ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น เพื่อลดความสับสน BMW ได้กำหนดหมายเลขของกลุ่มยานยนต์ใน Series เลขคี่ ซึ่งหมายถึงรถซีดาน (เช่น Series-3, 5 และ 7) และ Series เลขคู่ ก็จะเป็นรถสปอร์ตตัวถังคูเป้ทั้งหมด (Series-2, 4, 6 และ 8) แต่ BMW ก็ทำลายประเพณีนั้นอย่างสิ้นเชิง ด้วยคำต่อท้ายว่า "Gran Coupe" และ Gran turismo 630d GT รถทรงแม่บ้านขับดีอย่าง Series-6 G32 ซึ่งยกเลิกสายการผลิตไปแล้ว และรถ E82 ปี 2011 BMW 1 Series M Coupe นั่นคือการทดลองอย่างเข้มข้นในร่างทรงบรรพบุรุษของ M2 ซึ่งทุกอย่างก็ไปได้ด้วยดี 1 Series M Coupe สร้างความฮือฮาให้กับสื่อฝรั่งตาน้ำข้าวจากระบบกันสะเทือนและแชสซีของ M3 e92 ที่ถูกยกมาใช้งานใน Series-1 M Coupe ซึ่งเล็กกว่ามาก หลังจากนั้น ซุปเปอร์สตาร์บนท้องถนนก็ได้ถือกำเนิดขึ้น หลังจากที่ Series-1 คูเป้ กลายร่างเป็น Series-2 ทาง BMW ก็นำรูปแบบต่างๆ ในธีมนั้นไปใช้กับ M2 F87 (2015-2021) ด้วย M2 เจเนอเรชันแรกในเวอร์ชัน "พื้นฐาน" จากนั้น M2 รุ่น Competition Coupe ก็ออกมาวาดลวดลาย ตามด้วย M2 CS ในปี 2020 ที่ถูกยกยอปอปั้นว่าอาจเป็นรถ M ที่ดีที่สุดในสายการผลิต หลังจากนั้นไม่นาน แฟนคลับ M ต่างเฝ้ารอการมาถึงของ BMW M240i xDrive ปี 2022 ที่ยอดเยี่ยม เพื่อสัมผัสถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ M2 รุ่นใหม่ล่าสุดรหัส G87 

...

...

...

BMW M2 เจเนอเรชันที่แล้ว (F87) เป็นรถที่ขายดีที่สุดในกลุ่ม M Car โดย BMW สามารถขาย M2 รุ่นแรกได้มากกว่า 60,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียงแค่เจ็ดปี F87 กลายเป็นข้อพิสูจน์ถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าของสาธารณชนนักขับเท้าหนักผู้ชื่นชอบรถสปอร์ตขนาดเล็กที่มีตีนต้นจัดจ้านและตีนปลายไหลยาว นั่นทำให้รถรุ่นใหม่ใช้ชื่อเรียกภายในหรือรหัสตัวถังว่า G87 ถือกำเนิดตามออกมาติดๆ สำหรับแฟนคลับที่จดจ่ออยู่กับรหัสแชสซีของ BMW ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญสำหรับแผนกยกระดับประสิทธิภาพ BMW M เมื่อ M3 ขยับเข้าสู่ระดับสมรรถนะแบบ GT และ M5 ใหม่ก็ยังไม่คลอดออกมาซะที ทุกอย่างดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของ M2 M3 M4 ปี 2023 ซึ่งเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในฐานะรถ Everyman แนวคิด M แสดงออกถึงความเป็นรถคูเป้ที่มีประสิทธิภาพรอบด้าน ทั้งการอัดเต็มกำลังในสนามแข่ง และดีพอในเรื่องของการขับใช้งานในแต่ละวันด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือ เนื่องจากเป็นรถ M ที่เล็กที่สุดของ BMW จึงจำเป็นต้องจุดประกายความสุขหลังพวงมาลัยให้เหมือนกับรถรุ่นพี่เจนแรกที่ทำไดนามิกออกมาดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ M3 และ M4 มีอยู่แล้วแต่แพงกว่าเยอะ

...

