Nissan X-Trail รุ่นปรับโฉม 2019 มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีการขับขี่จาก Nissan ที่สอดรับกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นการปรับโฉมรถอเนกประสงค์แนวครอสโอเวอร์ของ Nissan หลังจากออกขายมานานกว่า 4 ปี
การปรับโฉมของ X-Trail โดยภาพรวมจากภายนอกมีการปรับปรุงไฟหน้าและกระจังหน้าใหม่ ส่วนภายในก็ยังมีการปรับแต่งห้องโดยสารให้ใช้งานได้ดีขึ้น Nissan X-Trail รุ่นปรับโฉม เป็นครอสโอเวอร์ในเจนเนอเรชั่นที่ 3 ได้รับการปรับโฉมเพื่อกระตุ้นยอดขาย นับจากเจนเนอเรชั่นแรกที่เปิดตัวในปี พ.ศ.2543 จนมาถึงรุ่นล่าสุดในปัจจุบัน องค์ประกอบทั้งหมดรวมถึงการออกแบบในสไตล์อนุรักษ์นิยมของ Nissan จากความเรียบง่ายของรูปทรงภายนอก มีการปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพของการขับขี่ รวมถึงการใส่ระบบความปลอดภัยที่ครบมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา เนื่องจาก X-Trail เป็นรถยนต์ของ Nissan ที่มียอดขายในประเทศดีพอสมควร รวมถึงยังเป็นรถอเนกประสงค์ที่ขายดีที่สุดตั้งแต่ปี พ.ศ.2558
...
X-Trail รุ่นปรับโฉม ใช้เส้นสายของงานดีไซน์เรียบๆ ออกแบบซุ้มล้อให้มีขนาดใหญ่ ใส่ความโค้งมนบนฝากระโปรง กระจังหน้ารูปตัววีแบบใหม่ หรือ “V-motion” สัญลักษณ์การออกแบบของ Nissan พร้อมไฟตัดหมอก กันชน และไฟ LED daytime running lights ปรับกันชนด้านหลังโค้งรับและเข้ากันกับไฟท้ายทรงบูมเมอแรง มือจับประตูด้านข้างเคลือบโครเมียม ล้ออัลลอยใหม่ขอบ 19 นิ้ว ในรุ่น 2.5VL 4WD สำหรับ X-Trail รุ่นปรับโฉมเพิ่มสีตัวถังแบบใหม่ ด้วยสีส้ม โมนาร์ช (Monarch Orange) เป็นสีที่มีความสว่างกระจ่างตาสุดๆ เมื่อกระทบกับแสงแดด
...
ห้องโดยสารของ X-Trail 2019 ออกแบบที่นั่งในรูปแบบ 5+2 ที่นั่ง (ในรุ่น 2.5 ลิตร) และห้าที่นั่ง (ในรุ่นไฮบริด 2.0 ลิตร) มาพร้อมฝาท้ายไฟฟ้าหรือระบบเปิด-ปิดฝาท้ายอัตโนมัติด้วยระบบแฮนด์ฟรี รางหลังคาและพาโนรามิกซันรูฟ (มีให้เลือกในรถยนต์บางรุ่น) พวงมาลัยใหม่ แบบ D-Shaped พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้ รองรับจำนวนผู้โดยสารในแบบ 5+2 ที่นั่ง ที่นั่งแถว 2 แยกพับได้ 60:40 ที่นั่งแถว 3 แบบ 50:50 สามารถพับเก็บราบกับพื้นเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ X-Trail รุ่นปรับโฉมยังจัดระบบความบันเทิงแบบใหม่ A-IVI พร้อมลำโพงคุณภาพสูงเพื่อรองรับการเล่นเพลงผ่าน CD/DVD และ USB
...
ระบบความปลอดภัย ใน X-Trail รุ่นปรับโฉม จัด Intelligent Cruise Control (ICC) ระบบควบคุมความเร็วที่สั่งการได้แบบอัตโนมัติ เมื่อมีรถอยู่ข้างหน้าและวิ่งด้วยความเร็วคงที่ ระบบสามารถชะลอรถตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างระหว่างรถตามที่ปรับไว้ได้เองแบบอัตโนมัติ เมื่อสามารถกลับมาใช้ความเร็วได้ ระบบจะปรับความเร็วขึ้นเองโดยอัตโนมัติ กลับไปสู่ความเร็วที่ตั้งไว้ โดยมีลักษณะของการเบรกและเร่งความเร็วได้แบบอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
...
