เอสยูวีกำลังครองโลก ใช่ครับ เพราะมันคือรถยนต์ขายดิบขายดีที่ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับบริษัทรถเกือบจะทุกแบรนด์ซึ่งผลิตเอสยูวีออกขาย BMW X5 ก็เป็นหนึ่งในเอสยูวีพรีเมียมที่ขายในไทยมาช้านานตั้งแต่เจนเนอเรชั่นแรกที่โผล่ออกมาในปี 1999 กับตัวถังรหัส E63 ตามด้วย X5 เจนเนอเรชั่นที่สองซึ่งลืมตาดูโลกในปี 2006 ยอดขายที่ดีงามของ X5 E70 ตลอดอายุโมเดลนาน 7 ปี ทำให้ X5 เจนเนอเรชั่นที่สาม รหัสตัวถัง F15 ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่ว่าจะเป็น X5 sDRIVE 25d ขับเคลื่อนล้อหลัง X5 xDRIVE 30d เวอร์ชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมไปถึง X5 xDRIVE 40e เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่มีใช้เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง นับจาก X5 เจนแรกสุดมาจนถึงเจนสุดท้ายตลอดอายุโมเดลตระกูลเอ็กซ์ที่ยาวนานถึง 20 กว่าปี เจ้า X5 มียอดขายทั่วโลกรวม 2.2 ล้านคัน ฐานการผลิตหลักของโมเดล X5 อยู่ที่สหรัฐอเมริกาในโรงงาน Spartanburg มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ห้วงเวลาแห่งการเดินทางและความนิยมในยานยนต์อเนกประสงค์เปิดโอกาสให้ BMW New X5 รุ่นใหม่ถูกผลิตออกขายในปี 2018 ด้วยรหัสตัวถัง G05 เป็น X5 รุ่นใหม่ล่าสุดที่อุดมไปด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน ควบรวมกับความหรูหราสะดวกสบายของพื้นที่ใช้สอย และการควบคุมที่เน้นหนักด้านประสิทธิภาพของการใช้งาน เป็น Dynamic ที่ผสมผสานดีเอนเอของ BMW เอาไว้อย่างครบถ้วนกระบวนความ 

...

...

BMW Thailand นำเข้ายานยนต์เอสยูวี New X5 ด้วยรุ่น xDRIVE 30d M Sport (CBU) หลังจากนั้นจึงใช้การประกอบในประเทศ (CKD) ด้วย X5 เวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริด X5 xDRIVE 45e ซึ่งเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าใน X5 xDRIVE 40e รุ่นที่แล้ว (F15) มาเป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 สูบ เทอร์โบ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมในรหัสตัวถัง G05 สำหรับรถทดสอบ X5 xDRIVE 30d M Sport รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล มีราคาค่าตัวประมาณ 5,699,000 บาท เนื่องจากใช้วิธีนำเข้าและเป็นรถประกอบต่างประเทศ ทำให้ราคาของเจ้า X5 รุ่นดีเซลพุ่งสูงกว่าเดิมมาก จากอัตราภาษีที่กระหน่ำลงมาเต็มๆ 

...

...

รูปลักษณ์ใหม่ที่มีทั้งความสวยและความดุดันผสมปนเปอยู่ในตัวถังของ G05 ไล่เรียงจากไฟหน้าแบบใหม่ Adaptive LED ระบบไฟอัตโนมัติเวอร์ชั่นล่าสุดของ BMW ทำงานเร็วขึ้นมากและมีความฉลาดปราดเปรื่องใช้ได้ ลำแสงจากหลอด LED มีกำลังในการส่องสว่างไกลมาก ระบบไฟอัตโนมัติสามารถยกไฟสูงเมื่อขับบนถนนที่ปราศจากแสงไฟ ลดไฟสูงหรือใช้วิธีเบี่ยงเบนลำแสงเพื่อไม่ไปแยงตารถที่แล่นสวนมา กระจังหน้าใช้กลไกไฟฟ้าอัตโนมัติสามารถเปิด-ปิดได้ตามสภาวะของอุณหภูมิเครื่องยนต์ เป็นกระจังทรงไตคู่ขนาดใหญ่ยักษ์ซึ่งเป็นจุดที่ BMW เน้นมากเป็นพิเศษเนื่องจากการออกแบบชุดกระจังหน้าจะเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ที่จดจำได้ง่ายของยานยนต์ตราใบพัด กันชนหน้า M มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ที่ใช้ในการระบายความร้อนในห้องเครื่องรวมถึงนำกระแสลมส่วนหนึ่งไประบายความร้อนให้กับชุดคาร์ลิปเปอร์เบรกหน้า ไฟตัดหมอกหลอด LED ที่คมชัดอยู่ในกรอบพลาสติกสีดำเงา ฝากระโปรงหน้าออกแบบให้มีเส้นยกนูนขึ้นจากขอบกระจังเพื่อส่งถ่ายมิติของตัวถังเมื่อแสงตกกระทบ 

เอกลักษณ์ของ BMW X5 G05 ก็คือ ความเป็นรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นยอดนิยมทรงกล่อง เมื่อมาถึงรุ่นใหม่ การออกแบบตัวถังที่แสดงออกถึงความทันสมัยเป็นรถยนต์ยุคใหม่ของ BMW จึงปรากฏอยู่ทั่วไป ทรงด้านข้างโฉบเฉี่ยวและแข็งแกร่งด้วยเส้นด้านข้างตัวถังลากจากแก้มข้างบริเวณซุ้มล้อหน้าแล้วยกตัวขึ้นเล็กน้อยแถวๆ บานประตูหลัง เสาหน้าที่มีองศาความลาดเอียงสมบูรณ์แบบเชื่อมโยงกับแนวหลังคาที่ติดตั้งราวแรคมาให้สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ขนของบนหลังคารถ เสาท้ายมีขนาดที่เล็กลงเมื่อเทียบกับ F15 จากการออกแบบให้เสาท้ายมีชิ้นงานสปอยเลอร์ครอบอยู่ด้านบนพร้อมกับชิ้นงานพลาสติกสีดำเงาแปะติดอยู่ด้านข้างตามแนวทางการออกแบบของรถเอสยูวียุคใหม่

