เทคโนโลยียานยนต์จะมีเวลาเฉิดฉายของมันที่เหมาะสม ช่วงแรกๆคนก็ด่าแต่เวลาและการพยายามเข้าใจจะทำให้ผู้คนเปลี่ยนความคิด คุณจำได้หรือไม่ว่าเครื่องดีเซลคอมมอนเรลที่อยู่ในรถกระบะมากมายทุกวันนี้ เมื่อ 20 ปีก่อน พูดไปคนก็บอกว่าแพง จุกจิก ซ่อมยาก รวนง่าย ทุกวันนี้ใครก็ใช้ เช่นเดียวกับขุมพลังไฮบริด ซึ่งแม้จะไม่ใช่ไฮบริดทุกเจ้าที่ทนทานใช้สบายใจ แต่ไฮบริดของ Toyota นั้นผ่านร้อนหนาวมากว่าทศวรรษ ปรับปรุงจากรถที่ทุกคนแหยงไม่กล้าซื้อกลายเป็นรถที่พอน้ำมันแพงเข้าหน่อย บ้านไหนที่ไม่กล้าคบ LPG และแอนตี้รถไฟฟ้าก็พากันเสาะหารถไฮบริดมาใช้ อีกไม่นาน Toyota จะมีรถไฮบริดราคาดีอย่าง ATIV HEV มาขาย แต่ถ้าคุณต้องการความแรงและขับสนุกภายในงบที่ใกล้เคียงกัน..จะว่าอะไรไหมถ้าได้รถปีเก่ากว่าหน่อย

เช้าวันเสาร์ตื่นขึ้นมาก็นึกได้ว่าต้องปั่นต้นฉบับอีกรอบแล้ว เอานิ้วไถ Facebook ก็เห็นน้าฉ่าง อาคม รวมสุวรรณ เขียนคอลัมน์ถึง Toyota Yaris ATIV HEV (ไฮบริด) ที่น่าจะเปิดตัวในอีก 3-5 สัปดาห์หลังจากนี้ แล้วก็นึกได้ว่าตามประสารุ่นน้องที่เสมอต้นเสมอปลาย..คือต้องกวนส้นน้าเขาแบบเสมอต้นเสมอปลาย แล้วเราเป็นคอรถเก่ารถมือสองด้วย ก็เลยต้องหารถมือสองที่ปีไม่ลึกเกินไปมาชนเสียหน่อย ผมเดาว่า ATIV HEV น่าจะมีราคาป้วนเปี้ยนแถวๆ 7-7.5 แสนบาท ก็บังเอิญว่าคุณแตงโม รุ่นน้องผมเพิ่งจับ Camry สีขาวคันนี้มาขายในราคา 7 แสนกลางๆเช่นกัน ก็เลยนำมาเขียนถึงสักหน่อย
...

คุณต้องเข้าใจก่อนว่า “ภายในงบประมาณที่จำกัด” หากชีวิตคุณเน้นความประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าบำรุงรักษา รถใหม่อย่าง ATIV ย่อมได้เปรียบและน่าจะเหมาะกับคุณมากกว่า แต่ Camry ซึ่งเป็นรถเก่าปี 2019 อย่างนี้ ตัวใหญ่กว่า หนักกว่า กินน้ำมันมากกว่า แต่ผมกล้าพูดว่าด้วยพลังไฮบริด 2.5 ลิตรกับช่วงล่างอิสระ 4 ล้อและโครงสร้าง Toyota แท้ TNGA ที่พัฒนามาเพื่อลบคำสบประมาทช่วงล่างสไตล์พี่โตฯที่มีมาตลอด..มันจะเป็นรถที่ขับมันส์กว่า แรงกว่า วิ่งทางไกลเร็วๆแล้วไม่เครียด เป็นรถพ่อบ้านรับเมีย รับลูก รับแม่ยาย ที่แอบเอาไปสนุกได้บ้างเวลาขับคนเดียว




