ส่องมือสองน่าสน-Toyota Vios 1.5J รถหลักหมื่นใช้ดี สร้างงาน ไม่สร้างหนี้ ทนนานปี LPG สบาย

นี่คือหนึ่งในรถที่ถูกคอคนไทย ถูกใจรถเช่าด้วยความอึด ทน ดูแลง่าย ในช่วงเศรษฐกิจผีเข้าแบบนี้ อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด สำหรับสุภาพสตรีทำงานดึกบ้านอยู่ซอยเปลี่ยว เราคงแนะนำให้ใช้รถใหม่ที่ไว้ใจได้ แต่ถ้าหากคุณมีงบประมาณซื้อรถที่จำกัด แล้วยังอยู่ในที่ซึ่งระบบขนส่งสาธารณะเข้าไม่ถึง ก็ควรซื้อรถแบบที่ราคาถูก แต่พังยาก ซ่อมง่าย ไปที่ไหนก็ซ่อมได้ ไม่ต้องมาง้อช่างสายอาร์ติสต์แบบพวกรถอินดี้

ถ้าคุณทำใจได้กับการเล่นรถรุ่นย่อยล่างๆ ถูกได้ใจแต่ไร้ออปชัน Vios J เจเนอเรชันที่สองยังเป็นตัวเลือกน่าโดน แม้จะมีอายุใกล้จะเลือกตั้งได้แล้วก็ตาม สัปดาห์นี้ Thairath Online วันอาทิตย์เรากลับมาเขียนถึงรถราคาสบายกระเป๋ากันบ้าง เนื่องจากเขียนถึงรถหรู รถหายาก รถคลาสสิก แล้วแฟนคลับบางท่านบอกว่า ช่วยเขียนอะไรที่มันซื้อแล้วใช้งานได้บ้าง ก็จัดไปครับ เคล็ดไม่ลับอย่างหนึ่งในการหาว่ารถเก๋งรุ่นไหนทน ก็คือให้ไปยืนริมถนนแล้วนับว่ามีรถรุ่นไหนบ้างที่เป็นแท็กซี่สภาพใกล้ปลดป้าย แล้วยังออกวิ่งรับงานอยู่ได้เนืองๆ ทุกคนก็จะนึกถึง Corolla Altis แต่ด้วยความที่รถแท็กซี่ในไทยนั้นมีกฎบังคับว่าความจุเครื่องยนต์ต้องมากกว่า 1,500 ซี.ซี. ทำให้รถที่เครื่องบล็อกเล็กกว่านั้นหมดสิทธิ์..แล้วคุณจะไปถามใครได้นอกจากพี่ๆ แท็กซี่..มีสิครับ คุณลองไปคุยกับพวกกิจการรถเช่าดู โดยเฉพาะพวกรถเช่าพลีชีพ Cheap Price พร้อมประกันในราคาโปรฯ รถพวกนี้เกิดมาเหมือนต้องชดใช้บาป คนเช่าก็ใช้แบบไม่ใช่รถตู คนดูแลก็ดูแลแบบไม่ใช่รถตูเช่นกัน

เมื่อสมัยสิบปีก่อน เวลาผมยังมีแรงสนุกกับการนั่งเครื่องบินไปยังปลายทางจังหวัดต่างๆ แล้วเช่ารถเที่ยว รถในเรตค่าเช่าราคาถูกสุดๆ ก็มักจะเป็นอีโคคาร์ แต่ถ้าไปเที่ยวจังหวัดภูเขาเยอะๆ ผมมักเช่า Toyota Vios ตัวล่างๆ เกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติก็ได้ เพราะน้ำหนักตัวรถต่างกันไม่มาก แต่พละกำลังสำรองมันทำให้แซงตอนขึ้นเขาแล้วไม่ต้องลุ้น คุณไปดูก็ได้ว่า ที่ใดในประเทศไทยที่ถนนยางมะตอยเข้าถึง ต่อให้ขึ้นชื่อว่าชันพ่อกรี๊ดขนาดไหน คุณจะเจอ Vios สีตุ่นๆ จอดแล้วเจ้าของยืนกินมันฝรั่งเลย์อยู่แถวๆ นั้นเสมอ
นี่คือประโยชน์จากการมีพลัง 1.5 ลิตร แลกกับอัตราสิ้นเปลืองที่สู้พวกอีโคคาร์ 1.2 ไม่ได้อยู่บ้าง

