The Generation of MX-5
Mazda MX-5 NA 1989-1997
ย้อนเวลากลับไปสู่อดีตยังจุดกำเนิดของ Roadster จากค่าย Zoom Zoom รถสปอร์ตสองที่นั่งเปิดประทุนต้นตระกูล MX-5 คืออัศวินม้าขาวที่เข้ามากอบกู้สถานภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าใดนักของ Mazda ในช่วงปลายยุค 80' ให้กลับฟื้นคืนสู่สถานะแห่งความมั่นคงอีกครั้ง การจงใจผลิตรถสปอร์ตคันเล็กแบบเปิดหลังคาขึ้นในปี 1988 โดยใช้รูปแบบของ Lotus Elan Sport-Car ยอดนิยมของอังกฤษ มาเป็นแบบอย่างในการสร้างรูปทรงของตัวรถ นับได้ว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งในเชิงวิศวกรรมของบริษัท Mazda เนื่องจากในช่วงเวลานั้น รถสปอร์ต Roadster ห่างหายไปจากท้องถนนมานานกว่า 20 ปีแล้ว จากปัญหาเรื่องราคาของพลังงานในช่วงปี 1974

...

หลังจากออกขายได้ไม่นาน Mazda MX5-NA โมเดลแรกสุดก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลกในเรื่องของราคา คุณภาพในการประกอบ รวมถึงสิ่งที่สำคัญมากที่สุดที่ทำให้มันประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ก็คือ สมรรถนะในการขับขี่ที่มีเครื่องยนต์ช่วงล่างและเกียร์ทำงานประสานกันอย่างยอดเยี่ยมบนอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักที่สมดุล ทำให้ MX5-NA 1989-1996 กลายเป็นรถสปอร์ตที่มีความคุ้มค่าน่าขับมากที่สุดในทำเนียบรถสปอร์ตแบบเปิดหลังคาของโลกยนตรกรรม จากระดับของราคาที่คนทั่วไปสามารถจับต้องได้ รถ MX-5 ในโมเดลแรกสุดใช้รหัสตัวถัง NA สามารถสร้างประวัติศาสตร์ยอดจำหน่ายทั่วโลกถึง 4 แสนคัน โดยมีเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ รหัส B6-ZE ปริมาตรความจุ 1.6 ลิตร และ BP-ZE ความจุ 1.8 ลิตรให้เลือกพร้อมกับเอกลักษณ์สำคัญในรุ่นนี้ คือไฟหน้าแบบ Pop-Up รุ่นปี 1996-1997 ยังมีเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดให้เลือกอีกด้วย

Mazda MX-5 NB 1998-2004
รุ่นที่สองของ MX-5 จาก Mazda มีรูปทรงของไฟหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความนิยมของมันลดระดับความร้อนแรงลงมา เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น และเปลี่ยนกระจกหลังที่รุ่นแรกเป็นแบบพลาสติกใสให้เป็นกระจกแก้ว Mazda MX-5 NB มีส่วนผสมของรุ่น NA อยู่กว่า 40% ทั้งการวางตำแหน่งของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง รวมถึงการนำอะไหล่บางชิ้นส่วนของรุ่นแรกมาใช้งานร่วมกัน ด้านหน้าที่ดูแปลกๆ ไม่ค่อยลงตัว ส่งผลไปถึงยอดขายที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม การขับขี่ที่ดีขึ้นทำให้ความนิยมยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง หลังจากออกวางขายได้ไม่นานนัก เครื่องเครายังคงมีให้เลือกเหมือนเดิมทั้ง 1.6-1.8 ลิตร สำหรับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 146 แรงม้า กับแรงบิด 168 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาทีนั้น มีสมรรถนะที่ไว้ใจได้ โดยสามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 208 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในรุ่นแรกๆ ตามด้วยเกียร์แมนนวล 6 สปีดในรุ่นท้าย รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดสำหรับพวกรักความสบาย ให้เลือกรุ่นแรงสุด 1.8 ลิตร อัดอากาศด้วย Turbocharged BPT I-4 จากฝีมือการโมของ Mazda-speed อัพแรงม้าได้ 180 ตัว เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 208 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนน้ำหนักตัว 1,065 กิโลกรัม

...