...
Toyota Camry คันสีขาวนี้ เป็นรุ่น 2.5HV ธรรมดา ไม่ใช่ตัวท้อป HV Premium ราคาสมัยเปิดตัวอยู่ที่ 1,639,000 บาทซึ่งถูกกว่าตัวท้อป 1,799,000 บาทอยู่โข ตามธรรมดาก็ต้องมีอุปกรณ์ที่ถูกตัดออกไป คุณลองพิจารณาดูว่าคุณสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ได้หรือไม่? แอร์ออโต้แยกปรับอุณหภูมิสำหรับคนนั่งหลัง, เบาะคู่หน้าแบบเป่าลมเย็น, เบาะหลังสเป็คสูงที่หมอนรองศีรษะกว้างกว่าและมีชุดสวิตช์ควบคุมของเจ้านายตรงที่เท้าแขน, จอ Head-Up Display, จอกลางสเป็คใหญ่ 8 นิ้วบวกระบบนำทาง, ถุงลมที่เพิ่มเป็น 9 ใบ และระบบ Toyota Safety-Sense อันประกอบด้วยไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเบรกอัตโนมัติด้านหน้า,ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน และ Dynamic Radar Cruise Control ที่ยังไม่ Stop-and-go พูดในภาพรวมคือ ถ้าคุณเป็นคนขับรถเอง หลายอย่างในนี้ไม่จำเป็น ก็ให้โฟกัสที่เรื่อง Toyota Safety-Sense ว่าคุณต้องการมันแค่ไหนดีกว่า ถ้าไม่ใช้ก็ไปเอารุ่นรองที่ราคาถูกกว่าเยอะได้


...


ภายในของ Camry เจนเนอเรชั่นนี้ ผมต้องบอกตามความเห็นส่วนตัวว่า ทันสมัยขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่ถ้าพูดถึงความหรูหราแล้วเหมือนจะถดถอยลง ยิ่งถ้ามองตามช่วงเวลาที่เปิดตัว Camry Hybrid ตัวแรกปี 2009 นั้นของเล่นท่วมคันและภายในทำมาสวยมัดใจลูกค้าได้ดี..แล้วก็ดรอพความหรูลงในรุ่น 50 ตัวแรกจนคนด่าแล้วค่อยปรับให้ดูหรูอีกครั้งในโฉม 50 ไมเนอร์เชนจ์ ที่ผ่านมา Camry ตัวท้อปๆจะให้อารมณ์ Lexus ถอดของหรูบ้าง แต่ TNGA Version นั้นดูเหมือน Corolla Altis ที่คันใหญ่ขึ้นมากกว่า มันมีฟีลแบบรถใช้งานของคนอเมริกันที่ไม่ค่อยวิจิตรตระการตานัก (และไม่แปลก เพราะตลาดใหญ่ของรุ่นนี้คืออเมริกา) ภายในของรถมีขนาดค่อนข้างโตเนื่องจากลูกค้าอเมริกันตัวไม่เล็ก และที่เมืองไทย Camry ก็มักถูกใช้เป็นรถที่ต้องมีผู้โดยสารด้านหลัง..ก็คือ Grab PREMIUM แหละครับไม่ต้องอ้อมแอ้มกัน เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า และแม้แต่ข้างคนนั่งก็ปรับสูงต่ำได้ พวกรุ่น HV นี้จะมีคอพวงมาลัยปรับ 4 ทิศด้วยไฟฟ้าเชื่อมกับระบบความจำตำแหน่งเบาะคนขับ 2 ตำแหน่งด้วย
...



ในความเป็นรถราคาล้านหก ถึงแม้ Toyota จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าแจกออปชั่น แต่ก็ต้องให้มาในระดับที่คนไม่ด่ากันทั้งเมืองอยู่แล้ว คุณยังมีถุงลมนิรภัย 7 ใบ (เท่ากับตัวท้อปของ Camry ตัวปัจจุบัน แฮ่ร..) มีระบบ Blind Spot Monitoring และระบบความปลอดภัยพื้นฐานแบบอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เรดาร์ รุ่นนี้ยังไม่มีกล้องรอบคันนะครับต้องรอตอนไมเนอร์เชนจ์โน่นถึงจะมา แต่มีกล้องถอยหลังให้ เครื่องเสียงมี Bluetooth แต่ยังไม่มี Apple CarPlay/Android Auto เพราะยังไม่ถึงยุคที่สิ่งเหล่านี้ฮิต ถ้าคุณซื้อไปใช้งานจริง เดี๋ยวนี้หาร้านเครื่องเสียงเก่งๆ ใส่จอ Android ใหม่ๆพร้อมกล้องรอบคันได้ในงบไม่กี่หมื่นครับ แต่เกรดของหนัง วัสดุประกอบ ก็ย่อมเป็นแบบรถใหญ่ล้านกลางที่ยังไงก็ต้องเหนือกว่ารถเล็กหลักแสนป้ายแดง
สิ่งที่น่าตำหนิหน่อยก็คือ ปุ่มล็อค/ปลดล็อคของ Smart Key นั้น มีแค่ฝั่งคนขับ ตรงนี้นั่งส้วมนานไปนิด (ขี้เหนียว) ทำให้บางทีเวลาจะเดินเข้ามาหารถจากฝั่งซ้ายแล้วจะปลดล็อค ก็ต้องเอากุญแจมากดที่ปุ่มรีโมท หรือไม่ก็เดินอ้อมมาอีกฟาก ทำให้ Toyota แก้ปัญหานี้ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ แต่ในขณะเดียวกัน ยางอะไหล่ของรุ่นไมเนอร์เชนจ์ก็ถูกเปลี่ยนเป็นแบบประหยัด และรุ่น HV ธรรมดาที่เคยมีระบบแอร์ NanoE ก็ถูกตัดออก เหลือไว้แต่ในรุ่นท้อปเท่านั้นหลังไมเนอร์เชนจ์



