กระบะ Chevrolet Colorado เวอร์ชั่นพิเศษ Midnight Edition สีดำพร้อมชุดแต่งเสริมความโหดในรูปแบบลิมิเต็ด เป็นกระบะไซส์กลางอีกรุ่นที่ทำตลาดในไทยและมีความน่าใช้ เวอร์ชั่นพิเศษ Midnight Edition ถูกเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2561 เป็นการเปิดผ้าคลุมตามหลัง Colorado High Country Centennial 100 Year Edition ที่ออกขายเมื่อช่วงปลายปี 2017 และ Colorado High Country Storm Orange Crush กระบะส้มที่โผล่ตามหลังออกมาในรูปแบบพิเศษผลิตแค่ 100 คัน เป็นการแนะนำรถยนต์ปิกอัพรุ่นใหม่ของค่าย Chevrolet ในตลาดรถปิกอัพของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยจอมโหดสายแรง คู่แข่งตัวถังดับเบิ้ลแคปขับเคลื่อน 4 ล้อเกียร์ออโต้ เช่น Ford Ranger / Toyota Hilux REVO Rocco / Mitsubishi Triton Athlete / NIssan Navara Black Edition / Isuzu D-MAX V-Cross MAX 4x4 แนวทางในการทำตลาดของ Chevrolet ในการปรับปรุงรถปิกอัพยังคงยึดมั่นกับการผลิตในรูปแบบ Limited Edition ใช้การผลิตรุ่นพิเศษโดยทำขึ้นมาแค่ครั้งละ 100 คันเท่านั้นแต่ก็ขายหมดทุกครั้ง
Chevrolet Colorado Midnight Edition
2.5 VGT Midnight Edition Z71 6AT 1,028,000 บาท
2.5 VGT Midnight Edition 4×4 6AT 1,098,000 บาท (คันทดสอบ)

...


จาก Colorado High Country Centennial Edition ตามด้วย Colorado High Country Storm Orange Crush และล่าสุด Colorado Midnight Edition คือการนำ Colorado มาตกแต่งเพื่อสร้างความดุดันของรูปลักษณ์ แม้ยอดขายจะตามหลังกระบะคู่แข่ง แต่รูปแบบของการผลิต Limited Edition แค่ 100 คัน ทำให้ Chevrolet ขายรถกระบะรุ่นนี้ได้อย่างต่อเนื่อง เวอร์ชั่นใหม่ของ Colorado รุ่นพิเศษ Midnight Edition กำหนดสัดส่วนที่ใหญ่โตขึ้นในทุกมิติกับเทคโนโลยีใหม่ของเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร VGT ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมกลไกขับเคลื่อน 4 ล้อ 2H / 4H / 4L และระบบความปลอดภัย ชุดแต่งที่สร้างความแตกต่างให้กับ New Colorado ถูกผลิตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย นี่คือปิกอัพที่พัฒนาในประเทศไทยนานกว่า 8 ปี เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวรถให้สมบูรณ์ การทุ่มเม็ดเงินลงทุนที่โรงงานขนาดยักษ์ของ GM ในจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นฐานการผลิตรวมถึงการส่งออกชิ้นส่วนทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการสร้างรถกระบะของ Chevrolet เพื่อการใช้งานของลูกค้าในประเทศไทยรวมถึงการส่งออกไปขายในประเทศที่นิยมใช้งานรถปิกอัพ



...



...
กระบะ 4 ประตูขับเคลื่อน 4 ล้อสีดำ Midnight Edition เป็น Colorado รุ่นพิเศษที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งรอบคันที่ทำให้กระบะรุ่นนี้มีความดุดันเพิ่มเข้ามา มิติตัวถังของ Midnight Edition มีความยาว 5,408 มิลลิเมตร กว้าง 1,874 มิลลิเมตร สูง 1,858 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,096 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง เท่ากันที่ตัวเลข 1,570 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้อง 216 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,904 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร Chevrolet Colorado 2.5 VGT Midnight Edition 4×4 A/T มีราคาค่าตัว 1,098,000 บาท มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกและภายในที่ผลิตขึ้นมาในรูปแบบ Limited Edition พร้อมสีดำสนิททั่วทั้งคัน!
ของแต่งใน Chevrolet Colorado 2.5 VGT Midnight Edition 4×4 A/T

