Volkswagen Group และ BMW ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ผลิตรถออกขายได้เป็นล้านคันและมีรถยนต์เพียงคันเดียวจากแพลตฟอร์มเดียว ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา Mercedes พัฒนาและผลิตรถยนต์ที่แตกต่างกันไม่น้อยกว่าเจ็ดรุ่น จากโครงสร้างพื้นฐานล่าสุดของ A-Class ซึ่งทั้งหมดใช้ชุดเครื่องยนต์และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้น รถยนต์ไซส์ตราดาวเล็กเหล่านี้ จึงมีรูปลักษณ์บางจุดและความรู้สึกหลังพวงมาลัยที่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น CLA 35 และ GLA 35 ในความเป็นจริง ลูกค้าของแบรนด์ Luxury เพียงแค่เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบและสไตล์ของรถ สมรรถนะและความชอบส่วนตัว อีกจุดหนึ่งก็คือความเป็นเอกเทศของรถที่ไม่ซ้ำกับใคร หนึ่งในนั้นก็คือ รถยนต์ที่ประทับตราสัญลักษณ์ AMG 

...

GLA ซึ่งเป็นครอสโอเวอร์ห้าที่นั่งที่รับประกันได้ว่ามันจะขายดี เพราะทุกวันนี้ใครๆ ก็ชอบรถครอสโอเวอร์ GLA เจเนอเรชันแรก ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มยานยนต์ขนาดเล็กของเยอรมัน โดยมีการผลิตและจำหน่ายมากกว่าหนึ่งล้านคันตั้งแต่ปลายปี 2556 และด้วยดาวสามแฉกที่กระจังหน้าและสไตล์ SUV-lite คันนี้ คำถามคือ มันสมควรที่จะซื้อหรือไม่? ส่วนคำตอบก็คือ มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ ความสวยงาม และราคา 

...

ดูเหมือนกับว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นลูกค้าของ Mercedes คาดหวังให้ GLA เจเนอเรชันที่สองต้องดีกว่าเดิม ใช่ครับ มันคือครอสโอเวอร์ที่สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ CLA หรือ A Class กว้างขึ้นเล็กน้อย โดยมีระยะห่างจากพื้นเพิ่มขึ้นสำหรับการลุยนิดๆ หน่อยๆ ขอบพลาสติกสีดำบางส่วนรอบธรณีประตูและซุ้มล้อ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขับเคลื่อนบนทางวิบาก Mercedes-AMG GLA 35 4Matic รถทดสอบในอาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายน ไม่ใช่รถอเนกประสงค์แบบสปอร์ตครอสโอเวอร์ที่ดูแย่ และอย่างน้อย Mercedes ก็ได้แก้ไขสัดส่วนจนลงตัว รถใหม่มีความสูงมากขึ้นถึง 10 เซนติเมตรและสั้นกว่ารถรุ่นเก่าที่มีรูปทรงแปลกๆ เพียงเศษเสี้ยวระดับมิลลิเมตร ทำให้ใกล้เคียงกับคู่แข่งสายหล่ออย่าง Audi RSQ3, BMW X2 M35i และ Volvo XC40 ตอนนี้ เจ้าดาวตัวเล็กดูคล้ายกับ SUV ที่โดนย่อส่วน มากกว่าที่จะเป็นแฮตช์แบ็กยกสูงแบบรถเจนฯ แรก สิ่งที่สำคัญก็คือ นอกจากพลังงานในสไตล์ของ AMG แล้ว GLA 35 ยังมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับผู้โดยสารและสัมภาระ แม้จะมีงานชุบโครเมียมและโลหะผสมในรถ AMG แท้ๆ อย่าง GLA 35 แต่ภาพรวมแล้วมันเป็นรถเล็กที่มีพัฒนาการดีอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับ AMG GLA45 4Matic โฉมที่แล้ว 

...

...