จุดประสงค์อย่างหนึ่งที่คุณจะเล่นรถเก่ากว่าแต่ใหญ่และแรงก็คือคุณชอบการขับ Camry TNGA นั้นตอนเปิดตัวผมได้ขับในสนามพีระเซอร์กิตแล้วรู้สึกว่า “นี่ Toyota เหรอวะ??” ต้องนึกภาพก่อนนะครับว่า ไม่ใช่ว่าค่ายนี้สร้างรถขับสนุกไม่เป็น Lexus GS200t ที่ผมเคยขับนั้นเกาะโค้งและตอบสนองดีกว่า BMW 5 Series M Sport ในยุคเดียวกันเสียอีก แต่พอมาเป็นรถบ้านทั่วไปประกอบไทยราคาไม่ล้นฟ้า Toyota ไม่ค่อยมีอะไรที่ลงตัว Altis ESport อาจจะได้เรื่องช่วงล่างแต่พวงมาลัยก็ยังยานๆสไตล์ Toyota ในขณะที่ Camry TNGA นี้ พวงมาลัยคมขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆแม้ยังไม่ขับสนุกเท่า Accord แต่ช่วงล่างนั้น เกาะถนนมากและนั่งสบายดีอีกต่างหาก เกือบเทียบชั้นกับ Nissan Teana L33 ที่เด่นเรื่องช่วงล่างมากที่สุดในคลาสเลย


หลายครั้งที่ผมมีโอกาสพาคนแอนตี้ Toyota นั่งใน Camry โฉมนี้ แล้วจู่ๆก็นึกสนุกลองสาดโค้งเล่น ทุกคนจะอึ้งแล้วอุทานว่า Camry มันขับแบบนี้ได้ด้วยหรือ? คือไม่ได้แปลว่ามันเจ๋งแบบรถสปอร์ตนะครับแต่ในความเป็น Toyota เราแค่คิดว่าค่ายนี้ไม่เคยสนเรื่องช่วงล่างแต่พอสนปุ๊บ ก็ทำได้ดีมาก ผมเอาไปแกล้งพวกรุ่นน้องที่เคยด่าช่วงล่าง Camry ไว้ด้วยนะ คือขับตามพวกเขาไป พอถึงโค้งก็ตั้งใจสาดเข้าไป ก่อนเข้าโค้งยังแค่เห็นไฟท้าย พอหลังโค้ง หน้าเราแทบทิ่มตูดคันหน้า ไอ้น้องที่ขับคันหน้าอยู่ก็ตกใจ เพราะมีภาพจำว่า Camry คือรถที่ไม่ชอบโค้ง ผมทำหลอนไปหลายคนแล้ว จนตอนหลังแก่ตัวลง กลัวตายมากขึ้น ก็เลิกไป