กระจังหน้าสีดำเงา

...
สัญลักษณ์โบว์ไท สีดำ

กรอบไฟหน้า สีดำ

กระจกมองข้าง สีดำ

มือเปิดประตูภายนอก สีดำ

ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว สีดำ

ยาง All Terrain Goodyear Wrangler ขนาด 265/60 R18

สปอร์ตบาร์สีดำเงา พร้อมสติกเกอร์ข้างกระบะ

ขอบหน้าต่างสีดำ

ซุ้มล้อสีดำ

กันชนหลัง สีดำ

มือเปิดฝาท้าย สีดำ

กระจกนิรภัย Privacy Glass หน้าต่างคู่หลัง และกระจกบังลมหลัง

ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่

สัญลักษณ์ MIDNIGHT ที่ฝากระบะท้าย


ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ Jet Black
หลังคาภายในห้องโดยสาร สีดำ
แผงตกแต่งที่ประตูสีดำเงา พร้อมสัญลักษณ์ MIDNIGHT
กุญแจรีโมตคอนโทรล ดีไซน์ใหม่
อุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบปัดน้ำฝน แบบอัตโนมัติ Rain Sensor
พวงมาลัยไฟฟ้า EPS
ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ ฮาโลเจน
ไฟ Daytime Running Light แบบ LED Tube
ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟตัดหมอกคู่หน้า
ไฟท้าย แบบ LED
ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงผลดิจิตอล
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และรับสายโทรศัพท์
กระจกมองหลัง ปรับลดแสงอัตโนมัติ
หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว MyLink
ลำโพง 7 ตำแหน่ง แบบ Premium
ระบบสตาร์ตรถด้วยกุญแจรีโมต Engine Remote Start
ระบบนำทาง Navigation System
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ
เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
ระบบเสริมแรงเบรก PBA
ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Alert
ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning
เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า 4 จุด
เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง 4 จุด
กล้องมองภาพขณะถอยจอด
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC
ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะลากจูง TSC
ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ARP
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
ถุงลมนิรภัยหัวเข่า 1 ตำแหน่ง



กระบะหลังของ Colorado Midnight Edition มีความยาววัดจากภายนอก 1,795 มิลลิเมตร กว้าง 1,534 มิลลิเมตร พื้นกระบะหลังใช้การออกแบบให้มีรอยเชื่อมต่อยึดติดที่เรียบเนียน ขั้นตอนของการประกอบเชื่อมต่อกระบะในไลน์การผลิตเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพด้านการใช้งาน การบรรทุกที่หลากหลาย ไฟท้ายแบบใหม่แนวตั้งตรงทำจากพลาสติกโพลิเมอร์ ใส่หลอดไฟ LED สลับกับหลอดไฟแบบขั้ว กันชนหลังงานพลาสติกแข็งสีดำ ดีไซน์ด้านบนของกันชนหลังเป็นหยักร่องกันลื่นเมื่อต้องการก้าวขึ้นไปบนกระบะท้าย ฝาหลังติดตั้งที่เปิดอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางตามสมัยนิยม ไฟเบรกดวงที่สามติดตั้งอยู่ใต้สปอร์ตบาร์





ห้องโดยสาร
Colorado Midnight Edition มีพื้นที่ของห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความสะดวกในการขึ้น-ลง ห้องโดยสารที่สูงปริ้ดให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เบาะนั่งคนขับและคนนั่งหน้าปรับไฟฟ้า เบาะนั่งใช้วัสดุหนังสังเคราะห์เนื้อนุ่มสีดำ ตัวเบาะออกแบบให้นั่งได้สบายโดยเฉพาะคนที่มีรูปร่างใหญ่โตก็ยังนั่งได้อย่างไม่คับแคบ รูปทรงแบบสปอร์ตของตัวเบาะคู่หน้าส่งให้มุมมองของห้องโดยสารดูดี เบาะคู่หน้ามีตำแหน่งท่านั่งที่สูงโด่งตามสไตล์รถลุยเพื่อการมองเห็นรอบตัวที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น พวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนังแท้ เน้นรูปแบบสปอร์ตจับได้อย่างกระชับมือ มีสวิตช์ปรับตั้งเครื่องเสียงติดมาให้ที่มุมซ้ายบนก้านพวงมาลัย การปรับตั้งของพวงมาลัยสามารถปรับยกขึ้นลงได้แต่ปรับระยะไกล-ใกล้ไม่ได้ พวงมาลัยมีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์ปรับตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control รวมถึงปุ่มควบคุมการสั่งงานในระบบโทรศัพท์ไร้สาย