ล้ออัลลอย M Double-spoke ล้อหน้าขนาด 9.5 J x 22" / ยาง 275/35 R22 pirelli p zero ล้อหลังยัดล้อวงโตกว่าด้านหน้า ขนาด 10.5 J x 22" ยางหลังไซส์ 315/30 R22 pirelli p zero ระบบเบรกของ BMW X5 xDRIVE 30d M Sport จัดของดีมีราคามาให้ด้วยคาร์ลิปเปอร์เบรก BMW M Performance Brakes คาร์ลิปเปอร์ 4 พอตใหญ่บึ้ม พ่นสีฟ้าแปะตราสัญลักษณ์ M เบรกหลังแบบซิงเกิ้ลพอต จานเบรกทั้งหน้าและหลังมีร่องระบายความร้อนแต่ไม่ได้เจาะรูระบายความร้อนในตัวจานเหมือนบางรุ่น

มิติตัวถังของ BMW X5 xDRIVE 30d M Sport  มีขนาดความยาว 4,922 มิลลิเมตร กว้าง 2,004 มิลลิเมตร สูง 1,745 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,666 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,686 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 847 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 1,073 มิลลิเมตร ปริมาตรในการบรรจุของ 650 - 1,870 ลิตร น้ำหนัก 2,185 กิโลกรัม

บั้นท้ายใหม่ลงตัวด้วยไฟท้าย LED ที่ให้มุมมองแบบ 3D มีดีไซน์ที่สวยงามสอดรับกับฝาท้ายและกันชนหลัง M ฝาท้ายแบบสองชั้น เปิดออกด้วยระบบไฟฟ้า จะเปิดเฉพาะฝาท้าย หรือเปิดถาดด้านล่างเมื่อต้องยกสิ่งของชิ้นโตๆ เข้าไปเก็บในห้องเก็บสัมภาระส่วนท้าย ท่อระบายไอเสียทรงเหลี่ยมออกแบบให้เข้ากับทรงของกันชนหลัง สำหรับท่อทรงอวกาศคุณจะพบเห็นได้ทั่วไปในรถ BMW ยุคใหม่ ไล่เรียงจาก Z4 G29 / X6 G06 / New Series-7 G12 ที่ใช้ท่อระบายไอเสียทรงเหลี่ยมและมีการออกแบบที่สวยงามดุดันสมกับความเป็นยานยนต์โมเดลใหม่ในค่ายตราใบพัด ชายล่างของกันชนหลังยังติดตั้งวัสดุกันกระแทกสีเงินยวง รวมถึงไฟมัลติรีเฟคเตอร์ที่ช่วยเพิ่มความงามให้กับบั้นท้ายของ New X5 ใหม่ได้อย่างกลมกลืน 

ระบบ keyless entry เมื่อเดินเข้าใกล้ตัวรถกุญแจอิเล็กทรอนิกส์จะสั่งปลดล็อกบานประตูทั้งหมดหรือสามารถปรับตั้งให้เปิดเฉพาะบานคนขับก็ยังได้ กุญแจแบบใหม่ยังสามารถสั่งเปิดหรือปิดฝาท้ายไฟฟ้าช่วยเพิ่มความสะดวกยามต้องขนของแล้วไม่สามารถใช้มือกดเปิดฝาท้ายได้ก็แค่กดที่กุญแจฝาท้ายจะเปิดออกทันที ตอนกลางคืนมีหลอดไฟ LED ที่ติดอยู่กับบานประตูใต้กระจกมองข้างช่วยส่องทางเมื่อต้องการขึ้นหรือลงจากรถ

BMW Live Cockpit Professional ภายในของ BMW New X5 G05 ยกระดับความทันสมัยใหม่หมดหัวจดหางด้วยแผงแดชบอร์ดคอนโซลหน้าสไตล์ BMW ที่เน้นทั้งความสง่างามกับอุปกรณ์ตกแต่งราคาแพง จุดเด่นของ BMW New X5 รุ่น 30d M Sport ก็คือ มาตรวัดเรืองแสงดิจิตอล TFT - thin film transistor รุ่นใหม่ที่ถูกใช้งานใน New Series-3 / New Series-7 / New Z4 / New X6 เช่นเดียวกับจอแสดงขนาดใหญ่บริเวณกึ่งกลางของจอภาพมาตรวัดที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของการแสดงผลได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน พร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นและแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift จอภาพมอนิเตอร์กลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว

New X5 xDRIVE 30d M Sport จัดครบด้วยการควบรวมระบบความบันเทิง infotainment iDrive พร้อมออปชั่นแหล่มๆ ด้วยระบบเสียงชั้นเยี่ยม LOGIC 7® SURROUND SOUND SYSTEM กับลำโพงคุณภาพสูง 16 ตัวจากค่ายเครื่องเสียงติดรถยนต์ชั้นนำ HAMAN KARDON กำลังขับ 464 วัตต์ ลำโพง tweeters 7 ตำแหน่งรอบห้องโดยสารตั้งแต่ด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังลำโพง subwoofers (central bass) 2 ตำแหน่งใต้เบาะคู่หน้า และลำโพงเสียงกลาง midrange speakers อีก 7 ตำแหน่งทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง เสียงไม่ดีก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วโดยเฉพาะความหนักแน่นของซัฟวูฟเฟอร์แบบใหม่และกำลังขับ 464 วัตต์นั้นเหลือรับประทานจริงๆ 