แถมจะบอกให้ว่าพวกรุ่น HV ไฮบริดที่แบกแบตเตอรี่ High Voltage ไว้ซีกหลังของรถนั้น ช่วงล่างจะนุ่มนวลกว่าแต่พอเลี้ยวแล้วท้ายหันตามหน้ามากกว่ารุ่นเบนซินด้วย เพราะรุ่นเบนซิน 2.5G ผมลองขับ พบว่าช่วงล่างหลังจะมีความสะเทือนตึงตังมากกว่า ล้ออัลลอยของรุ่น HV ก่อนไมเนอร์เชนจ์ จะเป็นล้อขอบ 17 นิ้ว หน้าตาดูไม่แพงแบบราคารถ แต่ยาง 215/55R17 หาเลือกใส่ได้หลากเกรดหลายราคามาก ตามรสนิยมคุณเลยครับ ที่ศูนย์ก็ยังมีเหลือเยอะ เพราะมันใช้ยางเหมือน Hilux Revo-D Z-Edition High โฉมปัจจุบันนี้ล่ะครับ (คือกระบะเอายางเก๋งไปใส่)


ส่วนเรื่องแรง..มันอาจจะไม่ได้พุ่งจ๊าดแบบรถ EV สมัยนี้ แต่ 0-100 ที่พอแบก 3 คนยังจบแถว 9 วินาทีได้ และเร่งแซงมิดเท้าจาก 80-120 ภายใน 5.6 วินาที นั่นก็ไม่เรียกว่าช้าครับ ระบบไฮบริด THS II 211 แรงม้า ไม่ให้ใครมาข่มง่ายๆหรอก และความเร็วสูงสุดถึงจะล็อคไว้ 190 แต่ก็ต้องคิดแหละว่า ถ้าคุณต้องการรถที่วิ่งทะลุ 200 แล้วเป็นรถครอบครัวในงบเจ็ดแสน คุณควรไปซื้อตัวเบนซินมากกว่าไหม? แต่ก็แลกกันนะ เพราะเจ้า Camry TNGA โฉมนี้ ตัวเบนซิน 2.5G นั้นว่องไวในโค้ง เกาะถนนกว่า ตีนปลายเยอะกว่า แต่ช่วงต้นกับกลางแห้งเหี่ยว ในขณะที่รุ่นไฮบริด มันแรงไปตามสั่งตามเท้าเลยครับ


และรถไฮบริดอย่าง Camry นั้น เวลาขับในเมืองจะมีจังหวะที่มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อน แต่พอออกวิ่งทางไกล Toyota จะชอบให้เครื่องยนต์สันดาปเป็นตัวขับเคลื่อนรถ เขาเลยไม่ค่อยมีลูกเล่นกับระบบไฮบริด แต่พัฒนาตัวเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Atkinson Cycle จนใช้น้ำมันอย่างคุ้มค่า..ดีแค่ไหน ก็ถ้าเทียบกับรุ่นเก่า เอามาขับทางไกล ตรงที่เคย 17 กิโลเมตรต่อลิตร ก็กลายเป็น 19-20 นั่นล่ะครับ ยิ่งพอขับแบบรีบๆ ไปๆมาๆ ถ้าขับรีบเท่ากัน Camry 2.5 ไฮบริดกินน้อยไม่ต่างกับ Corolla Cross HEV เลยครับ เพราะแรงมันพอ กดคันเร่งไม่ต้องลึก ไม่ต้องนาน ก็แซงจบไว แถม Camry ไฮบริดนี่ได้ถังน้ำมันขนาด 50 ลิตรด้วย ไม่ใช่ 36 ลิตรแบบ Corolla Cross คุณก็ลองคูณดูได้ครับว่ามันจะวิ่งได้ไกลแค่ไหน