แผงแดชบอร์ดใช้ดีไซน์แบบ Dual Cockpit เช่นเดียวกับ Chevrolet ยุคใหม่ แดชบอร์ดแบบทูโทนสีดำสลับสีส้มตัดเฉดสีกันอย่างรุนแรง แผงหน้าปัดทั้งชิ้น ทำจากพลาสติกสีดำหล่อขึ้นรูป ช่องแอร์ทรงรีให้ความเย็นฉ่ำจากพัดลมของระบบปรับอากาศได้ดี คอนโซลหน้าทั้งชิ้นออกแบบให้มีรูปทรงที่บึกบึน ซุ้มคันเกียร์ออกแบบเชื่อมโยงกับความหรูหรา พร้อมปุ่มควบคุมระบบขับเคลื่อนที่มีทั้งแบบ 2 ล้อและ 4 ล้อให้เลือกใช้งาน



หน้าปัดมาตรวัดคล้ายกับรถสปอร์ตของค่าย Chevrolet ขนาดของมาตรวัดกะทัดรัด สีสันในหน้าปัดใช้โทนสีฟ้าอมน้ำเงิน Ice Blue LED มองเห็นได้อย่างชัดเจนและอ่านค่าได้ง่ายทั้งวัดรอบเครื่องยนต์กับวัดความเร็วของตัวรถ เข็มวัดสีแดงกับไฟหน้าปัดสีฟ้าอมน้ำเงินจะทำงานตลอดเวลาที่ติดเครื่องยนต์ มาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ทำเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ใต้มาตรวัดความเร็ว ส่วนวัดระดับเชื้อเพลิงในถังมีรูปแบบเหมือนกัน โดยวางตำแหน่งเอาไว้ที่มุมขวาของกรอบหน้าปัดใต้มาตรวัดรอบจอเล็กๆ ตรงใจกลางมาตรวัดแบบ Multi Information Display ที่วิศวกรของ Chevrolet เรียกว่า DIC (Data Information Center) ทำหน้าที่แสดงข้อมูล ความเร็วเป็นตัวเลข อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่างๆ ระยะทางที่น้ำมันในถังเหลือพอให้แล่นต่อความเร็วเฉลี่ย ตำแหน่งของเกียร์อัตโนมัติ การเปิด-ปิดประตู หน่วยประมวลผลข้อมูลของตัวรถที่แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ หน้าปัดของเจ้า Colorado Midnight Edition มีความเรียบง่ายด้วยแสงสีฟ้าสบายตาพร้อมเข็มมาตรวัดสีแดง







จอภาพมอนิเตอร์สั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่หน้าจอ ชุดเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศที่มีการปรับปรุงใหม่มาตั้งแต่รุ่น Minor Change ปุ่มและสวิตช์แบบกดแทนที่ของเดิม การปรับระดับความเย็นของอุณหภูมิภายในห้องโดยสารแบบตัวเลข ปุ่มปรับทิศทางการกระจายความเย็น ปุ่มควบคุมระดับความเร็วของพัดลมแอร์ภายในห้องโดยสาร เครื่องเสียงดิจิตอลให้คุณภาพปานกลาง รูปทรงของชุดเครื่องเสียงเข้ากันได้ดีกับคอนโซลกลางจากงานดีไซน์ ชุดเครื่องเสียง Built-in ถูกออกแบบให้สอดรับกับชุดแผงหน้าปัดทั้งหมด เล่นวิทยุ AM/FM CD/MP3 พร้อมช่องเสียบ USB และ AUX เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในเกือบทุกรุ่นย่อย รวมถึงยังเป็นจอภาพมอนิเตอร์ของกล้องมองภาพด้านหลัง การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ไร้สาย การเล่นเพลงจากเครื่องเล่นพวก iPod / USB