Mazda MX-5 NC 2005-2012
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร มีแชสซีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งถูกพัฒนามาตั้งแต่รุ่นแรกๆ เพื่อทำให้มันเป็นรถสปอร์ตสองที่นั่งที่ขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน โครงสร้างและรูปแบบของตัวรถไม่มีความซับซ้อน โดยเน้นไปที่จุดศูนย์ถ่วงและการกระจายน้ำหนักเป็นสำคัญ หลักใหญ่ใจความของวัตถุประสงค์ในการสร้างรถรุ่นนี้ก็คือความรู้สึกอิสระยามเปิดหลังคาวิ่ง ความสนุกในการควบคุมและอารมณ์ของ Roadster ในยุค 1960 ซึ่งวิศวกรของ Mazda นำสิ่งเหล่านี้มารวมเข้าไว้ด้วยกัน เครื่องยนต์ เกียร์ และระบบกันสะเทือนของ MX-5 NC แม้จะมีรูปแบบทั่วไปแต่เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักของตัวรถ ผลที่ได้คือรถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ โดยเฉพาะระบบรองรับและชุดบังคับเลี้ยวที่เฉียบคมซึ่งผสมกับรูปแบบของระบบขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี

...

รุ่นหลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ กลายเป็นทางเลือกที่ดีซึ่งวิศวกรของ Mazda ได้ทำการออกแบบชุดหลังคาใหม่แทนหลังคาผ้าใบแบบเดิมที่ดูแลรักษาได้ยากกว่า หลังคาโลหะแบบใหม่มีชื่อเรียกว่า RHT หรือ Retractable Hard Top ยังเก็บเสียงได้ดีกว่ามากและมีความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยสามารถกางออกและใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการกางหรือพับเก็บด้วยความนิ่มนวล จากชุดมอเตอร์เล็กๆ ที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุดในโลกเพียงแค่ 12 วินาทีเท่านั้น เครื่องยนต์ของ Mazda MX-5 NC Roadster-Coupe Open top มีสองขนาดความจุให้เลือก คือ เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ใช้รหัส MZR1.8 L มีเรี่ยวแรงประมาณ 126 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดท้วมๆ ที่ 167 นิวตันเมตร ในย่าน 4,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่งพอสนุกจาก 0-100 กิโลเมตร ใช้เวลา 9.9 วินาที กับความเร็วปลายแบบมิดคันเร่งที่ 198.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนเครื่องอีกตัวที่แรงขึ้นคือเครื่อง MZR 2.0 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,999 c.c. 4 วาล์วต่อสูบ = 16 วาล์ว ให้กำลัง 167 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที มีแรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์ออโต้ 6 สปีด พร้อมกลไก Paddle Shift โดยตัวรถรุ่นเกียร์ธรรมดาสามารถกดกันสุดคันเร่งที่ 218 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ทำได้ในเวลา 7.6 วินาที

...

