สำหรับคนที่ชอบเรื่องเครื่องบิน คำถามที่ว่า เครื่องบินรบแบบใดดีที่สุดในโลก เป็นเครื่องบินรบที่ทันสมัยมากที่สุดและได้รับความนิยมยอมรับในกลุ่มนักบินรบ สามารถทำความเร็วได้เหนือกว่า มีความคล่องแคล่วและมีเทคโนโลยีล้ำสมัย เครื่องบินรบที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ยังถูกรวบรวมมาจากความเห็นของนักบินจากกองทัพอากาศทั่วโลกที่เคยบินกับเครื่องแบบต่างๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบจากความสามารถทางการรบในอากาศ รวมถึงประสิทธิภาพของโจมตีทำลายล้างในระหว่างการปฏิบัติการทางทหาร สมรรถนะของเครื่องบินทั้ง 10 ลำที่เกิดขึ้นจากการลงคะแนนของนักบินรบทั่วโลก และนี่คือ 10 สุดยอดเครื่องบินขับไล่-โจมตีในปัจจุบัน

1. Lockheed Martin / Boeing F-22 Raptor (USA)
เครื่องบินโจมตีสกัดกั้นที่มีสมรรถนะเหนือกว่าอากาศยานรบทุกแบบในปัจจุบัน F-22 Raptor มีรูปทรงที่เรดาร์รุ่นใหม่เกือบจะไม่สามารถตรวจจับได้ เครื่องบินลำนี้มีทั้งการอำพรางตัว และประสิทธิภาพอันร้ายกาจของอาวุธ มันเป็นเครื่องบินรบที่มีขั้นตอนในการออกแบบ พัฒนาและการผลิตทันสมัยที่สุด และมีราคาแพงมากที่สุดในปัจจุบัน เซนเซอร์และคอมพิวเตอร์ที่ใช้ควบคุมท่าทางการบินทางยุทธวิธีมีความก้าวล้ำและทำงานประเมินผลด้วยความเร็วมากกว่ากะพริบตา!! เครื่องยนต์ของ Raptor ถูกออกแบบให้บินด้วยความเร็วสูงในลักษณะ Supercruise พร้อมค็อกพิตระะบบควบคุมการบินที่ลดภารกรรมของนักบิน คอมพิวเตอร์ของระบบควบคุมการบินช่วยให้มันบินได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวขณะเข้าต่อตีกับข้าศึก F-22 Raptor ใช้เครื่องยนต์ Pratt & Whitney F119-P-100 turbofans จำนวนสองเครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 2,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีรัศมีทำการไกล 2,590 กิโลเมตร

...

F-22 Raptor เริ่มต้นการพัฒนาเพื่อทำให้มันกลายเป็นเครื่องบินรบที่เหนือชั้นกว่าเครื่องบินฝ่ายตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม ความก้าวล้ำของมันและประสิทธิภาพที่สูงส่งกว่าเครื่องบินแทบจะทุกแบบตั้งแต่การเปิดตัวทำให้ F-22 Raptor เป็นภัยคุกคามทางอากาศที่น่ากลัวของประเทศอื่น ๆ Raptor นั้นมีศักยภาพสูงทางการบิน การอำพรางตัวและอาวุธปล่อยที่ร้ายแรง ทำให้สหรัฐอเมริกาไม่เคยนำเสนอขายเครื่องรุ่นให้กับลูกค้าหรือพันธมิตรอื่น ๆ แม้กระทั่งกองกำลังนาโตก็ยังไม่มีใช้ นับเป็นเครื่องบินรบที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ฆ่าแกงกันเอง!!

...

