เมื่อไม่มีรถเก๋งอย่าง Lancer ทำตลาด มีแค่ Mirage และ Attrage รถจิ๋วราคาถูก ค่ายตราเพชร ก็ต้องสู้ด้วยรถกระบะและเอสยูวี Mitsubishi ออกแบบ พัฒนาและผลิตรถกระบะรุ่น Triton ปิกอัพที่ต้องแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง D-MAX และ REVO รวมถึง Ranger ค่ายตราเพชรต้องใช้ความพยายามในการปรับรถกระบะให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า การเติมสมรรถนะ เทคโนโลยี และความแกร่งทนทาน โดยให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย รวมถึงระบบความปลอดภัย Triton ใหม่เวอร์ชั่นปรับโฉมจึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายรวมไปถึงหน้าตาใหม่ เป็นรถกระบะรุ่นล่าสุดของ Mitsubishi ที่มียอดขายอยู่ในอันดับที่ 4 ตามหลัง Ford Ranger / Isuzu D-MAX / Toyota Hilux REVO
Mitsubishi Triton Double Cab 4WD 2.4 GT Premium 6AT 1,099,000 บาท (คันทดสอบ)
...
Triton ใหม่รุ่นปรับโฉม 2019 พัฒนาขึ้นตามแนวคิดที่ครอบคลุมการใช้งาน เป็นหนึ่งในรถกระบะที่มีอุปกรณ์ครบเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้งในด้านระบบความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยี หัวใจของความปลอดภัยใน Mitsubishi Triton ใหม่ คือโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) ประกอบกับแชสซีที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่น ผ่านการทดสอบในภูมิประเทศทุรกันดารทั่วโลก สามารถดูดซับแรงกระแทกและต้านทานการเสียรูปทรงเพื่อการปกป้องผู้โดยสาร ตัวถังที่ทนทานถูกเสริมด้วยเหล็กกล้า โดยมีการปรับลดน้ำหนักแต่เพิ่มความแข็งแกร่งในบางจุดให้กับโครงสร้างตัวถังนิรภัย
...
...
อุปกรณ์ภายนอกของ Triton Minor change รุ่น Double Cab 4WD 2.4GT Premium AT มีการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Advanced Dynamic Shield ไฟหน้า Projector Lens แบบ Bi-LED ไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Lights ไฟตัดหมอกคู่หน้าพร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำอัตโนมัติ กระจังหน้าและไฟหน้ายกมาทั้งยวงจาก Xpender สปอยเลอร์หน้าแบบใหม่ฝากระโปรงหน้าใหม่ ซุ้มล้อหน้า-หลังแบบ Built-in Fender ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว ลายใหม่ บันไดข้างใหม่ พร้อมกระบะท้ายก็ยังออกแบบใหม่หมดรวมไปถึงฝาท้ายและไฟท้าย ไฟเบรก LED พร้อมไฟ LED Light Guidin กันชนหลังก็ยังออกแบบใหม่หมดอีกต่างหาก
...