เนื่องจากมีคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz New GLE / Audi Q7 / Porsche Cayenne ภายในของ New X5 30d M Sport จึงจัดเต็มด้านความหรูหราของวัสดุตกแต่งและงานดีไซน์ภายในที่ถูกจริตคนรวย เบาะแถวที่สอง ออกแบบให้แบ่งพับในอัตราส่วน 40:20:40 สำหรับการขนของที่มีขนาดความยาวมากๆ พวกกระดานโต้คลื่นหรือจักรยานเสือหมอบ หรือจะพับให้ราบลงเพื่อเปิดพื้นที่แบบเต็มๆ ขนาด 1,860 ลิตร เบาะหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ หุ้มหนังแท้ Vernasca สีน้ำตาลเข้มอย่างหรู เป็นเบาะหนังที่นุ่มกว่า X5 รุ่นที่แล้ว ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ โอบอุ้มสรีระทั้งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าได้เป็นอย่างดี นั่งขับทั้งวันก็ยังไม่มีตะคริวมาถามหา ปราศจากอาการเมื่อยบริเวณแผ่นหลัง เป็นเบาะที่วางตำแหน่งพร้อมการปรับด้วยไฟฟ้าที่ละเอียดยิบ เบาะแถวหลังพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ จาก 645 ถึง 1,860 ลิตร ออปชั่นพิเศษติดมาให้ใช้งานด้วยหลังคากระจก panoramic roof ใหญ่โตครอบคลุมผืนหลังคาทั้งหมดด้วยกระจกและม่านบังแดดที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้

พื้นที่ภายในโปร่งโล่งจากความสูงของหลังคา ยิ่งไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสงก็ยิ่งโปร่งโล่งมองเห็นรอบๆ ตัวได้อย่างชัดเจน แดชบอร์ดแบบใหม่ใหญ่โตเหมือนเดิม แบ่งการใช้งานหลักๆ ของอุปกรณ์โดยเอียงเข้าหาคนขับเพื่อความสะดวกคล่องตัวในการใช้นิ้วกดเบาๆ หรือหมุน คอนโซลหน้าปรับรูปแบบตามสไตล์ของ BMW ยุคใหม่ มีความหรูหราทุกกระเบียดนิ้วด้วยวัสดุชั้นดี ช่องแอร์ทรงเหลี่ยมล้อมกรอบด้วยพลาสติกที่ทำออกมาให้คล้ายกับอะลูมิเนียม จอภาพตรงหน้าคนขับ Head-up Display เวอร์ชั่นล่าสุด แสดงผลข้อมูลการขับขี่บางส่วนโดยยกจากชุดมาตรวัดขึ้นไปแสดงที่กระจกบังลมบานหน้า ไม่ต้องละสายตาไปมองที่จอกลางหรือลดระดับลงไปมองที่มาตรวัด จอ HUD ขนาด 7x3.5 นิ้ว พร้อมกรฟฟิก 3D แสดงผลข้อมูลความเร็ว ลูกศรแสดงทิศทางในระบบนำทางด้วยดาวเทียม  

กึ่งกลางแดชบอร์ดติดตั้งจอภาพมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานผ่าน iDRIVE หรือจะสั่งงานด้วยการใช้นิ้วสัมผัสที่หน้าจอก็ยังได้ จอภาพมอนิเตอร์ขนาดยักษ์แบบ Panorama บรรจุโปรแกรมต่างๆ เปรียบเหมือนกับคอมพิวเตอร์ส่วนกลางของรถ มีมาให้ครบ เช่น กล้องมองรอบทิศทางความคมชัดสูงไม่เกี่ยงแม้ใช้งานตอนกลางคืนก็ยังชัดแจ่ม กล้องหลังมาพร้อมเส้นระนาบในการกะระยะถอย เชื่อมโยงกับระบบนำจอดอัตโนมัติ ระบบนำทางด้วยดาวเทียม วิทยุ AM / FM เชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกในระบบบลูทูธ รองรับแอปพลิเคชันต่างๆ เพียบ จอแสดงผลกลางยังใช้ปรับตั้งค่าต่างๆ เช่น ระบบไฟ ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง แสดงผลอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เวลาและวันที่รวมถึงอุณหภูมิ การตั้งค่าล็อกหรือปลดล็อกประตู ระบบส่องสว่างทั้งภายนอกและภายใน ที่เจ๋งมากก็คือ ระบบนำทางด้วยดาวเทียมแบบใหม่ของ BMW ที่แจ้งสภาพการจราจรในแบบ Realtime 

ปุ่ม Touch Controller แบบใหม่สวยงามน่าใช้จัดวางอยู่ข้างๆ คันเกียร์ นอกจากปุ่ม Touch Controller ข้างๆ ซุ้มเกียร์ยังมีสวิตช์ปรับโหมด เช่น ECO PRO / COMFORT / SPORT / ADAPTIVE ปุ่ม traction control ปุ่มควบคุมกล้องมองภาพรอบคัน และปุ่มเปิดหรือปิดระบบ Auto Start / Stop ระบบเชื่อมต่อและชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย อันนี้ใช้ได้เฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ๆ ทำงานร่วมกับแท่นชาร์จโทรศัพท์และไมโครโฟนเพื่อให้คุณภาพเสียงในระบบแฮนด์ฟรีดีขึ้นสำหรับการรับหรือโทรออก การเชื่อมต่อเสาสัญญาณบนหลังคาทำให้การรับ-ส่งสัญญาณมีความเสถียร ระบบใหม่ของ X5 ยังช่วยเชื่อมต่อมือถือได้พร้อมๆ กันสองเครื่องผ่านระบบบลูทูธ 

