ยอดขายกระบะที่ดิ่งวูบมาตั้งแต่กลางปี 2566 ทำให้การขายกระบะตัวใหม่ของแบรนด์ Mitsubishi ต้องพบกับปัญหาตัวเลขยอดจองยอดขายไม่เดินเท่าที่ควร การเปิดตัวออกมาในช่วงที่ความนิยมในรถกระบะหล่นวูบๆ วาบๆ ส่งผลให้ยอดขายรถปิกอัพในไทยทุกแบรนด์ลดต่ำลงอย่างน่าใจหาย มีเพียง Toyota Hilux Champ ที่พอจะขายได้ นอกนั้นอยู่ในสภาวะเงียบงันกันทั้งหมด

Mitsubishi New Triton Athlete 4WD 6AT ราคา 1,298,000 บาท
ราคารถคู่แข่ง

...
Nissan Navara Pro 4X 7AT 4WD ราคา 1,160,000 บาท

Toyota Hilux REVO Rocco 2.8 AT 4WD ราคา 1,339,000 บาท

Ford Ranger STORMTRAK 10AT 4WD ราคา 1,399,000 บาท

Isuzu D-MAX V-Cross 3.0ZP 6 AT 4x4 ราคา 1,257,000 บาท

MG Extender DC GRAND X AT 4WD ราคา 1,039,000 บาท


...


สำหรับ Mitsubishi New Triton รุ่นท็อปสุด Athlete เจเนอเรชันที่ 6 ได้รับการออกแบบภายนอกและภายในใหม่หมด พร้อมทั้งการพัฒนาเฟรมใหม่ Chassis หรือแชสซีใหม่ ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ แนวคิด Power for Adventure (พลังแกร่งคู่ใจสายลุย) ตัวถังที่ถูกขยับให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เฟรมและเปลือกตัวถังแข็งแรงกว่าเดิม ช่วงล่างปรับให้มีการขับขี่ที่นุ่มนวลนั่งสบาย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่นท็อปสุด และระบบควบคุมการขับที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ รองรับสภาพการขับขี่บนถนนทุกรูปแบบ
...



...




หน้าตาจะโดนใจหรือไม่ก็แล้วแต่ความชอบที่ไม่เหมือนกัน Mitsubishi New Triton Athlete มีหน้าตาตันๆ ทึบๆ กระจังหน้าทรงเหลี่ยมพร้อมช่องรับอากาศที่ไม่คุ้นตาสำหรับคนที่ใช้ Triton Athlete โฉมเก่ามานานแล้ว มีรายละเอียดภายในด้วยพลาสติกกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม ไฟหน้าเรียวเล็ก มีไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Lights ไฟตัดหมอกคู่หน้าพร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำอัตโนมัติ กระจังหน้าและไฟหน้าเชื่อมโยงเส้นสายทรงเหลี่ยม กันชนหน้าใหม่ ฝากระโปรงหน้าใหม่ ซุ้มล้อหน้า-หลังใหม่หมด ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว ลายใหม่ บันไดข้างใหม่ พร้อมกระบะท้ายก็ยังออกแบบใหม่หมดรวมไปถึงฝาท้ายและไฟท้าย ไฟเบรก LED พร้อมไฟ LED Light Guidin กันชนหลังก็ยังออกแบบใหม่ ความคมเข้มของใบหน้าใหม่ ซึ่งเซียนรถบางคนชอบนำไปเปรียบเทียบกับช่องแอร์แขวนผนัง ไฟหน้าพร้อมไฟหรี่กลางวันแบบสองชั้น กันชนหน้ามีรายละเอียดของชิ้นงานตกแต่งทรงสี่เหลี่ยมสีเทาตัดกับกันชนสีดำสลับสีส้ม Yamabuki Orange Metallic