ความสามารถในการขับเคลื่อนเมื่อได้ลองขับครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่แถบดอยอินทนนท์ Triton Minor change รุ่น Double Cab 4WD 2.4GT ให้ความรู้สึกคล้ายกับ Triton รุ่นก่อนปรับโฉม ทั้งกำลังของเครื่องยนต์และการซับแรงสั่นสะเทือนของช่วงล่าง คนของ Mitsubishi แจ้งว่า Triton รุ่น Minorchange มีการปรับเซ็ตช่วงล่างให้นิ่มนวลขึ้น เมื่อลองขับบนทางเรียบก็พบว่ามันนิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีอาการโคลงตัวอยู่บ้างบนทางออฟโรด ซึ่งเป็นเรื่องที่แก้ไม่หายของรถกระบะแบบแชสซีออนเฟรมกับช่วงล่างหลังที่เน้นการบรรทุกมากกว่าจะเน้นไปที่การยึดเกาะเพื่อทำความเร็ว
พวงมาลัยของ Triton รุ่น Minorchange เป็นแบบเพาเวอร์สายพาน เหมือนกับ Toyota Hilux REVO Rocco / Isuzu D-MAX / Nissan Navara ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากพวงมาลัยไฟฟ้าของ Colorado และ Ranger มอบการควบคุมที่พอใช้ได้แต่ไม่ได้แม่นยำเท่ากับกระบะที่ใช้พวงมาลัยไฟฟ้าที่มีอยู่แค่สองแบรนด์เท่านั้นในปัจจุบันนี้ การเลี้ยวบนเส้นทางคดเคี้ยวบนดอยอินทนนท์ทำได้สมราคาค่าตัว ไม่ได้แม่นเป็นจับวางแต่ก็สามารถควบคุมทิศทางได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นอะไร น้ำหนักของพวงมาลัย Triton ในย่านความเร็วสูงไม่เบาจนน่ากลัวหรือหนักราวกับรถบรรทุกและให้ความรู้สึกที่เป็นกลาง เป็นสัมผัสของพวงมาลัยเพาเวอร์ที่มีความเที่ยงตรงพอสมควร
เครื่องยนต์ของ Mitsubishi Triton เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของการใช้งาน เครื่องยนต์ดีเซล เสื้อสูบและฝาสูบอลูมิเนียม อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบวาล์ว MIVEC อัดอากาศด้วย VG Turbo Diesel รหัส 4N15 ความจุ 2,442 ซีซี มีกำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร พร้อมระบบ Auto Stop and Go ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดนิ่งเพื่อประสิทธิภาพของการประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังซึ่งเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดรุ่นใหม่ แรงบิด 420 นิวตันเมตร เหลือเฟือต่อการใช้งานไม่ว่าจะวิ่งตัวเปล่าหรือบรรทุกสัมภาระมาเต็มคัน แรงบิดรอบต่ำเรียกใช้งานได้เร็วทันใจ การขับขึ้นเนินสูงชันกับแรงบิดที่ปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์ถือว่าแรงใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของ Mitsubishi Triton Double Cab 4WD 2.4GT Premium AT ทำได้ที่ 13 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 178 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องรหัส 4N15 DOHC 16 วาล์ว MIVEC เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ เป็นแบบอลูมินั่มบล็อกที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งเกิดขึ้นจากการพัฒนาด้านชิ้นส่วนที่เข้ามาช่วยให้น้ำหนักของตัวเครื่องยนต์ลดลง 4N15 มีน้ำหนักส่วนเกินที่ถูกตัดออกไปมากถึง 35 กิโลกรัม มีความแข็งแรงทนทานจากสภาวะการใช้งานในลักษณะต่างๆ ระบบระบายความร้อนแบบใหม่และการเลือกใช้กระบอกสูบแบบเหล็กกล้าหรือ Steel Cylinder Liner ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน หรือ VG Turbo บูสอัดไอดีเข้าไปยังห้องเผาไหม้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านของแรงบิดรอบต่ำได้ดี ทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดเพียงพอต่อการขับเคลื่อนตัวรถตั้งแต่รอบต่ำตอนออกตัวไปจนถึงรอบสูงสุดในการเร่งความเร็ว ระบบวาล์วแปรผันสองฝั่ง MIVEC หรือ Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System เป็นระบบควบคุมการปิดเปิดของวาล์วไอดีแบบแปรผันทำงานสอดคล้องกับความเร็วรอบเครื่องยนต์ การออกแบบในลักษณะดังกล่าวของระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ช่วยทำให้เครื่อง 4N15 มีแรงบิดที่ดีในรอบต่ำและเพิ่มแรงบิดในรอบสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้เครื่องยนต์มอบอัตราเร่งที่ดี
ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ทำงานบนเส้นทางภูเขาได้อย่างราบรื่น การเปลี่ยนเกียร์ในโหมดออโตไหลลื่นใช้ได้ อาการกระตุกกระชากเล็กๆ จะเกิดขึ้นเมื่อใช้คันเร่งลงลึกแบบฉับพลันทันทีทำให้เกิดอารมณ์สนุกสนาน เกียร์อัตโนมัติที่มีอัตราทดแค่ 6 สปีด อาจเป็นรองเกียร์ลูกใหม่ของ Ford Ranger ที่มีอัตราทดมากถึง 10 สปีด แต่ไม่ได้เสียเปรียบจนเห็นถึงความแตกต่างอะไรกันมากมายนัก การตัดต่อเกียร์ขึ้นลงตลอดการขับเดินทางบนไฮเวย์และเส้นทางภูเขาในจังหวัดเชียงใหม่มีความต่อเนื่องราบเรียบใช้ได้ หากใส่กันหนักๆ ยังแถมอารมณ์สปอร์ตมาให้ได้สัมผัสจากการกระชากลากถูของแรงบิดที่ปลดปล่อยออกมา
เมื่อลองผลักคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง Trip Tronic เพื่อดูการตอบสนองเมื่อต้องชิฟเกียร์เอง ที่ตำแหน่งเกียร์ 4 ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงแรงดึงแบบเต็มเหนี่ยว การคิกดาวน์เพื่อเร่งความเร็วก็มีประสิทธิภาพดีพอสำหรับการใช้งานเร่งความเร็วเพื่อแซงรถช้า เอนจิ้นเบรกเมื่อผมลองเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำถึง 2 ตำแหน่งจากเกียร์ 5 ไปยังเกียร์ 3 ขณะขับเข้าโค้งมุมแคบ หากรอบเครื่องยนต์สูงเกินไปไม่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ก็จะไม่ยอมเปลี่ยนให้จนกว่ารอบเครื่องยนต์จะพอดิบพอดีกับอัตราทดนั้นๆ เกียร์ 6 สปีดตอบสนองได้ดี
การลุยแหลกบนเส้นทางออฟโรด ซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตัวของรถกระบะยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นนี้มีความโดดเด่นไม่น้อยหน้ารถคู่แข่ง เพียงแต่ควรระวังเมื่อใช้ความเร็วสูงในสภาพผิวถนนที่ไม่มีความสม่ำเสมอ เช่น ถนนที่เป็นลอนคลื่นแบบหลังเต่า ลูกรังหินลอยและทางที่มีความสูงชันพร้อมๆ กับเหวลึกในแถบอินทนนท์ สัดส่วนความสูงทำให้เจ้า Triton Double Cab 4WD 2.4GT Premium AT เอาตัวรอดได้สบายๆ เมื่อขับลุยทางโหดขรุขระที่เต็มไปด้วยเนินสูงชัน แรงบิดที่ดีและมีความต่อเนื่องช่วยฉุดกระชากตัวรถให้หลุดรอดจากอุปสรรค พวงมาลัยแรคแอนพีเนียนพร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงเป็นแบบสายพานปั๊มพาวเวอร์แม้จะให้สัมผัสที่เป็นรองพวงมาลัยไฟฟ้าแต่แข็งแรงมากกว่า แม้จะกินกำลังเครื่องยนต์ไปบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร แลกกลับด้วยความแข็งแรงของแรคพวงมาลัยที่มีการออกแบบให้ใช้ได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น
Triton 2019 มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกทั้งแบบ Super-Select 4WD II หรือจะเลือกระบบการขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Easy-Select 4WD ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ ทั้งระบบ Super-Select 4WD และระบบ Easy-Select 4WD พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดให้ดียิ่งขึ้น
โหมดขับขี่ออฟโรด
Triton 2019 รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มาพร้อมระบบ Super-Select 4WD II และระบบ Easy-Select 4WD ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าให้เหมาะสมกับรูปแบบการขับขี่ ได้แก่ GRAVEL MUD/SNOW SAND และ ROCK (ในตำแหน่ง 4LLc - ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำเท่านั้น) ในโหมดออฟโรด ระบบจะช่วยควบคุมกำลังของเครื่องยนต์และระบบเกียร์รวมถึงระบบเบรก เพื่อการกระจายแรงบิดไปยังล้ออย่างเหมาะสม
สรุป