พวงมาลัย M แบบสปอร์ต 3 ก้าน หุ้มหนังแท้ เป็นชุดพวงมาลัยในรถ BMW ที่ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ M Sport ไม่ว่าจะเป็น Series-3 M Sport / Z4 M40i / Series-5 / Series-7 / Series-8 รวมถึงรถยนต์อเนกประสงค์ในตระกูล X ทั้งหมดที่ตกแต่งด้วยชุดแต่ง M Sport ก็จะใช้พวงมาลัย M แบบเดียวกันทั้งหมด รูปทรงของพวงมาลัยแบบใหม่ มีขนาดที่เท่ากับพวงมาลัย M รุ่นที่แล้ว แต่ออกแบบให้ก้านวงมีขนาดใหญ่ขึ้น จุดที่ใช้งานได้ดีกว่าเดิมก็คือแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ Paddle Shift ส่วนสวิตช์บริเวณก้านวงด้านขวาเป็นตำแหน่งของปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์บลูทูธ ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ปุ่มปรับระดับความดังของลำโพงและปุ่มเลือกฟังก์ชั่นการเล่นเพลงผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ก้านวงด้านซ้าย เป็นปุ่มควบคุมระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control 

Ambient Light หลอดไฟ LED ที่ประดับประดาอยู่ในห้องโดยสารจะเรืองแสงในเวลากลางคืน เป็นชุดไฟที่เพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร ติดตั้งที่บานประตู ขอบของแดชบอร์ด มาพร้อมไฟ Welcome Light Carpet ส่องสว่างพื้นที่ด้านข้างบริเวณบานประตูหน้าเมื่อเปิดประตูจะก้าวขึ้นหรือลงจากรถ หลอด LED สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ถึง 11 สี เช่น สีขาว น้ำเงิน ส้ม บรอนซ์ ไลแลค และเขียว 

เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 6 กระบอกสูบ รหัส B57D30 ความจุ 3.0 ลิตร (2,993 ซีซี.) เครื่องยนต์วางตามยาวขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยออกแบบให้วางอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า X5 รุ่นที่แล้วเพื่อลดค่า CG ขนาดความกว้างกระบอกสูบ 83.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 90.0 มิลลิเมตร บล็อกเครื่องยนต์ใช้อะลูมิเนียม แบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC 4 วาล์วต่อสูบ อัตราส่วนกำลังอัด 16.0:1 ระบบอัดอากาศเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ติดตั้งเทอร์โบแปรผันตัวเดียวโดดๆ พร้อมชุดลดอุณหภูมิไอดีอินเตอร์คูลเลอร์ ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่น หัวฉีดแรงดันสูง Piezo มีแรงดันในระบบ 2500 บาร์ ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ตัวเลขสมรรถนะของ X5 xDRIVE 30d เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เคลมมาจากหน้าโรงงานทำได้ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร ขับจริงทั้งในและนอกเมืองทำได้ 11.2 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าประหยัดใช้ได้เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาดที่ใหญ่โตของตัวถังและน้ำหนักรถที่มากถึง 2.1 ตัน ส่วนอัตราการปล่อย CO2 ทำได้ที่ 179 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร เป็นเครื่องดีเซล 6 สูบที่มีความสะอาดใช้ได้เลยทีเดียว 

ระบบส่งกำลังของ X5 30d ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อน 4 ล้อ ZF 8HP เป็นชุดส่งกำลังที่มีประสิทธิภาพของ ZF Friedrichshafen AG สำหรับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบไฮดรอลิก ชุดเชื่อมต่อเพลาหน้าและหลัง Transfer Case และชุดเกียร์ Planetary gearsets พัฒนาเพื่อนำมาใช้งานในรถยนต์ BMW เครื่องยนต์วางตามยาว ระบบเกียร์ทั้งหมด ออกแบบและสร้างโดยบริษัท ZF ใน Saarbrücken ระบบส่งกำลังของ ZF เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน BMW 7 Series (F01) รุ่น 760Li โดยนำมาเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์เบนซิน V12 นับจากนั้นเป็นต้นมา BMW รุ่นใหม่ทุกรุ่นนับจาก Series-1 ไปจนถึง Series-8 รวมถึง Z4 กับรถยนต์อเนกประสงค์ตระกูล X ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็ติดตั้งเกียร์ ZF 8HP ทุกรุ่น หนึ่งในเป้าหมายหลักของระบบเกียร์ ZF 8 สปีด คือ การปรับปรุงอัตราทดให้ครอบคลุมกับรอบเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพในการทดกำลังแล้วถ่ายเทออกมาเป็นแรงบิดในรอบเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเมื่อใช้โหมดประหยัด (ECO PRO) โหมดมาตรฐาน (COMFORT) โหมดซิ่ง (SPORT) และโหมดของคนมือบอนที่ชอบการปรับตั้งค่าต่างๆ ด้วยตัวเอง (Adaptive) การออกแบบชิ้นส่วนภายในใหม่ ทำให้ระยะเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลดลงเหลือ 200 มิลลิวินาที นอกจากนี้อิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการทำงานของเกียร์สามารถเปลี่ยนอัตราทดในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง (กระโดดข้ามเกียร์) จากเกียร์ 8 ถึงเกียร์ 2 ในสถานการณ์ที่เกียร์จะต้องเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเมื่อระบบเบรกถูกใช้งานอย่างเต็มกำลัง รุ่น 8HP70 ออกแบบให้สามารถรับแรงบิดสูงสุดได้ถึง 700 นิวตันเมตร (516 ปอนด์) ชุดเกียร์ทั้งลูกมีน้ำหนัก 87 กิโลกรัม (192 ปอนด์) เกียร์ ZF 8HP เจนเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวในปี 2018 มีการปรับปรุงหลักๆ คือ ประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 2.5% เมื่อเทียบกับเกียร์รุ่นที่ 2 นอกจากนั้นชุดเกียร์ยังออกแบบให้ใช้งานกับระบบ mild hybrid และ plug in hybrid ของ X5 xDRIVE 45e iperformance 