สมัยที่คุณแม่ผมท่านยังสามารถเดินทางได้ ผมพาท่านไปเที่ยวภาคใต้ หาดใหญ่ กระบี่ พัทลุง หลายต่อหลายวัน พอเป็นคนที่ไม่ได้รวยมาก เราคงเช่า Fortuner ไม่ไหว แต่การเดินทางขับรถเล่นของเราบน Toyota Vios 1.5 J ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้จะเป็นรถเช่าที่ดูจะผ่านสงครามบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนามาก็ตาม แอร์เย็น ขับสบาย ไม่ตายกลางทาง สำหรับผมกับแม่ มันพอสำหรับการท่องเที่ยวของพวกเราในเวลานั้น โดยที่ไม่เสียค่าเช่าแพงๆ ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันเยอะเกินฐานะ

ถ้าคุณมีงบประมาณเหลือข้ามแสนบาทและอยากได้อุปกรณ์เยอะหน่อย ก็สามารถดูพวกรุ่นย่อยสูงๆ อย่าง G หรือแพงกว่านั้นได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ต้องการข้ามแสนบาท ใช้เงินออมที่เก็บมานานแสนนานแล้วจ่ายตู้มเดียวแบบไม่ง้อไฟแนนซ์ คุณก็ต้องเลือกรุ่นย่อยล่างๆ เช่น รุ่น E หรือรุ่น J ที่เป็นนายแบบของเราในวันนี้ แฟนๆ Vios อาจจะมองเห็นว่า รุ่น J ปกติจะได้ล้อเหล็กพร้อมฝาตบไม่ใช่เหรอ คุณเข้าใจไม่ผิดครับ เพราะคันนี้เติมล้ออัลลอยมาเอง ซึ่งหาได้ง่ายในราคาไม่แพง หรืออยากเปลี่ยนล้อซิ่งลายเก๋ก็สบาย ความที่บอดี้ของ Vios เจเนอเรชันสองนี้ยังไม่ใหญ่โตมาก คุณจึงสามารถใส่ล้อ 15 นิ้ว ซึ่งมียางราคาถูกมากมายให้เลือกได้ หรืออยากเท่ก็อัดล้อ 17 เต็มซุ้มแบบอิ่มจุกอก ยางล้อขอบ 17 ก็มีแบบราคาถูกและไว้ใจได้เช่นกัน

พูดถึงขนาดตัวรถที่ผมบอกว่าอยู่ในจุดที่กำลังดี ก็คือคนอ้วนใหญ่สูง ยังพอสามารถนั่งขับได้แม้ไม่โปร่งแบบ Honda Jazz ส่วนพื้นที่ด้านหลังนั้น อาจจะเล็กเมื่อเทียบกับรถเล็กของยุคนี้ แต่ก็โตกว่า Civic หรือ Corolla จากยุค 90s ซึ่งนั่นก็พอสำหรับรับไซส์คนไทยเพศหญิงส่วนมากได้สบาย ตัวรถยังไม่กว้างแบบ Wide-body เหมือนรถปัจจุบัน เวลาพาสาวเที่ยวแล้วคุณดันอ้วน ไหล่ก็อาจจะถูกันนิดๆ พอสปาร์กจอยได้ แต่เวลาเข้าตรอกออกซอย หาที่จอด หรือไปติดต่องานตามอาคารบางแห่ง ที่ไม่รู้ว่าคนออกแบบลานจอดใช้มือหรือเท้าร่างแปลนที่จอด หรือบางแห่งเป็นอาคารเก่าที่สร้างตั้งแต่ยุค Corolla ยังคันกะเปี๊ยก ก็จะไม่เสียวมากนัก

เมื่อเข้ามาดูภายใน คุณต้องทำใจกับคำว่ารุ่นย่อยล่างบ้าง แต่แนะนำว่าให้ท่องไว้ในใจ ของเล่นยิ่งน้อย โอกาสจะมีจุดซ่อมจุดเสียก็น้อยลงไปด้วย อย่าถามหาสมาร์ตคีย์จากรถรุ่นย่อยล่างๆ เทคโนโลยียุค iPhone 1 ครับ มันมีแต่กุญแจแบบไข จะสมาร์ตหรือสติวปิดก็แล้วแต่ว่าเจ้าของจะลืมมันไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะทำงานบ่อยแค่ไหน ระบบความปลอดภัยก็จัดมาในยุคที่ Toyota ยังไม่ขายเรื่องเซฟตี้เป็นหลัก ถ้าคุณอยากได้ถุงลมนิรภัยและเบรก ABS แนะนำให้มองหารุ่น E ไปเลยจะดีกว่า แต่ข้อดีของรุ่น J คือ พอคนส่วนมากไปเล็งรุ่น E กัน รุ่น J ก็มักจะมีโอกาสได้รถที่สภาพโดยรวมดีในราคาที่ถูกกว่า

