูง แม้บางครั้งจะมีอารมณ์ย้วยนิดๆ ในโค้ง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร  

การใช้งานรถ Plug in Hybrid ที่ถูกต้องก็คือเมื่อกลับถึงบ้านคุณต้องเป็นคนที่ขยันชาร์จไฟ เอาสายไฟออกมาเสียบกับที่ชาร์จ BMW Wall Box ปล่อยทิ้งไว้ 5 ชั่วโมง ไฟก็เต็มแบตฯ 100% ใช้วิ่งแบบปราศจากควันพิษได้ 100 กิโลเมตร หากไม่ได้ติดตั้ง BMW Wall Box ระยะเวลาในการชาร์จผ่านไฟบ้านจะนานพอสมควร บางครั้งถ้าวิ่งมาจนแบตฯไม่เหลือไฟก็จะใช้การชาร์จประมาณ 8 ชั่วโมง (ปรับตั้งการชาร์จในระดับต่ำสุด เพื่อป้องกันสายไฟร้อน) ส่วนการชาร์จผ่านอุปกรณ์ BMW iWallBOX ใช้เวลาแค่ 5 ชั่วโมง แบตฯ ก็จะประจุไฟจนเต็มสามารถขับใช้งานในย่านความเร็วต่ำเมื่อขับในเมืองได้โดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงสักหยด หากบ้านอยู่ห่างจากที่ทำงานไม่ถึง 50 กิโลเมตร บอกเลยว่าเครื่องยนต์แทบจะไม่ได้ทำงานเนื่องจากแบตเตอรี่ของ 530e สามารถวิ่งได้ไกลเฉียด 100 กิโลเมตร ในย่านความเร็วต่ำ ทั้งหมด อยู่ที่การควบคุมองศาคันเร่งของคุณ ซึ่งถ้าอยากเห็นตัวเลขของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีงามก็ต้องขับแบบประคับประคองเติมความเร็ว การกดคันเร่งลงลึกเครื่องยนต์จะติดตัวเองขึ้นมาทันทีเพื่อเสริมแรงบิดผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้เร่งแซงได้ดีเพราะมีพลังเหลือเฟือแต่ก็เปลืองไฟเอาเรื่องถ้ากดกันต่อเนื่อง แบตฯ ก็หมดเร็ว ทำให้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ต้องแบกรับน้ำหนักสองตัน กลับมารับประทานน้ำมันเหมือนเดิม

บนเส้นทางที่โล่งโปร่งสบาย คุณจะเพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่ขับผ่านแอมป์และลำโพงชั้นดีของ B&W เนื่องจากเป็นหนึ่งในเพชรเม็ดงามบนมงกุฎของ BMW การปรับแต่งซีรีส์ 5 ใหม่ให้ดีกว่าเดิม จึงถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเสมอ ทุกสิ่งของรถรุ่นใหม่จึงดูซับซ้อนและมีราคาไม่ถูก บางทีก็ออกแบบให้ใช้งานยากซะงั้น (ตัวปรับทิศทางพัดลมแอร์) เวอร์ชันปี 2024 (เจนเนอเรชั่นที่ 8) รหัส G60 รุ่นปลั๊กอินฯ มีการนำเสนอความเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบและเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา 530e M Sport Pro G60 อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีระบบให้ความบันเทิงและความผ่อนคลายทุกรูปแบบ ตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าไกล 108 กิโลเมตร บนเบาะนุ่มนั่งแล้วชวนจะหลับ ไปจนถึงจอแสดงผลแบบโค้งของ BMW บนระบบปฏิบัติการณ์ OS 8.5 แม้กระทั่งการเปิดตัวโหมดเล่นเกมเป็นครั้งแรก แต่อย่าลืมว่า ระบบเครื่องเสียง Hi-Fi ก็ยังเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตของคนที่เลือกซื้อ New Series-5 เพราะเศรษฐีส่วนใหญ่มักจะหมกมุ่นอยู่กับลำโพงบ้านเกรดสูงราคาแพงระยับดับจิต ระบบเสียง Bowers & Wilkins จึงกลับมารับใช้ โดยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน 530e M Sport Pro อีกครั้ง

ในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ BMW Series-5 ติดตั้งเครื่องเสียงของบริษัทอังกฤษอย่าง Bowers & Wilkins มาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งเรียกว่า ระบบเสียงรอบทิศทาง Diamond ควบรวมทวีตเตอร์โดมเพชรที่เป็นเครื่องหมายการค้ารับประกันความแพงของ Bowers & Wilkins อีกตะหาก 540i G30 ที่ไม่มีขายในไทยใช้ลำโพง B&W 16 ตัว ผ่านกำลังขับของแอมพลิฟายเออร์ แบบ 10 แชนเนล พลัง 1400 วัตต์ ส่วน 530e G30 รุ่นประกอบในประเทศที่เพิ่งจะตกโฉมไปทั้งๆที่ยังดูใหม่อยู่มาก มาพร้อมระบบ premium sound system ของ Harman Kardon เต็มชุด ซึ่งจัดลำโพง 16 ตัว พร้อมแอมป์ 10 ช่องสัญญาณ รวมถึงทวิตเตอร์ กำลังขับของชุดเครื่องเสียงนี้ จัดเต็ม 600 วัตต์ ถือว่าดีเลยทีเดียวและลูกค้าบางคนกลับชอบเสียงของ Harman Kardon มากกว่า Bowers & Wilkins ซะอีก เรียกว่า ลางเนื้อชอบลางยาว่ากันยังงั้น! 

ใน New Series-5 รุ่น 530e G60 เจนเนอเรชัน 8 คันทดสอบนี้ กลับมาติดตั้งของดีสำหรับคนหูเพชรอย่าง Bowers & Wilkins Surround Sound System เนื่องจากรุ่นที่มีทวีตเตอร์โดมเพชรถูกสงวนไว้สำหรับรุ่นเรือธงที่มีราคาแพงกว่า อย่างไรก็ตาม Bowers & Wilkins ใน New 530e มีเทคโนโลยี Continuum cone ซึ่งใช้ในลำโพงเสียงกลางติดตั้งในประตูแต่ละบาน รวมสี่บาน กรวยลำโพงจะเรืองแสงสีขาวนวลในตอนกลางคืน เมื่อถอย 5 รุ่นเสียบปลั๊ก คุณจะได้ลำโพงคุณภาพสูง B&W พร้อมซัฟวูฟเฟอร์ด้านหน้าที่มีพลังที่โหดเอาเรื่อง มันสามารถเค้นเบสออกมาเป็นลูกๆ อย่างชัดเจน ค่าเรโซแนนท์ก็ยังถือว่าต่ำมาก จากงานประกอบที่ยอดเยี่ยม กำลังขับด้วยแอมพลิฟายเออร์ขนาด 655 วัตต์ พร้อมการประมวลผลเซอร์ราวด์จากซอฟต์แวร์ที่พัฒนาควบคู่ไปกับความก้าวล้ำของเครื่องเสียงติดรถหรู ลำโพงเสียงกลางและทวีตเตอร์อะลูมิเนียมของ Bowers & Wilkins Continuum ใน BMW ซีรีส์ 5 ถือเป็นเครื่องเสียงที่มีคุณภาพ ให้เสียงที่คมชัดสมจริง ตั้งแต่เสียงระฆังไปจนถึงกลองและเครื่องดนตรีที่ใช้สายทุกประเภท กังวานกึกก้องไปทั่วทั้งห้องโดยสาร

เสียงสูงผสมมาดี แม้จะปรับจนสุด แต่ไม่แสบแก้วหูหรือปลดปล่อยออกมาแรงเกินไป เสียงกลางแข็งและค่อนข้างผสมผสานกับเสียงเบสได้ดี ส่วนเสียงเบสหรือเสียงต่ำ แสดงน้ำหนักออกมาในปริมาณที่เหมาะสม ผมเร่งจนสุด ถึงกับมีลมจากซัฟฯที่ระบายมาโดนขาจนรู้สึกได้ ความคมชัดและพลังของ B&W ใน G60 เป็นสัญญาณว่าระบบ Surround Sound กำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องต่อหูของคนขับและผู้โดยสาร 