ขุมกำลัง
เครื่องยนต์ของ Colorado Midnight Edition 2.5 VGT 4x4 A/T เป็นเครื่องยนต์ดีเซล Duramax รหัส XLDE25 LP2 Commonrail Direct Injection อัดอากาศเข้าสู่ท่อร่วมไอดีด้วยเทอร์โบ พร้อมครีบแปรผัน VGT ติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดกะทัดรัดคอยลดอุณหภูมิไอดี เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 กระบอกสูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน VGT มีปริมาตรความจุ 2.5 ลิตร หรือ 2,499 ซีซี เป็นเครื่องดีเซลแบบ 4 กระบอกสูบ 4 วาว์ลต่อสูบ หรือ 16 วาล์ว ฝาสูบแบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VGT – Variable Geometry Turbocharger) ความกว้างกระบอกสูบ 92.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 94.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5:1 มีกำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดมากถึง 440 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดตรงไดเรคอินเจคชั่น ค่าการปล่อย CO2 อยู่ที่ 218 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร


ระบบส่งกำลัง
Colorado Midnight Edition 2.5 VGT 4x4 A/T ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด เป็นเกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมปุ่มปรับโหมดการทำงาน ที่มีให้มาทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังในสถานการณ์ปกติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4H เมื่อต้องการการยึดเกาะเมื่อขับบนผิวถนนที่เปียกลื่นและ 4Low เมื่อขับลุยฝ่าทางวิบากสมบุกสมบัน เป็นเกียร์อัตโนมัติที่ทำงานเชื่อมโยงกับวงจรรอบของเครื่องยนต์และความเร็วของรถได้อย่างสมบูรณ์ ให้อัตราทดในรอบต้นๆ ไปจนถึงรอบสูงสุดต่อเนื่องและยาวนานจากพลังแรงบิดระดับ 440 นิวตันเมตร มีอัตราทดต่อรอบบนย่านความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,600 รอบต่อนาที ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงหากต้องวิ่งด้วยความเร็วคงที่ยามเดินทางไกล เกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ 2 อัตราทด พร้อมกลไก Active Select ให้ผู้ขับควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไปตามสภาพเส้นทางด้วยตัวเอง


ช่วงล่าง
ระบบรองรับหรือชุดกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกสองชั้น พร้อมทอร์ชั่นบาร์และโช้คอัพแก๊ส ด้านหลัง ซึ่งต้องรองรับอัตราบรรทุกเต็มพิกัดเป็นแบบลีฟสปริงรูปครึ่งวงรี แหนบทำจากโลหะเป็นเหล็กกล้าเบอร์พิเศษที่มีความคงทนสูง รับแรงบิดและแรงกดได้ดีเมื่อต้องบรรทุกหนัก พร้อมโช้คอัพแบบแก๊สสลับตำแหน่ง (ไขว้) ระบบห้ามล้อใช้ดิสเบรกกับจานเบรกด้านหน้า ขนาด 300 มิลลิเมตร ด้านหลังเป็นดรัมเบรกเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 295 มิลลิเมตร



Colorado เครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.5 ยังคงมีอาการสั่นสะท้านที่ฝากระโปรงเมื่อจอดเดินเบา พอใส่เกียร์ D กดคันเร่งออกตัวคุณก็จะพบกับแรงบิดรอบต่ำที่มากเกินพอต่อการใช้งาน ความสูงของมันช่วยทำให้มองเห็นได้รอบตัว เบาะปรับไฟฟ้าแม้จะปรับให้ต่ำลงจนสุดก็ยังสูงอยู่ดี ทัศนวิสัยรอบคันโปร่งโล่งแต่กระจกหลังของรถทดสอบคันนี้ติดฟิล์มกรองแสงค่อนข้างทึบ เส้นทางทดสอบจากมวกเหล็กมุ่งหน้าไปยังอำเภอปากช่องเป็นทางลาดยางสองเลนสวนกันที่ขนาบข้างด้วยภูเขาที่เหมาะกับการเอากระบะมาขับทดสอบ