ความทันสมัยภายในยังมีอยู่บ้างแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว คุณอาจต้องทำความชินกับการที่เขาติดตั้งพวกมาตรวัดต่างๆ เอาไว้ตรงกลาง แทนที่จะเป็นด้านหน้าของคนขับแบบรถทั่วไป เบาะนั่งคนขับปรับสูง/ต่ำได้ อันนี้เหมือนเป็น Bonus เชื่อหรือไม่ว่าปี 2024 นี้ รถกระบะราคาแปดแสนบางค่ายยังปรับสูงต่ำเบาะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ส่วนกระจกไฟฟ้าและเซ็นทรัลล็อกมีมาให้ เพราะราคาในสมัยป้ายแดง ก็ไม่ได้นับว่าถูก ขืนตัดอุปกรณ์จนหมดสิ้น ลูกค้าจะเบือนหน้าหนีเอา ส่วนกระจกมองข้าง เป็นแบบคลาสสิก ไม่มีระบบไฟฟ้าใดๆ ใช้ก้านโยกเอาดื้อๆ เลยเหมือนรถยุค 80s แผงบังแดดไม่มีกระจกแต่งหน้า และที่ออกจะเหลือเชื่อหน่อยคือ ระบบปัดน้ำฝน ไม่มีโหมดปัด-หยุด-ปัดนะครับ อันนี้ Amazing Thailand มาก มีแต่ปัดปกติและปัดเร็วแค่นั้นเลย

อย่างไรก็ตาม Toyota ยังมีการคิดเผื่อเรื่องการใช้งานเอาไว้พอสมควร ด้วยว่าพวกเขาทราบดี ว่าคนที่ใช้รถอย่าง Vios ตัวล่างๆ ส่วนหนึ่งคือพนักงานที่ต้องวิ่งงานรอบประเทศ บางทีก็ไม่ได้ขับไปกันคนเดียว คุณจึงยังมีที่วางแก้วเครื่องดื่มตามจุดต่างๆ ในรถ แม้กระทั่งที่วางแก้วเดี่ยวสำหรับคนนั่งหลังก็มีมาให้ 1 ที่ มีตะขอหลังเบาะสำหรับแขวนถุงโอเลี้ยงหรือถุงอาหารที่ซื้อจากเซเว่น คันเกียร์อัตโนมัติ มีปุ่ม Shift-lock ที่เวลาต้องไปจอดขวางห้องแถวบ้านใคร คุณก็แค่กดปุ่มแล้วเลื่อนคันเกียร์มา N ได้เลย ไม่ต้องเอาดอกกุญแจมาทิ่มแบบรถสมัยใหม่ แม้ว่าหลายๆ อย่างจะถือว่าโคตรกั๊กออปชัน แม้จะเปรียบเทียบกับรถที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ Vios J ก็จะยังมีจุดที่ดูแล้วทราบได้ว่า ออกแบบมาโดยวิจัยจากวิถีชีวิตคนที่ใช้รถประเภทนี้จริงๆ สำหรับคนที่เป็นวัยรุ่นงบน้อย ใช้รถเยอะ ผมว่าลงทุนหาจอ Android หรือเครื่องเสียงแบบที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนฟังเพลงได้ แล้วก็ติดกล้องมองหลังสักตัว มันจะเป็นรถขับใช้งานที่คุณฝากตัวไว้กับมันได้ พวกนี้แตกหักเป็นเรื่องปกติ เพราะเจ้าของมักต้องจอดตากแดดหรือไม่ก็มือแรงไปนิด แต่สามารถซ่อมเปลี่ยนได้ในราคาไม่แพง การที่ตัวรถนั้นโคตร Simple ก็ทำให้ค่าบำรุงรักษาถูก หลอดไฟขาด ก็ยัดฮาโลเจนถูกๆ หรือถ้าอยากได้แสงขาวสวยก็หาพวก OSRAM LED ดีๆ ใส่แทนของเดิมได้ ช่วงล่างแม็กเฟอร์สันสตรัตกับคานบิด ทนทาน จุดดูแลน้อย และซ่อมไม่แพง ในบางคันอาจจะมีอาการพวงมาลัยดังบ้าง ตามอายุรถ