วิ่งจนใกล้ 100 กิโลเมตร ไฟในแบตฯหมดเกลี้ยง สมองกลของระบบปลั๊กอินไฮบริด จะสั่งให้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ เข้ามารับหน้าที่ขับเคลื่อนต่อจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟไปจนเกลี้ยงแล้ว การกดใช้ Sport Mode ระบบจะสั่งการให้เครื่องยนต์ทำงานเพียวๆ โดยมีมอเตอร์คอยเสริมแรงให้ในบางจังหวะที่เร่งความเร็วด้วยการจมคันเร่ง พร้อมกับทำการชาร์จไฟกลับเข้าแบตฯ ในลักษณะวิ่งไปชาร์จไป การใช้โหมดสูงสุดขับเร็วต่อเนื่องใน 530e นั้นจะทำให้รถกินเชื้อเพลิง การขับไปชาร์จไฟไป ใช้ระยะเวลาหรือระยะทางตามใจชอบ ถ้าต้องการให้แบตฯ มีไฟเติมเข้ามาก็ต้องกดชาร์จ 100% ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการวิ่งไปชาร์จไป ได้ไฟมาไม่มากโดยที่เข็มวัดเชื้อเพลิงจะหล่นลงมาเยอะเลย! อัตราสิ้นเปลืองที่เคยโดดเด่น เมื่อเข้าสู่โหมดนี้จะทำให้เจ้า 530e กลายเป็นรถกินน้ำมันอยู่เหมือนกัน ถ้าชอบขับแบบไร้การปล่อยมลพิษเฉียดร้อยกิโลเมตร โดยที่ไม่พึ่งพากำลังเครื่องยนต์ เวลาเข้าบ้านแล้วต้องชาร์จทิ้งไว้ทั้งคืนจะประหยัดมากกว่าการขับไปชาร์จไฟไปโดยใช้กำลังเครื่องยนต์มาปั่นกระแสไฟ

BMW ปรับจูนช่วงล่างของ 530e รุ่นใหม่ ให้นั่งได้สบาย ช่วงล่าง เข้าโค้งแล้วเกาะถนนหนึบใช้ได้ มีอาการโคลงตัวน้อยกว่า CLS220d ที่เพิ่งจะขับไปเมื่อช่วงสงกรานต์ ส่วนผสมที่ลงตัวของระบบรองรับ ช่วงล่าง Adaptive มีฟีลลิ่งของความหนึบและความนุ่มผสมผสานอยู่ในระบบรองรับตลอดเส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี BMW ทำช่วงล่างของ 5 รุ่นใหม่ออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็น New 520d ที่กำลังขับอยู่ตอนนี้ (5 พฤษภาคม 2567) หรือ New 530e ปลั๊กอินไฮบริดที่กำลังรีวิวอารมณ์ของการขับเคลื่อน ทั้งสองรุ่น มีการปรับปรุงระบบรองรับเพื่อให้สัมผัสของช่วงล่างแตกต่างกันอยู่บ้าง ทั้งคู่มาพร้อมความนุ่มนวลอย่างที่บอก เบาะหนังที่รองด้วยฟองน้ำอย่างหนาของมันก็ยิ่งเพิ่มความนวลเมื่อขับผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ เป็นซีดานไซส์กลางที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผสมผสานอยู่ในโหมดขับเคลื่อน การตัดต่อเชื่อมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ เรียบเนียนจากสตาร์ตเตอร์เจนเนอเรเตอร์ที่ฉุดเครื่องยนต์ให้ติดขึ้นอย่างนิ่มนวลจนไม่มีทางที่จะรู้สึกได้ว่ามอเตอร์หรือเครื่องยนต์ที่กำลังขับเคลื่อน หากไม่ได้มองที่จอภาพมาตรวัด เมื่อต้องการแซงรถช้า เครื่องยนต์ 2 ลิตรเทอร์โบคู่ กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ในเกียร์ 8 สปีด จะร่วมประสานพลังงานแปรเปลี่ยนแรงม้า 299 ตัว ให้กลายเป็นแรงบิดระดับ 450 นิวตันเมตร มากกว่าเดิม 30 นิวตันเมตร ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.3 วินาที ช้ากว่า 530e G30 รุ่นที่แล้ว 0.1 วินาที (0-100 ของ 530e G30 ทำได้ 6.2 วินาที) แรงดึงที่ต่อเนื่องแต่ขึ้นแบบนวลไม่กระโชกโฮกฮากเหมือน M340i เข็มวัดรอบตวัดผ่าน 5500 รอบต่อนาที พร้อมการพุ่งทะยานอย่างมั่นคง 