ด้านข้างดูบึกบึนมากกว่ารุ่นที่แล้ว มาพร้อมกรอบบังโคลนพลาสติกสีดำเงา ที่เหยียบบริเวณกาบด้านข้าง มือจับที่เปิดประตูสีดำเงา กระจกมองข้างและแรคหลังคาสีดำ จุดเด่นด้านข้างของ New Triton Athlete 2024 ก็คือ สปอร์ตบาร์พร้อมตัวอักษร Mitsubishi เป็นชุดตกแต่งที่ทำให้ด้านข้างของ New Triton Athlete ดูลงตัวและมีความสวยงาม ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว ยาง Bridgestone Dueler H/T ไซส์ 265/60R18 110H มิติตัวถัง ยาว 5,360 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร สูง 1,815 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,130 มิลลิเมตร มิติกระบะภายใน ยาว 1,555 มิลลิเมตร กว้าง 1,545 มิลลิเมตร สูง 525 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า 1,570 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหลัง 1,565 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 222 มิลลิเมตร




บั้นท้ายไม่หวือหวา ยังคงใช้หลอดไฟท้ายแบบผสมทั้ง LED และหลอดไส้ อยู่ในไฟท้ายทรงตั้ง มือจับที่เปิดฝาท้ายอยู่ตรงกลาง พร้อมกับตำแหน่งของกล้องมองหลังและสัญลักษณ์รูปเพชร ไฟเบรกดวงที่สามหลอด LED อยู่เหนือมือจับที่เปิดฝาท้าย New Triton Athlete 2024 ไม่มีระบบผ่อนแรงเปิด-ปิดฝาท้าย ต้องออกแรงและใช้ความระวังกันสักนิดเวลาเปิด! กันชนหลังออกแบบให้กลายเป็นที่เหยียบสำหรับก้าวขึ้นไปบนกระบะหลัง New Triton Athlete 2024 ให้พลาสติกกันกระแทกของกระบะท้ายโดยไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่ม พื้นที่กระบะท้ายมีมากพอเพียงต่อการขนสัมภาระแต่ไม่ได้มากเท่ากับรุ่นหัวเดี่ยวที่เน้นบรรทุกมากกว่าเอามาใช้งานแบบรถบ้าน
สีตัวถัง 4 สี คือ สีดำ Jet Black Mica สีเทา Graphite Grey สีขาว White Diamond และสีส้ม Yamabuki Orange Metallic สีเฉพาะของ Mitsubishi New Triton Athlete ห้องโดยสารตกแต่งทูโทนสีส้ม-ดำ











ภายในใหม่มาพร้อมเบาะและงานตกแต่งบางจุดที่ใช้โทนสีส้มสลับสีดำ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนเบาะคนนั่งหน้ายังปรับมือเหมือนเดิม เบาะหุ้มหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำ-ส้ม (Black-Orange Suede Knit and Synthetic Leather) เบาะแบบสปอร์ตมีปีกเบาะที่โอบสรีระด้านข้างของคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า วัสดุหุ้มเน้นความนุ่มนวล ช่วงรองต้นขาสูงไปนิด แต่โดยภาพรวมก็เป็นเบาะคู่หน้าที่นั่งสบายเหมาะกับการเดินทางไกล เบาะหลังมีพื้นที่พอเพียง เบาะหลังปรับเอนไม่ได้แต่พื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะนั้นมีเหลือเฟือ เบาะนั่งเดินด้ายสีส้มลายรังผึ้ง รวมถึงแผงประตูไวนิลเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม ฝ้าหุ้มหลังคาสีดำ










GEOMETRIC DESIGN แดชบอร์ดคอนโซลมีรูปทรงที่คล้ายกับรถเก๋งมากกว่าจะเป็นรถกระบะ แดชบอร์ดทรงเหลี่ยม จอภาพมอนิเตอร์กลาง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ (Multi Information Display) หน้าจอ LCD 7 นิ้ว พวงมาลัย ทรงสามก้าน ปรับระดับสูง-ต่ำ ไกล-ใกล้ (Tilt and Telescopic Adjustable) ก้านวงมีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ (Audio & Hand Free Switch)