หลังจากเจ็ดปีอันยาวนานนับตั้งแต่เปิดตัวรถสปอร์ตคูเป้ไซส์เล็กที่เลื่องลือรหัส F87 BMW ก็ทำการเปิดตัว M2 เจเนอเรชันที่สอง ตามที่คาดไว้ตั้งแต่แรก ปิศาจเด็กเล็กลำใหม่ รหัส G87 ราคา 6,999,000 บาท มีพื้นฐานมาจาก 2-Series Coupe (รุ่น M240i) มีหน้าตาที่แปลกแยกจากรถรุ่นแรก ความงดงามดุดันของรูปลักษณ์ภายนอกต้องมองกันนานๆ ถึงจะเห็นความตั้งใจของนักออกแบบในแผนก M ด้วยความพยายามที่จะสร้างแรงดึงดูดทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ให้เหลียวกลับมามอง BMW M2 ใหม่ คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่รุ่นที่ใหม่กว่ากับหน้าตาที่คล้ายปลาทอง ทำให้มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ สำหรับ M2 คันใหม่ ประจำการด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ แถวเรียง อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ รหัส S58 มีกำลังเพิ่มพูนถึง 460 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง การตกแต่งภายในที่หรูหราด้วยกลิ่นอายของรถ M Car และคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับที่นับวันจะรุงรังมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเทียบกับ M2 รุ่นก่อนหน้า คูเป้ไซส์เล็กโมเดลใหม่นี้ดูบึกบึนและกว้างมากขึ้น โอเวอร์แฮงก์ที่สั้นและซุ้มล้อโคตรกว้าง ระยะฐานล้อยังคงยาวกว่า M2 F87 รุ่นก่อน และมีขนาดที่ใหญ่กว่าในทุกมิติ แต่ G87 ก็ยังเป็นรถขนาดกะทัดรัดตามมาตรฐานสมัยใหม่ (และยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้โดยสารด้านหลังตัวสูงที่จะปีนเข้าและออก) แนวคิดคูเป้ไซส์เล็กในกลุ่ม M Car ไม่จำเป็นต้องดูดีกว่ารุ่นดั้งเดิมและอาจจะไม่ใช่สำหรับทุกรสนิยมนั้นดูเย่อหยิ่งเกินไป แต่ถึงกระนั้น BMW M2 ใหม่ ก็มีเสน่ห์อย่างมาก มันทั้งทันสมัยและมีความแปลกประหลาดผสมผสานอยู่ในรูปลักษณ์ใหม่ที่ต้องมองให้นานขึ้นถึงจะโดนใจ แอโรไดนามิกแบบเรียบๆ ไม่เน้นความเว่อร์วัง แสดงให้เห็นจากรูปแบบของกระจังหน้าและไฟหน้าที่จมเข้าไปในตัวถัง ไฟหน้า LED พร้อมระบบส่องสว่างอัตโนมัตินั้นออกแบบโดยไม่ได้ทำให้ส่วนหน้าของรถดูโฉบเฉี่ยวมากเกินไป เมื่อจ้องมองดูอย่างละเอียดทั่วทั้งคัน มันเป็นรถสองประตูทรงล่ำบึกที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับรถสวยๆ ในอดีตที่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ BMW M กระจังหน้ารูปไตทรงสี่เหลี่ยม ช่องนำอากาศเข้ามาระบายความร้อนของ M2 ใหม่ มีลักษณะเป็นกล่องพร้อมกับช่องรับอากาศด้านล่างแบบยกกำลังสอง และช่องระบายอากาศด้านข้าง ทั้งหมดแต่งด้วยพลาสติกสีดำที่ดูแล้วทั้งหนาและหนัก โดยรวมแล้วมันไม่ได้ดูแย่ แต่ก็น่าจะทำให้ลื่นไหลได้มากกว่านี้

โดยรวมแล้ว M2 มีรูปลักษณ์แบบรถสปอร์ตที่เหมาะสม ล้อ M ขนาด 19 นิ้วที่ด้านหน้า และ 20 นิ้วที่ด้านหลัง และเช่นเดียวกับไฟหน้าและกระจังหน้ารวมถึงส่วนท้ายของ M2 ใหม่นั้นถูกทำให้ดูแปลกตามากยิ่งขึ้นด้วยกันชนหลังที่เน้นเหลี่ยมมุมโปนออกมาอย่างชัดเจน ดิฟฟิวเซอร์หลังกินพื้นที่เกือบทั้งกันชน ขณะที่ตัวสะท้อนแสงด้านหลัง (มัลติรีเฟคเตอร์) ได้รับการขยายให้ใหญ่เกินจริง เพื่อเพิ่มความดุดันให้กับบั้นท้าย ส่วนโค้งด้านหน้าและด้านหลังกว้างขึ้น 60 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ M240i แทร็กด้านหลังเหมือนกับ M4 G82 ที่ความกว้าง 1,605 มิลลิเมตร สั้นกว่า M4 101 มิลลิเมตร ปลายท่อไอเสียทรงกลมแบบแฝดฝั่งละสองท่อคู่ที่ออกแบบใหม่ สปอยเลอร์หางเป็ดเล็กๆ ที่ส่วนท้ายบริเวณขอบฝาท้าย ไฟท้าย LED แบบเรียบๆ ดูแล้วเทียบไม่ได้กับไฟท้ายสวยๆ ของ BMW Series-8 / Z4 / X6M หรือแม้แต่ Series-4 LCI 2024