Mazda MX-5 ND Roadster 2015 and RF 2019
หลังจากการปรากฏตัวซึ่งตามมาด้วยความสำเร็จของโรดสเตอร์ทั้ง 3 รุ่นจาก Mazda การจะสร้างรถรุ่นใหม่ให้ดีกว่ารุ่นที่แล้วนับเป็นงานวิศวกรรมที่ยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก MX-5 ND เวอร์ชั่นล่าสุดประจำปี 2015 ก้าวเข้าสู่เจนเนอเรชั่นที่ 4 กับรหัสตัวถัง ND ต่อเนื่องกับญาติพี่น้องร่วมสายพันธุ์โรดสเตอร์ วิศวกรของ Mazda ได้ทำการยกระดับโดยหันมาใช้โครงสร้างแบบเหล็กผสมอัลลอยพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ด้านการจัดการกับน้ำหนักส่วนเกิน ภาพลักษณ์ของสปอร์ตคาร์เปิดประทุนแบบ 2 ที่นั่งยังคงอยู่ พร้อมกลไกการเปิดหลังคาในรถรุ่นใหม่ที่ถูกส่งออกขายเป็นครั้งแรกในปี 2015 กับหลังคาผ้าพับเก็บได้ หลังจากนั้นจึงตามมาด้วยรุ่นทาร์ก้าหลังคาพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า หรือ Retractable Fastback ที่ใช้ตัวอักษรย่อว่า RF

เลย์เอาต์การวางเครื่องยนต์แบบ Font-Mid Engine โดยใช้ลักษณะของการวางเครื่องยนต์ตามยาวด้านหน้าและร่นเครื่องยนต์ให้เข้าไปชิดกับห้องโดยสารเพื่อการกระจายน้ำหนักที่สมมาตรบนตัวเลข 50/50 เพื่อคงอาการที่ดีของการควบคุมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น โครงสร้างของ Mazda MX-5 RF รุ่นใหม่มีการนำเอาอะลูมินัมอัลลอยมาปรับใช้งานในหลายส่วนของตัวรถ จากวัตถุประสงค์หลักในการลดทอนน้ำหนักซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลไปถึงสมรรถนะของตัวรถ MX-5 RF ใช้อะลูมินัมอัลลอยในส่วนของคานรับแรงกระแทกใต้กันชนด้านหน้าและหลัง แก้มทั้งสองฝั่ง ฝากระโปรงหน้า อุโมงค์เพลากลางที่ใหญ่โตราวกับอู่จอดเรือดำน้ำ โครงของเบาะโดยสารและโครงของชุดหลังคาทำให้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 16 กิโลกรัม

ด้านข้างของตัวถังไหลลื่นพลิ้วไปตามเส้นสายที่ลากจากแก้มข้างไปจนจดไฟท้าย บานประตูอัลลอยขนาดใหญ่สามารถเปิดออกด้วยมุมที่กว้างให้ความสะดวกในการเข้าออกจากตัวรถ เมื่อเล็งเลียบไปตามผิวของตัวถังด้านข้าง เส้นสายที่เว้าต่ำสไตล์รถเปิดประทุนทำให้มันมีขนาดของตัวถังใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง MX-5 NA เวอร์ชั่นแรกสุด ขนาดที่กะทัดรัดสมส่วนสั้นกว่า MX-5 รุ่นที่ผ่านมา (NC) 80 มิลลิเมตร

รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Skyactiv G ยัดล้ออัลลอยสีเทา-ดำ ขอบ 17 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางสปอร์ตสมรรถนะสูงจาก Bridgestone รุ่น Potenza s001 ไซส์ 205/45R17 สัดส่วนของตัวถังสั้นที่สุดในอนุกรมสายพันธุ์ MX-5 โดย MX-5 RF มีความยาวเพียงแค่ 3,915 มิลลิเมตร ช่วงล่างเตี้ยกว่าเดิม 20 มิลลิเมตร และมีโอเวอร์แฮงก์สั้นกว่าถึง 90 มิลลิเมตร เป็นผลสืบเนื่องมาจากการวางตำแหน่งล้อไว้ที่บริเวณมุมของตัวถัง ช่วยทำให้เกิดความคล่องตัวและเกาะถนน

