All New Mazda 3 2019 เพิ่งจะเปิดผ้าคลุมในไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะใช้เครื่องเดิมเกียร์เดิม แต่มันมาพร้อมแนวคิดบรรเจิดของคน Mazda ด้วยการถ่ายเทจากมันสมองของวิศวกรผ่าน Concept A New Era Begins แน่ใจได้ว่าแม้บริการจะยังเหมือนเดิมแต่มันขับได้ดีงามมากขึ้น!! เมื่อมองดูจากรูปลักษณ์ของรถรุ่นใหม่ ที่เพิ่มเติมเข้ามาให้คือทรงที่โดนใจกับภายในโคตรแหล่ม All New Mazda 3 มาพร้อมกันสองตัวถัง ทั้ง Fastback 5 ประตู และ Sedan 4 ประตู เป็นรถยนต์เจเนอเรชั่นที่ 4 ในตระกูล Mazda 3 ใหม่ล่าสุด ออกแบบและพัฒนาใหม่หมดหัวจดท้ายโดยไม่มีชิ้นส่วนไหนที่ใช้ร่วมกับ Mazda 3 โฉมเก่า ยกเว้นเครื่องและระบบเกียร์ งานออกแบบภายในที่ยึดโยงปรัชญาของร่างกายมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มีการปรับปรุงแชสซีและความสามารถในการควบคุมอย่างแม่นยำและสมดุล เพื่อเป็นจุดขายเอาไว้ทลายกำแพงของรถคู่แข่งที่มีความแหล่มทั้ง Civic และ New Altis

...

...

Body ดีงาม ภายในรุ่นท็อป สวยทุกซอกทุกมุม 
เปิดตัวได้แค่อาทิตย์เดียว Mazda Sales Thailand ก็พาสื่อมวลชนสายยานยนต์บินลงใต้ไปทดสอบ All New Mazda 3 ใหม่ในจังหวัดภูเก็ต เป็นการขับสั้นๆ แค่วันเดียวรวมระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร นับเป็นการขับทางไกลเพื่อทดลองประสิทธิภาพเป็นครั้งแรกของ KODO Design ลำใหม่ล่าสุดที่กำลังทำตลาดอย่างเข้มข้นเพื่อต่อสู้กับ New Corolla Altis และ Honda Civic คู่แข่งสำคัญที่ครองแชมป์ยอดขายสูงสุดของรถยนต์ซีดานไซส์เล็กในกลุ่ม C-Segment สัมผัสแรกคุณจะพบกับความหล่อของเรือนร่าง ผมชอบรุ่น Fastback 5 ประตู จากรูปทรงที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนักเมื่อเทียบกับรถต้นแบบอย่าง KIA Concept

...

...

งานตกแต่งภายในห้องโดยสารต้องยกนิ้วให้กับดีไซเนอร์ของ Mazda ในจุดนี้กินขาดด้วยรูปแบบที่ทันสมัย (คล้าย BMW และ Audi ในบางจุด) วัสดุที่ใช้ก็ดูดีมีความนุ่มนวลเมื่อสัมผัส ทั้งแดชบอร์ดคอนโซล แผงประตู ซุ้มเกียร์ และพวงมาลัย มาตรวัดแบบใหม่ TFT LCD จอมอนิเตอร์ขนาด 8.8 นิ้วที่มีหน้าตาเหมือน BMW ส่วนพวงมาลัยก็คล้าย Audi ถือว่าทำออกมาได้น่าใช้น่าขับและเหนือกว่าภายในของรถคู่แข่งอย่างชัดเจน 