มิติตัวถังของ M2 G87 มีขนาดความยาว 4,579 มิลลิเมตร กว้าง 1,887 มิลลิเมตร และ สูง 1,402 มิลลิเมตร สูงจากพื้น 121 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,745 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ M2 Competition รุ่นก่อนหน้า M2 ใหม่นั้นยาวขึ้น 104 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 33 มิลลิเมตร และเตี้ยลง 7 มิลลิเมตร นอกจากนี้ G87 M2 ยังมีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 53 มิลลิเมตร และหนักกว่ารุ่นที่แล้ว 90 กิโลกรัม (1,730 กิโลกรัม) นับเป็นครั้งแรกที่ M2 G87 ใส่ล้อขนาด 19 นิ้วที่ด้านหน้า และล้อขอบ 20 นิ้วที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อน การคิดคำนวณถึงล้อและยางที่มีความเหมาะสมนั้นเหมือนกับ M3 G80/ และ M4 G82 ยางหน้าไซส์ 275/35 ZR19 ยางหลัง 285/30 ZR20 หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่เป็นอุปกรณ์เสริม ปกติแล้วจะมีอยู่ในรถ M ที่ฮาร์ดคอร์มากกว่านี้ แต่ตอนนี้หลังคาวัสดุผสมน้ำหนักเบา กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมจากโรงงานสำหรับ M2 ใหม่ ไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับการลดน้ำหนักเมื่อเลือกหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ แต่น้ำหนักจะลดลง 2 กิโลกรัมเมื่อเลือกออปชันนี้ BMW Thailand จัดมาให้แบบไม่ต้องควักเพิ่มเพราะแอบบวกค่าหลังคาน้ำหนักเบาไปเรียบร้อยแล้ว

ห้องโดยสารของ M2 ใหม่ ตรึงใจด้วยเบาะนั่ง M Sport ปรับตำแหน่งด้วยไฟฟ้า เบาะ M สบายใช้ได้เลย ปีกเบาะด้านข้างทำให้ท่านั่งกระชับรัดกุมคล้ายเบาะรถแข่งแต่สบายตัวกว่าเพราะไม่สร้างความอึดอัด เบาะหลังมีพื้นที่วางขาไม่มากนัก เหมาะกับเด็กมากกว่าจะให้คนตัวสูงเข้าไปนั่ง แผงประตูตกแต่งด้วยลวดลายกราฟิกสไตล์ M พร้อมการเรืองแสงในตอนกลางคืน แดชบอร์ดคอนโซลทำจากโฟมสังเคราะห์ที่ยืดหยุ่นและเก็บเสียงกับช่วยซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี แดชบอร์ดหุ้มด้วยไวนิลคุณภาพสูง กึ่งกลางแดชบอร์ดตกแต่งด้วยชิ้นงานคาบอนไฟเบอร์เคลือบเงา ช่องแอร์ทรงเหลี่ยม ส่วนชุดควบคุมอุณหภูมิภายในถูกย้ายไปอยู่ในจอภาพ ทำให้การปรับตั้งขณะขับขี่ต้องใช้ความคุ้นชินกันพอสมควร 

จอแสดงผลแบบโค้ง ตั้งอยู่บนแดชบอร์ดอย่างจงใจ จอภาพมาตรวัด TFT LCD เชื่อมต่อกับหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัส ขนาดความยาว 14.9 นิ้ว และหน้าจอมาตรวัดในตำแหน่งคนขับ ขนาด 12.3 นิ้ว จอแสดงผลทั้งสองทำงานผ่านซอฟต์แวร์ใหม่ iDrive 8 สัมผัสของ M Car เพื่อแยกแยะ M2 ออกจากรถยนต์รุ่นอื่นที่ไม่ใช่ M มีการเพิ่มชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์บนคอนโซลกลาง แป้นเปลี่ยนเกียร์สีแดง และแดชบอร์ดคาร์บอน นอกจากนี้ BMW M ยังมีเบาะนั่งคาร์บอนเป็นออปชันเสริมราคาแพง (มาก) เช่นเดียวกับ M3 G80 และ M4 G82 การติดตั้งเบาะนั่งเพียงอย่างเดียวจะทำให้น้ำหนักลดลง 10 กิโลกรัม พวงมาลัย M หุ้มหนังแบบเดียวกับในรถ M รุ่นอื่นๆ (ออปชันเสริม เบาะ M คาร์บอน ราคาประมาณ 400,000 บาท)

iDrive 8 เวอร์ชันใหม่เอี่ยมอ่องเป็นสิ่งแรกที่คุณจะสังเกตเห็นเมื่อก้าวเข้าไปนั่งในรถ คอมโบจอแสดงผลที่วางอยู่เหนือแดชบอร์ด ทำให้รถล้ำยุคมากกว่าเดิม แม้ว่าเนื้อหาภายในจะห่างไกลจากความสปอร์ตของรถก็ตาม BMW ยังแนะนำการเปลี่ยนแปลงเฉพาะจุดของงานตกแต่งภายใน รวมถึงปุ่มโหมด M จำนวน 2 ปุ่มบนพวงมาลัย และ 2 ปุ่มบนคอนโซลกลาง ไฟเรืองแสงในตราสัญลักษณ์ M บนแผงประตูเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน M2 G87