2. Lockheed Martin F-35 (USA)
F-35 เป็นที่รู้จักในนามเจ้าสายฟ้าฟาด เป็นเครื่องบินรบแบบอเนกประสงค์หลากหลายบทบาท หนึ่งในสายพันธุ์ของ F-35B ประสบความสำเร็จในความสามารถกับการบินรบของกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐในปี 2015 F-35 ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการร่วมมือกับนานาประเทศพันธมิตร วัตถุประสงค์ของการสร้างเครื่องบินรบรุ่นนี้เพื่อแทนที่อากาศยานแบบเก่าที่มีอยู่ ในอนาคตอันใกล้ F-35 จะเข้ามาแทนที่ AV-8B, A-10, F-16 และ F / A-18 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบในกองกำลังของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ F-35 ก็ถูกส่งออกไปยังหลายประเทศที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ และมีเงินมากพอที่จะจ่ายเพื่อเครื่องบินขับไล่ที่มีความทันสมัย F-35 ใช้เครื่องยนต์ Pratt & Whitney F135 turbofan (F-35A) จำนวน 1 เครื่อง มีความเร็วสูงสุด 1,931 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พิสัยบินหรือบินไกล 1,600-2,200 กิโลเมตร อาวุธร้ายแรงประกอบด้วย AIM-9X Sidewinder, AIM-120 AMRAAM, AIM-132 ASRAAM, JSOW, Brimstone, Meteor แถมด้วยปืนใหญ่อากาศ GAU-22/A ขนาด 25-mm อีก 1 กระบอก

...

F-35 มีแผนแบบและสมรรถนะที่คล้ายคลึงกับ Lockheed Martin F-22 อย่างไรก็ตามมันมีขนาดเล็กและมีเพียงแค่หนึ่งเครื่องยนต์ มันใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีพรางตัว ช่วยลดการตรวจจับของเรดาร์ การออกแบบและวัสดุที่ใช้ฉาบพื้นผิวทำให้มันยากที่จะถูกตรวจสอบเมื่อบินในระดับต่ำ บทบาทหน้าที่หลักของ F-35 สามารถดำเนินการในภารกิจป้องกันภัยทางอากาศ, การสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิดและการทิ้งระเบิดทางยุทธวิธี ตัวเครื่องถูกออกแบบให้สามารถเข้ากันได้กับขีปนาวุธอากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้นดินแบบใหม่ล่าสุด เครื่องบินรบรุ่นนี้ถูกนำเสนอในสามรูปแบบสามสายพันธุ์หลัก เช่น F-35A, F-35B แบบสองที่นั่ง เป็นอากาศยานที่สามารถขึ้น-ลงทางดิ่ง กับรุ่น F-35C ที่ใช้ประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน

...

3. Chengdu J-20 (China)
เฉิงตู J-20 เป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบใหม่ล่าสุดของจีน มันถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับเครื่องบินรบในยุคที่ 5 โดยมีเครื่องขับไล่ของสหรัฐฯอย่าง F-22 Raptor และเครื่องบินรบรุ่นใหม่ของหมีขาวรัสเซีย PAK-FA เป็นที่คาดการณ์กันว่า การพัฒนา J-20 ที่ได้รับการช่วยเหลือโดยบริษัทการบินของรัสเซีย เครื่องบินรบล่องหนมังกรจีน J-20 นับเป็นอากาศยานลึกลับที่มีข้อมูลน้อยสุดๆ เริ่มบินครั้งแรกในปี 2015 การดำเนินงานผลิต J-20 ในแบบเครื่องบินรบล่องหนเพื่อใช้งานภายในกองทัพอากาศจีนในปี 2018 J-20 ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนจำนวน 2 เครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 2,700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีพิสัยบิน 4,500 กิโลเมตรเมื่อติดตั้งถังเชื้อเพลิงสำรอง

ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจีนได้นำวิธีการที่โปร่งใสมากขึ้นในการปรับปรุงกำลังทหารและประสิทธิภาพของอาวุธ แม้ว่าจะมีข้อมูลอย่างเป็นทางการเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับเครื่องบินลำนี้ที่ถูกปล่อยออกมาจากรัฐบาลจีน มีแนวโน้มว่า J-20 มีประสิทธิภาพทางการบินที่เหมือน หรือเหนือกว่าอากาศยานรบของสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะมีความสามารถในการโจมตีภาคพื้นดินเป็นรองเล็กน้อย เป็นเครื่องบินรบที่ทันสมัยมากรุ่นหนึ่งซึ่งจะเข้ามาแทนที่อากาศยานรบรุ่นเก่าซึ่งมีประสิทธิภาพทางการบินรบด้อยกว่า มังกรจีนลำนี้มีเครื่องยนต์ขนาดยักษ์ถึงสองเครื่อง ภายในติดตั้งอาวุธร้ายประเภทขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยไกลไว้ภายในลำตัว ปีกทั้งสองด้านที่ติดอาวุธต่อต้านอากาศยานขนาดเล็ก สำหรับขีปนาวุธอากาศสู่อากาศระยะสั้นทีติดตั้งอยู่ใต้ปีกมีน้ำหนักไม่มาก ส่วนขีปนาวุธขนาดใหญ่กว่าและมีรัศมทำการไกลถูกเก็บไว้ในลำตัวเพื่อลดการตรวจจับของเรดาร์ นอกจากนี้ J-20 ยังมีถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่สำหรับปฏิบัติภารกิจที่มีระยะทางไกลจากที่ตั้ง เครื่องบินสามารถติดตั้งถังเชื้อเพลิงสำรองและอาวุธด้วยน้ำหนักบรรทุกที่มากกว่า F-22 Raptor เครื่องบินลำนี้ยังถูกออกแบบให้มีความสามารถในการบินด้วยความเร็วสูง อย่างต่อเนื่องดีเยี่ยมอีกด้วย

4. Boeing F/A-18E/F Super Hornet (USA)
ปัจจุบันซูเปอร์ฮอร์เน็ต F-18 หรือเจ้าแตนอาละวาดลำนี้ เป็นเครื่องบินรบอเนกประสงค์หลากหลายบทบาทมากความสามารถที่เข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐฯมากที่สุด มากกว่าเครื่องบินทุกแบบที่พญาอินทรีเคยผลิต มันคือเครื่องบินรบทุกกาลอากาศที่สามารถโจมตีทั้งทางอากาศ และพื้นผิวเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นทะเล อ่าว ป่าเขา และทะเลทราย F-18 Super Hornet หรือเจ้าแตนจอมแสบที่มีเหล็กในเจ็บๆ ยังเป็นเครื่องบินรบที่ประจำการในกองทัพอากาศของออสเตรเลีย และเป็นเครื่องบินรบหลักในอีกหลายประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา F-18 ใช้เครื่องยนต์ General Electric F414-GE-400 จำนวน 2 เครื่อง มีความเร็วสูงสุด 1,915 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อโหลดอาวุธเต็มเหนี่ยว มีพิสัยบินประมาณ 2,000 กิโลเมตร

เครื่องบิน F / A-18E / F เป็นอนุพันธ์แยกย่อที่มีขนาดใหญ่และมีขีดความสามารถทางการบินยุทธวิธีมากขึ้น เป็นการพัฒนาต่อยอดจากเครื่องบินรุ่นพี่อย่าง F / A-18C / D Hornet ซูเปอร์ฮอร์เน็ตรุ่นใหม่ติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ เพิ่มเติมประสิทธิภาพและความสามารถทางการรบ เครื่องยนต์ใหม่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มน้ำหนักการบรรทุกขีปนาวุธเพิ่มเติม เครื่องบินขับไล่สกัดกั้นรุ่นนี้ได้มีการขยายช่วงเนื่องจากการต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อยืดพิสัยบิน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบควบคุมการบินใหม่ มาตรการบางอย่างที่มีความสำคัญทางยุทธวิธีได้รับการดำเนินการเพื่อลดการตรวจจับเรดาร์จากเครื่องบินของข้าศึกให้ดีขึ้นกว่าเดิม

5. Eurofighter Typhoon (European Union)
ในปี 1986 Eurofighter Typhoon ถูกแผนแบบและสร้างขึ้นโดยความร่วมมือของกลุ่มประเทศนาโตอย่าง เยอรมนี, อิตาลี, สหราชอาณาจักร และสเปน ในการพัฒนาเครื่องบินรบหลายบทบาท นับเป็นงานพัฒนาการสร้างเครื่องบินต่อสู้แบบใหม่ที่ดีที่สุด Eurofighter Typhoon ติดตั้งระบบตรวจจับเกินระยะสายตาที่มีความสามารถในการล็อกเป้าหมายครั้งละหลายเป้าเพื่อโจมตีภาคพื้นดิน เครื่องบินลำนี้ติดตั้งขีปนาวุธสายพันธุ์ยุโรปได้ทุกรุ่น Eurofighter Typhoon ติดตั้งเครื่องยนต์ Eurojet EJ200 turbofans จำนวน 2 เครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้ 2,125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นอากาศยานสกัดกั้นและต่อตีข้าศึกที่อุดมไปด้วยระบบควบคุมการบินอันทันสมัยและครบวงจร