กระจังหน้า AMG-specific radiator grille เชื่อมโยงความดุดันตามแบบฉบับรถยนต์สมรรถนะสูงจาก AMG ไฟหน้า LED ไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light ฝากระโปรงหน้าแบบเพาเวอร์โดรม ยกสันนูนเพื่อให้เข้ากับทรงของกระจังและไฟหน้า ด้านข้างซุ้มล้อหุ้มพลาสติกกันกระแทกสีดำ ชายล่างของบานประตู ตกแต่งด้ยพลาสติกสีเงิน แรคหลังคาอัลลอยสีเงิน กรอบกระจกและแถบมือจับประตูตกแต่งด้วยโลหะสีเงิน แก้มข้างพร้อมตราสัญลักษณ์ Turbo 4Matic ด้านหลังลุคสปอร์ตด้วยปลายท่อไอเสีย 2 ท่อ ตกแต่งโครเมียม สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้าย AMG spoiler lip มิติตัวถังของดาวเล็กสายแรง AMG GLA35 4Matic มีขนาดความยาว 4,445 มิลลิเมตร กว้าง 1,804 มิลลิเมตร สูง 1,479 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,699 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 183 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย (พับเบาะหลัง) 1,235 ลิตร น้ำหนัก 1,667 กิโลกรัม ความจุถังเชื้อเพลิง 56 ลิตร ล้ออัลลอย AMG ขอบ 19 นิ้ว ลายคล้าย AMG CLS53 แต่มีขนาดเล็กกว่า ห่อรัดด้วยยาง Continental Cross Contac ยางล้อหน้าและหลังเท่ากันที่ ไซส์ 235/50 R19 ช่วงล่างหน้า-หลัง AMG Ride Control Sports Suspension ระบบเบรกด้านหน้าใช้คาลิปเปอร์เบรก AMG 4 พอต ด้านหลังคาลิปเปอร์แบบซิงเกิลพอต 

ภายในแบบใหม่ที่น่าใช้งานของ GLA 35 เกิดจากงานดีไซน์ของแดชบอร์ดคอนโซลแบบใหม่ที่โดนใจวัยแรง ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ใช้วัสดุดีมีราคามาตกแต่ง การแสดงผลของระบบขับเคลื่อนและระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์ รวมถึงการปรับตั้งต่างๆ ที่ทำออกมาได้ดีก็คือ แดชบอร์ดคอนโซลแบบใหม่ ขึ้นรูปด้วยยางสังเคราะห์ หุ้มด้วยไวนิลคุณภาพสูง มีส่วนช่วยในด้านการเก็บเสียงและลดเสียงเสียดสีของรอยต่อต่างๆ GLA 35 ติดตั้งจอภาพมาตรวัดและจอมอนิเตอร์แสดงผลกลางที่เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกัน ระบบสาระบันเทิง MBUX ใหม่ล่าสุดถูกนำมาใช้ในรถรุ่นนี้เป็นครั้งแรก ผ่านจอแสดงผลสองจอที่ติดตั้งภายใต้ฝาครอบแก้วที่ใช้งานร่วมกัน นอกจากนี้ ยังมีพวงมาลัยสปอร์ตสามก้านทรงฐานตัดของ AMG ติดตั้งแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift พวงมาลัยเย็บตะเข็บด้ายสีแดง เบาะแบบสปอร์ตปรับไฟฟ้า หุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เข็มขัดนิรภัยสีแดงสไตล์ AMG กับท่านั่งควบคุมที่ดีในกลุ่มสปอร์ต ครอสโอเวอร์-เอสยูวี ขนาดกะทัดรัด!

หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่พิเศษ 2 จอต่อเนื่องของระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX เปลี่ยนรูปแบบแสดงผลของหน้าจอ ระบบสัมผัส AMG centre console

มาตรวัดและจอแสดงผลกลางของ GLA 35 คล้ายกับ A-Class / CLA Class และ GLB-Class โดยเชื่อมต่อติดกันทั้งสองจอภาพ (จอภาพมอนิเตอร์กลางและจอภาพมาตรวัด) จนมีขนาดยาวแบบพาโนรามา จอภาพมาตรวัด TFT LCD ขนาด 10.25 นิ้ว แสดงผลทั้งมาตรวัดที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามต้องการและเชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกับจอมอนิเตอร์ส่วนกลางของระบบนำทางและให้ความบันเทิง จอภาพมาตรวัด TFT LCD แสดงผลรูปแบบของมาตรวัดได้อย่างหลากหลาย เช่น Classic /Sport/Super Sport และ Understated

จอภาพมาตรวัดพ่วงกับจอมอนิเตอร์กลาง รองรับการทำงานด้านการปรับตั้งระบบต่างๆ เช่น ระบบนำทางด้วยดาวเทียม ระบบอินโฟเทนเมนต์ ระบบปรับอุณหภูมิภายใน การปรับตั้งค่าของระบบขับเคลื่อน ปรับตั้งระบบปรับอุณหภูมิ ระบบส่องสว่างทั้งภายนอกและภายใน การเชื่อมต่อกับมัลติมีเดีย การเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย การปรับตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถ การแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมถึงแสดงผลระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์ เมื่อเล่นเพลงในระบบบลูทูธ หรือรับฟังวิทยุ รวมถึงการเล่นเพลงผ่านช่องเชื่อมต่อ USB Type C ให้ทั้งเสียงและภาพที่มีความคมชัดสูง

ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX ความชาญฉลาดของระบบปฏิบัติการมัลติมีเดีย MBUX แสดงข้อมูลได้หลากหลาย แผงหน้าปัดแสดงผลข้อมูลการขับขี่ AMG-specific display ระบบสัมผัส และสั่งงานด้วยเสียง ประมวลผลประโยค ที่ใกล้เคียงกับคำสั่งทั่วไป มาพร้อมฟังก์ชันการปรับตั้งค่าต่างๆ ที่แสดงผลด้วยกราฟิกชัดเจนและง่ายต่อการปรับตั้ง แป้นควบคุมระบบสัมผัสของ MBUX ใช้นิ้วรูด แตะ หรือกดลงไปตรงๆ เพื่อสั่งงานระบบต่างๆ จอภาพมอนิเตอร์กลางเชื่อมต่อกับระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่ละเอียดและคมชัด สำหรับเจ้าของรถรุ่นเก่าที่คุ้นเคยกับแป้นควบคุม Mercedes Benz Comand Control แบบเก่าต้องใช้เวลาเรียนรู้ทำความคุ้นเคยกับระบบ MBUX สักพัก เนื่องจากฟังก์ชันการใช้งานถูกปรับเพิ่ม และเปลี่ยนแปลงแผงควบคุมบริเวณคอนโซลกลางโดยใช้ระบบสัมผัสทั้งหมด

จุดที่ทำได้ดีก็คือตำแหน่งเบาะนั่ง กับรูปแบบของเบาะ AMG Sport seat ออกแบบให้เข้ากับสรีระผู้ขับขี่เพื่อการขับทั้งคลานในเมือง หรือหวดเต็มข้อในสนามแข่ง เบาะปรับไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำบันทึกตำแหน่งท่านั่ง 3 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยสีแดงจาก AMG เบาะหลังแบบ 3 ที่นั่งแต่เอาเข้าจริงๆ นั่งสองคนจะสบายและไม่อึดอัดมากกว่าจะนั่งกันไปถึงสามคน

ยุคสุดท้ายของเครื่องยนต์ในประวัติศาสตร์การผลิตยานยนต์สมรรถนะสูงของ Mercedes-AMG® มีความพยายามในการยกระดับประสิทธิภาพของการควบคุม สมรรถนะด้านอัตราเร่ง กำลังในรูปของแรงบิดที่ต่อเนื่อง และไดนามิกส์โดยรวม หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดใน GLA รุ่น 35 AMG ก็คือ พวงมาลัยประสิทธิภาพสูงจาก AMG® โดยภาพรวม พวงมาลัยของ AMG รุ่นใหม่ จะดูแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่น แต่การออกแบบพื้นฐานและฟังก์ชันการใช้งานนั้นเหมือนกัน สวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เช่นการปรับตั้งหน้าจอภาพมาตรวัด การเลือกฟังก์ชันแสดงผล การเชื่อมต่อกับระบบมัลติมีเดียและโทรศัพท์บลูทูธ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ การสั่งงานด้วยเสียงฯ AMG® Steering Wheel ผสมผสานศาสตร์ของการบังคับทิศทางเข้ากับฟังก์ชันการทำงานขั้นสุดยอด พวงมาลัย AMG แบบใหม่ นำเสนอการออกแบบที่แตกต่างจากรถสปอร์ตทั่วไปโดยใช้เอกลักษณ์ของรถ AMG ผนวกกับสไตล์การใช้งานแบบสปอร์ต ส่วนล่างที่แบนแบบฐานตัดเปิดพื้นที่เล็กๆ ในการเข้า-ออกจากเบาะคนขับ ขอบที่โค้งมนหุ้มหนังคล้ายกับพวงมาลัยรถแข่ง หนัง Nappa ถูกใช้เป็นวัสดุมาตรฐานในเกือบทุกรุ่น โดยบางรุ่นมีสีให้เลือก แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ที่ติดตั้งบนพวงมาลัย ช่วยสร้างประสบการณ์การเปลี่ยนอัตราทดแบบสปอร์ต เมื่อใช้งานในโหมดเกียร์แมนนวล แต่ขนาดของแป้น Paddle Shift ใน GLA 35 มีขนาดที่เล็กกว่า CLA 35 