พวงมาลัยของ Colorado Midnight Edition มีความชัดเจนและเฉียบคมใช้ได้แต่วงเลี้ยวในการกลับลำนั้นกว้างพอๆ กับปากอ่าวของแม่น้ำเจ้าพระยา Colorado 2.5 นั้น วิ่งบนไฮเวย์ได้ดี ช่วงล่างหลังแบบแหนบที่เน้นการบรรทุกมีอาการโคลงตัวอยู่บ้างซึ่งเป็นอาการปกติของปิกอัพยกสูง เมื่อขับในย่าน 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีสูสีกับกระบะยกสูงของคู่แข่ง การปรับแต่งชุดกันสะเทือนใหม่ทำให้อาการโดยรวมดีขึ้นมากโดยเฉพาะช่วงล่างด้านหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบนหรือปีกนกคู่เซตมาดีพอใช้ เครื่องยนต์ 2.5 Duramax Diesel Turbo มีเสียงดังสนั่นเมื่อกดคันเร่ง อัตราเร่งที่สมน้ำสมเนื้อกับเงินที่จ่ายออกไป เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดีเซลจากค่าย Chevy ที่ให้แรงบิดอย่างต่อเนื่องเมื่อระบบอัดอากาศทำงาน แรงบิด 440 นิวตัน-เมตรมากพอที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความกระฉับกระเฉง มันเป็นรถกระบะที่ขับได้สนุกดีเหมือนกันโดยเฉพาะการวิ่งบนทางวิบากแบบออฟโรด ระบบอัดอากาศแบบ Variable Geomety Turbo ทำงานแปรผันไปตามรอบของเครื่องยนต์ ช่วยบูสอากาศเข้าท่อร่วมไอดี เครื่องยนต์ส่งถ่ายแรงบิดไปยังชุดส่งกำลังอัตโนมัติ 6 สปีด อัตราทดในโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง เกียร์ 6 สปีดให้ความต่อเนื่องไหลลื่นใช้ได้ เป็นเกียร์อัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพพอสมควรแต่ก็ยังมีอัตราทดน้อยกว่ากระบะคู่แข่งร่วมสัญชาติอย่าง Ford Ranger รุ่น Bi-turbo ที่ยัดเกียร์มาให้มากถึง 10 สปีด!



Colorado Midnight Edition เป็นรถกระบะที่มีความสูงมากกว่ารถเก๋งทั่วไป เมื่อขับผ่านเส้นทางที่ไม่เรียบหรือมีผิวถนนที่เป็นลอนคลื่น มีความสูงต่ำไม่เท่ากันในบางช่วงบางจังหวะอาจสร้างปัญหาให้กับการควบคุมเมื่อขับที่ความเร็วสูง การขับปิกอัพยกสูงที่มีกระแสลมเข้าเกี่ยวเนื่องทั้งลมที่หมุนวนบริเวณกระบะท้ายกับใต้ท้องรถ มวลน้ำหนัก 1.9 ตัน กับการปรับจูนช่วงล่างทำให้เมื่อขับที่ย่านความเร็วสูงไม่สร้างความเครียดมากนักหากผิวถนนอยู่ในสภาพปกติ สิ่งที่เข้ามาช่วยก็คือระบบรองรับด้านหน้ากับพวงมาลัยที่มีนำ้หนักดี เป็นพวงมาลัยไฟฟ้าที่แม่นยำและมั่นคง การหักเลี้ยวหรือวิ่งบนทางตรงให้สัมผัสที่ดีกว่าพวงมาลัยเพาเวอร์สายพานแบบเดิม ทำให้การบังคับควบคุมเจ้ากระบะสีดำคันออกมาในแบบง่ายและสบายเมื่อใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด เป็นอีกจุดที่ Chevrolet ทำออกมาได้ดี



Colorado Midnight Edition ในย่านความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องดีเซล 2.5 ลิตร เทอร์โบ ใช้รอบเครื่องประมาณ 1,700 รอบต่อนาที ทำให้การเดินทางไกลในย่านความเร็วคงที่ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มากนัก เนื่องจากระหว่างการขับทดสอบเป็นการวิ่งตัวเปล่าๆ ไม่ได้ทดลองบรรทุกสัมภาระที่กระบะท้าย การเก็บเสียงยังไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควร เสียงการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อกดคันเร่งลงลึกเพื่อเร่งแซงดังเข้ามาอย่างชัดเจน รวมถึงเสียงของยาง Bridgestone Dueler H/T ขนาด 245/70/R16 ที่บดไปบนพื้นถนน ประตูหลังแบบ Double Cap ส่งผลไปถึงการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารบ้างแต่ไม่มากนัก