แต่สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำใจเลย และบางคนอาจไม่คิดว่าจะพบในรถราคาล้านหก ก็คือเสียงครับ...สมัยทดสอบใหม่ๆ ผมบอกใครต่อใครว่า Mazda 2 กับ Suzuki Ciaz เก็บเสียงลมที่ระนาบกระจกได้ดีกว่า Camry คนส่วนมากด่าผมเละ มีแต่คนที่ใช้จริง ลองจริง วัดจริง ถึงรู้ครับว่าผมไม่ได้โกหก ผมชมเรื่องช่วงล่างได้ก็ตำหนิเรื่องเสียงรบกวนได้เช่นกัน ในภายหลัง Toyota ก็มีการปรับปรุงให้เก็บเสียงดีขึ้น จนรุ่นปัจจุบันนั้นพวกเขาต้องออกแบบแนวฝากระโปรงหน้าเพื่อช่วยดีดลมให้พ้นกระจก แต่ก็ยังเก็บเสียงสู้ Accord ไม่ได้ รุ่นใหม่ก็ไม่ได้ดี รุ่นเก่าก็แย่กว่า คุณคิดว่าคุณโอเคไหมกับเรื่องนี้? เสียงลมมันจะมาหลัง 110 ครับ และที่ 140 เสียงลมในห้องโดยสารดังพอๆกับรถกระจกตั้งๆอย่าง Subaru Forestor เลยแหละ
ถามเรื่องอนาคตในการใช้งาน ข่าวดีอย่างหนึ่งก็คือ แม้จะมีอายุ 5-6 ปีในรถหลายคัน แต่ผมยังไม่ค่อยเจออาการเสีย/บกพร่องทางวิศวกรรมในแบบที่เสี่ยงต่อสุขภาพกาย หรืออาการเรื้อนๆที่เป็นแล้วพาลให้เจ้าของอยากพาไปทิ้งเหว ถ้าเทียบกันกับ Camry Hybrid รุ่นที่ผ่านๆมา จะเห็นได้ว่าแม้อุปกรณ์บางอย่างหดบางอย่างเพิ่ม แต่ระบบไฮบริดของเขา ประหยัดขึ้นเรื่อยๆ และทนขึ้นเรื่อยๆ รุ่น TNGA บางคันเป็นรถบริษัทวิ่งทางไกลๆ 250,000 กิโลเมตรแล้ว ยังมีสภาพแบตเตอรี่ใช้การได้ดี แม้ว่าช่วงล่างจะบึ้มหมาโกยไปแล้ว 1 รอบ ส่วนรถคันสีขาวของคุณแตงโมนี้เป็นรถใช้งานปกติครับ เพิ่งวิ่งมาราว 130,000 กิโลเมตรเท่านั้น



ถ้าคุณจับรถมาวันนี้ ประกันแบตเตอรี่ High Voltage 10 ปีก็ยังมีอยู่ แม้ว่าวารันตีตัวรถ 5 ปีจะหมดลงแล้วก็ตาม คุณใช้ไปเหอะ แล้วปี 2028-2029 ก็ลุ้นว่าแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพให้คุณเห็นไหม รถ Camry รุ่นเก่าบางคัน 10 ปีแล้วค่อยเสื่อมก็มีครับ แต่สมัย Prius กับ Camry Hybrid ตัวแรก บางคัน 5 ปีก็เริ่มออกอาการแล้ว ถึงเสื่อมก็มีทางเลือก ซ่อม ปรับสภาพหรือเบิกศูนย์ก็ได้ ราคาถูกกว่าแต่ก่อนมาก อู่นอกที่ซ่อมไฮบริด Toyota ได้มีให้เลือกมากขึ้น สต็อคอะไหล่ยังเหลือเฟือให้คุณจับรถรุ่นนี้มาแล้วใช้จนพ้นปี 2030 ได้อย่างสบาย

เอาอย่างนี้ คุณลองดู Prius ปี 2012-13 สิครับว่าทุกวันนี้ถึงแม้รถจะพังตามอายุบ้าง แต่ไม่ค่อยมีรถที่ซ่อมไม่จบ เบิกอะไหล่ไม่ได้ หรือแก้ยากจนเจ้าของอยากขายทิ้ง นี่คือข้อได้เปรียบของไฮบริด Toyota ที่ไม่ใช่ว่าระบบมันฉลาดล้ำเลิศหรอกครับ แต่ถึงเวลาใช้ มันทน ถึงเวลาซ่อม มีอะไหล่ ไม่อยากพึ่งศูนย์ ก็ซ่อมนอกศูนย์ได้ และเป็นรถโมเดลสากลอย่าง Camry ที่มีขายรอบโลก เรื่องทรัพยากรซ่อมบำรุงนั้น ไว้ว่ากันปี 2040 เถอะครับถึงจะเริ่มน่าห่วง
ถ้าใครสนใจ ก็ให้พินิจดูก่อนครับว่า คุณจะเล่นรุ่นย่อยไหน ถ้าเน้นของครบ ไปจบที่ตัว HV Premium แต่ถ้าสนรุ่นรอง ขับดีเท่ากันออปชั่นน้อยกว่าแต่ราคาคุยง่ายกว่า อย่างรถคันสีขาวนี้ ลองคุยกับคุณโมได้ที่ 0899445295 / line: Themovrs ครับ
Pan Paitoonpong