Toyota 2JZ-GTE เครื่องเบนซิน 6 สูบเรียง เทอร์โบ ความจุ 3.0 ลิตร เปิดตัวในปี 1991 เป็นคาบเวลาที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในยุคเฟื่องฟู อุตสาหกรรมรถยนต์ของแดนอาทิตย์อุทัยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น มียอดขายที่แซงหน้ารถยุโรปและอเมริกา ทำให้มีเม็ดเงินจำนวนมากหมุนเวียนอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น เงินสดที่แปรเปลี่ยนมาเป็นเงินทุนในการพัฒนารถยนต์ทุกรูปแบบ ตั้งแต่รถยนต์หรูเครื่องยนต์ขนาดกลาง ไปจนถึงรถสปอร์ตที่วางเครื่องหลากหลาย เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับสายขับที่มีรถดีๆให้เลือกอยู่เต็มไปหมดปี 1991 เป็นจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่น และ เครื่อง 2JZ ก็ถือเป็นจุดสูงสุดของเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง บล็อกเหล็กหล่อที่โคตรทน (ถ้าขับแบบเดิมๆ) นับตั้งแต่นั้นมา Toyota ก็ไม่มีเครื่องยนต์แบบนี้อีก ตลาดรถสปอร์ตเริ่มซบเซาลงและต้องหลีกทางให้กับรถเอสยูวีดาวดวงใหม่สุดอเนกประสงค์ที่ร้อนแรงกว่า ด้วยยอดขายที่มากกว่า เงินทุนสำหรับโปรเจ็กต์


...

เครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่สร้างมาอย่างเกินความจำเป็นในช่วงทศวรรษ 1990 ก็หมดเกลี้ยงลงไปอย่างรวดเร็ว ทุกวันนี้ Toyota ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงขนาดใหญ่ในรถบรรทุกเท่านั้น ส่วนรถซีดานหรือซาลูนขับเคลื่อนล้อหลังขนาดใหญ่ยังใช้เครื่องยนต์ V6 ที่เริ่มล้าหลัง โดยมีเครื่อง 2.0 ลิตร และ 1.5 ลิตร ซึ่งกำลังพัฒนาจนใกล้จะแล้วเสร็จเพื่อเสียบแทนเครื่องตัวโตรุ่นเก่าที่จะไม่ผ่านกฏหมายมลพิษในอนาคตอันใกล้นี้ เครื่อง 2JZ GTE ถือกำเนิดหลังจาก Nissan ตัดสินใจวางเครื่องยนต์ RB26DETT ทวินเทอร์โบ ลงใน Skyline GT-R (R33-34) แต่ต่างจาก Nissan ตรงที่ Toyota ไม่ได้เปิดตัว 2JZ GTE ในรถสปอร์ตคูเป้ แต่เปิดตัวเครื่อง 2J ในรถบ้านอย่าง Toyota Aristo 3.0 รถสี่ประตูไซล์กลางที่เน้นกลุ่มลูกค้าผู้บริหารระดับสูง (Toyota Aristo 3.0 ในอเมริกาคือร่างทรงของ Lexus GS) เพื่อปรับแต่งให้รถซีดานรุ่นนี้สามารถลงทำการแข่งขันในรายการ Japanese Grand Touring Car Championship แต่ประสิทธิภาพที่แท้จริงของ 2JZ GTE ที่ทำให้นักเลงรถทั่วโลกได้รับรู้ก็คือ ศักยภาพในการทำความเร็วของ Toyota Supra 

เครื่องยนต์ 2JZ เป็นส่วนหนึ่งของตระกูล JZ ซึ่งเป็นขุมกำลังที่เสียบแทนเครื่องยนต์ตระกูล M และ เครื่องยนต์ 1JZ ซึ่งเป็นเครื่อง 2.5 ลิตร 2JZ มีเครื่องยนต์ 3 รุ่นที่ออกจากโรงงาน ได้แก่ 2JZ-GE, 2JZ-GTE และ 2JZ-FSEเครื่องยนต์ 2JZ 3.0 ลิตร ขนาดกระบอกสูบและช่วงชักแบบ Square โดนมีความกว้างกระบอกสูบ 86 มิลลิเมตร ช่วงชัก 86 มิลลิเมตร เท่ากันพอดี ทำให้บล็อกเครื่องยนต์ 2J สูงกว่า 1J (86 มิลลิเมตร × 71.5 มิลลิเมตร) อยู่ที่ 14.5 มิลลิเมตรเครื่องยนต์ 2JZ-GTE ซึ่งเปิดตัวในปี 1990 พร้อมกับเครื่องยนต์ 1JZ-GE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ประจำการอยู่ในรถเก๋งหลายรุ่นของแบรนด์สามห่วง เช่น Chaser, Cresta, Crown และ Mark II 


...