ดูเหมือนว่า Eurofighter Typhoon จะมีความเหนือชั้นในด้านสมรรถนะมากกว่า F-15F ของอเมริกันและเครื่องขับไล่รุ่น Rafale ของฝรั่งเศส โดยมีประสิทธิภาพพอๆกับเครื่องขับไล่โจมตีของรัสเซียอย่าง Su-27 รวมถึงยังมีความเหนือกว่าในด้านระบบควบคุมการบินที่ก้าวล้ำยุค เจ๋งกว่าสายพันธุ์อากาศยานรบแบบอื่นๆ อีกมากมาย Eurofighter Typhoon ถูกกำหนดให้เป็นรากฐานที่สำคัญของกำลังทางอากาศในยุโรปจนเข้าสู่ศตวรรษที่ 21

6. Dassault Rafale (France)
Rafale ของฝรั่งเศสเป็นเครื่องบินที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานในกองทัพอากาศฝรั่งเศสซึ่งยังรวมไปถึงกองทัพเรือของเมืองน้ำหอมอีกด้วย เครื่องบินขับไล่รุ่นนี้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หลายบทบาทจากระบบควบคุมการบินแบบใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ยังมีมาตรการปรับปรุงการออกแบบลำตัวและใช้เรดาร์แบบพเศษเพื่อการตรวจจับที่ดีขึ้นของเครื่องบินรุ่นนี้ Dassault Rafale ยังเป็นอากาศยานที่บินได้คล่องแคล่วมากๆ

เรดาร์ประสิทธิภาพสูงของ Rafale สามารถติดตามเป้าหมายแยกย่อยได้มากถึง 40 เป้าหมายและทำการจู่โจมด้วยอาวุธปล่อยได้ถึง 4 เป้าหมายในเวลาเดียวกัน เครื่อง Dassault Rafale ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนของ SNECMA M88-2 turbofan engines จำนวน 2 เครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้ 1,995 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีพิสัยบิน 1,050 กิโลเมตร เครื่องบินรุ่นนี้มีสมรรถนะเทียบเท่ากับ F-16 รุ่นใหม่ล่าสุดของพวกอเมริกัน โดย บินขับไล่ Rafale จะเป็นรากฐานที่สำคัญของกำลังทางอากาศของฝรั่งเศสจนเข้าสู่ศตวรรษที่ 21

7.Sukhoi Su-35(Russia)
Sukhoi Su-35 เครื่องบินรบหลายบทบาทเป็นอากาศยานขับไล่ที่ได้รับการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญ Su-27 ยังถูกผลิตเพื่อการส่งออกเป็นการแทนที่สำหรับเครื่องบินรัสเซียที่ขายดีอย่าง Su-27 และ Su-29 ความเสถียรและความน่าเชื่อถือของ Su- 35 ได้รับการรับรองโดยกองทัพอากาศรัสเซีย วิศวกรของ Sukhoi ผู้พัฒนาอ้างว่า เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ Su-35 เป็นเครื่องบินรบยุคที่ 4 เป็นอากาศยานที่บินได้เร็วและมีความคล่องแคล่วว่องไวอย่างมาก ด้วยความสามารถและประสิทธิภาพอันสูงส่ง จากอาวุธขนาดหนักที่ขนติดตัวไปได้ครั้งละมากๆ กลายเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวในการต่อสู้ เป็นเงามืดทางด้านการคานกำลังและอาวุธกับพวกตะวันตกที่ยังคงใช้เครื่องขับไล่ยุคที่ 4