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย หรือ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกะพริบเตือนในด้านเดียวกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา
ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า หรือ Intelligent Forward Collision Warning (FCW) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าเมื่อขับขี่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าเมื่อตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าจะส่งสัญญาณและเสียงเตือน
ระบบเบรกฉุกเฉิน หรือ Intelligent Emergency Braking (IEB)
ทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า วิเคราะห์ระยะห่างและความเร็ว ด้วยกล้องด้านหน้าแล้วช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดจากการชนรถยนต์ด้านหน้า
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Warning (LDW)
แจ้งเตือนด้วยเสียงและสัญลักษณ์บนหน้าปัทม์ เมื่อรถเคลื่อนที่ออกนอกช่องจราจร ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุจากการไถลออกด้านข้าง โดยระบบจะทำงานเมื่อมีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบเตือนเมื่อมีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตา หรือ Blind Spot Intervention (BSW)
เมื่อมีรถยนต์อยู่ในจุดอับสายตา ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นด้วยระบบเตือนอัจฉริยะนี้จะทำให้ทุกการขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนช่องทางขับขี่ ทันทีที่สัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิด ระบบจะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกะพริบเตือนให้รู้ล่วงหน้าว่าขณะนั้นกำลังมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้างผู้ขับ
กล้องมองภาพรอบทิศทาง หรือ Intelligent Around View Monitor (iAVM)
ทำให้มองเห็นภาพพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 ชุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล จากนั้นแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และยังทำงานร่วมกับเซนเซอร์ด้านหน้าและด้านหลัง
ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD)
ทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญานเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุ ที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Asisst: HBA) เพิ่มประสิทธิภาพในการส่องสว่าง หลักการทำงานมีกล้องตรวจจับความเคลื่อนไหวและคำนวณระดับความสว่างอัตโนมัติ ตอบสนองความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรถที่สวนทาง ช่วยปรับวิสัยทัศน์ขณะขับขี่ในเวลากลางคืนให้สว่างและปลอดภัย โดยไม่รบกวนรถคันอื่น
ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake: AEB)
ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control: ARC)
ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Active Trace Control: ATC)
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Active Brake Limited Slip: ABLS)
ถุงลม 6 จุด ได้แก่ ถุงลม SRS คู่หน้า ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลมด้านข้าง
Nissan X-Trail รุ่นปรับโฉม มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ และเครื่องยนต์เบนซินพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด โดยเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมระบบส่งกำลังซึ่งใช้เกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT พร้อมโหมด manual mode 7 สปีด
X-Trail 2019 รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน QR25 DE ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี กระบอกสูบ 89.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 100.0 มิลลิเมตร มีกำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
X-Trail 2019 รุ่นเครื่องยนต์แบบไฮบริด MR20DD ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี กระบอกสูบ 84.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 90.1 มิลลิเมตร ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงที่ 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที พร้อมกำลังเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงม้าสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุดจากมอเตอร์ 160 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ไฮบริด แรงดันไฟฟ้า 202 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 887 วัตต์-ชั่วโมง