BMW ควบรวมเทคโนโลยีใหม่ที่ยกมาจาก M3/M4 อุปกรณ์ที่โดดเด่นที่สุด คือ ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนที่ปรับได้มากถึง 10 ระดับ ความรู้สึกการตอบสนองของแป้นเบรกที่ปรับได้ 2 ระดับ ช่วยให้ผู้ขับควบคุมไดนามิกของรถได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบไดนามิกที่ตั้งค่ามาจากโรงงาน เพื่อให้ควบคุมการดริฟต์ได้อย่างเหมาะสม M Drift Analyser คือสิ่งที่ BMW M ไม่เคยเปลี่ยน

BMW M2 G87 กับระบบรองรับ Adaptive M suspension การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ M2 ใหม่ มีความสัมพันธ์ทางวิศวกรรมที่ใกล้ชิดกับรถ M รุ่นใหม่อื่นๆ มากกว่า M2 F87 คนในแผนก M กล่าวว่า Adaptive M suspension จะช่วยให้ M2 Gen2 สามารถนำเสนอประสิทธิภาพด้านการยึดเกาะและอารมณ์ดิบแบบดุดันที่ก้าวไปอีกขั้น (สวนคันเร่งจนสุดมีแอบเลื้อยให้เสียวเล่น) ขณะเดียวกันก็ช่วยรักษาชื่อเสียงในด้านความเป็นเลิศแบบไดนามิกผ่านการแบ่งปันส่วนประกอบหลักกับ M4 G82
เครื่องยนต์มีพลังมากกว่าเดิม และถึงแม้จะมีแรงบิดเพิ่มขึ้น แต่ก็คมกว่ารถรุ่นพี่ G87 เป็นรถของคนชอบขับ ด้วยขนาดที่กว้างขวางกว่าเดิม จึงมีการแบ่งแยกระหว่างความสะดวกสบายและอารมณ์สปอร์ตมากกว่า F87 แพลตฟอร์ม CLAR ที่ใช้ในซีรีส์ 2 ใหม่ทำให้ความแข็งแกร่งของตัวถังเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับโครงสร้างที่ใช้ใน M2 รุ่นเก่า G87 เพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยสตรัทเหล็กค้ำโดมระบบกันสะเทือนด้านหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และเหล็กค้ำแบบใหม่ที่รวมอยู่ในระบบกันสะเทือนหลัง
ส่วนเสริมของ M2 ใหม่คือด้านหน้าแบบ MacPherson strut ที่ปรับปรุงใหม่อย่างหนักและระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ ข้อดีอย่างหนึ่งของการตั้งค่าใหม่ที่วิศวกร BMW M อ้างถึงคือความสามารถในการรองรับแคมเบอร์หน้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมโช้คอัพแบบแปรผัน

BMW M2 G87 รถสานต่อตำนานคันใหม่ประจำปี 2023 ยังหยิบยืมหัวใจของพี่ใหญ่มาใช้เหมือนเดิม ประโยชน์มหาศาลจากเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo รหัส S58 จูนด้วยสเปกมอเตอร์สปอร์ตได้รับการยกย่องว่าเป็น "ผลงานชิ้นเอก" ของ M Car มีส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์ส่วนใหญ่จาก M4 GT3 ที่แข่งขันในรายการ 24 Hours of Le Mans ห้องเครื่องยนต์ถูกสตรัทบาร์ค้ำยันเอาไว้เพื่อเพิ่มเติมความแข็งแกร่งของจุดยึด ช่วยต้านทานแรงบิดตัว ส่งผลให้ควบคุมได้ดีขึ้นและคาดเดาอาการของรถได้มากขึ้น M2 Coupe G87 ใช้ระบบส่งกำลังแบบเดียวกับ M3 G80 และ M4 G82 เครื่องยนต์ S58 เบนซินแถวเรียง 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลัง 453 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร หรือ 406 ปอนด์ฟุต ส่งถ่ายแรงบิดทั้งหมดผ่านล้อขับเคลื่อนด้านหลังในรูปแบบของ M Car ที่แท้จริง เครื่องยนต์ S58 มีระบบส่งกำลังให้เลือกสองแบบ ถ้าชอบยัดเกียร์เองก็มีกระปุกเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราทดชิดมาให้เมื่อยเล่น แต่ถ้ารักความสบายและใช้งานในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เกียร์อัตโนมัติทอร์กคอนเวอร์เตอร์ 8 สปีด M Steptronic with Drivelogic ของแบรนด์ ZF ถือเป็นชุดส่งกำลังที่มีประสิทธิภาพสูง ทำอัตราเร่ง 0-100 เร็วกว่ารุ่นเกียร์ธรรมดา แถมยังประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าอีกต่างหาก 