ช่วงล่างไม่ได้ใช้ถุงลมแบบ Adaptive Air Suspension แต่เป็นโช้คอัพไฟฟ้าที่สามารถปรับตั้งค่าได้นิดๆ หน่อยๆ สำหรับเจ้าของที่ชอบขับเร็ว BMW Performance Suspension ด้านหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบนปีกนกคู่ทำจากอัลลอย ด้านหลังเป็นแบบ 5 Link และมีชิ้นส่วนหลักๆ ทำจากอะลูมิเนียม เพื่อลดน้ำหนักใต้สปริง 

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDRIVE พัฒนาต่อยอดมาจาก X5 รุ่นแรกๆ ที่นำเอาเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนทุกล้อของ Range Rover มาปรับใช้ การกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ให้มีความเหมาะสมต่อสภาวะการขับขี่กับสภาพผิวถนน สร้างแรงยึดเกาะและปรับความสมดุลขณะขับเคลื่อน เนื่องจากเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีมวลค่อนข้างเยอะ การทรงตัวของ X5 จึงขึ้นตรงกับแชสซี ล้อ ยาง ช่วงล่าง ชุดบังคับเลี้ยวและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDRIVE ระบบนี้ ใช้สมองกลไฟฟ้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการกระจายแรงบิดอย่างเต็มรูปแบบ เชื่อมต่อการทำงานกับระบบเบรก ABS ด้วยการสั่งเบรกในล้อที่สูญเสียแรงยึดเกาะหรือหมุนฟรี จัดสรรแรงบิดไปยังล้อที่ปราศจากอาการลื่นไถล ทำให้ BMW X5 สามารถลุยทางวิบากได้ อันที่จริงก็ไม่ค่อยจะมีเจ้าของ X5 เอารถไปลุยหนักๆ เนื่องจากค่าซ่อมนั้นแพงแสบไส้ ล้อและยางของมันก็เป็นแบบสปอร์ต ขนาดล้อที่ใหญ่โตมากถึง 22 นิ้ว จำเป็นที่จะต้องลดความสูงของแก้มยางให้เหลือแค่ Series 30 ซึ่งเตี้ยมาก ลำพังแค่วิ่งบนถนนปกติคอยหลบหลุมก็แย่แล้ว หากคิดจะเอาไปลุยซึ่งจริงๆ แล้วมันก็สามารถลุยได้ ก็ต้องหาล้อขอบ 18-19 พร้อมยางที่มีแก้มสูงหรือเปลี่ยนเป็นยาง MT ที่มีลายดอกยางรองรับทางวิบากจะดีกว่าใช้ล้อติดรถที่สวยงามและออกแบบมาสำหรับการขับบนไฮเวย์มากกว่าจะเอามาลุย  

xDRIVE ยังเชื่อมต่อกับระบบรักษาเสถียรภาพของตัวรถ DSC dynamic stability control คอยควบคุมแรงบิดแบบล้อต่อล้อ สั่งเบรกล้อใดล้อหนึ่งได้อย่างอิสระ เพื่อควบคุมล้อให้หมุนไปตามความเร็วรอบอย่างที่ควรจะเป็น จากการประมวลผลของ ECU ช่วยลดอาการหน้าดื้อหรือท้ายปัด รองรับการทำงานภายใต้เงื่อนใขที่มีความสลับซับซ้อน สำหรับการขับเคลื่อนยามปกติ xDRIVE จะเทแรงบิดไปที่ล้อหลังมากกว่าล้อหน้า เพื่อส่งถ่ายฟิลลิ่งในสไตล์ BMW ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง multiple plate clutch เป็นชุดคลัตช์แบบหลายแผ่นทับซ้อนกัน ติดตั้งอยู่ในชุดเกียร์ transfer case ทำหน้าที่กระจายแรงบิดไปยังเพลาหน้าและเพลาหลัง ขึ้นตรงกับระดับของการจับตัวในชุดคลัตช์ มันอาจส่งแรงบิดไปที่ล้อหน้า 100% หรือกระจายแรงขับเคลื่อนระหว่างเพลาหน้า-หลังในอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน รวมถึงโหมดของการขับเคลื่อน มันอาจส่งแรงบิดในระดับ 80:20 / 50:50 / 30:70 / 40:60 ทำงานภายใต้สภาวะต่างๆ ในทุกสภาพถนนและทุกรูปแบบของการขับขี่ (ข้อมูลระบบ xDRIVE จาก Grand Prix Magazine ฉบับที่ 583 / July) 