Su-35 เป็นเครื่องขับไล่ต่อตีที่เหนือกว่าบนอากาศ แต่ก็มีความสามารถในด้านการโจมตีด้วยอาวุธระยะไกลแบบอากาศสู่พื้นดิน เป็นรองจรวดที่เครื่องขับไล่โจมตีของฝ่ายอเมริกันใช้ Su-35 ถูกออกแบบให้โหลดอาวุธได้มากกว่าเครื่องบินรบคู่แข่ง มันมีปีกและลำตัว ที่ออกแบบให้สามารถหิ้วอาวุธยุทโธปกรณ์ติดตัวไปด้วยซึ่งมีน้ำหนักรวมสูงสุดถึง 8,000 กิโลกรัม เทียบเท่ากับการบรรทุกหิ้วรถยนต์ขนาดเล็กหนัก 1 ตันได้ถึง 8 คัน!!! เครื่องยนต์ Saturn 117S (AL-41F1S) จำนวน 2 เครื่อง สร้างแรงขับดันมหาศาล สามารถบินด้วยความเร็วได้ถึง 2,390 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพ ออกแบบมาเพื่อความเร็วและการบรรทุกอาวุธล้วนๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้เครื่องยนต์ไปถึงความเร็วเหนือเสียงโดยไม่ต้องใช้การจุดสันดาปท้าย เครื่องยนต์มีแรงผลักดันเชิงสามมิติทำให้บินได้คล่องแคล่วมาก อย่างไรก็ตามรัสเซียยังคงมีเทคโนโลยีระบบควบคุมการบินตามหลังชาติตะวันตกอยู่พอสมควร

8. McDonnel Douglas F-15 Eagle(USA)
F-15 Eagle คือการบรรลุเป้าหมายของทัพฟ้าอเมริกันในการสร้างเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นที่เหนือชั้นกว่าอากาศยานของข้าศึก F-15 ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะแนวป้องกันของศัตรูในทุกรูปแบบคล้ายหัวหมู่ทะลวงฟันโดยจะใช้อาวุธร้ายแรงเข้าโจมตีแนวหน้าของศัตรูก่อนที่กองกำลังภาคพื้นดินจะรุกต่อ ถึงแม้ว่า F-15 จะถูกใช้งานมานานกว่า 30 ปี แต่สมรรถนะอันสูงส่งทำให้การเผชิญหน้ากับเครื่องบินรบรุ่นนี้ดูน่ายำเกรงสำหรับฝ่ายตรงกันข้ามตลอดมา เครื่อง F-15 มีประวัติทางการรบที่เข้มข้น และทำแต้มการฆ่าบนอากาศมากกว่า 100 แต้ม (หมายถึงการสอยเครื่องบินฝ่ายตรงกันข้ามร่วงระนาวกว่า 100 ลำในสงครามและความขัดแย้งต่างๆ นับตั้งแต่เริ่มเข้าประจำการ) เป็นเครื่องบินรบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคสงครามเย็น เครื่องขับไล่รุ่น F-15 ใช้เครื่องยนต์ของ Pratt & Whitney F100-P-220 จำนวน 2 เครื่องยนต์ บินเร็ว 2,655 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและมีพิสัยบิน 1,967 กิโลเมตร

F-15 พร้อมกับเขี้ยวเล็บซึ่งเป็นอาวุธอากาศสู่พื้นรุ่นใหม่ที่มีความรุนแรงแบบถอนรากถอนโคน การติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นล่าสุดสำหรับการเดินอากาศทำให้มันเป็นเครื่องบินประสิทธิภาพสูง มันสามารถติดตามและโจมตีเครื่องบินศัตรูในภารกิจบินควบคุมน่านฟ้า นักสู้ของพญาอินทรีลำนี้สามารถติดตั้งขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ อากาศสู่พื้น และมีความคล่องแคล่วทางการบินสูงมาก นอกจากนี้ยังมีความเร็วเดินทางต่อเนื่องทีสูงติดอันดับ ประสิทธิภาพของ F15 ในปัจจุบันซึ่งผ่านการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และการอัพเกรดระบบควบคุมการบินแบบใหม่  ทำให้ F-15 ในทุกวันนี้กลายเป็นเครื่องบินรบหลักที่คอยป้องกันน่านฟ้าของสหรัฐฯและคาดว่าจะยังใช้งานอย่างน้อยไปจนถึงปี 2025 F-15 ยังส่งเป็นเครื่องบินรบหลักของทัพฟ้าอิสราเอล ญี่ปุ่น และซาอุดีอาระเบียอีกด้วย