ระบบปรับอากาศแบบสองโซล 4 ตำแหน่งที่คอนโซลกลาง และช่องปรับอากาศซ้าย-ขวา อัตโนมัติพร้อมแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา (Auto Dual Zone Air Conditioner) พร้อมระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (Rear Air Circulator) เครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ FM / AM / MP3 (Touchscreen Display Audio with FM / AM / MP3) บลูทูธ (Bluetooth) ระบบนำทางในรถยนต์ (Embeded Navigation) รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง (DC 12V Accessory Power) ช่องชาร์จไฟ USB (USB Charger) ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)

เครื่องยนต์ของ Mitsubishi New Triton มีการพัฒนาเครื่องยนต์คลีนดีเซล Hyper Power แบบ 4 สูบ Commonrail VG Turbo Intercooler ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-,2750 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) พร้อมระบบ Auto Stop & Go และชุดขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II มี 4H ฟูลไทม์ เสริมด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) และ 7 โหมดการขับขี่

สำหรับโหมดใช้งานระบบขับเคลื่อนสองหรือสี่ล้อ มีให้เลือก 4 โหมด พร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยโหมดการขับขี่ทั้ง 4 โหมด ประกอบด้วย
- 2H ขับเคลื่อนล้อหลัง
- 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
- 4HLc ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง
- 4LLc ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ
โหมดการขับขี่ใหม่ 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด ประกอบด้วย Normal, Eco, Gravel หรือทางลูกรัง, Snow ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก, Mud ลุยโคลน, Sand ลุยพื้นทราย และ Rock พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ
New Triton Athlete ขับเคลื่อน 4 ล้อ (DOUBLE CAB ATHLETE 4WD 2.4 AT) ชุดขับสี่ Super Select 4WD II เอกลักษณ์ของ Mitsubishi ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลไทม์ (Full-Time All Wheel Control) สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (4H) ได้ทันที ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง (Shift-on-the-Fly)
7 โหมดการขับขี่ ได้แก่
โหมดปกติ (Normal)
โหมดประหยัดเชื้อเพลิงและรักษ์โลก (Eco)
โหมดขับขี่บนทางลูกรังหรือทางฝุ่น (Gravel)
โหมดขับขี่บนพื้นหิมะหรือขณะฝนตกผิวถนนเปียกลื่น (Snow)
โหมดขับขี่ลุยโคลนหรือผิวทางที่เหนียวลื่น (Mud)
โหมดขับขี่ตะลุยทรายหรือผิวทางที่ดินร่วน (Sand)
โหมดไต่หินหรือขับขี่บนผิวทางที่เป็นหินขรุขระ (Rock)
ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC)




ความสามารถในการขับเคลื่อนเมื่อได้ลองขับครั้งแรกในจังหวัดเชียงรายมุ่งหน้าไปยังเชียงใหม่ New Triton Athlete 2024 ราคา 1,298,000 บาท ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจาก Triton รุ่นก่อนเปลี่ยนโฉม ทั้งกำลังของเครื่องยนต์และการซับแรงสั่นสะเทือนของช่วงล่าง New Triton Athlete นำเสนอการปรับเซตช่วงล่างที่มีความนิ่มนวลขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว เมื่อลองขับบนทางเรียบก็พบว่ามันนิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีอาการโคลงตัวอยู่บ้างบนทางออฟโรด ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไม่หายของรถกระบะแบบแชสซีออนเฟรมกับช่วงล่างหลังที่เน้นนั่งสบาย มีการรับน้ำหนักบรรทุกพร้อมกับการยึดเกาะเมื่อใช้ความเร็วที่อยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ ช่วงล่างในย่านความเร็วสูงให้ความมั่นใจได้พอสมควร แต่ยังไม่ถึงขนาดที่เข้าไปเบียดกับ Ford Ranger