เจนเนอเรชั่นที่ 4 ของ MX-5 กลายเป็นรถของชายวัยกลางคนที่อยากซิ่งสักครั้งในช่วงบั้นปลายก่อนที่จะวางมือเพราะขับไม่ไหว MX-5 RF คือการนำเอาข้อผิดพลาดของ MX-5 รุ่นที่ผ่านมาแล้วนำมาปรับปรุงเพื่อทำให้การขับขี่ดีขึ้น ตัวถังที่เล็กกะรัดทัด ช่วงล่างที่รัดกุม เครื่องยนต์และชุดส่งกำลังมีประสิทธิภาพมากพอที่จะสร้างความสนุกสนานแม้ไม่ได้ขับเร็วจี๋ โดยภาพรวมตัวถังของ MX-5 RF แตกต่างจาก MX-5 Roadster แค่ผืนหลังคามันมีส่วนที่คล้ายกับ Toyota GT86 และ Subaru BRZ ไม่ว่าจะเป็นการวางเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อนล้อหลังและการเซตช่วงล่างกับย่านกำลังให้ท้ายกวาดออกด้านข้างได้ง่ายกว่ารถขับหลังทั่วๆ ไป MX-5 RF เน้นความเรียบง่าย คล่องตัวและมีน้ำหนักเบา เพื่อนำไปสู่ประสบการณ์ของการขับที่สุดยอด มันมีโครงสร้างที่แข็งแรง เครื่องยนต์วางด้านหน้าขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง โดยร่นแท่นเครื่องแท่นเกียร์จนทำให้แกนเพลาหน้าอยู่ด้านหน้าของตัวเครื่อง แม้จะมีขนาดที่เล็กพอๆ กับ MX-5 เจนแรก แต่ RF ให้ความรู้สึกที่ทันสมัย ใช้วัสดุเกรดทั่วไปของ Mazda ที่พบเห็นได้ใน Mazda 3 และ Mazda 2  

หลังคาไฟฟ้าทำงานรวดเร็วและเงียบ แม้จะมีน้ำหนักของผืนหลังคามากกว่ารุ่น Roadster แต่ไม่ได้สร้างภารกรรมให้กับเครื่องยนต์มากนัก เมื่อกดสวิตช์เพื่อพับเก็บหลังคาส่วนกลางเพื่อแปลงร่างเป็นรถสปอร์ตทรงทาร์ก้า MX-5 RF จะใช้เวลาแค่ 15 วินาทีพร้อมความเงียบในขณะที่กลไกไฟฟ้าของชุดหลังคากำลังทำงาน นับว่าเป็นรูปแบบหลังคาไฟฟ้าที่น่าใช้งานเมื่อคุณไม่ชอบหลังคาผ้าใบของรุ่น Roadster น้ำหนักตัวถัง 1,140 กิโลกรัม ในรุ่น RF หนักกว่า 1,075 กิโลกรัม ของ MX-5 รุ่น Roadster อยู่พอสมควร 

ผมใช้เส้นทางทดสอบที่อุดมไปด้วยโค้งสารพัดรูปแบบกับเนินเตี้ยๆ ที่สวยงามของเส้นทางในเขาใหญ่ โดยขับจากด่านเนินหอมของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในฝั่งปราจีนบุรีไปจนถึงทางออกแถวๆ ปากช่อง ต่อเชื่อมด้วยเส้นทางเล็กๆ ที่สวยงามของอำเภอมวกเหล็กที่จะไปออกถนนมิตรภาพแถวแดรี่โฮม ถนนแถบนี้ไม่ใช่จะขับกันอย่างสบายๆ  เพราะมีทั้งเนินลาดชันที่เต็มไปด้วยรอยปะกับทางโค้งที่มีมุมแตกต่างกันอย่างหลากหลาย ไหล่ทางในบางช่วงบางตอนลึกเพราะถนนถูกยกให้สูงกว่าปกติ ถนนแบบนี้คนกับรถต้องประสานเป็นหนึ่งเดียว MX-5 RF รุ่นเกียร์อัตโนมัติ เป็นรถเล็กที่ควบคุมได้ง่าย เกียร์ออโต้ทำงานเร็วและกระชับ ตัวถังเบาหวิวบนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรแบบไม่มีระบบอัดอากาศจูนย่านกำลังมาดีพอสำหรับการปั่นล้อหลังให้ฟรีทิ้งหรือสาดท้ายเล่นในโค้งที่คุ้นเคย เครื่องยนต์ให้อัตราเร่งและกำลังที่พอเพียง ช่วงล่างแข็งพอสมควรแต่ไม่ได้แข็งแบบไม้กระดานจนนั่งไม่สบายตัว เนื่องจากห้องโดยสารนั้นเล็กมากอยู่แล้ว หากเซตช่วงล่างมาแข็งมากเกินไปอาจทำให้คนขับและผู้โดยสารนั่งหัวโยกหัวคลอนไปตลอดทางซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สนุกนัก 