พวงมาลัยไฟฟ้าของ Colorado รุ่นสูงสุดถูกปรับตั้งให้มีบุคลิกที่แตกต่างออกไป ให้ความรู้สึกไม่ไวหรือมีน้ำหนักมากจนเกินไป อาจไม่คมเท่ากับพวงมาลัยของ Ford Ranger แต่สอดประสานไปกับการหักเลี้ยวได้อย่างมั่นคง ส่วนแรงบิดจากเครื่องดีเซล 2.5 ลิตร ตอบสนองไปตามฝ่าเท้า หากกดคันเร่งเต็มเหนี่ยวการออกตัวบนเรือนร่างที่สูงโย่งของ Colorado ฉับไวทันอกทันใจดีแท้ เป็นกระบะที่มีตีนต้นใช้ได้ รวมถึงตีนปลายก็ยังโหดสมราคา แรงบิด 440 นิวตันเมตร มาในรอบต่ำแต่มาเต็ม เมื่อขับกระบะที่มีแรงบิดเยอะแล้วต้องเลี้ยวยูเทิร์นบนผิวถนนที่เปียกลื่นหรือมีกรวดทราย ขอเตือนว่าอย่ากดคันเร่งจนจมมิดทั้งหมด อาจทำให้เกิดอาการปัดหรือท้ายกวาดได้ง่ายๆ



จุดเด่นของ Colorado Midnight Edition อยู่ที่ประสิทธิภาพของแรงบิดจากเครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและชุดบังคับเลี้ยว เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรตอบสนองได้ดีแต่ก็ต้องยอมรับในเรื่องของเสียงและแรงสั่นสะเทือนในรอบเดินเบาซึ่งเป็นสันดานที่แก้ไม่หายสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลในรถกระบะ เกียร์ออโต้ 6 สปีดเมื่อผลักคันเกียร์ไปทางซ้ายก็จะเข้าสู่โหมดแมนนวลที่คนขับสามารถชิฟเกียร์เองได้และเหมาะสำหรับเส้นทางที่คดเคี้ยว เช่นทางแบบขึ้น-ลงเนินที่สูงชัน ทางบนภูเขาที่ต้องใช้เกียร์ช่วยร่วมกับเบรกเมื่อต้องการลดความเร็วก่อนเข้าสู่หัวโค้งหรือเร่งความเร็วเมื่อออกจากปลายโค้ง เกียร์ของ High Country Storm จะตอบสนองได้ดีพอสมควรและจะดีกว่านี้ถ้าให้แป้น Paddle Shift สำหรับเปลี่ยนเกียร์ได้ที่หลังพวงมาลัย!




กระบะ Chevy รุ่นนี้ มีจุดเด่นจากประสิทธิภาพของการใช้งานเช่นเดียวกับบรรพบุรุษของพวกมันทุกคันที่สามารถรองรับการขับขี่แบบสมบุกสมบัน รวมถึงงานบรรทุกสัมภาระ เป็นการปรับปรุงตามกลไกของการพัฒนารถกระบะภายใต้การกำกับดูแลของแบรนด์ GM การนั่งที่นิ่มนวล การทรงตัวในย่านความเร็วเดินทางที่มั่นคง แรงบิดเหลือเฟือ ของแต่งที่ช่วยเสริมความน่าใช้งาน เหลือแต่การปรับศูนย์บริการและการเคลมชิ้นส่วนเท่านั้นที่ต้องทำให้ประทับใจลูกค้ามากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าทำแบบที่บอก โดยใช้แนวทางของ Isuzu ในการดูแลลูกค้า แม้จะต้องใช้เงินเยอะขึ้นเพื่อทำให้ลูกค้าพอใจในบริการหลังการขายที่ดีกว่าเดิม Colorado จะขายได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/