เครื่องยนต์ S58 Twin Turbo Charged Straight-Six อยู่ในสถานะที่ถูกกดแรงม้าเอาไว้ไม่ให้มากจนควบคุมลำบาก กำลัง 453 แรงม้า แรงบิดมากถึง 55 กิโลกรัมเมตร ส่วนอื่นๆ ที่ยกมาจากพี่ใหญ่ M4 ได้แก่ ท่อไอเสีย ส่วนประกอบของช่วงล่าง และระบบเบรก เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร S58 แบบหกสูบเรียง เทอร์โบคู่ของ BMW M ลากกันยันไส้แขวนที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิด 550 นิวตันเมตร จาก 2,650 รอบต่อนาที ถึง 5,870 รอบต่อนาที ทำให้เป็นเครื่องยนต์ที่มีกำลังน้อยที่สุดในกลุ่มรถ M Car ไส้ในเปลี่ยนแปลงจาก M2 F87 อย่างสิ้นเชิง M2 และ M3/M4 มีน้ำหนักที่ลดลงเกือบเท่ากัน ถึงกระนั้น 453 แรงม้าก็เกินพอที่จะดึงรถคูเป้น้ำหนัก 1730 กิโลกรัม เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.2 วินาที โดยอัตราทดที่ว่องไวของเกียร์ ZF อัตโนมัติ 8 สปีด ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออปชัน M Driver’s Package สามารถเพิ่มความเร็วปลายให้ไหลไปได้ถึง 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

S58 ติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ Mono Scroll (โมโนสโครล) สองตัว เป็นชุดอัดอากาศที่ถูกอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม อินเตอร์คูลเลอร์ควบคุมอุณหภูมิของไอดี นอกจากนี้ยังมีระบบไอดีใหม่ที่ปรับการไหลของอากาศให้เหมาะสม ช่วยลดการสูญเสียแรงดัน เวสเกตที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งปรับปรุงเพื่อการตอบสนองที่ดีกว่าเดิม หัวฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูง เพิ่มขึ้นจาก 200 เป็น 350 บาร์ ใช้เทคโนโลยีการฉีดเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่มีความแม่นยำสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมส่วนผสม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่รอบสูงภายใต้สภาวะการใช้คันเร่งอย่างเต็มที่ ระบบวาว์ลแปรผัน Valvetronic และเทคโนโลยีเพลาลูกเบี้ยวแบบแปรผัน Double-Vanos ช่วยเพิ่มกำลังและลดการปล่อยมลพิษ

เครื่องยนต์ M ที่ทรงพลังต้องการการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม BMW ออกแบบหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มออยคูลเลอร์หรือตัวหล่อเย็นน้ำมันเครื่องแบบใหม่ และเพิ่มตัวทำความเย็นน้ำมันเกียร์แยกต่างหาก ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่ควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยแผนการที่จะทำให้ส่วนประกอบภายในทำงานอย่างสมบูรณ์แบบในระหว่างการเร่งความเร็ว ถังเชื้อเพลิงแบบใหม่ที่มีสองห้องและช่องดูดในตัว 

เพลาข้อเหวี่ยงฟอร์จน้ำหนักเบาของเครื่องยนต์ถือเป็นผลงานชิ้นเอกทางวิศวกรรม มวลน้ำหนักของเพลาข้อเหวี่ยงที่ลดลง ทำให้เครื่องยนต์สามารถหมุนรอบสูงได้อย่างอิสระมากขึ้น ตอบสนองต่อการกดคันเร่งของผู้ขับในทุกองศาและคาบเวลา ระบบขับเคลื่อนเพลาข้อเหวี่ยงมีความทนทานต่อแรงบิดมากเป็นพิเศษ ทำให้มีความแข็งแกร่งพอที่จะรองรับกำลังและแรงบิดที่สูงกว่า ซึ่งเกิดจากการนำไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย ฝาสูบของ S58 ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมของ BMW M เปล่งประกายอยู่ ฝาสูบสร้างขึ้นผ่านกระบวนการพิมพ์ 3 มิติ ช่วยให้สามารถสร้างรูปทรงเรขาคณิตที่ซับซ้อน ซึ่งวิธีการหล่อโลหะแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำได้ ช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพท่อน้ำหล่อเย็นเพื่อการจัดการอุณหภูมิที่เหนือกว่า

S58 ยังมีวงจรระบายความร้อนขั้นสูงพร้อมปั๊มน้ำหล่อเย็นไฟฟ้าและปั๊มน้ำแบบกลไก ระบบที่ซับซ้อนนี้รับประกันการระบายความร้อนที่เหมาะสมสำหรับเสื้อสูบและเทอร์โบชาร์จเจอร์ หลังดับเครื่องยนต์ ปั๊มน้ำไฟฟ้าเพิ่มเติมจะยังคงระบายความร้อนให้กับเทอร์โบชาร์จเจอร์ เป็นความใส่ใจในรายละเอียดและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์

เทคโนโลยีทั้งหมดคือภารกิจในการปรับแต่งขุมกำลัง BMW M เพื่อพิสูจน์ความสามารถและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ S58 ใน X3M และ X4M รวมถึง M3 / M4 และตามด้วย M2 G87 รุ่นใหม่ล่าสุด