ตัวถังกะทัดรัดเข้ากับห้องโดยสารที่แสนจะเล็กของ MX-5 RF ถ้าคุณตัวสูงมากเกินไปหรืออวบอ้วนเป็นโดราเอมอนก็จะขับมันลำบาก โดยเฉพาะการเลี้ยวเร็วๆ ที่ต้องใช้ทักษะในการควบคุมพวงมาลัย MX-5 RF มีพวงมาลัยที่สามารถปรับตั้งได้ถึง 4 ทิศทาง เบาะเตี้ยราวกับรถแข่งซึ่งเหมาะกับการทำตัวเป็นรถสปอร์ตสองที่นั่งอย่างที่สุด คุณสามารถเปิดหลังคาได้ในวันที่อากาศดี แต่ไม่ควรเปิดแล้วขับในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย โดยเฉพาะการขับทดสอบในช่วงบ่ายที่มีอุณหภูมิคล้ายอเวจีแบบนี้ ห้องโดยสารของ MX-5 RF ไม่มีช่องเก็บของมากพอสำหรับการใส่ของกระจุกกระจิก มีแค่ที่วางแก้วระหว่างที่นั่ง ส่วนห้องเก็บสัมภาระท้ายที่แยกส่วนจากกันระหว่างที่เก็บหลังคามีความจุ 130 ลิตร พอที่จะยัดกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ สำหรับ 2 คนได้บ้าง ระบบอินโฟเทนเมนต์กับสวิตช์ควบคุมการสั่งงานผ่านจอภาพคล้าย iDRIVE เวอร์ชั่นอนุบาลของ BMW แต่ใช้งานได้ง่าย ปุ่มควบคุมอุณหภูมิมีหน้าตาคล้ายๆ รถ Audi ความเรียบง่ายของห้องโดยสารเข้ากันได้ดีกับบุคลิกของรถ หลักการสำคัญก็คือ เมื่อควบคุมรถสปอร์ตก็จะต้องไม่ปรับโน่นตั้งนี่ให้วุ่นวายโดยใช่เหตุ Mazda เข้าใจในหลักการนี้เป็นอย่างดีจึงจัดความเรียบง่ายมาใส่ไว้ใน MX-5 ไม่ว่าจะเป็น Roadster หรือ Retractable Fastback ทั้งสองรุ่นก็มีห้องโดยสารที่เหมือนกันราวกับแกะ! 

กำลังจากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไม่ติดเทอร์โบ เค้นออกมาได้ 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ส่วนแรงบิดนั้นทำได้แค่ 205 นิวตันเมตร ไม่ได้มากมายอะไร แต่สามารถสร้างความเร้าใจได้เมื่อรอบเครื่องยนต์ทะยานผ่าน 4,000 รอบต่อนาที MX-5 RF ไม่ใช่รถสปอร์ตบ้าพลัง แต่ก็ไม่ได้เชื่องช้าเพราะคันเร่งตอบสนองอย่างไวและอัตราทดของเกียร์ออโต้ก็มีความจัดจ้านใช้ได้ ความเบาช่วยทำให้มันเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาแค่ 7.9 วินาที ช่วงทางตรงในเกียร์ 4 จึงมีกำลังมากพอที่จะคิกดาวน์เพื่อแซงรถช้าได้อย่างสบาย และเมื่อทางตรงสิ้นสุดลงที่หัวโค้ง เป็นจุดที่เจ้า RF เริ่มฉายแววโหดออกมาถ้าคุณยังไม่ยอมยกคันเร่ง! 