ขับทดสอบในภูเก็ตและพังงากับแพลตฟอร์มใหม่
เส้นทางทดสอบจากจังหวัดภูเก็ตมุ่งหน้าไปยังจังหวัดพังงาผ่านอำเภอกะปงแล้วไปโผล่ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี ผมโดดขึ้นไปนั่งใน Mazda 3 Fastback 5 ประตูสีแดง Soul Red Crystal ที่เล็งเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้าลานจอดรถ เอาสั้นๆ กันเลยว่า การเปลี่ยนแปลงของ Mazda 3 รุ่นใหม่ ตัวท็อป 2.0SP ราคา 1,198,000 บาท นั้น มีตำแหน่งท่านั่งขับที่ดี เบาะปรับไฟฟ้าเฉพาะคนขับกดลงต่ำได้ดั่งใจคล้ายการขับรถสปอร์ตรุ่น MX-5 จากการออกแบบให้เบาะคนขับสามารถปรับลงจนเตี้ยติดพื้น ไม่ลอยโด่งโจ้งเหมือนรถคู่แข่ง SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ New Mazda 3 มีความคล่องตัวสูง กระชับและขับในเมืองที่มีรถหนาแน่นอย่างภูเก็ตได้อย่างปราดเปรียว เมื่อเจอเข้ากับทางตรงสั้นๆ ผมกดโหมดสปอร์ตแล้วกระแทกคันเร่งเต็มที่ออกตัวจากสัญญาณไฟแดงเมื่อทางข้างหน้าโล่งเพื่อจับอัตราเร่ง เจ้า 3 ตัวใหม่ทำอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ในเวลา 10.2 วินาที ไม่อืดแต่ก็ไม่ได้เร็วอะไร สูสีกับ Toyota New Corolla Altis GR Sport ที่ลองไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แต่ตัวเลข 10 วินาทีในการตะกายจาก 0 ไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นเป็นรองคู่อาฆาตอย่าง Civic  RS แบบโดนทิ้งไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว เนื่องจากเจ้า RS ที่วางเครื่อง 1.5 เทอร์โบนั้นเร่งได้อย่างร้อนแรงกว่าด้วยตัวเลข 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7 วินาทีปลายๆ เท่านั้นเอง    

พวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ 
เมื่อขับเข้าไปใกล้กับจังหวัดพังงา ทางเริ่มอุดมไปด้วยโค้งวกไปวนมา การตอบสนองของพวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่นับว่าดีงาม น้ำหนักที่ปรับเซตมาใหม่อาจทำให้คุณสุภาพสตรีบ่นว่าหนักไปนิด แต่กับยอดรักนักขับที่ชอบรถ Mazda น้ำหนักของพวงมาลัยแบบนี้แหละใช่เลย การหน่วงน้ำหนักทำได้สมบูรณ์แบบ รวมถึงความเที่ยงตรงแม่นยำของพวงมาลัยก็ยังมีมาให้แบบไม่ขาดหรือเกิน เมื่อเลี้ยวยูเทิร์นแรงขืนมือหรือการดีดกลับถูกอกถูกใจสำหรับใครก็ตามที่ชอบขับเร็วๆ ชุดบังคับเลี้ยวที่ดีทำให้รถยิ่งคล่องตัว เล็งไปทางไหนก็ไปตามสั่งไม่มีงกๆ เงิ่นๆ หรือสับสน เป็นพวงมาลัยไฟฟ้ายุคใหม่ของ Mazda ที่ไม่ตกเป็นรองพวงมาลัยในรถยุโรปราคาแพงอีกต่อไป!  

ระบบรองรับ ดีขึ้นทันตาเห็น
นอกจากพวงมาลัย ช่วงล่างที่เป็นเลือดของ Mazda ก็ยังทำออกมาได้ดี ครั้งแรกที่เห็นว่า Mazda ปรับเปลี่ยนช่วงล่างของเจ้า 3 จากที่ระบบรองรับด้านหลังเคยเป็นแบบมัลติลิงค์ก็เปลี่ยนมาเป็นคานแข็งทอร์ชั่นบีม ก็คิดว่าชิ้นส่วนที่ลดลงจากการเปลี่ยนมาใช้ระบบคานแข็งน่าจะทำให้มันทรงตัวแย่ลงแต่กลับไม่ใช่ ทอร์ชั่นบีมที่เซตมาให้นั้นลงตัวกับแพลตฟอร์มใหม่จนไม่ส่งผลกระทบหรือทำให้การทรงตัวเปลี่ยนไปในทางที่แย่ คุณสามารถเข้าโค้งได้อย่างเมามันและสนุกกับสไตล์การขับของมันได้ทุกเมื่อ ช่วงล่างแบบสปอร์ตของ New Mazda 3 หนึบแน่นมากขึ้นแต่ไม่ได้รู้สึกถึงความกระด้างเมื่อขับบนทางปูนซีเมนต์ ความหนึบทำให้ผมเข้าโค้งได้มั่นใจ กะปงเป็นอำเภอที่มีทางโค้งแคบๆ วกไปวนมาน่าเวียนหัว และบางโค้งก็พร้อมจะเหวี่ยงรถออกไปนอกถนนหากใช้ความเร็วสูงเกินไป 