ในอดีต SUV ยุคแรกๆ ของ BMW ไม่ค่อยจะสมบูรณ์แบบเท่าที่ควร เมื่อยอดขายของรถยนต์ประเภทนี้เริ่มเข้าเป้าและมีแนวโน้มว่าจะทำกำไรมหาศาล ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง BMW ในทุกวันนี้มีรถอเนกประสงค์ทั้งครอสโอเวอร์และเอสยูวีรวมกันเกือบสิบรุ่น ไล่จาก X1 ไปจนถึง X7 การต่อสู้ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์จึงกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ Mercedes-Benz เองก็มียอดขายนำหน้า BMW Group มานาน 4 ปี แล้ว ส่วน Audi ก็ไล่จี้มาติดๆ ด้วยรถเอสยูวีที่ขับโคตรจะดี นี่ยังไม่นับ Porsche / Range Rover / Jaguar / Lexus ที่พากันทยอยส่งรถเอสยูวีลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ลูกค้าหลักๆ ของ BMW โดยเฉพาะลูกค้าเก่าที่เคยใช้ X5 ก็ยังติดอกติดใจในประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งาน X5 ใหม่ ขับได้ดีขึ้นและมีความหรูหราเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา มันใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง เทอร์โบที่มีประสิทธิภาพ ระบบเกียร์ 8 สปีดที่ปรับอัตราทดให้ครอบคลุมต่อแรงบิด 620 นิวตัน-เมตร แรงบิดสูงสุดแค่ 2000 รอบต่อนาทีทำให้ X5 DRIVE 30d เป็นรถเอสยูวีคันโตหนัก 2.1 ตันที่เร่งได้อย่างดุเดือดเลือดพล่าน ราคา 5.6 ล้านบาทในรูปแบบของการนำเข้ามาทั้งคัน (CBU) ทำให้โดนภาษีไปเต็มๆ 

คุณสามารถเป็นเจ้าของมันด้วยการจ่ายเงินสดจำนวน 5,699,000 บาท ออปชั่นพวกอุปกรณ์ไฮเทคเป็นจุดที่ทำให้ X5 รุ่นนี้มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็มีผลกับการตัดสินใจเลือกซื้อเพราะมันเป็นรถเอสยูวีที่ให้อุปกรณ์มาเยอะมาก ขาดแค่ระบบไฮบริดเสริม Mild Hybrid 48V เท่านั้นที่ไม่มี นอกนั้นถือว่าจัดเต็มจนใช้แทบไม่หมด โดยเฉพาะกล้องมองรอบคันแบบใหม่นั้นมีเลนส์ที่ชัดแจ๋วมองเห็นได้อย่างกระจ่างตาทั้งกลางวันและกลางคืน ระบบไฟอัตโนมัติ Adaptive LED ขับตอนกลางคืนตามต่างจังหวัดที่ไม่มีแสงไฟส่องถนนคุณจะเห็นว่ามันทำงานได้เร็วและฉลาดปราดเปรื่องมากกว่าเดิม ไฟที่ส่องสว่างได้ไกลพร้อมระบบปรับลำแสงอัตโนมัติช่วยนำพาคุณกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย หลังคากระจก Panoramic ก็เป็นอีกหนึ่งออปชั่นที่ BMW Thailand ใส่มาให้โดยไม่ได้หั่นทิ้ง รวมไปถึงเครื่องเสียงคุณภาพล้นแก้วอย่าง LOGIC 7® SURROUND SOUND SYSTEM ของ HAMAN KARDON กำลังขับ 464 วัตต์ กับลำโพงคุณภาพสูง 16 ตัว 

X5 ขับได้อย่างนุ่มนวลและค่อนข้างขัดแย้งกับล้อ 22 นิ้วที่ใส่ยางแก้มเตี้ยแค่ Series 30 แม้จะปรับโช้คให้คาอยู่ในโหมด Sport มันก็ยังวิ่งได้อย่างนุ่มสบายก้นอยู่ดี การควบคุมองคาพยพเป็นจุดเด่นในการปรับตั้ง X5 ของวิศวกร BMW พวงมาลัยกับการขับในเมืองที่ย่านความเร็วต่ำในโหมด COMFORT ถูกระบบควบคุมปรับน้ำหนักให้เบาสบายข้อมือ เป็น X5 ยุคใหม่ที่มีความโฉบเฉี่ยวใช้ได้แม้จะตัวใหญ่เอาเรื่องก็ยังคล่องแคล่วว่องไวไม่ว่าจะออกตัวจากสัญญาณไฟหรือเลี้ยวกลับลำในที่คับแคบ การถอยเข้าออกในพื้นที่จำกัดมีกล้องมองรอบคันที่โคตรจะชัดกับสัญญาณเสียงจากเซนเซอร์ตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบรถ การขับด้วยความเร็วต่ำในเมืองของ X5 ปราศจากเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยมาตรการเก็บเสียงแบบใหม่ล่าสุดของ BMW วัสดุซับเสียงที่ติดตั้งรอบๆ ตัวถังมีส่วนช่วยทำให้มันมีห้องโดยสารที่เงียบกว่าเดิม ขนาดยางหน้า 275/35R22 หลัง 315/30R22 ไม่สร้างมลภาวะทางเสียงในย่านความเร็วต่ำ คุณต้องขับจนถึงความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงจะเริ่มได้ยินเสียงยางบดกับผิวถนน และในย่านความเร็วสูงบนไฮเวย์ BMW X5 30d ก็ยังเก็บเสียงได้ดีน่าประทับใจ 