พวงมาลัยไฟฟ้าของ RF มีน้ำหนักที่พอดิบพอดี เบาในย่านความเร็วต่ำและหน่วงให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อขับเร็วขึ้น เป็นชุดบังคับเลี้ยวที่แม่นยำและสื่อสารกับคนขับได้ดี เมื่อพวงมาลัยทำงานกับโช้กอัพที่คุมอาการของตัวถังได้ดีทำให้รู้สึกถึงความว่องไวและคล่องตัวคล้ายกับ MX-5 รุ่นแรก เวลาหลายสิบปีที่ผ่านไปไม่ทำให้มนตร์เสน่ห์จางหาย เป็นความรู้สึกแบบรถสปอร์ตคลาสสิกที่หาได้ยากในปัจจุบัน พวงมาลัยไฟฟ้า ในสเปกระบุว่าหมุน 2.5 รอบ จากล็อกถึงล็อก แต่ลองหมุนจริงๆ แล้วไวกว่านั้นมาก ซุ้มล้อออกแบบให้มีความกว้าง ทำให้ล้อหมุนได้องศามากยิ่งขึ้น พวงมาลัยที่ตอบสนองอย่างไวทำให้คล่องตัวมากบนถนนที่คับแคบ พวงมาลัยไฟฟ้าติดตั้งมอเตอร์ใต้ชุดแรค มีความสม่ำเสมอ หมุนเท่าไหร่ก็ไปให้เท่านั้น คาดเดาอาการของพวงมาลัยได้ง่าย ความเบาและไวทำให้ต้องระวัง แต่ความแม่นยำที่ดีทำให้คุณเล็งว่าจะไปทางไหนได้อย่างง่ายดาย 

เมื่อเข้าโค้งแรงๆ ท้ายก็จะเริ่มต้นอาการบานออกด้านข้างจนทำให้แปลกใจว่าทำไมเจ้า RF ถึงมีส่วนท้ายที่ไวกว่า Toyota GT86 และ BRZ ไม่ต้องไปเทียบกับ Audi TT ซึ่งมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Mazda MX-5 เป็นรถสำหรับยอดฝีมือที่คุณสามารถกระแทกคันเร่งจนท้ายกวาดแล้วดริฟต์เล่นได้อย่างง่าย รุ่นเกียร์ออโต้ที่ไม่มีลิมิเต็ดสลิปก็ยิ่งเทท้ายได้ง่ายมากกว่ารุ่นเกียร์ธรรมดาอีกตะหาก ระบบควบคุมการทรงตัวเปิดโอกาสให้ขาแรงได้สนุกมากกว่าเดิมโดยไม่ได้เข้ามาวุ่นวายจนทำให้ขาดความบันเทิงของการขับในแบบสปอร์ต เป็นรถสองที่นั่งที่สามารถทำโดนัทได้ง่ายหากไม่คำนึงถึงค่ายางที่คุณจะต้องจ่ายหลังจากดริฟต์เล่นสักรอบสองรอบ  