Mercedes me connect ฟังก์ชันบริการช่วยเหลือจากสถานการณ์ฉุกเฉิน Mercedes-Benz emergency call system ที่จะติดต่อ Emergency Customer Contact Center ศูนย์บริการฉุกเฉิน คอยประสานงานด้านความปลอดภัย บริการซ่อมบำรุงมาตรฐาน บริการ Remote Retrieval of Vehicle Status รายงานสถานะรถยนต์สู่ Mercedes me นำทางด้วยแผนที่นำทาง Navigation system อัปเดตข้อมูลเส้นทางแบบออนไลน์ สามารถป้อนข้อมูลที่ต้องการได้ผ่าน Touch Pad ระบบ Pre-entry Climate Control* เปิดระบบเครื่องปรับอากาศทางไกลก่อนถึงรถ

เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบชาร์จแปรผัน twin-scroll turbocharger รหัสเครื่องยนต์ M260 ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบ CAMTRONIC variable valve control จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดแรงดันสูง piezo injectors multi-spark ignition ผลิตกำลังได้ 225 กิโลวัตต์ หรือ 306 แรงม้า กับแรงบิด 400 นิวตันเมตร แจกจ่ายแรงฉุดลากให้กับล้อทั้งสี่ผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ที่เชื่อมต่อกับเกียร์ทวินคลัตช์ 8 สปีด AMG SPEEDSHIFT DCT 8 Speed dual-clutch transmission โหมดการขับเคลื่อนปรับผ่านปุ่ม DYNAMIC SELECT พร้อมโปรแกรมใหม่ 'Slippery' เริ่มจาก Comfort, Sport, Sport + และ Individual ที่ผู้ขับสามารถปรับตั้งการทำงานและการตอบสนองแบบแยกย่อยของเครื่องยนต์ เกียร์ และพวงมาลัยไฟฟ้า ตัวเลขสมรรถนะ Mercedes-AMG GLA35 4MATIC เร่งจากหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ใน 5 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้ที่ 250 กม./ชม. ไม่มีสตรัทบาร์ค้ำยันเหมือนใน AMG CLA 35

Mercedes-Benz M260 และ M264 เครื่องยนต์รุ่นใหม่ซึ่งเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ M270/M274 รุ่นก่อนหน้าในปี 2560 ในซีรีส์ใหม่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบแถวเรียงขนาด 1.5 และ 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์และการฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงไดเรคอินเจคชัน ได้รับการออกแบบมาสำหรับวางในรถตราดาวรุ่นที่มีเครื่องยนต์วางตามขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า-หรือขับเคลื่อนสี่ล้อ เช่น A-Class A220/A250/A35AMG และ GLA-Class

M264 และ M260 เป็นการพัฒนาระบบส่งกำลัง ต่อจาก M270/M274 รุ่นก่อน บล็อกเครื่องยนต์อะลูมิเนียมหล่อ (เพลาข้อเหวี่ยง) พร้อมปลอกสูบเหล็กหล่อ ใช้เทคโนโลยี CONICSHAPE ในการผลิตกระบอกสูบ หมายความว่ากระบอกสูบจะถูกขยายที่ปลายด้านล่างของแผ่นซับเสื้อสูบและสร้างรูปทรงกรวย ซึ่งช่วยลดแรงเสียดทานของลูกสูบ และลดการใช้เชื้อเพลิง เครื่องยนต์มีขนาดกระบอกสูบและระยะชักเหมือนกัน ยกเว้นเครื่องยนต์ M264 1.5L ซึ่งลดขนาดกระบอกสูบลง 2.6 มม. เมื่อเทียบกับรุ่น 1.6 ลิตรก่อนหน้า เช่นเดียวกับรุ่นก่อน เครื่องยนต์ M260 2.0L มีเพลาถ่วงสมดุลอยู่ที่ส่วนล่างของห้องเพลาข้อเหวี่ยง นอกจากนั้น วิศวกรของแบรนด์ตราดาว ได้แนะนำแดมเปอร์ลดแรงเหวี่ยงแบบใหม่ (โช้คยึดแท่นเครื่อง) เข้ากับระบบส่งกำลังและแท่นยึดเครื่องยนต์ที่ทำจากพลาสติก ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์นิ่ง ราบเรียบและเสถียรมากยิ่งขึ้นทั้งขณะที่เดินเบาหรือใช้รอบสูงสุด เครื่องยนต์ใหม่มีลูกสูบพร้อมท่อระบายความร้อนและแหวนลูกสูบที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการทำงาน

ด้านบนของเครื่องยนต์ M260 มีฝาสูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำจากโลหะผสมอะลูมิเนียม-ซิลิกอน กระบอกสูบหนึ่งตำแหน่งต่อวาล์วสี่ตัว เพลาลูกเบี้ยวคู่ และกลไก Mercedes CAMTRONIC สำหรับฝั่งไอดี CAMTRONIC เป็นระบบแปรผัน ที่ช่วยให้สามารถปรับลิฟต์วาล์วได้สองระดับ นอกจากตัวยกวาล์วแปรผันแล้ว ยังมีตัวปรับเพลาลูกเบี้ยวไฮดรอลิกสองตัว ที่ให้จังหวะวาล์วแปรผันสำหรับทั้งด้านไอดีและไอเสีย เครื่องยนต์ M260 และ M264 ใช้โซ่ไทม์มิ่งแบบฟันเฟือง เครื่องยนต์สี่สูบ 1.5 ลิตรและ 2.0 ลิตรใหม่ยังมีระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบหลายทางโดยตรง พร้อมวาล์วหัวฉีดแบบเพียโซรุ่นล่าสุด ตำแหน่งของหัวฉีดไดเรคอินเจคชัน ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น

M260 ติดตั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบท่อเดียว ซึ่งมีตัวกระตุ้นการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า (M270/274 รุ่นก่อนหน้า ใช้ตัวกระตุ้นการทำงานแบบสุญญากาศ) เครื่องยนต์ M264 มาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ 2 stage และวาล์วเกทที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ปรับปรุงท่อร่วมไอดี ด้วยการออกแบบท่อทางอากาศที่หดสั้นลง เพื่อประโยชน์ของการส่งถ่ายพลังงานและการตอบสนองของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ M260 2.0L ถูกรวมเข้ากับระบบไฟฟ้า 48V มีการติดตั้งสตาร์ทเตอร์-อัลเทอร์เนเตอร์ (BSA) และปั๊มน้ำไฟฟ้า 48V ของ Magna เนื่องจากทิศทางการหมุนเปลี่ยนไป เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสตาร์ทเตอร์เจเนอเรเตอร์ จึงมีตัวปรับความตึงสายพานแบบลูกกลิ้งจากแต่ละด้าน สายพานนั้นกว้างเจ็ดร่อง - และตามที่วิศวกรกำหนด สายพานไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ มีตัวกรองอนุภาคน้ำมันเครื่องและน้ำมันเบนซิน สำหรับเครื่องยนต์ M260 และ M264 เพื่อช่วยทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงมีความสะอาดก่อนถูกฉีดจ่ายเข้าไปจุดระเบิด 

Mercedes-AMG Dynamic Select เข้าถึงโดยตรงไปยังโปรแกรมปรับตั้งโหมดขับเคลื่อนสไตล์ AMG โดยแสดงบนหน้าจอ LCD ที่รวมอยู่ในจอภาพมาตรวัด สามารถปรับตั้งโหมดขับเคลื่อนได้ 5 โหมด ผ่านสวิตช์ควบคุมข้างแผง MBUX 

1-Slippery ผิวถนนลื่นหรือมีฝน หิมะ

2-Individual โหมดปรับตั้งค่าแยกย่อยต่างๆ เพื่อปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และชุดบังคับเลี้ยว

3-Comfort โหมดขับเคลื่อนมาตรฐาน เมื่อสตาร์ตรถ CLA35 จะเข้าสู่โหมดนี้เป็นแกนหลัก

4-Sport ใช้สำหรับการขับที่ต้องการความรวดเร็ว เครื่องยนต์ พวงมาลัยและระบบเกียร์ จะตอบสนองต่อการทำงานเร็วขึ้น สามารถปรับค่าแยกย่อยได้

5-Sport + โหมดขับเคลื่อนแบบสปอร์ตเต็มพิกัด คันเร่งไว เกียร์คาอยู่ในอัตราทดที่มีแรงบิดสูง ที่เกียร์ 4-5 เมื่อใช้เบรก เกียร์จะชิฟต์ลงต่ำให้เองอย่างรวดเร็วแบบอัตโนมัติ