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมโรเตอร์สวิตช์ (4x4i with roter switch) ใน Nissan X-Trail เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด สามารถเลือกโหมดการขับเคลื่อนได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ระบบรองรับ ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ระบบเบรกหน้า-หลัง ใช้ดิสเบรกแบบมีช่องระบายความร้อน รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร ระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็คแอนด์พิเนียน (Rack and Pinion) พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าผ่อนแรงหมุน EPS
Nissan X-Trail มีความยาว 4,690 มิลลิเมตร กว้าง 1,820 มิลลิเมตร สูง 1,740 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 210 มิลลิเมตร
หลังจากห่างหายไปจากการขับทดสอบรถยนต์แบรนด์ Nissan นานจนคิดถึงค่ายรถจากญี่ปุ่นที่มีฝรั่งเป็นเจ้านายก็ส่งจดหมายเชิญให้ไปขับทดสอบ new X-Trail ในแผ่นดินพม่ารามัญ เป็นการกลับมาอีกครั้งของ X-Trail รุ่นปรับปรุง จากการสังเกตดูรอบคัน ทรงที่มีความโค้งมนของ X-Trail ใหม่ยังเหมือนเดิม เจ้า X-Trail คันทดสอบที่จะต้องขับเป็นไม้แรก เป็นรถของ Nissan Motor Thailand ที่สื่อมวลชนกลุ่มที่ 1 ขับข้ามประเทศมาจากชายแดนพุน้ำร้อนจนมาถึงเมืองย่างกุ้ง เป็น X-Trail 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท แพงกว่า X-Trail 2.5V 4WD รุ่นที่แล้วซึ่งมีราคา 1,551,000 บาท
การขับ New X-Trail ในเมืองย่างกุ้งของพม่า แม้จะเป็นรถพวงมาลัยขวาแต่ก็ต้องขับในช่องทางด้านขวา ซึ่งแตกต่างจากไทยที่ขับในช่องทางซ้าย แม้การจราจรในเมืองหลวงเก่าของพม่าจะหนาแน่น แต่ X-Trail กลับให้ความรู้สึกที่คล่องตัวในย่านความเร็วต่ำ ขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าซีดานขนาดกลางเล็กน้อย แต่พวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับให้รู้สึกเบามือในย่านความเร็วต่ำทำให้การหักเลี้ยวกลับลำหรือมุดถอยเข้าออกในที่จอดรถแคบๆ ไม่สร้างภารกรรมให้กับคนขับ กล้องแบบ Around View Monior หรือกล้องมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (iAVM) ช่วยทำให้การขับถอยหลังมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เกียร์ออโต้ Xtronic CVT มีระบบแปรผันที่ปรับอัตราทดเกียร์ออกมาได้ 7 สปีด ให้ประสิทธิภาพด้านอัตราทดที่เน้นความเรียบเนียน ความไหลลื่นของเกียร์ขณะทำงานด้วยการเปลี่ยนขึ้น-ลงแทบไม่รู้สึก เป็นเกียร์สายพานพูเล่ย์ถูกปรับมาให้เข้าคาแรกเตอร์แบบรถขับสบายของ X-Trail ความเรียบเนียนเกิดจากกลไกสายพานโลหะภายในของเกียร์ และ ECU ที่ใช้ควบคุมการทำงานซึ่งต่อเชื่อมกับ ECU ของเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัวโดยเน้นไปที่ประสิทธิภาพของการทดกำลังและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ขับเรื่อยๆ ในเมืองย่างกุ้งเนื่องจากมีรถติดเยอะมาก เมื่อใช้คันเร่งปกติไม่กระโชกโฮกฮากก็จะพบกับความประหยัดแบบที่ต้องการ X-Trail รุ่น 2.5 VL 4WD โดยเฉพาะความนุ่มและความเงียบที่ย่านความเร็วต่ำ นอกเหนือไปจากนั้น น้ำหนักของพวงมาลัยไฟฟ้าที่เบาสบายข้อมือยังไม่ขาดความแม่นยำในการเปลี่ยนทิศทางซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของรถยนต์ยุคใหม่ที่ถูกปรับการขับขี่ให้มีสมรรถนะที่สอดคล้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน นั่นก็คือความแม่นยำพร้อมน้ำหนักที่เบาสบายมือในย่านความเร็วต่ำ
รุ่นเบนซิน 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี ขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ 4WD มีน้ำหนักตัว 1,670 กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 32 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉม จากอุปกรณ์อำนวยการขับขี่ที่ใส่เพิ่มเข้ามาอีกหลายรายการ นอกจากจะขับได้นวลจากการใช้ช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงก์ พวงมาลัยไฟฟ้ายังคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้นและตอบสนองอย่างตรงไปตรงมา การออกแบบและวางเครื่องยนต์ให้มีกำลังที่พอตัวผสมกับระบบส่งกำลังหรือเกียร์ที่ช่วยลดรอบเครื่อง ทำให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้น การใช้งานในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่เจ้าของรถอเนกประสงค์จะขับในเมืองเป็นหลักพอวันหยุดสุดสัปดาห์ถึงจะนำออกมาวิ่งทางไกลข้ามจังหวัดเพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัว บนไฮเวย์จากเมืองย่างกุ้งมุ่งหน้าสู่เนปิดอว์เมืองหลวงใหม่ของพม่า เป็นทางลาดปูนที่ไม่ค่อยจะเรียบเท่าที่ควรและมีระยะทางประมาณ 362 กิโลเมตร