X5 G05 เป็นรถที่ขับดีอย่างแท้จริง เมื่อเร่งความเร็วอย่างเต็มเหนี่ยว มันให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังขี่หลังช้างพลายตกมัน ระบบขับเคลื่อนทุกล้อผสานการทำงานกับช่วงล่างไฟฟ้าและชุดบังคับเลี้ยวแบบแปรผันน้ำหนัก ทำให้ความพยายามในการต่อสู้กับแรงต้านทานหรือโมเมนตัมไม่มากจนเกินไปเมื่อหวดเข้าโค้งแรงๆ ระบบช่วยขับทั้งหมดทำให้คนขับรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของรถ คล้ายการขี่ม้าแข่งชั้นดี แต่ต้องระวังเพราะมันมาพร้อมล้อไซส์โตสุดที่มีขนาดถึง 22 นิ้ว ระบบควบคุมการกระจายแรงบิด ระบบควบคุมความแข็งของช่วงล่าง รวมไปถึงระบบรักษาเสถียรภาพ DSC ทั้งหมดที่ว่ามาเป็นออปชั่นที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเพราะบวกมาให้เสร็จเรียบร้อย อาการโคลงตัวเมื่อต้องผจญกับผิวถนนที่ไม่มีความสม่ำเสมอเกิดขึ้นบ้างแต่ไม่ได้มากจนทำให้นั่งไม่สบายตัว คุณสามารถเดินคันเร่งในช่วงปลายโค้งให้มันทะยานออกไปในโหมด Sport ในขณะที่ตัวถังนั้นก็เอียงกระเท่เร่อย่างน่ากลัวแต่ไม่ยักกะหลุดโค้ง!! หรือเร่งแซงรถคันอื่นออกไปที่นอกเลนก็ยังทำได้ 

คำว่าพุ่งทะยานมีความเหมาะสมเมื่อแรงบิด 620 นิวตัน-เมตรถูกปลดปล่อยออกมาเต็มเหนี่ยว การเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้คนขับรู้สึกได้ถึงแรงผลักดันที่ส่งออกมาจากล้อแต่ละข้าง แม้จะไม่หนักหน่วงเท่ากับ X5 xDRIVE M50d แต่ 30d ก็วิ่งได้อย่างเหลือกำลังลากในย่านความเร็วสูง ให้ความรู้สึกเร็วกว่าตัวเลข 0-100 บนกระดาษด้วยซ้ำไป มันตอบสนองต่ออาการต่างๆ ได้อย่างฉับไว เครื่องยนต์ดีเซลมีแรงบิดรอบต่ำเยอะมาก แค่ 2,000 รอบต่อนาทีมันก็พุ่งลิ่วๆไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละถ้าคุณยังไม่ยอมถอนคันเร่งมันก็จะทะยานอย่างต่อเนื่องไปจนสุดที่ความเร็ว 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อผลักคันเกียร์ไปทางขวาเพื่อเข้าสู่โหมดแมนนวลที่ต้องชิฟเกียร์เอง การไล่เกียร์อันฉับไวของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเมื่อปล่อยให้เกียร์ทำงานไปตามจังหวะของมันเอง อัตราทดในเกียร์ 8 สปีด เริ่มสำแดงความพลิ้วออกมาให้เห็นจากการไหลขึ้นๆ ลงๆ ของเกียร์โดยไม่มีอาการกระตุกกระชากโผล่ออกมาให้เห็น จะมีแค่ความรู้สึกในช่วงออกตัวแล้วต้องยกคันเร่งเมื่อขับในเมือง มันจะให้ความรู้สึกหน่วงๆ แต่เมื่อคุณพามันออกโลดแล่นทางไกล เกียร์จะไหลอย่างเนียนจนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้โหมดแมนนวลแต่อย่างใดทั้งสิ้น  

Sport Mode สมองกลเกียร์จะสั่งให้คาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ 3-4 มากเป็นพิเศษเพื่อเรียกแรงบิด หรือคาแรงบิดเพื่อคงรอบเครื่องเอาไว้ที่ 2500-3000 รอบต่อนาที เป็นโหมดที่ออกแบบให้เหมาะกับการขับเร็ว ช่วยทำให้เจ้า X5 พลิ้วได้อย่างมีจังหวะจะโคน ควงเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เหมาะสมพร้อมๆ กับการเลี้ยงคันเร่งเอาไว้เพื่อกดลงลึกอีกครั้งในจังหวะที่กำลังจะพุ่งออกจากส่วนปลายของโค้ง พวงมาลัยในโหมด Sport หนักหน่วงขึ้นแต่ยังสื่อสารได้อย่างยอดเยี่ยม เที่ยงตรงแม่นยำและทำงานร่วมกับแชสซีได้ดีมาก เมื่อความเร็วเริ่มเยอะเกินไปในโค้ง เสียงยาง pirelli p zero เริ่มดังโหยหวนให้ได้ยินอย่างชัดเจนจากการโดนกระทำชำเรา มันกำลังบอกให้คุณรู้ว่านี่คือการเข้าใกล้กับลิมิตหรือขีดจำกัดของมัน ในภาพรวม X5 ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ ไม่แสดงอาการแปลกๆ ในโค้ง เป็นรถที่ขับแบบเรื่อยๆ ก็ดีมากหรือจะจัดหนักจนยางแหกปากก็ได้ทั้งนั้น 