M2 ให้ความรู้สึกเร็วกว่า Audi RS3 แต่ไม่ดุดันเท่ากับรถแฮตช์แบ็กสายโหดของแบรนด์สี่ห่วง มีช่องว่างที่ชัดเจนของแรงบิดที่ต่ำกว่า 4,000 รอบต่อนาที เมื่อเทียบกับพาวเวอร์แบนด์ของ M3 แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงขนาดเรียกว่าเป็นข้อบกพร่อง ในความเป็นจริง ระบบขับเคลื่อนของ M2 มีคุณลักษณะบางอย่างที่เป็นเอกเทศ เมื่อเทียบกับรุ่นพี่ที่ใหญ่กว่าอย่าง M3 ความคล่องตัวของ M2 ทำให้คนขับต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดึงกำลังออกมามากที่สุดเมื่ออัดในสนามแข่ง BMW ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของ M2 ใหม่นั้น เป็นการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะจากลูกค้า และต้นเหตุของการเติบโตของ M2 ก็คือ Series-2 เนื่องจากตอนนี้มี M240i ให้เลือกหากไม่อยากจ่ายแพงกว่า วิธีแก้ปัญหาอันชาญฉลาดของ BMW คือการสร้างโมเดลใหม่ขึ้นมาโดยไม่ใช้รากฐานของซีรีส์ 4 พื้นที่ขนาดใหญ่ใต้ฝากระโปรงสำหรับเครื่องยนต์หกสูบเรียง ระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ (ซึ่งไม่เคยมีใน M2 ตัวเก่าที่แข็งโป๊ก) และการตกแต่งภายในที่ดูทันสมัยมากกว่า 

คุณจะได้เครื่องยนต์แบบเดียวกันกับ M3 G80 และ M4 G82 กำลังถูกตอนให้น้อยกว่า M4 Comp ประมาณ 60 แรงม้า เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมที่ง่ายดาย เครื่อง S58 ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนที่เร้าใจเป็นพิเศษ แต่เต็มไปด้วยแรงบิดสำหรับการพุ่งทะยานอย่างไม่ลดละ แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 5,870 รอบต่อนาที ดังนั้นการแซงจึงเป็นเรื่องง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ แม้จะมีกำลังและแรงบิดมหาศาล แต่ก็มีการยึดเกาะที่มากกว่า M2 เจนแรก นิ่งกว่าและดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่ารถรุ่นแรก เมื่อปรับเป็นโหมด Road M2 G87 จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ดูสบายกว่าเดิม เงียบกว่า และเป็นมิตรกับการขับในเมืองมากกว่า M4 อย่างเห็นได้ชัด เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบเดียวกับ M4 เกือบจะดีพอๆ กับเกียร์คลัตช์คู่ M DCT ของ M4 CS (F82) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปลี่ยนเกียร์ลง คุณจะสังเกตเห็นว่ามันไม่คมชัดเท่ากับการเปลี่ยนเกียร์ของ Porsche PDK หรือ Mercedes MCT

บนไฮเวย์ M2 มีความสามารถอย่างมากในการเร่งแซงแล้วกลับเข้าช่องทางเดินรถที่ไม่ไปกีดขวางชาวบ้าน ฐานล้อที่ยาวขึ้น ระยะฐานล้อที่ขยายออก น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 75-100 กก. และการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่แม่นยำ เป็นรถคูเป้ที่มุดเข้าโค้งโดยปราศจากอาการอันเดอร์สเตียร์ การควบคุมบอดี้นั้นโคตรจะมืออาชีพอย่างยิ่ง และหากคุณระบุคู่มือนี้ไว้ ก็จะเป็นการหวนคิดถึงความหลังอย่างน่ายินดี ไม่ใช่ Civic Type R ที่วัยรุ่นไทยโหยหา หรือการเปลี่ยนเกียร์ที่ยอดเยี่ยมของ Porsche 718 แต่คุ้มค่ากับการใช้จ่าย 6.9 ล้านบาท เพื่อแลกกับรถ M คันเล็กที่ขับสนุกเหลือกำลังลาก รูปทรงของระบบกันสะเทือนก็มีส่วนช่วยเช่นกัน แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็ตาม สปริงหน้ามีความแข็งกว่าและสปริงหลังนุ่มกว่าเมื่อเทียบกับ M4 เพื่อปรับปรุงการเลี้ยวเข้าครั้งแรกและรักษาความเป็นกลางของ M2 เมื่อเข้าโค้ง นอกจากนี้ยังมีการเสริมกำลังที่เสา C และบริเวณท้ายรถเพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งของแชสซีโดยรวม การขับขี่นั้นตึงแต่ไม่เคยชน และตัวแชสซีเองก็มีความแข็งแกร่งพอๆ กับวัสดุโมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์ด้านนี้ โชคดีที่การปรับระบบกันสะเทือนเพิ่มเติมได้ช่วยลดการเด้งที่อาจเกิดขึ้นจากฐานล้อที่สั้นลง แม้จะตั้งค่าระบบกันสะเทือนแบบปรับตัวได้นุ่มนวลที่สุด แรงกระแทกก็ยังเข้าไปในห้องโดยสารได้ แต่จำไว้ว่านี่คือรถ M ตัวจริง ไม่ใช่รถหรูนั่งนุ่มนิ่มสบาย