ล้อและยาง 
เมื่อลองขับด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติเล็กน้อยแล้วมุดเข้าโค้งมุมแคบ ยาง Yokohama db เริ่มแหกปากส่งเสียงร้องจากการถูกกระทำชำเรา ยางเน้นเงียบไซส์ 215/45R18 เหมาะกับการขับเรื่อยๆ มาเรียงๆมากกว่าจะเอามาใช้งานในลักษณะที่ค่อนข้างโหดด้วยการเทโค้งแรงๆ และเมื่อฝนเทกระหน่ำลงมา หากเป็นยาง Pilot Sport 4s จะดีงามกว่านี้อีกมาก แต่ยางรุ่น db ของ Yokohama นั้นมีความเหมาะสมกับ New Mazda 3 เนื่องจากเป็นยางเน้นความนุ่มเงียบและเจ้า 3 ใหม่ก็ถูกปรับมาเพื่อทำให้การเก็บเสียงดีกว่าเดิม ความเร็ว 110-130 มันก็ยังเงียบโดยเฉพาะการวิ่งบนทางลาดยางมีแค่เสียงลมเบาๆ แต่เสียงยางจากซุ้มล้อหน้าแทบจะไม่ได้ยิน จากที่ลองขับ New Mazda 3 ถือว่าเป็นรถที่เก็บเสียงได้อย่างเหนือชั้นและแทบจะไม่มีวันที่ New Altis กับ Civic จะเอาชนะได้ในจุดนี้ 

ขุมกำลังต้องพัฒนาและหันมาหาเทอร์โบ!
เครื่องยนต์และเกียร์ก็ทำงานได้ดี มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 12 กิโลเมตรต่อลิตรถ้าขับเร็วๆ และเมื่อขับแบบไหลไปเรื่อยๆ อัตราสิ้นเปลืองก็จะดีขึ้น (เล็กน้อย) เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว ฝาสูบและแคมชาร์ปแบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC มีการติดตั้งระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual S-VT ปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดทำได้แค่ 213 นิวตันเมตรในย่าน 4,000 รอบต่อนาที ส่วนชุดส่งกำลังใช้เกียร์ออโต้ลูกเดิม Skyactiv-Drive 6 สปีด ขับเรื่อยๆ พอใช้ได้ เครื่องยนต์ตอบสนองดี แต่อยากให้มันมีกำลังมากกว่านี้เพราะแชสซีช่วงล่างของเจ้า 3 ใหม่นั้นรองรับแรงม้า 200 ตัว ได้อย่างสบายๆ 