เครื่อง 2JZ แทบจะเหมือนกับ 1JZ ทุกอย่าง ยกเว้นปริมาตรความจุที่ 3.0 ลิตร ส่วน 1JZ มีความจุ 2.5 ลิตร การใช้ช่วงชักที่ยาวขึ้นเป็น 86 มิลลิเมตร ความกว้างกระบอกสูบมีขนาดเท่ากับช่วงชักที่ 86 มิลลิเมตร ทำให้เครื่อง 2JZ มีรูปทรงสี่เหลี่ยม กระบอกสูบกับช่วงชักที่เท่ากันแบบ Square ทำให้มีแรงบิดรอบต่ำและแรงม้ารอบสูงที่เท่ากันอีกด้วย 2JZ GTE มีหัวลูกสูบอะลูมิเนียมที่แตกต่างกัน ท่อร่วมไอดีและไอเสียที่เป็นเอกลักษณ์ หัวฉีดที่มีอัตราการไหลสูงกว่า ลูกสูบที่เว้าลึกทำให้มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ต่ำกว่า รองรับแรงดันจากการบูสได้สูงมาก หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงช่วยลดอุณหภูมิของลูกสูบ


...


2JZ-GTE  “JZ” เป็นตระกูลเครื่องยนต์ “G” ย่อมาจากการใช้แคมคู่ที่เน้นประสิทธิภาพ “T” ย่อมาจากเทอร์โบชาร์จ และ “E” หมายความว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้ ใช้ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ใน Aristo และ Supra เครื่อง 2JZ-GTE ปั่นกำลังได้ 280 แรงม้า แต่ A80 Supra สเปกสหรัฐอเมริกาที่เปิดตัวในปี 1993 ซึ่งมาพร้อมหัวฉีดที่ใหญ่กว่า เทอร์โบที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น และแคมคู่ DOHC ที่แตกต่าง ทำให้ A80 Supra เวอร์ชันมะกัน มีกำลังถึง 320 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 430 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที แม้ Supra จะมีน้ำหนักมหาศาล (เครื่องยนต์เปล่าๆ มีน้ำหนัก 226 กิโลกรัม) จากการทดสอบ Toyota Supra เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาต่ำกว่า 5 วินาที ทำให้เป็นรถสปอร์ตที่มีตีนต้นจัดจ้านเอาเรื่องในยุค 90เครื่องเดิมๆ จากโรงงาน 

...




2JZ-GTE ถือเป็นเครื่องยนต์พิเศษอยู่แล้ว เพลาลูกเบี้ยวเหนือฝาสูบคู่ สี่วาล์วต่อกระบอกสูบ ระบบจุดระเบิดแบบไม่มีตัวจ่ายไฟ เทอร์โบซีเควนเชียล ระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ช่วยให้กำลังสูงและมีแรงบิดครอบคลุมตั้งแต่ต้นยันปลาย อัตราส่วนกระบอกสูบต่อช่วงชักแบบ หนึ่งต่อหนึ่ง ให้ความสมดุลที่ดีระหว่างแรงรอบต่ำและแรงรอบสูง แต่ถ้านำไปปรับแต่ง  2JZ GTE ก็จะเปลี่ยนจากเครื่อง "พิเศษ" กลายเป็นเหนือธรรมชาติไปเลย เหตุผลที่ทำให้ 2JZ-GTE ได้รับความนิยมในวงการจูนนิ่งรถแรง เนื่องจากความเหนียวไม่พังง่ายเมื่อถูกนำไปเปลี่ยนเทอร์โบเพื่อให้บูสให้หนักข้อขึ้น ความแข็งแกร่งของ 2J ผูกโบร์ เกิดจากการออกแบบบล็อคเครื่องยนต์เหล็กหล่อที่แข็งแกร่งสุดๆ ตลับลูกปืนหลักทั้งเจ็ดตัว ยึดด้วยสลักเกลียวสองจุดต่อตัว การยึดเพลาข้อเหวี่ยงไว้อย่างแน่นหนา เพลาข้อเหวี่ยงเหล็กกล้าหลอมที่มีน้ำหนักถ่วง 12 ตัว รองรับกำลังมหาศาลและความเร็วรอบของเครื่องที่สูงขึ้นจากการจูน 