BMW M2 เจนแรกเป็นรถที่รวดเร็วและสนุก แต่ขนาดที่ค่อนข้างเล็กทำให้ต้องระวังในการเปลี่ยนทิศทางที่ความเร็วสูง ส่วน M2 รุ่นใหม่ถูกทำให้ง่ายต่อการควบคุม ชุดยางหน้ากว้าง 285 ที่ด้านหลัง การเซตค่าสปริงและโช้คอัพ Adaptive M Suspension ที่ลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือเครื่องจักรที่มีความสมดุล สามารถพุ่งเข้าโค้งได้เร็วกว่าเดิม น่ากลัวน้อยลงและควบคุมได้ง่ายขึ้น นั่นหมายถึงความมั่นใจของผู้ขับและรอยยิ้มจากผู้คนสองข้างทางที่พบเห็นมัน เมื่อเลี้ยวเร็วๆ ก็จะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักและแรงต้านของพวงมาลัย แต่ก็ไม่เคยทำให้ความสนุกลด

M2 ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในฐานะตัวกระตุ้นเส้นทางประสาทที่เชื่อมโยงกับความสุขและการควบคุมมอเตอร์ที่ดี พลังเสียงกลางที่ขยายใหญ่ขึ้นทำให้สามารถปรับทัศนคติอย่างระมัดระวังด้วยคันเร่ง ขณะที่รถพุ่งตัวไปบนพื้นถนนที่เป็นลูกคลื่น การตอบสนองการเลี้ยวกลับมีความคมชัดเนื่องจากตัวเครื่องจัดวางตำแหน่งตัวเองอย่างเรียบร้อยเหนือจุดกระแทกตรงกลาง โดยการส่งภาระหนักไปยังด้านหลังของคุณอย่างแนบเนียน เนื่องจากมีการใช้ฮาร์ดแวร์บังคับเลี้ยวแบบแปรผันของ M4 ร่วมกัน หมวกที่หนาจึงยังคงให้ความรู้สึกที่เบากว่ารถปอร์เช่ 718 แต่ความกะทัดรัดและความแม่นยำโดยรวมทำให้รถคูเป้สไตล์บาวาเรียคันนี้มีประสิทธิภาพที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น

ประสิทธิภาพการเบรกอาจจะทำให้ปวดหัวนิดหน่อย แต่อาจจะอยู่ที่ยางก็ได้ M2 CS รุ่นที่แล้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิก ในขณะที่ M2 ใหม่ ใช้จานดิสก์เหล็ก M-spec มาตรฐานแต่มีขนาดใหญ่ ส่วนหลังเป็นแบบเบรกต่อสาย โดยไม่มีการเชื่อมต่อทางกายภาพจากปั๊ม ABS ไปยังแป้นเบรก M2 CS ตัวเก่า รหัส F87 ใส่ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 เป็นยางสปอร์ตประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษ (ด้านหน้า 245/35R19 93Y, ด้านหลัง 265/35R19 98Y) สำหรับยางติดรถแบบมาตรฐานของ M2 G87 เป็นยาง Michelin Pilot Sport 4S สมรรถนะสูง ไซส์ 275/35R19 100Y ที่ล้อหน้า และ 285/30R20 99Y ที่ล้อหลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อน แม้ว่ายาง Cup 2R จะเป็นยางสำหรับฤดูร้อนที่มีสมรรถนะสูงกว่า แต่ก็แคบกว่า 1.2 และ 0.8 นิ้วจากหน้าไปหลัง โดยรวมแล้ว M2 ใหม่ มียางเส้นเขื่องที่กว้างขึ้นเกือบ 4 นิ้ว

แม้ว่า M2 ใหม่จะใช้โช้คอัพแบบปรับได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ระบบรองรับนั้นพัฒนามาจากยูนิตเดียวกันกับ M3 Touring เมื่อปรับไปที่โหมด Road ที่ให้สัมผัสการทำงานของกันสะเทือนนุ่มนวลที่สุด แต่ก็ยังมั่นคงแข็งแรง อาจมีปัญหาบ้างเล็กน้อยในเรื่องของความกระด้างบนถนนที่ไม่เรียบ โดยธรรมชาติของ Adaptive M Suspension แล้วการขับจะมั่นคงยิ่งขึ้นในโหมด Sport และ Track แต่การควบคุมองคาพยพนั้นดีมากจนไม่สะเทือนหรือกระด้างมากจนเกินงาม เมื่อไม่มีโค้งให้เล่นในช่วงสองสามชั่วโมงแรกบนไฮเวย์พระรามสองต่อเนื่องหนองหญ้าปล้อง เครื่องยนต์คือดาวเด่นของการแสดง S58 เปล่งประกายจรัสแสง ด้วยแรงบิดสูงสุดที่กระจายตั้งแต่รอบต่ำ 2,650 รอบต่อนาทีไปจนถึง 5,870 รอบต่อนาที (และกำลังสูงสุดที่ 6,250 รอบต่อนาที) ทำให้มีความสามารถในการขับที่ยืดหยุ่นและงดงาม 