เครื่องยนต์ในอนาคต
Mazda ควรคิดค้นพัฒนาเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบที่มีแรงม้า 170-180 ตัวได้แล้ว ถ้ากลัวว่ามลพิษจะเยอะจนขายในยุโรปลำบากก็แค่เซตให้เครื่องที่ขายให้พวกฝรั่งตาน้ำข้าวมีแรงน้อยลง ส่วนเครื่องที่ขายพวกยอดรักนักขับที่ชอบ Mazda ทั่วโลกยกเว้นประเทศที่เข้มงวดเรื่อง Co2 สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องทำให้แรงม้านั้นสูสีกับตัวเจ็บอย่าง Civic RS การลดความจุแล้วหันมาคบหากับเครื่อง 1.5 - 1.6 ลิตร จะใช้เทอร์โบแบบ Twin Scroll พร้อม Overboost / MONO Scroll หรือ Two Stage Turbo ก็ได้ การเปิดใจและหันมาคบกับเทอร์โบดูจะเหมาะสมและทันสมัยกว่าเครื่อง 2 ลิตรแบบหายใจเองที่ไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรงในการพุ่งทะยานมากนัก เครื่อง 1.6 ลิตร แน่นอนว่ามีน้ำหนักเบากว่าเครื่องเดิมที่เน้นขับเรื่อยๆ มากกว่าจะตอบสนองกันแบบทันอกทันใจ เครื่องยนต์ของ Civic RS เป็นตัวอย่างของความทันสมัยในด้านขุมกำลังแบบใหม่ เครื่องยนต์เบนซินตัวเล็กที่มีความจุแค่ 1.5 ลิตร แต่มีกำลังเกือบๆ 180 แรงม้า สามารถดัน 0-100 ได้แค่ 7.8 วินาที จากการใช้ระบบอัดอากาศเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพยุคใหม่ทำให้เครื่องยนต์ในทุกวันนี้ต้องพึ่งพาเทอร์โบเพื่อเพิ่มสมรรถนะในด้านอัตราเร่งกันทั้งนั้น เทอร์โบยังช่วยในเรื่องของการปล่อยมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอีกต่างหาก เห็นได้อย่างชัดเจนในขุมกำลังของรถยุโรปรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเครื่องเล็กหรือใหญ่ เบนซินหรือดีเซลล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพาระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบกันทุกแบรนด์ไม่เว้นแม้แต่ Plug in  Hybrid ก็ยังยัดเทอร์โบ ในจุดนี้ Mazda ควรปรับปรุงและละทิ้งเครื่อง Skyactiv-X ที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสำเร็จซะ แล้วหันมาพัฒนาเครื่องเล็กติดเทอร์โบจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต! 

เครื่องเสียงขั้นเทพ
นอกจากช่วงล่าง พวงมาลัยและการเก็บเสียงที่ชนะเลิศเหนือชั้นกว่ารถคู่แข่ง (ยกเว้นเครื่องยนต์) อีกหนึ่งจุดที่นับว่าเด็ดก็คือ เครื่องเสียง Bose® Sound System 12 speaker premium audio นี่คือรถราคา 1.1 ล้านที่มีเครื่องเสียงติดรถยนต์ดีสุดในวงการกันเลยทีเดียว ยืนยัน นั่งยัน และนอนยันกันเลยว่าในรถคลาสเดียวกัน Bose® Sound System นั้นแจ่มสุด เสียงแหลมใสปิ๊ง กลางไม่บาดหูและมีพลังของเบสหนักแน่นจากซัพวูฟเฟอร์ที่อยู่ด้านหลัง ฟังเพลงที่บันทึกไฟล์มาดีๆ แบบไม่มีการบีบอัดคุณจะเพลินจนไม่อยากลงจากรถก็แล้วกัน อันนี้รับประกันความเจ็บ! 

สกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ทำงานผสานกับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขั้นสูง GVC Plus Mazda แจ้งว่า GVC Plus จะทำให้คนขับและผู้โดยสารมีความสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าเปลี่ยนช่วงล่างหลังเป็นทอร์ชั่นบีมแล้วจะแย่ลง การเซตช่วงล่างที่ลงตัวทำให้มันเกาะถนนมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นมัลติลิงค์หรือทอร์ชั่นบีมที่ด้านหลัง ไม่มีผลสำหรับการทรงตัวใน Mazda 3 รุ่นใหม่ ทอร์ชั่นบีมทำงานเร็วและมีระยะยืดยุบออกแนวสปอร์ต เมื่อผสมกับช่วงล่างด้านหน้าพื้นฐานแบบแมคเฟอร์สันสตรัทมันก็ลงตัวและให้การยึดเกาะดีกว่าเดิม เทโค้งหรือวิ่งซิกแซ็กเปลี่ยนทิศทาง วิ่งบนถนนไม่เรียบได้ดีเลยทีเดียว


สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE เวอร์ชั่นล่าสุด พัฒนามาเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทั้งผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน All New Mazda 3 2019 มีให้เลือก 2 ตัวถัง ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และฟาสท์แบค 5 ประตู ราคาจำหน่าย เริ่มต้นแค่ 969,000 บาท สูสีกับ New Corolla Altis GR Sport โดย Mazda Sales Thailand จัดโปรพิเศษเอาใจแฟนคลับด้วยโปรแกรมฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance เรียกว่าให้มาเพื่อเพิ่มความมั่นใจของลูกค้าทั้งเก่าและใหม่กันเลยทีเดียว 

Mazda 3 2019 ปรับปรุงทุกด้านเพื่อทำให้มันดีขึ้น เช่น การออกแบบที่สวยงามลงตัว สมรรถนะการขับที่ดีขึ้น (แม้จะเปลี่ยนช่วงล่างหลังมาเป็นแบบคานแข็งทอร์ชั่นบีม) เก็บเสียงดีขึ้นมากถึงมากที่สุด มีการลดเสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์หรือการวิ่งผ่านผิวถนนที่ขรุขระ ลดความกระด้างของช่วงล่าง รวมถึงงานตกแต่งภายในที่ความรู้สึกถึงคุณภาพ จุดนี้ต้องขอบอกว่าทำออกมาได้ดีมากโดยเฉพาะรุ่นสูงสุดที่มีภายในให้ผิวสัมผัสเหนือชั้นกว่ารถคู่แข่งเห็นๆ การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับตลาด C-Segment ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาใหม่ในเกือบทุกองค์ประกอบ การออกแบบ KODO design เน้นความเรียบง่ายทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน เส้นสายทั่วทั้งคันสื่อให้เห็นถึงความตั้งใจ ตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ส่วนตัวถังฟาสท์แบค 5 ประตู เน้นความสปอร์ต แม้จะเป็นรถรุ่นเดียวกันแต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านของงานออกแบบ 

วิวัฒนาการใหม่ของ KODO design หรืองานออกแบบตัวถังของ Mazda Motor คือ การแสดงออกถึงรูปแบบใหม่ยานยนต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น คนของ Mazda แจ้งว่า All New Mazda 3 เป็นรูปแบบของกระบวนการผลิตครั้งแรกที่นำการออกแบบ KODO design ผสานกับการเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้เกิดความเรียบง่ายในทุกองค์ประกอบของตัวรถ ทิศทางของแสงและเงาสะท้อนให้เห็นการเคลื่อนไหวตลอดเวลา แสงที่สะท้อนไปบนตัวรถทำให้เกิดการแสดงออกที่มีนัยสำคัญ เป้าหมายอีกประการหนึ่งในการออกแบบ คือ งานดีไซน์รุ่นฟาสท์แบค 5 ประตูที่ให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่าเดิม ในขณะที่รุ่นซีดานมีเป้าหมายที่จะนำเสนอภาพลักษณ์ที่เน้นความหรูหรามากขึ้น

เครื่องยนต์ SKYACTIV มีการปรับปรุงเพื่อเติมประสิทธิภาพ All New Mazda 3 ประจำการด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ เทคโนโลยี SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น เทคโนโลยีที่ฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง หัวฉีดดีไซน์ใหม่ ปรับอัตราส่วนกำลังอัดให้สูงขึ้น แรงบิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที Mazda เคลมว่าเครื่องยนต์เก่าที่ลงมือปรับปรุงใหม่มีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร ลองวิ่งจริงอยู่ที่ 12 กิโลเมตรต่อลิตรก็ถือว่ารับได้ไม่ซดดุเดือดอะไรออกจะประหยัดด้วยซ้ำ