สันดานชอบกวาดท้ายในโค้งเป็นเหมือนดาบสองคม แน่นอนว่าถ้าอยู่ในมือของนักแข่งมันก็จะเป็นรถที่ว่านอนสอนง่ายและเชื่องไม้เชื่องมือ แต่ถ้ามาอยู่ในมือปกติธรรมดาสามัญก็ควรใช้ความระมัดระวังให้ดีๆ บนถนนที่คับแคบ การขับเร็วบนเส้นทางแบบสองเลนสวนกันไม่ควรใช้คันเร่งมากจนเกินไป การตอบสนองที่ตรงไปตรงมาของมันอาจแว้งกัดได้ทุกเมื่อหากความเร็วและมุมที่ใช้ในการเข้าโค้งไม่มีความสัมพันธ์กัน รถแบบ MX-5 ต้องซิ่งบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยโค้งถึงจะรู้ซึ้งกับสิ่งที่ Mazda พยายามนำเสนอ แชสซีของมันก็ยอดเยี่ยม รวมถึงการกระจายน้ำหนัก 50/50 ของมันก็คล้ายการขับ BMW คันเล็ก เหมือนรถทั้งคันเป็นเสื้อสูทที่ตัดเย็บมาพอดีตัวไม่หลวมหรือคับติ้วจนหายใจไม่ออก เมื่อหวดเร็วๆ บนผิวถนนที่ไม่เรียบก็จะมีอาการย้วยโผล่ออกมาให้สัมผัส แต่โดยรวม MX-5 RF ก็เป็นรถที่มีสมดุลดีมากอยู่แล้ว แค่ไม่บ้าจนเกินงามคุณก็จะสนุกกับมันได้ทุกเมื่อตามต้องการ  

MX-5 ไม่ว่าจะเป็นหลังคาแบบ Roadster หรือ Retractable Fastback ก็ถือเป็นรถสปอร์ตคันเล็กที่มีโครงสร้างสมดุล ช่วงล่างหนึบแน่นออกแนวแข็งผสมกับพวงมาลัยที่ไว เหมาะกับคนที่ชอบขับรถสปอร์ตเปิดประทุนแบบดริฟต์ท้ายกวาด ยาง Bridgestone รุ่น Potenza s001 ไซส์ 205/45R17 รันแฟลต แข็งและมีเสียงดังแต่ก็เกาะถนนได้ดีมากในวันที่มีแดดจัดบนผิวถนนมีอุณหภูมิราวกับเตาอบ ประสิทธิภาพของการยึดเกาะเหลือเฟือสำหรับกำลังแค่ 135 กิโลวัตต์ มันไม่ใช่รถที่เน้นความเร็วบนทางตรงแบบยิงยาว แชสซีมีศักยภาพสูงมากพอในการสาดโค้ง แค่แก้พวงมาลัยคืนนิดเดียวอาการท้ายกวาดก็หายเป็นปลิดทิ้ง แต่ถ้าแก้ด้วยมุมของพวงมาลัยที่มากเกินไปมันจะสลับท้ายมากวาดอีกข้าง ซึ่งอาจทำให้มือใหม่รู้สึกหวาดกลัวกับอาการดังกล่าว

แค่ขับ RF ในย่านความเร็วต่ำ เปิดหลังคาในวันที่มีอากาศดีคุณก็จะพบกับสัมผัสและอารมณ์ที่แตกต่างไปจากการขับรถหลังคาแข็ง ไม่ว่าจะเป้นเกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดา เจ้า RF ก็มีราคาเท่ากันที่ 2,890,000 บาท แพงกว่า Toyota GT86 และ Subaru BRZ อยู่พอสมควร ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ชอบขับรถทางไกลน่าจะพอใจกับสปริงและโช้กเดิมๆ จากโรงงาน แต่ถ้าอยากให้แน่นกว่าเดิมก็คงต้องหาโช้กดีๆ มาลงรับรองว่าจะหนึบกว่าเดิมมาก เป็นรถที่ขับสนุก ใช้งานง่ายถ้าไม่ห่วงเรื่องความแคบ และเป็นรถสปอร์ตเปิดหลังคาเพียงรุ่นเดียวในประเทศไทยที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทครับ. 