ตลอดเส้นทางจากย่างกุ้งไปเนปิดอว์ Nissan X-Trail มีการขับขี่ที่เป็นมิตรและเป็นยานพาหนะที่เหมาะสมกับการเดินทางระยะไกล จากลักษณะของการขับขี่ที่แสดงออกมาในแนวรถขับสบายไม่กระด้างหรือสั่นสะเทือน เครื่องยนต์และเกียร์ทำงานราบเรียบไหลลื่น เมื่อกดคันเร่งลงจนสุดเพื่อเร่งแซงรถช้าก็ไหลขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ได้แรงจนกระชากทำให้สามารถควบคุมอาการของตัวรถได้อย่างสบาย ถนนในพม่าโดยเฉพาะทางด่วนแบบไฮเวย์ค่อนข้างหน้าเบื่อ เป็นทางตรงยาวสุดลูกหูลูกตาขับกันทั้งวันจนง่วงเนื่องจากกฏหมายจำกัดความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชุดบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้าใน Nissan X-Trail เมื่อวิ่งที่ความเร็วต่ำจะมีน้ำหนักที่เบาแต่ความแม่นยำยังคงมีให้เท่าที่คุณต้องการ และเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ควบคุมน้ำหนักของพวงมาลัยจะเติมน้ำหนักอีกนิดเพื่อไม่ทำให้รู้สึกว่าเบาเกินไปจนอาจทำให้ขาดความมั่นใจ น้ำหนักของพวงมาลัยที่ถูกหน่วงจนรู้สึกได้เมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงเป็นประสิทธิภาพของชุดบังคับเลี้ยวยุคใหม่ ช่วยทำให้การเปลี่ยนทิศทางในย่านความเร็วสูงมีความมั่นคงยิ่งขึ้น อาการโคลงตัวปรากฏขึ้นบ้างเมื่อต้องเผชิญกับผิวถนนที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในพม่า
เช้าวันต่อมาก็ต้องย้ายก้นมาขับ X-Trail Hybrid รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท จุดสังเกตในด้านรูปลักษณ์ของรุ่น Hybrid เริ่มจากกระจังหน้าแบบใหม่ คาดด้วยพลาสติกสีฟ้า ชายล่างของสปอยเลอร์หน้ามีคิ้วสีฟ้าคาดยาวอยู่ใต้ช่องรับอากาศของกันชนหรือสปอยเลอร์หน้า สัญลักษณ์ Puredrive Hybrid ที่ประตูหน้าทั้งสองบาน มิติตัวถัง กว้าง 1,820 มิลลิเมตร ยาว 4,640 มิลลิเมตร และสูง 1,710 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร ความกว้างฐานล้อหน้า-หลังเท่ากันที่ 1,575 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,704 กิโลกรัม ตัวหนักขึ้นอีกนิด น้ำหนักเพิ่มเข้ามาในส่วนของระบบ Hybrid ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์และแบตเตอรี่ รวมถึงระบบความปลอดภัยและระบบให้ความบันเทิง น้ำหนักที่เพิ่มเข้ามาในส่วนของระบบขับเคลื่อนไม่มากจนไปกระทบกับสมรรถนะของตัวรถ ไฟหน้ามีหลอด LED Daytime Running Light กับไฟตัดหมอกทรงกลมที่ชายล่างของสปอยเลอร์หน้า ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เสาอากาศทรงครีบปลาฉลาม
Nissan X-Trail Hybrid วางเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ขนาด 2.0 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,997 ซีซี รหัส MR20DD DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ระบบจ่ายเชื้อเพลิงไดเร็คอินเจคชั่น เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ถูกต่อพ่วงเพื่อทำงานร่วมแกนกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมอเตอร์ไฟฟ้าของ X-Trail Hybrid ให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร และเมื่อทั้งสองระบบทำงานผสานกันทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า Nissan X-Trail Hybrid จะมีกำลังสูงสุดรวม 179 แรงม้า
X-Trail Hybrid มีเครื่องยนต์ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ปั๊มน้ำและคอมเพรสเซอร์ไม่มีการใช้สายพานเพื่อช่วยลดแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ และลดการสูญเสียกำลังโดยไม่จำเป็น ขณะที่วาล์วไอเสียหล่อโซเดียมเพิ่มการระบายความร้อนของห้องเครื่องได้ดียิ่งขึ้น การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และมอเตอร์และเทคโนโลยีคลัตช์คู่อัจฉริยะ รวมถึงเกียร์ XTRONIC CVT พร้อม Manual Mode 7 สปีด ช่วยให้ Nissan X-Trail Hybrid เป็นรถที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงโดดเด่นสุดในคลาส SUV Hybrid ขนาดกลาง โดยประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ถึง 20% แบตเตอรี่ไฮบริดแบบ Li-ion แรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่ 202 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 887 วัตต์ต่อชั่วโมง