แพลตฟอร์ม เจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE เป็นแชสซีที่ให้ความสมดุลในการขับเคลื่อน แม้จะเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างหลังแบบคานแข็งก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการซับแรงสั่นสะเทือน แชสซีใหม่ยังถูกต่อยอดไปสู่การพัฒนาตัวรถอีกหลายจุด ทำให้การควบคุมง่ายและเป็นธรรมชาติ มีการพัฒนาตั้งแต่ยางรถยนต์ที่ซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ระบบช่วงล่างที่ออกแบบใหม่ให้ตอบสนองต่อแรงกระทำจากพื้นถนนได้เร็ว กระจายแรงออกไปสู่โครงสร้างตัวถังอย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่องไปถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่านเบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มความสบายในการขับหรือนั่งโดยสาร ระบบควบคุม G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ทำหน้าที่ปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัย และการใช้เบรก เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพเมื่อใช้ความเร็ว ช่วงล่างที่เกาะถนนถือเป็นหัวใจหลักของยานยนต์จาก Mazda มีการเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของล้อทั้ง 4  ทำให้แก้พวงมาลัยน้อยลงในโค้ง พวงมาลัยไฟฟ้าปรับปรุงน้ำหนักและระยะของการหมุนใหม่เพื่อความแม่นยำ ทำให้เข้าและออกจากโค้งได้ดี 

ห้องโดยสารของ All New Mazda 3 2019 มาพร้อมความหรูหราด้วยวัสดุเกรดสูง จุดนี้ต้องยอมรับว่า Mazda ทำออกมาได้ดี มีอุปกรณ์ใช้งานครบครันทุกฟังก์ชั่น ภายในเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมดทุกรายละเอียดโดยออกแบบให้คนขับเป็นจุดศูนย์กลางในการจัดวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม เบาะดีไซน์ใหม่ รองรับสรีระช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะเดิน เพื่อให้การขับขี่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติและสมดุล เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD หน้าจอ HUD head up display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสียิงสะท้อนบนกระจกตรงหน้าผู้ขับ  ระบบเชื่อมต่อสื่อสาร Mazda Connect จัด Apple CarPlay แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสีด้วยจอมอนิเตอร์แบบใหม่ Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่ม Center Commander ห้องโดยสารเพิ่มเติมวัสดุซับเสียงที่ทำให้เงียบขึ้น รุ่นสูงสุดมาพร้อมระบบเสียงคุณภาพจาก Bose®  ติดตั้งลำโพงคุณภาพสูง 12 ตำแหน่ง



ระบบความปลอดภัยยังคงใช้เทคโนโลยี i-ACTIVSENSE เวอร์ชั่นใหม่ All New Mazda 3 2019 ติดตั้งระบบความปลอดภัยที่คิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถให้สูงขึ้นในการปกป้องคนขับและผู้โดยสาร ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบความปลอดภัยของ All New Mazda 3 ประกอบด้วย
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ทำหน้าที่ควบคุมความเร็ว เบรกและเร่งความเร็วไปตามรถคันข้างหน้า 

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน

ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)

ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูง ติดตั้งเซ็นเซอร์เพิ่มเติม

ระบบไฟหน้า LED แบบอัตโนมัติ ALH (Adaptive LED Headlamps) ปรับลำแสงละเอียดขึ้น

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)

กล้องแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)

ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)

ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง


All New Mazda 3 สีตัวถัง
สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (Titanium Flash)
สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
สีเทาใหม่ โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) เฉพาะรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู (และจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น)
All New Mazda 3 2019 ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู ขายราคาเดียวกัน

ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 C ราคา 969,000 บาท
ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
ALL-NEW MAZDA3 รุ่น 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท

ฟรีค่าแรงการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 10 ครั้ง ทุก 6 เดือน หรือ ทุก 10,000 กม. ตั้งแต่ 10,000-100,000 กม. 100,000 กม. ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน ตามเงื่อนไขโปรแกรม Mazda Added Protection.


อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/