น้ำหนักตัว 2 ตันของ New Series-5 Plug in Hybrid ทำให้มันหนักกว่าเดิมเกือบ 300 กิโลกรัม แต่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นกลับไม่ส่งผลต่อการควบคุม 530e M Sport Pro ติดตั้งชุดบังคับเลี้ยวไฟฟ้า Servotronic แรคและอัตราทดน้ำหนักที่แปรผันไปตามโหมดขับเคลื่อนกับความเร็วที่แท้จริง ทำให้การบังคับทิศทางของรถให้ความรู้สึกถึงขนาดที่เล็กเกินความเป็นจริง เนื่องจาก 5 ใหม่นั้นกว้างเกือบสองเมตร ยาวห้าเมตร การเซตค่าแปรผันของพวงมาลัยที่ BMW มีความเชี่ยวชาญทำให้รถคันไม่เล็กขับได้อย่างคล่องตัวโดยเฉพาะการขับในเมือง พวงมาลัยไฟฟ้า มีมอเตอร์และวาล์วควบคุมแรงดันน้ำมันคอยปรับน้ำหนักของพวงมาลัยไปตามความเร็วและสภาพเส้นทาง ขับช้าพวงมาลัยจะเบาสบายมือแต่ยังคงความแม่นยำในระดับสูงสุด ขับเร็วขึ้นในโหมด Sport พวงมาลัยของ 530e จะปรับหน่วงน้ำหนักให้สอดคล้องกับความเร็ว ทำให้ควบคุมได้ง่ายและเพิ่มความมั่นใจเมื่อขับเร็ว ส่วนผสมของชุดบังคับเลี้ยวที่มุ่งตรงไปที่ความเฉียบคมในการเปลี่ยนทิศทาง การขับทางตรงบนไฮเวย์ เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง พวงมาลัยสอดประสานการตอบสนองที่เที่ยงตรง กระชับรัดกุมเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น

สำหรับระบบช่วยขับ ประกอบด้วย Adaptive Cruise Control ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) เซนเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) และระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ติดตั้งมาอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Parking Assistant Professional และระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant Professional เอาเข้าจริงๆ ก็ใช้แค่ไม่กี่ระบบ พวกแจ้งเตือนและดึงพวงมาลัยกลับนี่ผมกดยกเลิกก่อนการขับ ส่วนอื่นก็เปิดเอาไว้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มความระแวดระวังด้วยตัวเองโดยมีระบบคอยเสริมอยู่ข้างหลังแทนที่จะพึ่งพามันและเปิดใช้งานทุกระบบ นั่นอาจทำให้การวิ่งทับเส้นแบ่งช่องทางโดยไม่ได้ตั้งใจมีแรงต้านดึงหน่วงของพวงมาลัยโผล่เข้ามาให้รำคาญใจจนต้องปิดทิ้ง 

Plug in Hybrid คือระบบขับเคลื่อนที่ซับซ้อน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบรอชาร์จระหว่างการเดินทางไกล BMW 530e M-Sport Pro รุ่นใหม่ คือตัวอย่างของความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเกือบทุกจุด (แต่ไม่มีประตูดูดเหมือนรุ่นที่แล้ว) เป็นยานพาหนะที่อยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนพลังงานผสม มีความสามารถที่ดีมาก วิ่งไฟฟ้าไกลเกือบร้อยกิโลเมตร แต่ถ้าไฟในแบตฯไม่เหลือก็จะกลับมากินน้ำมันมากกว่า เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองเมื่อไฟหมดแบตฯ ทำได้ 10.5 กิโลเมตรต่อลิตรในโหมด Personal อาจต่ำกว่านี้นิดเดียวเมื่อใช้โหมด Eco แต่ยังไงก็ไม่ประหยัดเท่ากับรุ่นดีเซลที่ถูกกว่า อุปกรณ์ไฮเทคนับสิบรายการ ช่วยทำให้การขับรถในทุกวันนี้กลายเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย ความนุ่มนวลและการยึดเกาะในโค้ง เป็นวิถีทางในการจูนรถของ BMW รถอย่าง Series-5 ยังเป็นยานพาหนะที่เหมาะสมสำหรับการขับในเมืองหรือออกทางไกลในวันหยุดพักผ่อน จุดเด่นก็คือช่วงล่างที่เหนือกว่า 520d M Sport Pro G60 เพราะใช้โช้คและสปริงที่เซตค่ามาต่างกัน แต่สิ่งที่ยังคงมีอยู่เมื่อขับเร็วก็คือ การควบคุมที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW นั่นเอง. 