เกียร์ 8 สปีดนั้นดีมากกว่าจะยอดเยี่ยม เมื่อเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนเกียร์ของ AMG SL43 ในเกียร์ 9G Tronic เกียร์ของ M2 ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่า ใช้งานได้อย่างเพลิดเพลิน เกียร์ ZF8 แทนระบบเกียร์คลัตช์คู่ M-DCT ของ M2 F87 มันเรียบลื่นจากหนึ่งไปสาม และราบรื่นเร็วพอในการตั้งค่าตรงกลาง คุณสามารถวางมือทั้งสองข้างไว้บนพวงมาลัยและใช้แป้น Paddle ที่ตัดแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อเปลี่ยนเกียร์แบบแมนนวล หรือกดตัวเลือกเกียร์ไปข้างหน้าและข้างหลังเหมือนกับที่คุณอยู่ในรถแข่ง DTM 

M2 มีลักษณะคล้ายเด็กกวนๆ สวมแจ็กเกตสีสันแสบตา ตื่นตัวและกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ไดนามิกของรถเพิ่มความมั่นใจบนถนนที่อุดมไปด้วยโค้ง เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำผ่านแป้น Paddle Shift ด้วยเสียงคำรามอันร่าเริง แต่ไม่มีเสียงระเบิดประทุเมื่อยกคันเร่งเหมือน M รุ่นอื่น เด็กแสบคันนี้ควรเป็นตัวเลือกคันแรกของคุณสำหรับรถขับเล่นในวันหยุดที่ดูเหมือนจะเพียบพร้อมไปซะทุกสิ่ง

BMW M2 G87 ราคา 6,999,000 บาท

สีตัวถัง 5 เฉดสี ได้แก่
Zandvoort Blue
Toronto Red
Brooklyn Grey
Alpine White
Sapphire Black

รายละเอียดทางเทคนิค BMW M2 G87 
เครื่องยนต์และสมรรถนะ
ชนิดเครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ
เทคโนโลยี M TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,993 ซีซี
กําลังสูงสุด 338 กิโลวัตต์/460 แรงม้า/ที่ 6,250 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,650-5,870 รอบต่อนาที
ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4.1 วินาที

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และระดับการปล่อย CO2
อัตราสิ้นปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย-อ้างอิงผล ECO Sticker 10.4 กิโลเมตร/ลิตร
ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 217 กรัม/กิโลเมตร

ล้อและยาง
ล้อ ล้ออัลลอย M ขนาด 19 และ 20 นิ้ว
ลาย Double-spoke
ขนาดยาง ล้อหน้า: 9.5 J × 19/ยาง 275/35 R19
ล้อหลัง: 10.5 J × 20/ยาง 285/30 R20

มิติรถยนต์
ยาว 4,580 มิลลิเมตร กว้าง 1,887 มิลลิเมตร สูง 1,403 มิลลิเมตร  
ปริมาตรในการบรรจุของ 390 ลิตร
น้ำหนักรถ 1,800 กิโลกรัม 

ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic พร้อม
Gearshift Paddles
โหมดการขับขี่ M Drive Profressional
เฟืองท้าย M Sport
ช่วงล่าง Adaptive M
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop&Go (Active cruise control with Stop&Go function)
ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant)
ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)

อุปกรณ์ภายนอก
ชุดเบรก M Compound Brake สีแดง
โคมไฟหน้าตกแต่งสีดำ (M Lights Shadowline)
ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา
หลังคา M Carbon
ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant)
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ
ระบบไฟหน้า Adaptive LED 

อุปกรณ์ภายใน
ภายในตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุ Carbon Fibre
กระจกมองข้างและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ชุดไฟส่องสว่างภายในและภายนอกห้องโดยสาร (AmbientLight)
พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M
เข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M
เบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์ M Sport
เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ
กาบบันไดดีไซน์ M แบบเรืองแสง
หลังคาภายในดีไซน์ M สี Anthracite
คอนโซลด้านบนบุด้วยหนังแบบ BMW Individual
ระบบความบันเทิงและการสอื่ สาร
BMW Live Cockpit Professional
ระบบ BMW ConnectedDrive

ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
BMW Connected Package Professional
ระบบเชื่อมต่อ Smartphone
ระบบเครื่องเสียงรอบทศิทาง Harman Kardon

ความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง)
ระบบ Teleservices
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
ระบบควบคุมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC)
ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS)
ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ(Brake Assist)
เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง
เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
ระบบตรวจวัดลมยาง
ชุดปะยางฉุกเฉิน
ชุดตกแต่งพิเศษ

อาคม รวมสุวรรณ