Mitsubishi Triton Double Cab 4WD 2.4GT Premium AT มีหน้าตาที่สดใหม่ เครื่องยนต์ทรงพลังและมีระบบส่งกำลังที่พอใช้ได้ มันยังมอบความสบายหลังพวงมาลัยและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่อยู่ในเกณฑ์ดี เครื่องยนต์ เกียร์ และช่วงล่างทำงานสอดประสานกัน โดยเฉพาะแรงบิดรอบต่ำที่ให้มาเยอะมากการทรงตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของกระบะยุคใหม่ทั่วไป อุปกรณ์ในรุ่นสูงสุด Double Cab 4WD 2.4GT Premium AT ให้มาครบ เครื่องเสียงมีคุณภาพปานกลางรวมถึงลำโพงที่อยู่ในระดับแค่พอฟังได้ ระบบสัมผัสที่หน้าจอสั่งงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ระบบนำทางด้วยดาวเทียมยังคงมีความละเอียดไม่มากนัก ลองไปหาขับทดสอบด้วยตัวของคุณเองหากมีความสนใจไยดีในรถรุ่นนี้ สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวของผมเกี่ยวกับเจ้านี่ก็อยู่ที่การบังคับควบคุมที่ดีของมัน แค่ระวังในเรื่องของความเร็วให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย คุณจะสนุกไปกับ Trito Double Cab 4WD AT ได้แบบไม่น้อยหน้าปิกอัพขับ 4 รุ่นอื่น.
Mitsubishi Triton Double Cab 4WD 2.4GT Premium AT ราคา 1,099,000 บาท
มิติตัวถัง
ความยาวตลอดคัน 5,300 มิลลิเมตร
ความกว้างตลอดคัน 1,815 มิลลิเมตร
ความสูง 1,795 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
ความกว้างช่วงล้อหน้า 1,520 มิลลิเมตร
ความกว้างช่วงล้อหลัง 1,515 มิลลิเมตร
ความยาวกระบะภายใน 1,520 มิลลิเมตร
ความกว้างกระบะภายใน 1,470 มิลลิเมตร
ความสูงกระบะภายใน 475 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดถึงพื้น 220 มิลลิเมตร
น้ำหนักรถโดยประมาณ 1,960 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์
รหัสเครื่องยนต์ 4N15 AS&G
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว MIVEC เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,442 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ X ช่วงชัก 86.0 x 105.1 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 14.9 : 1
กำลังสูงสุด 133 กิโลวัตต์ 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที
ระบบเชื้อเพลิงชนิดหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ คอมมอนเรล
ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร
ระบบส่งกำลัง
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Sport Mode
คลัทช์ ทอร์คคอนเวอร์เตอร์
อัตราทดเกียร์
- 1st 3.600
- 2nd 2.090
- 3rd 1.488
- 4th 1.000
- 5th 0.687
- 6th 0.580
- เกียร์ถอยหลัง 3.732
อัตราทดเกียร์ส่งกำลัง
- สูง 1.000
- ต่ำ 2.566
อัตราทดเฟืองท้าย 4.272
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ SS4-II พร้อม DIFF LOCK ที่เฟืองท้าย
ระบบบังคับเลี้ยว แร็คแอนด์พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.9 เมตร
ระบบกันสะเทือน
หน้า อิสระ แบบปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง แหนบแผ่นซ้อนพร้อมโช้คอัพไขว้
ระบบเบรก
หน้า ดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง ดรัมเบรก
ชนิดและขนาดของล้อ
ล้ออัลลอย 18x7.5J
ขนาดยาง 265/60 R18
ยางอะไหล่ ล้ออัลลอยขนาดเดียวกับยางติดรถ
อุปกรณ์ภายนอก
กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ
กันชนหน้าด้านล่างสีเงิน
แผงกันกระแทกด้านล่าง
กันชนหลัง
ไฟหน้า โปรเจคเตอร์ ไบ-แอลอีดี
ไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำ
ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบแอลอีดี
ไฟตัดหมอกหน้า
ไฟท้ายและไฟเบรกแบบแอลอีดี พร้อม LED Light Guide
กระจังหน้าสีเงิน
กรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าพร้อมไล่ฝ้า
มือเปิดประตูด้านนอกแบบโครเมียม
มือเปิดกระบะท้ายแบบโครเมียม
ยางกันโคลนด้านหน้าและหลัง
กระจกหน้ากรองแสงแบบนิรภัย
ที่ปัดน้ำฝนหน้าพร้อมจังหวะหน่วงเวลา
ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
ขอเกี่ยวขอบกระบะด้านข้าง
ขอเกี่ยวขอบกระบะด้านหลัง
บันไดข้าง
ไฟเบรกดวงที่ 3