สำหรับชุดขับเคลื่อนไฮบริด หรือ Nissan Pure Drive Hybrid System มีการนำเอาเทคโนโลยีคลัตช์คู่อัจริยะ หรือ Intelligence Dual Clutch System ที่ประยุกต์ใช้กับรถยนต์วางเครื่องยนต์ด้านหน้าและขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า - ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยไม่ต้องมีการดัดแปลงในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมให้กับรถยนต์ Nissan X-Trail จากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินมาสู่รุ่นเครื่องยนต์แบบไฮบริด เทคโนโลยีคลัตช์คู่อัจฉริยะ (Intelligence Dual Clutch System) ประกอบด้วย คลัตช์จำนวน 2 ตัว คลัตช์ตัวที่ 1 ติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ และคลัตช์ตัวที่ 2 อยู่ระหว่างมอเตอร์และเชื่อมต่อกับเกียร์พูลเล่ย์สายพาน XTRONIC CVT โดยมีรูปแบบการทำงานดังนี้
1-เมื่อรถยนต์ต้องการกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ เช่น ช่วงการเร่งแซง หรือทำความเร็ว คลัตช์ทั้ง 2 ตัวจะทำงานพร้อมกัน ทำให้เกียร์ CVT ได้รับกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าสีภายนอก 6 สีให้เลือก ได้แก่
2-การขับขี่ในช่วงที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวจะมีการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่จากเครื่องยนต์ คลัตช์ตัวที่ 1 จะทำงาน เพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ส่งไปขับเคลื่อนเกียร์ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า จะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์เพื่อรีชาร์จประจุไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่
3-เมื่อระบบไม่ต้องการกำลังจากเครื่องยนต์คลัตช์ตัวที่ 1 ที่อยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ จะตัดการทำงานจากเครื่องยนต์ ผลที่ตามมาคือเครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจากการหมุนของเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้องเหลือเพียงมอเตอร์ไฟฟ้ากับเกียร์เท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว เครื่องยนต์จะทำงานเหมือนกับเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) สีแดง เรเดี้ยนเรด
4-ระบบคลัตช์คู่อัจฉริยะ สามารถทำงานที่ความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบไฮบริดทั่วไป โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำในย่านความเร็วสูงอีกด้วย
5-ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD ทำงานผ่านระบบคลัตช์คู่ทั้ง 4 ล้อ โดยรับกำลังแรงบิดจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าโดยตรง
การขับทดสอบ Nissan X-Trail Hybrid รุ่นปรับโฉม 2019 เริ่นต้นขึ้นในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2562 ด้วยการออกสตาร์ตจากโรงแรม Aureum Palace ในเมืองเนปิดอว์มุ่งหน้าไปยังเมืองพุกาม เป็นการขับเดินทางไกลไปยังภาคเหนือของพม่าที่แห้งแล้งและกันดาร รวมระยะทางในวันที่ 2 ประมาณ 270 กิโลเมตร ตำแหน่งคนขับของ X-Trail นั้นวางมาดีสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ X-Trial เป็นยานยนต์ที่มีห้องโดยสารกว้างขวาง ความโปร่งโล่งเกิดขึ้นจากการออกแบบที่คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย กลายเป็นมาตรฐานในการสร้างรถยนต์ของแบรนด์ Nissan ซึ่งมักจะออกแบบห้องโดยสารให้มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารถคู่แข่ง ท่านั่งที่ค่อนข้างสูงแม้จะปรับเบาะไฟฟ้าให้ต่ำลงจนสุดมันก็ยังสูงอยู่ดี กระแส Crossover / SUV ที่กำลังมาแรงจากยอดขายส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นทุกปี Nissan เองก็มีรถยนต์ประเภทนี้ออกขายทั่วโลกโดยเฉพาะตลาดใหญ่ยักษ์ในอเมริกาและจีน ซึ่งรวมไปถึงรุ่น Teara รถยนต์อเนกประสงค์แบบพีพีวี-เอสยูวี ทั้งๆ ที่ขับได้ดีแต่ยอดขายก็ยังตามหลังคู่แข่งอยู่ไกลลิบ กลายเป็นโจทย์สำคัญที่ผู้บริหารของ Nissan จะต้องหาทางแก้ไขกันต่อไป
Nissan X-Trail Hybrid เหมือนกับ X-Trail รุ่นมาตรฐานจนมองแทบไม่ออกหากไม่สังเกตสัญลักษณ์เล็กๆ ที่ติดแปะอยู่รอบตัวถังรวมถึงชิ้นงานตกแต่งภายนอกที่แสดงออกถึงความเป็นรถยนต์เครื่องยนต์ลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า กดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์แต่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเนื่องจากการทำตัวเป็นจักรกลพลังงานผสม เมื่อเลื่อนคันเกียร์จากตำแหน่ง P ไปยังตำแหน่งขับเคลื่อนที่ D เครื่องยนต์ติดขึ้นเบาๆ พร้อมการเคลื่อนตัวที่นิ่มนวล การปรับแต่งระบบรองรับให้ออกมาในแนวนั่งสบายโดนใจคนไทยที่รักการขับไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่ชอบความนุ่มนวล พอออกนอกตัวเมืองเข้าสู่ไฮเวย์ทางด่วนของพม่าจากเมืองหลวงเนปิดอว์ไปยังเมืองเก่าพุกามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เครื่องยนต์ MR20DD กับมอเตอร์ไฟฟ้าสลับหน้าที่ในการขับเคลื่อนตัวรถโดยมีระบบไฮบริดที่เรียกว่า Nissan Pure Drive Hybrid System คอยประคับประคองแบ่งสันปันส่วนพลังงานทั้งจากเครื่องยนต์และจากมอเตอร์สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนประสานการทำงานด้วยความเนียน ถนนยังคงย่ำแย่เหมือนเดิม บางช่วงบางตอนเมื่อขับออกจากไฮเวย์คุณก็จะพบกับทางลาดยางสองเลนสวนกันที่ค่อนข้างจะแคบ ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังกับรถมอเตอร์ไซค์เจ้าถิ่นและรถอีแต๋นที่บรรทุกทั้งของและคนมาจนเต็มรถ
คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานอย่างหนักเพื่อคงอุณหภูมิภายในห้องโดยสารให้เย็นฉ่ำขณะขับท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุของเขตเมืองพุกาม อุณหภูมิภายนอก 43-45 องศาเซลเซียส ร้อนจนแสบผิว แต่ระบบปรับความเย็นของ Nissan X-Trail Hybrid มีการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ที่แตกต่างออกไปจากรถยนต์ไฮบริดแบบอื่นๆ คอมแอร์ยังคงทำงานขณะที่เครื่องยนต์ดับและส่งไอเย็นออกมาตลอดเวลาเมื่อจอดรอการเคลื่อนตัว ทำให้อุณหภูมิของห้องโดยสารคงที่อยู่ตลอดเวลา แตกต่างจากรถยี่ห้ออื่นที่ระบบ Auto Start/Stop เมื่อทำงานคอมแอร์จะหยุดการทำงานไปด้วย ทำให้ห้องโดยสารร้อนอย่างรวดเร็ว แม้จะจอดติดสัญญาณไฟนานๆ หากกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีมากพอ เครื่องยนต์จะดับตัวเองนานจนคุณแปลกใจพร้อมๆ กับความเย็นภายในห้องโดยสารที่ไม่ลดลงตามการหยุดทำงานของเครื่องยนต์ ECO Mode กับการทำงานของคอมแอร์ที่คอยให้ความเย็นอย่างต่อเนื่องเหมาะกับการขับใช้งานในเมืองร้อน เมื่อต้องการเร่งความเร็วเพื่อแซงก็แค่กดคันเร่งให้ลึกมากกว่าปกติคุณก็จะได้ความกระฉับกระเฉงว่องไวในการวิ่งออกจากจุดหยุดนิ่งซึ่งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะผสานการทำงานส่งถ่ายแรงบิดสำหรับการขับที่ต้องการความรวดเร็ว ที่ชอบมากคือการตัดต่อการทำงานของเครื่องยนต์ที่ติดๆ ดับๆ ไปตลอดทาง และมีความเนียนนุ่มไม่มีอาการกระตุกขณะเครื่องยนต์ติดตัวเองขึ้นมาเพื่อเสริมแรงบิดร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จังหวะยกคันเร่งเครื่องจะดับแต่ไม่ทำให้คุณรู้สึกถึงอาการกระตุกเมื่อกดคันเร่งต่อแล้วเครื่องยนต์กลับมาติดอีกครั้ง ในจุดนี้ถือว่า Nissan X-Trail Hybrid ทำออกมาได้เหนือกว่ารถไฮบริดคู่แข่ง แต่จุดที่ไม่ชอบก็คืออาการของแป้นเบรกและระยะเบรกเนื่องจากเป็นระบบเบรกแบบสะสมพลังงาน การเบรกจึงต้องปรับความรู้สึกกันพอสมควรเนื่องจากน้ำหนักของแป้นเบรกและระยะของการเบรกแตกต่างจากระบบเบรกในรถปกติทั่วไป
ใต้ฝากระโปรงของ X-Trail Hybrid มีเครื่องเบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 2 ลิตร 1,997 ซีซี รหัส MR20DD เป็นขุมกำลังที่ถูกออกแบบให้มีการทำงานในรอบต่ำเพื่อประหยัดเชื้อเพลิงควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงบิดและชุดส่งกำลังแบบ X-TRONIC CVT ระบบ Nissan Pure Drive Hybrid System ของ X-Trail ยังสามารถทำให้อุณหภูมิของเครื่องขึ้นถึงจุดที่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว แถมยังลดอุณหภูมิในระหว่างการเดินทางไกลโดยไม่มีจุดต่อพ่วงกับเครื่องยนต์เพื่อลดแรงเสียดทาน เมื่อผู้ขับใช้ความเร็วคงที่ สมรรถนะของระบบ Hybrid จะส่งผลไปถึงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น การขับในโหมด ECO จะเป็นการผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อกดคันเร่งมันจะเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเงียบ เกิดจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เข้ามาทำหน้าที่ผสมผสานกับเครื่องยนต์ในช่วงของการออกตัว หากแบตเตอรี่มีกระแสไฟพอเพียงมันจะไหลไปเรื่อยๆ พร้อมสัญลักษณ์ EV ที่หน้าปัด จนเมื่อวิ่งไปได้สักครู่ไม่ไกลนักเมื่อแบตเตอร์รี่มีไฟน้อยลง เครื่องยนต์จะติดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเซนเซอร์ของมันจับได้ว่าพลังงานในแบตเตอรี่ถูกใช้ในการขับเคลื่อนจนใกล้หมด การติดๆ ดับๆ จะเกิดขึ้นตลอดสำหรับการขับขี่ใช้งานเจ้า X-Trail Hybrid โดยที่ผู้ขับแทบจะไม่รับรู้การทำงานของระบบ Hybrid ดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและนิ่มนวล เครื่องยนต์เบนซินตัวนี้ยังใช้ปั๊มน้ำแบบไฟฟ้าแทนการใช้ปั๊มน้ำแบบสายพาน ช่วยในการลดการเสียดสีซึ่งเป็นการสูญเสียพลังงานจากแรงเสียดทาน และตามมาด้วยตัวเลขที่ดีขึ้นด้านอัตราความประหยัดเชื้อเพลิงที่ทำได้ประมาณ 13 กิโลเมตรต่อลิตร เป็นตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของการขับในเมืองและการขับออกทางไกล