รายละเอียดด้านเทคนิค 530e MSport Pro

เครื่องยนต์และสมรรถนะ
ชนิดเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ
เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสบู 1,998 ซีซี
กําลังสงูสดุ 140 กิโลวัตต์/ 190 แรงม้า/4,400-6,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร/1,500-4,000 รอบต่อนาที 
กําลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า
แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 250 นิวตันเมตร
ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้า¹, มาตรฐาน NEDC 108 กิโลเมตร
ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสงู 22.1 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
กําลังรวมสูงสุด 220 กิโลวัตต์ 299 แรงม้า
แรงบิดรวมสูงสุด 450 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ความเร็วสูงสุดในการขับขี่แบบไฟฟ้า 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 6.3 วินาที
อัตราการใช้ไฟฟ้า, มาตรฐาน NEDC 18.64 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และระดับการปล่อย CO2
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย-อ้างอิงผล ECO Sticker 76.9 กิโลเมตร/ลิตร
ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 29 กรัม/กิโลเมตร
ล้อและยาง
ล้ออัลลอย M aerodynamic
ขนาด 20 นิ้ว แบบสลับสี สี Black Grey
ขนาดยาง 
ล้อหน้า: 8.5 J×20/ยาง: 245/40 R 20
ล้อหลัง: 10 J×20 /ยาง: 275/35 R 20
มิติรถยนต์
ยาว 5,060 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,515 มิลลิเมตร 
ปริมาตรในการบรรจุของ 520 ลิตร
น้ำหนัก 2,080 กิโลกรัม

คุณลักษณะเฉพาะ 530e M Sport Pro
ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
เกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic พร้อม Gearshift Paddles
ช่วงล่าง M Sport
ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant)
ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional
(Driving Assistant Professional)
ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus)

อุปกรณ์ภายนอก
ระบบไฟหน้า LED อัจฉรยิะ (Adaptive LED)
คาลิปเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport สี dark blue metallic
ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัตด้วยระบบไฟฟ้า
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System)
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Iconic Glow
หลังคากระจก Panorama
กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า
พร้อมตัดแสงอัตโนมัติที่กระจกฝั่งคนขับ
สปอยเลอร์หลังดีไซน์ M
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ M Sport
โคมไฟหน้าตกแต่งดีไซน์ M สีดำ (M Lights Shadowline)
ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ
ภายนอกพร้อมชุดตกแต่ง M ด้วยวัสดุสีดำเงา

อุปกรณ์ภายใน
พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M
เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M
เบาะนั่งตอนหน้าแบบ Comfort ปรับไฟฟ้า
เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ
ภายในตกแต่งดีไซน์ M Sport
ภายในตกแต่งด้วยสี Dark Silver M ผสมกับ Carbon Fibre
ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
เพดานหลังคาภายในดีไซน์ M สี Anthracite

อุปกรณ์ภายใน
ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (Ambient Light)
ภายในตกแต่งด้วยผลึกแก้ว 'CraftedClarity'
ม่านบังแดดที่ประตูหลังและกระจกหลัง
ระบบ Travel & Comfort
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน
ระบบกล้องภายในรถ
ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
BMW Live Cockpit Professional
ระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins
ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ Iconic sounds electric

ระบบ BMW ConnectedDrive
ระบบ BMW Connected Package Professional
ระบบเชื่อมต่อ Smartphone
ระบบสั่งงานอัจฉริยะ BMW Natural Interaction
ระบบ eSIM ส่วนบุคคล(Personal eSIM)
ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

ความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสาร (บริเวณเบาะคนขับ)
ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง)
ระบบ Teleservices
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist)
ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Dynamic BrakingLights)
ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash
Sensor)

ความปลอดภัย
ระบบ Active Protection
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attentiveness Assistant)
เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง
ระบบสร้างเสียงจำลอง เตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง
ระบบตรวจวัดลมยาง
ชุดปะยางฉุกเฉิน
ชุดตกแต่งพิเศษ
ชุดตกแต่ง M Sport
ชุดตกแต่ง M Sport Pro

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/