ออกนอกเมืองมาไม่ไกล เครื่องยนต์ AMG 2.0 ลิตรเทอร์โบ ฟื้นคืนชีพอีกครั้งในโหมด Sport + เพราะช่วงแรกของการขับทดสอบในเมืองค่อนข้างอึดอัด รวมถึงต้องคลานฝ่าสายฝนมาตลอดทาง ตั้งแต่เพชรบุรี ชะอำ ไปจนถึงบายพาสปราณบุรีด้วย Comfort Mode เจ้า AMG GLA35 รับมือกับผิวถนนที่เปียกชื้นได้ดี ช่วงล่างออกแนวหนึบๆ หนุบๆ จะแข็งก็ไม่ใช่ จะนิ่มก็ไม่เชิง ผมชอบช่วงล่างของ AMG CLA35 มากกว่า และอาจเป็นเพราะความสูงของ GLA35 ที่มากกว่า CLA35 ในการทำตัวเป็นครอสโอเวอร์พลังสูง เมื่อถนนโล่ง ผมกดคันเร่งจนมิดเพื่อดูการตอบสนองของเครื่องยนต์ M260 เมื่อคันเร่งถูกกระแทก เสียงท่อคำรามตามรอบเครื่องที่ถูกดันให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเสียงหวิดของเทอร์โบก็ดังเข้ามาให้ได้ยิน มันกระโจนผ่าน 6500 รอบอย่างว่องไว เกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีดทำงานเนียนเหลือกำลังลาก จากการที่มีคลัตช์ถึงสองชุด เทคนิคการจูนอัตราทดให้กับเกียร์ 8 สปีด ทำให้ AMG GLA35 มีความจัดจ้านตั้งแต่ต้นยันปลาย ที่เกียร์ 6 รถก็ยังมีแรงดึงหนักหนาเอาเรื่อง การเร่งความเร็วทำได้ดีแทบจะไม่แตกต่างไปจาก AMG CLA35 ที่ผมเคยขับทดสอบเมื่อปีที่แล้ว การลดหรือเพิ่มเกียร์ผ่าน Paddle Shift หลังพวงมาลัย คุณจะค้นพบว่าเกียร์ตอบสนองได้ดีมากและมีระบบป้องกันการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่ไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันเกียร์กระจายอีกตะหาก 

มันเป็นครอสโอเวอร์ที่ขับสนุกพอๆ กับ MINI Countryman John Cooper Works แต่ให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่า จากเสียงเครื่องและเสียงครางของท่อท้ายในรอบสูง ม้า 306 ตัว ฝากรอยยางไว้บนถนนทันทีที่ใช้การออกตัวเร็วๆ จากจุดหยุดนิ่ง ความเร็วไหลตามรอบเครื่องยนต์อย่างไม่บันยะบันยัง ความหิวกระหายความเร็วของ AMG คันเล็กรุ่นนี้ดูเหมือนจะไม่มีวันหมดตราบใดที่คุณยังมีเชื้อเพลิงเหลืออยู่ในถัง เมื่อเทอร์โบกระหน่ำพลังบูส รถยิ่งดูเหมือนเร็วและแรงมากยิ่งขึ้น การเร่งจาก 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาไม่นาน  M260 ไม่ได้ดิบและมุทะลุดุดันเท่ากับเครื่อง 5 สูบใน RS Q3 ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์สายพันธุ์มอเตอร์สปอร์ตที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Audi แต่ วิศวกรใน affalterbach นั้นใส่ความพอดีมาให้ในเครื่องยนต์รุ่นนี้ กำลังของมันจึงไม่ได้ล้นมากจนทำให้ต้องใช้เบรกหนักๆ ไปตลอดทาง แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำออกมาพอดิบพอดีกับความต้องการ แรงกว่านี้ก็ควบคุมได้ยาก กำลัง 225 กิโลวัตต์ในรถยนต์ไซส์เล็กที่มีน้ำหนัก 1.6 ตัน เหมาะกับมือธรรมดาที่ไม่ได้มีทักษะในการควบคุมมากนัก มันเป็นรถที่ขับง่ายและมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ ยิ่งขับเร็วก็ยิ่งแรง เสมือนความเร็วใหม่เข้ามาทดแทนความเร็วเก่าอยู่ตลอดเวลา แค่คาเท้าไว้ในองศาที่ลึกหน่อยก็ต้องคอยเบรกกันอย่างระมัดระวังเพราะมันพุ่งเข้าหาท้ายรถคันหน้าเร็วจี๋ 