ปั๊มน้ำมันหล่อลื่นและปั๊มน้ำรับมือกับการดัดแปลงหนักๆ ได้โดยไม่เกิดความเสียหาย ฝาสูบที่แข็งแกร่งทำให้เครื่องยนต์สามารถทนต่อแรงดันมหาศาลในกระบอกสูบได้ ก้านสูบก็ยังโคตรแข็ง และลูกสูบอะลูมิเนียมระบายความร้อนด้วยน้ำมันยังรับมือกับแรงกระแทกได้ดี ทั้งหมดนี้ หมายความว่าเจ้าของรถไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มแรงม้าของ 2JZ-GTE ขึ้นเป็นสองเท่าจากเครื่องที่ผ่านการดัดแปลง (อย่างถูกต้อง) ในความเป็นจริง สำนักจูนส่วนใหญ่มองว่า 2JZ-GTE สามารถรองรับแรงม้าได้ถึง 800 ตัว ใช่ครับ 800 แรงม้าจากชิ้นส่วนภายในเดิมๆ บางสำนักที่บ้าพลังอย่างจัด ปรับเพิ่มแรงม้าถึงระดับ 1,000 ตัว เพื่อยกระดับพลังที่ดูเหมือนจะไร้ขีดจำกัดของเครื่องยนต์



การไปถึงระดับนั้นต้องจ่ายกันหนักพอสมควร แม้ว่าจะมีชุดกระบอกสูบขนาดใหญ่และช่วงชักอยู่บ้าง แต่ 2JZ-GTE ที่มีแรงม้าสูงส่วนใหญ่ก็สามารถทำได้ด้วยการเปลี่ยนระบบไอดีและไอเสีย เปลี่ยนเทอร์โบแปรผันเป็นเทอร์โบเดี่ยวขนาดใหญ่พร้อมท่อทางเดินของไอดีใหม่ ติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์ใหญ่ขึ้น เปลี่ยนหัวฉีดและท่อน้ำมันให้ใหญ่ขึ้น ในสมัยนั้น 2J ถือเป็นเครื่องยนต์ขั้นสูง ปี 1998 เครื่องยนต์รุ่นนี้ยิ่งก้าวหน้าขึ้นไปอีก เมื่อเวอร์ชันญี่ปุ่นมีระบบวาล์วแปรผัน VVTi ปี 1998 เป็น ปีสุดท้ายของเครื่อง 2JZ-GTE ที่ชนะการแข่งขันแดร็กอย่างต่อเนื่อง


2JZ เป็นเครื่องยนต์ Toyota ที่ออกแบบมาอย่างล้ำสมัยที่สุดเครื่องหนึ่ง เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มขุมกำลังแรงม้าสูง แต่เครื่อง 2JZ ก็ไม่ใช่เครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบเสมอไป และแม้ว่าเครื่องยนต์ที่ได้รับการดัดแปลงจะขึ้นชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือสูง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าสำนักจูนต้องการผลักดันชิ้นส่วนต่างๆ ให้ไปได้แค่ไหน เครื่องยนต์ 2JZ ที่มีแรงม้า 450 ตัว มีแรงกดดันค่อนข้างน้อย เปิดโอกาสให้เจ้าของเอาไปโมเพิ่มได้อีกเพียบ


เครื่องยนต์ 2JZ GTE เทอร์โบชาร์จเจอร์พร้อมครีบเซรามิก ซึ่งรู้กันดีในกลุ่มคนเล่นว่ามันจะพังเมื่อมีโหลดมากเกินไป ต้องระวังคอยล์จุดระเบิดให้ดีๆ คอยล์ที่มีปัญหาการทำงาน อาจทำให้เกิดอาการจุดระเบิดที่ผิดพลาด เสี่ยงต่อความเสียหายที่ตามมา ในจุดนี้ก็โดนกันไปไม่ใช่น้อย ปั๊มน้ำซึ่งมีใบพัดพลาสติก มีอายุการใช้งานสั้นเกินไป 2JZ รุ่น วาว์ลแปรผัน VVTi อาจเจอปัญหาตัวยกวาว์ลที่เสื่อมสภาพ อาการต่างๆ ของ 2JZ จะคล้ายกับ 1JZ คือ เดินเบาไม่เรียบ มีเสียงดังน่ารำคาญแถวๆหัวเครื่อง สะดุด สำลัก แต่ถ้ามีการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมและใช้งานอย่างผู้คนปกติทั่วไป ไม่ใช่ขึ้นมาก็กระทืบโครมๆ เครื่องยนต์ 2JZ จะรองรับการใช้งานได้นานถึง 480,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th  
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom  
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/