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ที่บังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกด้านผู้โดยสาร
ช่องเก็บแว่นตาเหนือศีรษะ
ไฟห้องโดยสารและไฟอ่านแผนที่
คอนโซลกลาง แบบเปียโนแบล็ค
แผงสวิตช์ควบคุมหน้าต่าง แบบเปียโนแบล็ค
ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง
พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับเข้า-ออก แบบ 4 ก้าน
พวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนัง
มือเปิดประตูด้านในแบบโครเมียม
ช่องเก็บของที่ประตูคู่หน้า พร้อมช่องใส่ขวดน้ำ
คอนโซลกลาง พร้อมที่วางแก้วน้ำ และกล่องเก็บของมีฝาปิด
ฝาปิดหุ้มพีวีซี
กล่องเก็บของด้านหน้า พร้อมไฟส่องสว่างแบบหน่วงเปิด
ที่พักแขนกลางเบาะหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ
ช่องใส่ขวดน้ำบริเวณประตูคู่หลัง
มือจับขึ้น-ลงรถ 4 ตำแหน่ง
มือจับเหนือศีรษะ 4 ตำแหน่ง
จำนวนที่นั่ง 5 ที่นั่ง
วัสดุหุ้มเบาะ หนังและวัสดุหนังสังเคราะห์
เบาะคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้
ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ที่นั่งตอนหลังพร้อมพนักพิงศีรษะ
ระบบปรับอากาศ
แบบอัตโนมัติ แยกปรับอุณภูมิซ้าย-ขวา
ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
จอแสดงข้อมูลในการขับขี่แบบสีพร้อม 3D แอนิเมชั่น
สวิตซ์ควบคุมจอแสดงข้อมูลในการขับขี่บนพวงมาลัย
เซ็นทรัลล็อก
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ด้านคนขับ ปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบ Safety
กุญแจรีโมทพร้อมไฟเรืองแสงที่ช่องเสียบกุญแจ
กุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
เครื่องเสียง 2DIN - วิทยุ, ซีดี, เอ็มพี 3
เครื่องเสียง 2DIN - วิทยุ, ดีวีดี, ซีดี, เอ็มพี 3 พร้อมจอภาพระบบสัมผัส พร้อมระบบนทางในรถยนต์
ระบบสั่งงานด้วยเสียง พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
สวิตซ์ควบคุมวิทยุบนพวงมาลัย
ช่องต่ออุปกรณ์ USB 3 ตำแหน่ง
ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ แบบ A2DP
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
พรมรองพื้นห้องโดยสาร
ยางรองพื้นห้องโดยสาร
ความปลอดภัย
คานเหล็กนิรภัยบริเวณประตู
ประตูหน้าและหลัง
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, บริเวณหัวเข่าด้านคนขับและม่านถุงลมนิรภัย
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง เฉพาะด้านคนขับ
เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งคู่หน้า แบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับได้
เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง
จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง ที่เบาะนั่งแถวที่ 2
ระบบล็อกป้องกันการเปิดประตูจากภายใน
ระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD
ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก
ระบบเสริมแรงเบรก
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
ระบบควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน
ปุ่มออฟโรดโหมด
ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ
ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว
ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา
ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด
เซ็นเซอร์กะระยะจอด ด้านหน้าและหลัง
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว
ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม
กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นกะระยะและเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ
กล้องมองภาพหลังขณะถอยจอด พร้อมเส้นกะระยะ
ไล่ฝ้ากระจกหลัง พร้อมระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ
ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/