พวงมาลัยของ New Triton Athlete เป็นแบบไฟฟ้า หรือ Electric Power Steering : EPS แตกต่างไปจากรถคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux REVO Rocco / Isuzu D-MAX V-Cross / Nissan Navara Pro4X ซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายกับพวงมาลัยไฟฟ้าของ Ford Ranger stormtrak มอบการควบคุมที่ใช้ได้ เป็นพวงมาลัยไฟฟ้าในรถกระบะที่มีอยู่แค่สองแบรนด์เท่านั้นในปัจจุบัน (Ford / Mitsubishi) การเลี้ยวบนเส้นทางคดเคี้ยวบนทางตัดใหม่มุ่งสู่เชียงใหม่ ทำได้สมราคาค่าตัว ไม่ได้แม่นเป็นจับวางแต่ก็สามารถควบคุมทิศทางได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นอะไร น้ำหนักของพวงมาลัยไฟฟ้าใน New Triton Athlete ที่ย่านความเร็วสูงไม่เบาจนน่ากลัว ระบบหน่วงน้ำหนักในขณะที่ขับเร็วให้ความรู้สึกที่เป็นกลาง เป็นสัมผัสของพวงมาลัยไฟฟ้าในรถกระบะญี่ปุ่นที่มีความเที่ยงตรงพอสมควร



เครื่องยนต์ดีเซล 4N16 SHP เสื้อสูบและฝาสูบอะลูมิเนียม แบบ 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบวาล์ว MIVEC อัดอากาศด้วยเทอร์โบแบบ 2 stage turbocharger เป็นการปรับเปลี่ยนจาก VG Turbo Diesel ความจุ 2,442 ซีซี กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงบิด 470 นิวตันเมตร พร้อมระบบ Auto Stop and Go (AS&G - Auto Stop and Go) ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดนิ่งเพื่อประสิทธิภาพของการประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดรุ่นใหม่ แรงบิด 470 นิวตันเมตร เหลือเฟือต่อการใช้งานไม่ว่าจะวิ่งตัวเปล่าหรือบรรทุกสัมภาระมาเต็มคัน แรงบิดรอบต่ำเรียกใช้งานได้เร็ว การขับขึ้นเนินสูงชันกับแรงบิดที่ปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์ที่เหมือนวิ่งตัวเปล่าไม่ได้มีการแบกน้ำหนักถือว่าแรงใช้ได้ ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของ Mitsubishi Triton Athlete Double Cab 4WD AT ทำได้ที่ 13 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



เครื่องรหัส 4N16 DOHC 16 วาล์ว MIVEC แบบอะลูมินั่มบล็อกน้ำหนักเบา จากการพัฒนาด้านชิ้นส่วน ช่วยให้น้ำหนักของตัวเครื่องยนต์ลดลง มีความแข็งแรงทนทานจากสภาวะการใช้งานในลักษณะต่างๆ ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ เลือกใช้กระบอกสูบแบบเหล็กกล้าหรือ Steel Cylinder Liner ระบบอัดอากาศแบบ 2 stage turbocharger บูสอัดไอดีเข้าไปยังห้องเผาไหม้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านของแรงบิดรอบต่ำได้ดี ทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดเพียงพอต่อการขับเคลื่อนตัวรถตั้งแต่รอบต่ำตอนออกตัวไปจนถึงรอบสูงสุดในการเร่งความเร็ว ระบบวาล์วแปรผันสองฝั่ง MIVEC หรือ Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System เป็นระบบควบคุมการปิดเปิดของวาล์วไอดีแบบแปรผันทำงานสอดคล้องกับความเร็วรอบเครื่องยนต์ การออกแบบในลักษณะดังกล่าวของระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ช่วยทำให้เครื่อง 4N16 SHP มีแรงบิดที่ดีในรอบต่ำและเพิ่มแรงบิดในรอบสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์มอบอัตราเร่งที่ดี โดยภาพรวม ขุมกำลัง 4N16 SHP มีการทำเอาข้อดีของเครื่องยนต์คลีนดีเซล 4N15 มาพัฒนาต่อยอดเพื่อปรับเพิ่มศักยภาพของเครื่องยนต์ใน New Triton ให้สอดรับกับการใช้งานหนักมากยิ่งขึ้น



ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีด แป้นเปลี่ยนเกียร์ในรถรุ่นใหม่ถูกยกเลิกออกไป ใช้การผลักคันเกียร์มาทางขวาเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งของการชิฟเกียร์เอง (+/-) เกียร์ออโต้ 6 สปีด ทำงานบนเส้นทางภูเขาได้อย่างราบรื่น การเปลี่ยนเกียร์ในโหมดออโต้ไหลลื่นใช้ได้ ไม่มีอาการกระตุกกระชากเมื่อคันเร่งลงลึกแบบฉับพลันทันที เกียร์อัตโนมัติที่มีอัตราทดแค่ 6 สปีด อาจเป็นรองเกียร์ลูกใหม่ของ Ford Ranger ที่มีอัตราทดมากถึง 10 สปีด แต่ไม่ได้เสียเปรียบจนเห็นถึงความแตกต่างอะไรกันมากมายนัก การตัดต่อเกียร์ขึ้นลงตลอดการขับเดินทางบนไฮเวย์และเส้นทางภูเขาในจังหวัดเชียงรายมุ่งหน้าเชียงใหม่มีความต่อเนื่องราบเรียบใช้ได้ หากใส่กันหนักๆ เกียร์ออโต้ 6 สปีดยังมีอารมณ์สปอร์ตมาให้ได้สัมผัสจากแรงบิดที่ปลดปล่อยออกมาในแต่ละเกียร์ ผมผลักคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง Trip Tronic เพื่อดูการตอบสนองเมื่อต้องชิฟต์เกียร์เอง ที่ตำแหน่งเกียร์ 4 สัมผัสได้ถึงแรงดึงแบบเต็มเหนี่ยว การคิกดาวน์เพื่อเร่งความเร็วก็มีประสิทธิภาพดีพอสำหรับการใช้งานเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า เอนจิ้นเบรกเมื่อลองเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำถึง 2 ตำแหน่งจากเกียร์ 5 ไปยังเกียร์ 3 ขณะขับเข้าโค้งมุมแคบ หากรอบเครื่องยนต์สูงเกินไปไม่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ก็จะไม่ยอมเปลี่ยนให้จนกว่ารอบเครื่องยนต์จะพอดิบพอดีกับอัตราทดนั้นๆ