AMG รุ่นเด็กเล็กนี้ มีเครื่องยนต์ที่จะกลายเป็นรากฐานของ AMG C63 ในอนาคตอันใกล้ เมื่อมันผสานเข้ากับระบบปลั๊กอินไฮบริดเพื่อเสริมแรงบิดและประสิทธิภาพของการปล่อย Co2 ใน AMG GLA35 เสียงเครื่องยนต์คำรามผ่านท่อท้ายอย่างดุร้าย ไม่ดังดุดันเท่า RS Q3 แต่หวานกรอบ กรุบกริบกว่าในรอบสูง เสียงการทำงานของเวสต์เกตเมื่อยกคันเร่งก่อนมุดเข้าโค้งได้ยินชัดเจน เทอร์โบที่ปรับแต่งมาดี อินเตอร์คูลเลอร์ที่ช่วยลดอุณหภูมิไอดี และเพลาข้อเหวี่ยงที่ทั้งแข็งแรงและเบา ทั้งหมดนี้เพื่อจุดประสงค์เดียวก็คือ การแสดงออกถึงความเป็นรถยนต์ AMG อย่างเด่นชัด ราคา 3,190,000 บาท อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถูกไม่แพง เทียบกับ NX 450h+ F Sport ราคา 4,320,000 บาท ก็ถือว่าถูกกว่าเยอะ ส่วน Audi RS Q3 Sportback นั้น มีเรี่ยวแรงมากกว่า 100 แรงม้า และมาพร้อมค่าตัวในระดับ 4,750,000 บาท เป็นราคาที่ดุดันพอๆ กับสมรรถนะเลยทีเดียว สำหรับ Mini John Cooper Works Countryman นั้น มีราคา 3,648,000 บาท เจ้า AMG GLA35 4Matic ก็ยังถูกกว่าถึง 458,000 บาท! 

AMG Direct Steering มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเป็นกลางในโหมดสูงสุด ไม่เบาไม่หนัก ออกมาในแนวหน่วงหน่อยๆพอให้รู้สึกตึงมือเมื่อควงเข้าโค้ง การทำงานของมันขึ้นตรงกับโหมดการขับเคลื่อน ให้ความรู้สึกตั้งแต่เบาและผ่อนคลายในย่านความเร็วต่ำและตึงมือมากยิ่งขึ้นเมื่อขับเร็ว ความแม่นยำไม่ได้เป็นรอง AMG CLA35 แต่สัดส่วนความสูงของตัวรถที่มากกว่า ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจกับพวงมาลัยของ CLA35 สำหรับการเก็บเสียงก็ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจแต่ไม่ถึงกับเงียบเพราะเป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์พลังสูงที่มาพร้อมเสียงท่อหวานๆ ถ้าเก็บเสียงดีเกินไปคนขับก็อาจขาดความเร้าใจจากเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ไปจนถึงท่อระบายท้าย ช่วงล่างที่เป็นกลางของมันทำให้วิ่งเร็วๆ ในย่าน 170-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ยังนิ่งใช้ได้ ผมไม่ได้ตะกายไปถึงความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพราะไม่มีถนนที่ยาวและโล่งมากพอ รวมถึงความกลัวในด้านการใช้ความเร็วสูงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมา กดไปแค่ 190 แวบเดียวเพื่อลองก็กลับมาวิ่งในย่าน 120 กิโลเมตรเหมือนเดิม ลืมบอกไปว่า แก้มยาง 50 Series ทำให้ขับ AMG ได้สบายใจที่สุดในชีวิตการขับรถทดสอบ แก้มยางสูงขนาดนั้นอาจทำให้การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงรู้สึกแปลกๆ แต่คุณสามารถรูดมันได้อย่างไม่ต้องระวังกันมากนักจนทำให้หมดสนุก แก้มยางที่สูงเหมาะกับการวิ่งบนทางลูกรังอยู่เหมือนกัน แต่การใช้งานโดยภาพรวมบนถนนที่ไม่เรียบและอาจเจอกับหลุมหรือผิวถนนที่แตกร้าวก็ไม่สร้างปัญหาให้กับการใช้งานเหมือนยางแก้มเตี้ยรันแฟลตที่ขยันแตกกันซะเหลือเกิน

AMG GLA35 4Matic แน่นอนว่ามันทรงตัวได้ดีเพราะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อกับโช้คอัพแบบ Adaptive ที่ปรับแต่งค่าการตอบสนองได้สองระดับ ทั้งแบบสบายๆ และการขับเร็วในโหมด Sport + ซึ่งทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วงให้ช่วงล่างจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ มันเหมือนนักกีฬาตัวเล็กที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยมัดกล้าม ที่พยายามจัดการทุกอย่างให้อยู่หมัดยกเว้นตอนเบรก ล้อทั้งสี่ถูกทำให้สัมผัสกับผิวถนนเท่าๆ กันทั้งหมด ทำให้ M260 ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างเต็มที่ ชุดแต่ง AMG ไม่ฉูดฉาดเท่ากับรถรุ่นพี่อย่าง AMG GLA45 ที่ออกขายเมื่อหลายปีก่อน งานตกแต่งทั้งภายนอกและภายในแบบเรียบๆ อาจโดนใจใครบางคนและไม่ถูกใจคนที่ชอบความเต็ม ไดนามิกส์บนทางตรงนั้นดีเยี่ยม การยึดเกาะในโค้งก็ทำได้ดีเพราะมีระบบเฉลี่ยแรงบิดเพื่อทำให้เกิดความสมดุลขณะใช้ความเร็ว อัตราสิ้นเปลืองทำได้ 10.5 กิโลเมตรต่อลิตร ราคา 3,190,000 บาท คุณจะได้รถอเนกประสงค์สไตล์สปอร์ตที่ขับใช้งานได้ดีเลยทีเดียว มันไม่มีแม้แต่ Panoramic Roof เครื่องเสียงงั้นๆ และมีแค่เบาะกับเข็มขัดนิรภัยเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างไปจาก GLA รุ่นมาตรฐาน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่กดคันเร่ง AMG GLA35 จะแสดงให้เห็นถึงความพอดีบนความสนุกที่หาได้ยากในรถยนต์ครอสโอเวอร์ไซส์เล็ก. 

เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ พร้อม เทอร์โบ และ อินเตอร์คูลเลอร์
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 1,991
แรงม้าสูงสุด (225 กิโลวัตต์ 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที) 
แรงบิดสูงสุด (400 นิวตันเมตร ที่ 3,000-4,000 รอบต่อนาที) 
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (5.1วินาที) 
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (250 กม./ชม.) 
ความจุถังน้ำมัน (51 ลิตร) 
พื้นที่บรรทุกสัมภาระ 435-1,430 ลิตร
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 8 จังหวะ (AMG SPEEDSHIFT DCT 8G)
พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles)
ขนาดล้อ และยางหน้า-หลัง 235/50 R19
มิติตัวถัง กว้าง 1,849 มิลลิเมตร ยาว 4,436 มิลลิเมตร สูง 1,588 มิลลิเมตร
ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า 
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า 
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร 
ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่ 
เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง 
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) 
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) 
ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist 
ระบบช่วยเบรกแบบแอกทีฟ ABA (Active Brake Assist system) 
ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light)
ระบบรักษาความเร็ว (Cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) 
เซนเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) 
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) 
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยรถ (Reversing camera) 
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) 
ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator) 
ระบบแสดงสถานะลมยาง พร้อมระบบแจ้งเตือนระดับแรงดันลมยาง
(Tyre pressure loss warning system) 
อุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินแบบ TIREFIT 
Mercedes me connect 
ระบบช่วยเหลือฉุกเฉินแบบ Emergency call system 
ใบปัดน้ำฝนทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน 
ไฟหน้าแบบ LED High Performance 
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน 
ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟเบรก และไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED 
กระจกมองข้างปรับระดับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า 
กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่ และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ 
กุญแจรีโมตคอนโทรล 
ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS) 
ตกแต่งภายนอกแบบ AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง) 
กระจังหน้า AMG-specific radiator grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ 
ด้านข้างตัวรถตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ "TURBO 4MATIC" 
สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้ายแบบ AMG spoiler lip 
ท่อไอเสียแบบ AMG exhaust system 
ปลายท่อไอเสีย 2 ท่อ ตกแต่งโครเมียม 
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AMG Performance 4MATIC


อุปรณ์มาตรฐานภายนอก
ระบบกันสะเทือนแบบ AMG RIDE CONTROL Suspension 
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19" 
ระบบเบรกแบบ AMG high-performance brake system 
คาลิปเปอร์เบรกตกแต่งด้วยสีเทาพร้อมสัญลักษณ์ AMG 
ฟังก์ชัน ECO start/stop 
ระบบปรับโหมดการขับขี่แบบ AMG DYNAMIC SELECT 
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 1 โซน 
เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ 
เบาะนั่งแบบ AMG Sport seats 
เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง 
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พับได้แบบ 1/3 และ 2/3 
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ตกแต่งด้วยหนัง nappa 
พวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ AMG speed-sensitive steering 
วัสดุตกแต่งภายในแบบ Aluminium trim 
ชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต 
ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี (ambient lighting) 
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push Start) 
ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO 
ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) 
มาตรวัดความเร็ว และวัดรอบเครื่องยนต์แบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว 
ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX พร้อมระบบสัมผัสและหน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว 
ระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ 
ระบบควบคุม และสั่งงานด้วย Touchpad 
ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Bluetooth) 
ระบบเชื่อมต่อแบบ Smartphone integration รองรับ Apple CarPlay™ และ Android Auto™ 
ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร 
ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอนโซลกลาง 
เข็มขัดนิรภัยสีแดง แบบ designo 
พรมปูพื้นพร้อมตราสัญลักษณ์ AMG

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/