Dynamic แบบสองคาแรกเตอร์ของ X5 ทำได้เนียนไม่ว่าจะขับเร็วหรือช้า เกือบจะกลายเป็นรถที่เร่าร้อนเอาเรื่องหากไม่มีคู่แข่งสายโหดอย่าง Audi Q7 45TDi Quattro หรือแม้แต่ Mercedes-Benz GLE350d 4MATIC มันโชว์ผลงานการขับตลอดระยะเวลา 10 วันที่อยู่ด้วยกันได้อย่างไร้ที่ติ ทั้งอัตราเร่ง การเลี้ยวโค้ง เบรก และการถอยเข้าออกในพื้นที่คับแคบ เบรก 4 พอต ของ BMW M Performance Brakes ทำงานได้คมกริบและมีประสิทธิภาพมากพอในการหยุดยั้งมวลน้ำหนัก 2.1 ตัน โหมด Sport และ Adaptive ที่ผมปรับให้ทุกอย่างคาอยู่ในระดับการทำงานสูงสุดให้ความรู้สึกถึงการเป็นรถสปอร์ตเอสยูวีแทบจะไม่แตกต่างไปจาก BMW New X6 ที่กำลังจะถูกเปิดตัวในวันที่ 25 มีนาคมนี้ มันเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีสมรรถนะด้านการยึดเกาะกับถนนที่สูงมากกว่ารถคู่แข่งนิดๆ (เท่ากับ Q7) เครื่องยนต์ดีเซลทำอัตราสิ้นเปลืองทั้งในและนอกเมืองที่ 11.2 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนใหญ่ถ้าโล่งก็จะใส่แบบเต็มๆ ไม่ได้มาขับแบบคอยประคับประคองคันเร่งเพื่อเอาตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองสวยๆ มาโชว์ให้กับคนอ่าน

X5 xDRIVE 30d M Sport เป็นรถเอสยูวีที่สมบูรณ์แบบ อาจดูไม่แพงเท่ากับ Porsche Cayenne แต่ใช้งานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำให้คนขับรู้สึกประทับใจ เป็นโอกาสดีที่ X5 รุ่นใหม่เข้ามาปิดช่องว่างอันห่างไกลกับ Cayenne โดยเฉพาะรุ่นที่แรงกว่านี้อย่าง X5 M50d หรือแม้แต่ X5 M ค่าย BMW ยังคงเน้นในเรื่องของการขับขี่ ความสะดวกสบายและความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน มันเป็นรถอเนกประสงค์ที่อยากได้เอาไว้ขับใช้งานทุกวัน ทุกอย่างดูสมเหตุสมผล คุ้มค่ากับเงิน 5.6 ล้านที่จ่ายออกไป มันมีของเล่นไฮเทคติดมาให้ใช้อย่างเต็มเหนี่ยว แม้แต่เศรษฐีขี้เหนียวก็ยังรู้สึกพึงพอใจกับของที่ให้มาละครับ.

BMW X5 xDRIVE 30d M SPORT ราคา 5,699,000 บาท (นำเข้า CBU)
รายละเอียดด้านเทคนิค
เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,993 ซีซี. 
กำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที 
ความเร็วสูงสุด  230 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 6.5 วินาที
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย - อ้างอิงผล ECO Sticker 14.5 กิโลเมตร/ลิตร
ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 183 กรัม/กิโลเมตร
ล้อ ล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke
ขนาดยาง ล้อหน้า: 9.5 J x 22 / ยาง 275/35 R22 pirelli p zero 
ล้อหลัง: 10.5 J x 22 / ยาง 315/30 R22 pirelli p zero
มิติรถยนต์ ยาว 4,922 มิลลิเมตร /กว้าง 2,004 มิลลิเมตร /สูง 1,745 มิลลิเมตร 
ปริมาตรในการบรรจุของ 650 - 1,870 ลิตร
น้ำหนักรถสุทธิ  2,185 กิโลกรัม

ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยี
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic 
ช่วงล่าง Adaptive M 
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) 
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ xDrive 
ระบบควบคุมการขับขี่ขณะเข้าโค้ง (Performance Control) 
ระบบควบคุมการขับขี่ขณะขึ้นทางลาดชัน (Hill-start Assistant) 
ระบบควบคุมการขับขี่ขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control) 
ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ (BMW Head-up Display) 
ระบบจัดเก็บพลังงานจากการเบรกและชะลอความเร็ว 
ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus 
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ 
ระบบเลือกรูปแบบการขับขี่ พร้อมโหมด ECO PRO

อุปกรณ์ภายนอก
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับตามทิศทางหมุนของพวงมาลัย (Adaptive LED) 
ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant) 
ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า 
ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) 
ระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู (Soft-close function for doors) 
กุญแจรีโมตระบบสัมผัส (BMW Display Key) 
หลังคากระจกแบบ Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า 
กระจกมองข้างและกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ 
ชุดตกแต่ง M Aerodynamics 
ขอบหน้าต่างสีดำ เงา 
ราวหลังคาสีดำ เงา 

อุปกรณ์ภายใน
เบาะนั่งปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับ 
เบาะนั่งตอนหน้าแบบ Sport 
เบาะนั่งหนังแท้ Vernasca 
ที่หนุนหลังปรับไฟฟ้าสำหรับเบาะนั่งตอนหน้า 
พนักพิงเบาะหลังแบ่งพับแบบ 40:20:40 
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแบบ M Sport 
ชุดไฟส่องสว่างภายในและนอกห้องโดยสาร (Ambient Light) 
ภายในตกแต่งด้วยไม้ลาย ‘Fineline’ Stripe สีน้ำตาลเงา 
ม่านบังแดดประตูหลัง


ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
BMW Live Cockpit Professional 
ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส 
ระบบ BMW ConnectedDrive 
ฟังก์ชันสั่งงานระบบ iDrive ด้วยการเคลื่อนไหวมือ (BMW Gesture Control) 
ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon 
ระบบเชื่อมต่อและชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย 
ปุ่มเรียกใช้ฟังก์ชันที่ชื่นชอบ 


ความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า 
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า 
ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง) 
ระบบ Teleservices 
ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) 
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) 
ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) 
ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) 
ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) 
ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) 
ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชัน hold อัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง 
เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) 
ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) 
เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง 
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) 
ชุดตกแต่งพิเศษ
ชุดตกแต่ง M Sport

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/