New Mazda MX-5 Retractable Fastback
Model 2.0 A/T
Type SKYACTIV-G 2.0, 4-cylinder DOHC, 16-valve
Displacement (cc) 1,998
Bore83.5 mm x stroke 91.2 mm
Compression ratio 13.0:1
Maximum output (EEC)
184 PS 135 kW at 7,000 rpm 
Maximum torque (EEC)
205 Nm at 4,000 rpm 

Fuel injection type Electrically controlled fuel direct injection
Recommended fuel type (Octane number 95) Unleaded Gasoline / Gasohol E10
Fuel tank capacity (L)
45
Transmission type SKYACTIV  6-speed Automatic with manual mode (Activematic)
Gear ratios 1st  3.538
Gear ratios 2nd 2.060
Gear ratios 3rd 1.404
Gear ratios 4th 1.000
Gear ratios 5th 0.713
Gear ratios 6th 0.582
Gear ratios Reverse  3.168
Final gear ratio 3.583

Steering Type Rack and pinion
Power steering type Electric Power Assist Steering (Dual Pinion)

Suspension Front Double-wishbone
Rear Multi-link
Brakes Type Front Ventilated discs
Rear Solid discs
Brakes Diameter (mm)
Front 280 mm
Rear 280 mm

Overall length (without number-plate holder) 3,915 mm
Overall width (without wheel arch mouldings) 1,735 mm
Overall height 1,235 mm
Wheelbase 2,310 mm

Tread (mm)
Front 1,495 mm
Rear 1,505 mm

Overhang Front (without number-plate holder) 760
Rear 845
Ground clearance (between axles, laden) 135 mm
Minimum turning radius (kerb-to-kerb)  4.7 m
Max. curb weight 1,140 kg

Technology

New Mazda MX-5 Retractable Fastback
Model 2.0 6 A/T
SKYACTIV-G
SKYACTIV-BODY
SKYACTIV-CHASSIS
i-Stop (Idling stop system)
i-ELOOP (Mazda regenerative braking system)

Exterior

New Mazda MX-5 Retractable Fastback
Model 2.0 A/T
Tires 205/45 R17
Wheels 17 x 7J alloy wheels, Gun metallic color
Smart keyless entry
Front wipers Intermittent, timing adjustable, Rain sensor
Windscreen glass Noise cut
Headlamps LED, with automatic levelling, Automatic on/off function
Daytime running lamps LED
Outer mirrors Piano black, with convex lenz on driver's side
Seatback bars Piano black
Aero board
Retractable hardtop
Suspension strut bar


Interior

New Mazda MX-5 Retractable Fastback
Model 2.0 A/T
Push start button
Auto rear view mirror
Drive selection switch  
Cruise control
Steering wheel
Leather
Audio control switches
Bluetooth® switches
Paddle shift switches 
Shift knob & parking brake knob Leather
Air conditioner Full-automatic
Instrument panel lower part Leather
Side door trim Upper panel: body colour, Lower panel: Leather
Door inner handle finish Bright
Side door lock one-touch release Driver's side only
Cup holder 2 Points
Rear console lid Leather
Navigation system
Seats Upholstery Leather with double red stitch
Integral head restraints Both sides
Tilt mechanism Driver's side
Heater Both sides
AM/FM radio

CD player (MP3 compatible)
7-inch centre display
commander control
Bose® premium sound system with 9 speakers
Bluetooth® hands-free system
Voice command
AUX jack
2 x USB port
SD-card port (for navigation system)*


New Mazda MX-5 Retractable Fastback
Model 2.0 A/T
Burglar alarm, Immobilizer
Auto door lock
Airbags (Front, Side)

Rear parking sensors (4 Sensors)
4W-ABS with EBD
Active Adaptive Shift (AAS)
Dynamic Stability Control (DSC)
Traction Control System (TCS)
Adaptive LED Headlamps (ALH)
Lane Departure Warning System (LDWS)
Seat belts (ELR 3 Points x 2, Retractor and Pretensioner)
Front and rear beam impacts
High mount stop lamp
Smart City Break Support (SCBS)
Smart City Brake Support-Reverse (SCBS-R)
Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM)
Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
Driver Attention Alert (DAA)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/