9. Mikoyan MiG-31(Russia)
Mig-31 (กองกำลังของนาโตกำหนดชื่อเครื่องบินรบรุ่นนี้ว่า Foxhound-A) ได้รับการพัฒนาขึ้นมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสร้างอากาศยานขับไล่ความเร็วสูง เพื่อให้การคุ้มครองและการป้องกันน่านฟ้าอากาศของโซเวียต Mig-31 ยังบรรลุความสามารถที่จะตอบสนองต่อภัยคุกคามของประเทศในกลุ่มสนธิสัญญานาโต เป็นเครื่องบินโจมตีความเร็วสูง มีอัตราการไต่เพดานบินอยู่ในระดับสุดยอด Mig -31 เป็นหนึ่งในเครื่องบินขับไล่ที่บินได้เร็วที่สุด เจ้าจิ้งจอก Foxhound ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน PNPP Aviadvigatel D-30F6 turbofans จำนวน 2 เครื่องยนต์ บินได้เร็วมากถึง 3,038 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีพิสัยบิน 3,300 กิโลเมตร

Mikoyan MiG-31 จิ้งจอกเจ้าแห่งความเร็วระดับเกือบจะไฮเปอร์โซนิคลำนี้ยังสามารถบินสกัดกั้นด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเครื่องบินศัตรู cockpits ถูกออกแบบให้มีความทันสมัยด้วยอุปกรณ์ควบคุมการบินของโซเวียต พร้อมระบบอาวุธที่มีความแม่นยำ โครงการที่อัพเกรดเครื่อบินขับไล่รัสเซียกับรุ่นมาตรฐาน MiG-31BM เริ่มขึ้นในปี 2010 ทำให้ Mig-31 เป็นกระดูกสันหลังของรัสเซียในการป้องกันภัยคุกคามทางอากาศ

10. Lockheed Martin F-16 Fighting Falcon(USA)
Lockheed Martin F-16 เป็นเครื่องบินรบน้ำหนักเบาซึ่งแผนแบบมาเพื่อทำให้ บินรบรุ่นนี้กลายเป็นทางเลือกที่มีราคาต่ำกว่า F-15 Eagle ซึ่งแตกต่างจาก F-15 ทั้งขนาดและน้ำหนักแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพทางการบิน เป็นนักมวยตัวเล็กหมัดหนักที่เร็วจี๊ดและคล่องตัว สามารถบินด้วยท่าผาดแผลงด้วยความคล่องที่เหนือกว่า นับจากเริ่มเข้าประจำการจวบจนทุกวันนี้ F-16 กลายเป็นเครื่องบินหลายบทบาทจากความสามารถในการโจมตีทางอากาศและเป้าหมายบนพื้น F-16 ได้รับการผลิตในจำนวนมาก และมีส่วนร่วมในความสงครามความขัดแย้งทั่วโลก

มันถูกสร้างขึ้นมากกว่า 4,500 ลำ โดยส่งออกอย่างกว้างขวางไปยังกองทัพอากาศของประเทศต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ปัจจุบันมีกองทัพกว่า 26 ประเทศทั่วโลกที่ยังคงใช้งานเจ้าเหยี่ยวมหาภัยในภารกิจสกัดกั้นโจมตีและลาดตระเวนทางอากาศ

F-16 ติดตั้งเครื่องยนต์ Pratt & Whitney F100-P-220E turbofan จำนวน 1 เครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้ 2,120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พิสัยบิน 4,220 กิโลเมตรเมื่อติดตั้งถังเชื้อเพลิงสำรอง เจ้าเหยี่ยวเวหาคือความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์บนสมรภูมิทางอากาศมาแล้วทั่วโลก เครื่องบินรุ่นนี้มีขนาดเล็กและเบา ทำให้เกิดความคล่องแคล่วว่องไว มีความคล่องตัวสูงมากแม้จะมีเครื่องยนต์แค่ตัวเดียวแต่กลับมีประสิทธิภาพเหลือร้าย

สำหรับการใช้งานในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นเครื่องบินรบหลักของกองทัพอากาศไทยแล้วมันยังคงถูกใช้บินทางยุทธวิธีในกองทัพอากาศสหรัฐฯ และจะยังคงบินใช้งานต่อไปจนถึงปี ค.ศ. 2025 ในอนาคต F-16 ก็จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่อย่าง F-35 Lightning II.