เครื่องยนต์ MR20DD จะถูกเสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 30 กิโลวัตต์ หรือ 41 แรงม้า ทันทีที่ผู้ขับกดคันเร่งเพื่อแซง หรือต้องการใช้ความเร็วในการขับขี่ในโหมด ECO เมื่อกดคันเร่งการตอบสนองจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป คันเร่งมีอาการค่อนข้างยืดหยุ่น เกิดจากการทำงานของชุดคันเร่งไฟฟ้าแบบ drive by wire ซึ่งใช้เซนเซอร์เชื่อมต่อกับโหมดการขับ ECO ในโหมด EV เจ้า New X-Trail Hybrid จะสามารถวิ่งด้วยความเร็วต่ำประมาณ 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยได้ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร หลังจากนั้นเครื่องยนต์จะติดตัวเองขึ้นแบบอัตโนมัติแล้วรับหน้าที่ขับเคลื่อนต่อไปพร้อมกับชาร์จประจุกระแสไฟฟ้าเข้าไปกักเก็บยังแบตเตอรี่ด้านหลัง หมุนเวียนอยู่แบบนี้ตลอดการขับขี่ใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบปกติโดยสิ้นเชิง การสลับสับเปลี่ยนการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า อย่างที่บอกว่าทั้งสองระบบทำงานประสานกันอย่างเนียนจนแทบจะไม่รู้สึกถึงการตัดต่อ มีเพียงแค่จอแสดงผลของสถานะในระบบไฮบริดบนหน้าปัดเท่านั้นที่บ่งบอกว่ามันกำลังทำงานด้วยระบบใด ความเงียบของเจ้า X-Trail Hybrid เมื่อขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ ในโหมด EV จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ระมัดระวังคนเดินเท้า รวมถึงคนขี่จักรยานที่อาจไม่ได้ยินเมื่อคุณขับตามหลังในโหมด EV ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆ อีกด้วย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากการขับแบบปกติธรรมดาที่มนุษย์ทั่วไปใช้ในการเดินทาง โดยได้ตัวเลขของความประหยัดที่ 13 กิโลเมตรต่อลิตร บนความเร็วเดินทางในระดับ 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไปเร็วกว่านี้ก็ผิดกฎหมายของทางการพม่าและเสี่ยงต่อการโดนจับกุมข้อหาขับรถเร็ว ซึ่งจะต้องโดนพาตัวไปอบรมบ่มนิสัยนานถึง 4 ชั่วโมง!!
การตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าเมื่อขับออกทางไกลจะถูกเพิ่มระดับขึ้นอีก 25% ตามการคำนวณและปรับตั้งมาจากโรงงาน คันเร่งให้ความรู้สึกแทบจะไม่แตกต่างจากรถยนต์นั่งขนาดกลาง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เมื่อทำงานพร้อมกันทั้ง 2 ระบบ (เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า) มีให้ทั้งความกระฉับกระเฉงและว่องไวเร่งแซงได้อย่างทันอกทันใจ พวงมาลัยไฟฟ้าก็ยังปรับตัวเองให้สื่อสารกับคนขับได้ดีในระดับที่น่าพอใจแม้จะใช้ความเร็วสูงขึ้น ช่วงล่างที่ค่อนข้างจะออกไปในแนวหนึบนิ่ม แต่การยึดเกาะกับผิวถนนของยางให้รู้สึกมั่นใจได้แทบจะไม่แตกต่างจากซีดานขนาดกลางบางยี่ห้อ Nissan X-Trail Hybrid ไม่ใช่รถที่ออกแบบมาเพื่อเอาไว้ทำความเร็ว แต่การขับบนไฮเวย์ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่อย่างชัดเจนด้วยระบบไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ
การวิ่งด้วยความเร็วเดินทางที่ถูกกฎหมายจราจรของพม่าในย่าน 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางไฮเวย์ ได้พิสูจน์ตัวมันเองอย่างเด่นชัดถึงประสิทธิภาพของระบบ Hybrid ที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ได้อย่างโดดเด่น อุปกรณ์แยกกำลัง Power Split Device รับหน้าที่ในการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ชุด Power Control Unit จะรับหน้าที่ควบคุมไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ รวมถึงกระแสไฟฟ้าแบบสลับ จากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือเจเนอเรเตอร์ มันจะขยายกำลังไฟจากแบตฯ ลิเธียม ไอออนได้สูงถึง 30 กิโลวัตต์ หรือ 41 แรงม้า เพื่อป้อนพลังงานในรูปของแรงบิดถ่ายเทลงไปยังล้อขับเคลื่อน เป็นงานวิศวกรรมจักรกลที่เหมาะสมกับการขับเคลื่อนยุคใหม่ ระบบไฮบริดเข้ามาแทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบปกติที่กินเชื้อเพลิงมากกว่า กำลังจากเครื่องเบนซินขนาด 2 ลิตร สามารถดึงออกมาใช้งานได้ในทุกห้วงเวลาที่ต้องการเร่งความเร็วเพื่อแซง มันอาจไม่ใช่รถที่เร็วเหมือน Plug in Hybrid จากยุโรปซึ่งมีค่าตัวแพงกว่า 3 เท่า แต่ X-Trail Hybrid ก็มีความเร็วพอที่จะเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ที่ต้องการกำลังในการเร่งแซงทั้งบนทางไฮเวย์และตามถนนหนทางทั่วประเทศพม่า
การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารของ X-Trail Hybrid บนผิวถนนที่หลากหลาย ทั้งทางปูนและทางลาดยางทำได้ดีในระดับมาตรฐานทั่วไป วัสดุที่ใช้ประกอบเป็นภายในของ X-Trail Hybrid ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นวัสดุสังเคราะห์พวกพลาสติก ที่ความเร็ว 80-กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีเสียงยางที่ดังลอดเข้ามาให้ได้ยิน เมื่อลองเร่งความเร็วในย่านความเร็วสูง เสียงลมที่ปะทะกับตัวถังนั้นเริ่มลอดเข้ามาให้ได้ยินกันในย่าน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การออกแบบตัวถังที่เน้นความไหลลื่นเมื่อปะทะเข้ากับกระแสอากาศ ทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานของอากาศที่เข้ามากระทำกับตัวรถอยู่ในค่ามาตรฐานของ SUV ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.33 (cd 0.33) รวมถึงการปล่อยก๊าซ CO2 100 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตรก็ยังต่ำใช้ได้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เสื่อมโทรมลง จากการใช้งานเครื่องจักรกลของมนุษย์ที่ปล่อยมลพิษออกสู่บรรยากาศมานานนับร้อยปี ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ส่งผลให้อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนของพม่าในเขตเหนือร้อนจัดราวกับเตาอบ สองข้างทางมีต้นไม้เขตร้อนอย่างต้นอากาเซียและตะบองเพชรรวมถึงต้นตาล พืชทนแล้งที่ชอบขึ้นอยู่ทางเขตเหนือของประเทศพม่า
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร Nissan เคลมว่า X-Trail Hybrid ใช้เวลาตะกายจากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงประมาณ 10.4 วินาที เมื่อลองจับเวลาหาอัตราเร่งด้วยตัวเองปรากฏว่าได้ตัวเลขใกล้เคียงกันที่ 10.73 วินาที รวมถึงความเร็วสูงสุดปลายคันเร่งแตะระดับ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 20 กิโลเมตรต่อลิตรที่เป็นตัวเลขจากโรงงานนั้น ต้องใช้คันเร่งกันอย่างระมัดระวังโดยไม่กดลงลึกหรือรักษาระดับของกราฟ ECO บนจอ MID ไม่ให้เลยขีดกึ่งกลาง สำหรับการขับขี่แบบปกติในการทดสอบได้ตัวเลขที่ 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นการขับขี่ทั่วไปไม่ได้ระมัดระวังจงใจในการใช้คันเร่งแบบประคองเพื่อคงตัวเลขความประหยัดเชื้อเพลิงแต่อย่างใด
X-Trail เป็นรถครอสโอเวอร์ที่พยายามทำตัวเป็นเอสยูวี ตลอดระยะทาง 700 กิโลเมตร กับการขับในพม่านาน 3 วัน มันเป็นรถที่มีการขับที่เน้นความนิ่มนวลนั่งสบาย นอกจากรุ่น 2.5 ลิตร ก็ยังมีรุ่นประหยัดพลังงานด้วยระบบไฮบริดอย่าง Nissan X-Trail Hybrid เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับท่านที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์แต่ชอบรถประหยัดไม่กินเชื้อเพลิงและต้องการรถที่ขับบนทางเรียบก็ได้หรือวิ่งลุยเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอ ด้วยชุดขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถปรับได้ด้วยตัวของคุณเอง New X-Trail โดยเฉพาะรุ่น Hybrid เป็นรถที่มีความประหยัดใช้ได้ ปล่อยมลพิษต่ำกว่ารถยนต์แบบอื่น ขับได้ดีและตอบสนองต่อการใช้งานได้ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับราคาค่าตัวที่คุณต้องจ่าย หากชอบรถไฮบริด คุณก็จะได้ระบบขับเคลื่อนแบบพลังงานผสมเครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า บวกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบใหม่ที่ติดตั้งมาให้อีกเพียบ
ไม่ต้องมานั่งกังวลเกี่ยวกับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เนื่องจาก Nissan Motor ยืนยันและรับประกันอายุการใช้งานของชุดแบตฯ ไว้ค่อนข้างยาวนานถึง 10 ปี รวมถึงยังรับประกันระบบไฮบริดให้อีก 1 แสนกิโลเมตร หรือ 3 ปี หากชอบเรือนร่างที่เรียบง่าย นั่งสบาย ห้องโดยสารโปร่งโล่ง พื้นที่ใช้สอยพอเพียงกับความอเนกประสงค์บนความประหยัด รถพลัง Hybrid คันนี้ก็มีความเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นรถ Nissan อีกคันที่ขับได้ดีสมราคาถ้าไม่ยึดติดกับเรือนร่างเดิมๆ ก็มีความน่าใช้อยู่เหมือนกันล่ะครับ
สีดำ แบล็กสตาร์
สีขาว สตอร์มไวท์
สีเงิน บริลเลี่ยนซิลเวอร์
สีเทา ดีพไอริสเกรย์
สีใหม่ สีส้ม โมนาร์ช
รุ่นและราคา
Nissan X-Trail รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท
Nissan X-Trail รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท
Nissan X-Trail รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท
Nissan X-TRail รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท
Nissan X-Trail รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/