Mitsubishi Triton Athlete Double Cab 4WD AT มีหน้าตาที่ดูดีพอใช้ได้ ไม่ถึงกับหล่อเหลาจนทำให้หลงใหล เครื่องยนต์ 4N16 SHP ทรงพลัง มีระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีดที่พอใช้ได้ ช่วงล่างให้ความสบาย พวงมาลัยไฟฟ้าแม่นยำกว่าเดิม เครื่องคลีนดีเซล 2.4 ลิตร ทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 11.7 กิโลเมตรต่อลิตรบนเส้นทางภูเขา ขับช้ากว่านี้ก็จะประหยัดมากกว่าเดิม แรงบิดรอบต่ำที่ให้มา 470 นิวตันเมตร ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนการทรงตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของกระบะยุคใหม่ทั่วไป อุปกรณ์ในรุ่นสูงสุด Athlete Double Cab 4WD AT ให้มาครบ เครื่องเสียงมีคุณภาพปานกลาง ระบบสัมผัสที่หน้าจอสั่งงานได้อย่างรวดเร็ว หน้าจอภาพมาตรวัดคล้ายกับ Nissan บางรุ่น !! ระบบนำทางด้วยดาวเทียมปรับปรุงใหม่มีความละเอียดมากกว่าเดิม ความคิดเห็นส่วนตัว เกี่ยวกับ Triton Athlete Double Cab 4WD AT อยู่ที่การบังคับควบคุมและความสบายของช่วงล่างที่เหมาะสมกับทางข้ามจังหวัดไกลๆ ทุกอย่างที่มีก็ไม่น้อยหน้าปิกอัพขับ 4 ของคู่แข่งละครับ.
Mitsubishi Triton Double Cab 4WD 2.4GT Premium AT ราคา 1,099,000
เทคโนโลยีความปลอดภัย ไดมอนด์ เซนส์
ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Diamond Sense with Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM)
ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW)
สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)
ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB)
กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM)
ตรวจจับการเคลื่อนที่ของตัวรถและสภาพแวดล้อมด้วยเซนเซอร์และเรดาร์ ควบคุมด้วยระบบ AI
ระบบความปลอดภัยอื่นๆ
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL)
ระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้ายแบบควบคุมด้วยเบรก (Active LSD)
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
มีช่องวางแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ กล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติก 600 มล. ได้มากถึง 4 ขวด มีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงแท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) อยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม
เทคโนโลยีเทเลมาติกส์ (Telematics) เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเจ้าของและรถยนต์ ติดตั้งใน New Triton Athlete ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมถึง New Triton Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ Ultra เกียร์อัตโนมัติ รองรับได้ทั้งระบบ iOS และ Android เชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน “My MITSUBISHI CONNECT” สั่งการตัวรถแบบไร้สายจากระยะไกล ทั้งการเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร ล็อกและปลดล็อกประตูรถ ค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของตัวรถ เปิดไฟส่องสว่าง กดแตรรถ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานะตัวรถ เช่น ระดับน้ำมันคงเหลือและระยะทางที่วิ่งต่อได้ ความดันลมยาง
บริการช่วยเหลือบนถนน (Roadside Assistance) การแจ้งอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การช่วยเหลือเมื่อรถถูกโจรกรรม (Stolen Vehicle Assistance) และอุ่นใจตลอดเส้นทางด้วยระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ (e-call)
MITSUBISHI NEW TRITON ATHLETE ราคา 1,298,000 บาท
รุ่นเครื่องยนต์ 4N16 (SPH) (2442cc)
ดีเซล คอมมอนเรล พร้อมเทอร์โบแปรผัน MIVEC
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระแบบปีกนกสองชั้น คอยล์สปริงและโช้คอัพ (Double Wish Bone with Coil Spring and Shock Absorber)
กันโคลงหน้า
ระบบกันสะเทือนหลัง แบบแหนบแผ่นซ้อน
ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะโค้ง Active Yaw Control (AYC)
ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว (Alloy 18 x 7 5J)
ขนาดยางหน้าและหลัง 265/60R18
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super Select 4WD II พร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ
ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC - Adaptive Cruise Control)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS - Anti-Lock Braking System)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA - Hill Start Assist)
ระบบเสริมแรงเบรก (BA - Brake Assist)
ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก (EBD - Electronic Brake-Force Distribution)
ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (Brake Override System)
ระบบเตือนการชนหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว และระบบตรวจจับคนเดินถนน (FCM - Forward Collision Mitigation)
ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW - Blind Spot Warning)
ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA - Lane Change Assist)
เซนเซอร์กะระยะจอด (Parking Sensors)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC - Active Stability Control)
ระบบความคุมการลื่นไถล (TCL - Traction Control System)
ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS - TirePressure Monitoring System)
ไฟหน้าแบบ LED
ระบบเปิด/ปิดไฟอัตโนมัติ (Automatic Headlight)
ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Light)
ไฟเลี้ยว LED ที่กระจกมองข้าง (LED Side Turning Light on Door Mirror)
ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ตกแต่งด้วยสีดำเงา (LED Front Fog Light)
ไฟท้าย LED (LED Rear Combination Light)
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor with Auto-Wiper)
กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมสัญลักษณ์ "MITSUBISHI" (Material Black with "MITSUBISHI" Mark)
ราวหลังคา (Roof Rail)
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ LCD 7 นิ้ว (7" Color LCD Multi Information Display)
ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า เบาะด้านผู้ขับขี่ (Power Adjustment Lumbar Support - Driver Seat)
วัสดุหุ้มเบาะ : หนังกลับ และหนังสังเคราะห์สีดำ-ส้ม (Black-Orange Suede Knit and Synthetic Leather)
เบาะนั่งแบบปรับระดับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทางด้านผู้ขับขี่
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
ระบบเครื่องเสียง แบบหน้าจอสัมผัส รองรับ FM/AM/MP3 ขนาด 9 นิ้ว (9" Touchscreen Display Audio with FM/ AM/ MP3)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบแยกปรับอุณภูมิซ้าย-ขวา (Auto Dual Zone Air Conditioner)
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง พร้อมระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ (Rear Defogger with Timer)
ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (Rear Air Circulator)
ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะโค้ง Active Yaw Control (AYC)
บลูทูธ (Bluetooth)
รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อแบบไร้สาย
รองรับ Android Auto
ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง (DC 12V Accessory Power - 2 Positions)
ระบบนำทางในรถยนต์ (Embeded Navigation)
ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลม
กล้องมองภาพหลังขณะถอยจอด (Rearview Camera)
กล้องมองภาพรอบคัน (MAM - Multi Around View Monitor)
ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA - Rear Cross Traffic Alert)
ระบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป แบบควบคุมด้วยระบบเบรก (Active Limited Slip (Brake Control Type))
ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนวัตถุ หรือบุคคลที่เคลื่อนไหว จากกล้องรอบคัน (MOD - Moving Object Detection)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC - Hill Descent Control)
ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB - Automatic High Beam)
สวิตช์ควบคุมครูซคอนโทรล แบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control Switch)
เทคโนโลยีเชื่อมต่ออัจฉริยะ MITSUBISHI CONNECT
ระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ e-Call (SOS Emergency Asistance (e-Call))
ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อเกิดการชน (Automatic Crash Notification)
ระบบขอความช่วยเหลือบนถนน (Roadside Assistance)
ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศจากระยะไกล (Remote Air-Condition)
ระบบล็อก และปลดล็อกประตูรถได้จากระยะไกล (Remote Door Lock / Unlock)
ระบบรายงาน และตรวจสอบสถานะของรถยนต์ ค้นหาตำแหน่งรถยนต์ และกำหนดขอบเขตการใช้งานของรถ (Vehicle Status, Car Finder and Geofence Alerts)
อุปกรณ์ตกแต่งกันชนหน้า สีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ (Black Painted with Smoke Titanium Accent Front Bumper Garnishi)
อุปกรณ์ตกแต่งซุ้มล้อ สีดำเงา (Black Painted Over Fender Garnish)
ระบบบังคับเลี้ยว : แรคแอนด์พิเนียนพร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (Steering System - Rack and Pinion with Electric Power Steering)
เซ็นทรัลล็อก (Central Lock)
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว (Speed Sensing Automatic Door Lock)
กุญแจรีโมทอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์
มือจับภายในรถ 8 ตำแหน่ง (Assist Grip - 8 Positions)
แผงบังแดดด้านผู้ขับขี่: กระจกพร้อมฝาปิดและที่เสียบบัตร (Driver Sunvisor: Mirror with Lid and Ticker Holder)
แผงบังแดดด้านผู้โดยสาร กระจกพร้อมฝาปิด (Passenger Sunvisor: Mirror with Lid)
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง (DC 12V Accessory Power - 2 Positions)
ช่องชาร์จไฟด้านหน้า USB Type-C Fast Charge 1 ตำแหน่ง และ Type-A 1 ตำแหน่ง
ช่องชาร์จไฟด้านหลัง USB Type-C Fast Charge 1 ตำแหน่ง และ Type-A 1 ตำแหน่ง
ระบบนำทางในรถยนต์ (Embeded Navigation)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบแยกปรับอุณภูมิซ้าย-ขวา (Auto Dual Zone Air Conditioner)
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง พร้อมระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ (Rear Defogger with Timer)
ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (Rear Air Circulator)
ระบบเครื่องเสียง แบบหน้าจอสัมผัส รองรับ FM/AM/MP3 ขนาด 9 นิ้ว (9" Touchscreen Display Audio with FM/ AM/ MP3)
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
บลูทูธ (Bluetooth)
รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อแบบไร้สาย
รองรับ Android Auto
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/