เครื่องยนต์ของ Vios เจเนอเรชันนี้ เป็นแบบ 1NZ-FE VVTi ความจุ 1.5 ลิตร ให้พลัง 109 แรงม้า กับแรงบิด 140 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ถ้าถามหาเรื่องความประหยัดน้ำมัน ผมบอกได้ว่า ดีกว่า HR16DE ของ Nissan Tiida แน่นอน แต่ก็สู้พวกอีโคคาร์ 1.2 ลิตรไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้มาชดเชยกันก็คือแรงบิดในรอบต่ำและกลาง คาแรกเตอร์ของเครื่องตัวนี้ รอบสูงไม่หวานชื่นเฮลซ์บลูบอยแบบ Honda Jazz VTEC แต่รอบต่ำกับกลาง และการขับแบบกดคันเร่ง 10-50% นั้น มีพละกำลังสำรองเหลือพอสำหรับการเดินทางต่างจังหวัด ถ้าเจอเนินเขาชันก็จับจังหวะกับการใช้ความเร็วให้รับกับเนินข้างหน้าให้ดี แล้วจะไม่ต้องใช้รอบสูงมาก แต่ขนาดวิ่งไปอ่างขางที่ว่าชัน บนจุดชมวิวข้างบนก็มี Vios ไปมาตั้งกี่คันแล้วครับ ไม่ต้องกลัวเรื่องรถไม่มีแรง แต่ขอแค่รู้จักจังหวะไหนต้องเร่งส่ง จังหวะไหนอย่าชะลอบนทางขึ้นก็พอ แต่ถ้าคุณไม่ได้กะจะไปหาภูเขาชันขับบ่อยๆ พลัง 1NZ ไปได้รอบประเทศครับ

สิ่งที่อาจจะน่ารำคาญมากกว่าเรื่องพลังของเครื่อง อยู่ที่การตอบสนองครับ ถึงแม้ว่า Vios รุ่นนี้จะมีคนขับมากมายโดยที่ไม่บ่นอะไร แต่ถ้าถามผม ผมรู้สึกว่าการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าที่มาใช้ใน Vios เจเนอเรชันสองนี้ มันแปลกประหลาด กดคันเร่งนิดเดียว รถพุ่งเป็นหมาไล่แมว ต้องค่อยๆ เรียนรู้การกดคันเร่งไป พวงมาลัยก็จะมาในสไตล์ Toyota ยุคก่อนทำตัวเป็นบริษัทบ้ารถ น้ำหนักพวงมาลัยจะเบาโหวงประหลาดๆ เวลาหมุนพวงมาลัยจะเหมือนคุยกับหุ่นยนต์ หลวมๆ ไม่คมแม่นยำและมีน้ำหนักตึงสู้มือดีเท่า Honda Jazz ในยุคเดียวกัน คุณลองขับดูเอาเถิดครับ เพราะเรื่องนี้บางคนไม่รู้สึกเดือดร้อน
แต่บางคนก็รับไม่ได้เลย ผมคนนึงล่ะที่ไปซื้อ Nissan แล้วไม่เอา Vios เพราะเรื่องคันเร่งกับพวงมาลัยนี่ล่ะ

นอกเหนือจากนั้นไป ไม่มีอะไรน่าห่วงครับ ช่วงล่างเดิม เซตมาแนวนุ่ม ใช้งานสบาย แต่ถ้าอยากกระชับขึ้น หรืออยากไปเวย์ซิ่ง โช้คอัปเกรด สตรัตแต่งซิ่ง มีให้เลือกทุกระดับ เช่นเดียวกับระบบเบรก ผ้าเบรก
ส่วนเครื่องยนต์นั้น ไม่ต้องพูดถึงนะครับว่าจาก 109 แรงม้า ถ้าอยากจะไป 190 ก็ทำได้ 300 ม้าก็ทำได้ แต่เนื่องจากเราพูดถึงการซื้อรถมาเพื่อใช้งาน เราก็พยายามเอามันไว้ในสภาพเดิมๆ นี่ล่ะครับ 1NZ เป็นเครื่องที่ไม่จุกจิก แค่เปลี่ยนถ่ายกรองน้ำมัน ทำความสะอาดส่วนต่างๆ เปลี่ยนหัวเทียน คอยล์ตามระยะ มันแทบจะไม่มีอะไรจุกจิกเลย และเอาเข้าจริงใน พ.ศ. นี้ การซ่อมบำรุง การปรับจูนเครื่อง 1NZ นั้น ทำได้ง่ายกว่าพวกเครื่อง 5A หรือ 4A แล้วครับ เพราะมันใช้คอมพิวเตอร์เยอะกว่า และอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีสมองกลในรถ อยู่ในจุดที่พอดีๆ ระหว่างความง่ายในการปรับจูน กับประสิทธิภาพและความทน ไม่ค่อยมากเรื่อง เอาค่าตรงนั้นตรงนี้มาตั้งแง่ตั้งเงื่อนไขให้คนจูนปวดกบาลแบบรถสมัยนี้

สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนเล่น Vios ทั้งๆ ที่ไม่ได้ชอบหน้าตาหรือการขับขี่ของมันก็คือ ความคิดที่ว่า “Toyota รัก LPG” ซึ่งความจริงก็ตามนั้นแหละครับ ถ้าเอาเครื่องญี่ปุ่นทุกยี่ห้อจากรถที่ต้นทุนการผลิตเท่าๆ กันมา อวัยวะในเครื่องของพี่โตนั้นหลายส่วนทำมารองรับการใช้ LPG มากที่สุด ผลพลอยได้จากการที่พี่แท็กซี่ใช้บริการรถค่ายนี้มาตั้งแต่สมัยที่พ่อของคุณยังเข้าผับไม่ได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม มันจะมีจุดที่ต้องบำรุงรักษาเมื่อถึงเวลาอยู่ดี ถ้าจูนแก๊สมาไม่บางเน้นประหยัดจนร้อนเกิน ฝาสูบจะเริ่มมีการสึกหรอ บ่าวาล์วสึก ก็ต้อง 100,000-150,000 กิโลเมตรกัน สำหรับคนทั่วไปใช้รถปีละ 30,000-40,000 กิโลเมตร ก็คือทุกๆ 3 ปีเข้าตรวจสอบ ซึ่งไม่ใช่งานยาก เพราะ Vios ติด LPG เป็นเรื่องปกติมาก หรือถ้าเครื่องโทรมหนักทั้งตัว กำลังอัดต่ำ เคยฝาโก่งมา ยกเครื่องท่อนตรง เอาฝาสูบกับเสื้อสูบแบบสภาพดีๆ เทิร์นอุปกรณ์รอบเครื่องที่ไม่ได้ใช้ออก ก็ 30,000 บาทได้อยู่

ในงบประมาณเท่าๆ กัน อันที่จริงมีรถหลายรุ่นให้เลือก ถ้าคุณเป็นคนประเภทชอบรถฟีลแน่นหนาแข็งแรง Nissan Tiida ก็จะตอบโจทย์ได้ ภายในกว้างกว่า วัสดุต่างๆ ดีกว่าในราคาที่ถูกกว่า แต่เครื่องยนต์ไม่ทนแก๊สเท่า ใช้น้ำมันก็กินน้ำมันดุกว่า ช่วงล่างไม่ทนเท่าและตอนขายต่ออีก 5 ปีข้างหน้า ราคาน่าจะแทบไม่เหลือ Honda City 1.5 โฉมปี 2008 ก็จะเด่นกว่าในเรื่องการขับขี่ที่เอาใจวัยรุ่น เครื่องลากรอบเพลิน ช่วงล่างทนพอกัน ขับสนุก แต่ก็ราคาแพงกว่าพอสมควร เลือกได้ตามใจชอบ แต่ถ้าหากไม่ทราบว่าจะเลือกอะไรดี Toyota ก็เป็นทางเลือกที่ยอมรับกันว่าไว้ใจได้ในเรื่องความทนทาน ความง่ายในการซ่อม โดยเฉพาะ Toyota ในยุคก่อนที่เรามองกันว่า อุปกรณ์ก็น้อย ราคาก็แพง แล้วมันไปแพงตรงไหน ผมจะบอกให้ว่า สังเกตดูครับ รถค่ายนี้ ถ้าเมื่อไรอุปกรณ์เยอะ ราคาป้ายแดงถูก มันจะมีจุกๆ จิกๆ หรือลดคุณภาพการประกอบลงบ้าง แต่ถ้าเมื่อไรอุปกรณ์น้อย แล้วราคาแพง พวกรถแบบนั้นมักจะทนมือทนเท้า เพราะการทำสิ่งต่างๆ บนรถให้ทน ก็ใช้เงิน ใช้ต้นทุนเหมือนอุปกรณ์อื่นๆ มันแค่เป็นสิ่งที่ไม่เห็นบนโบรชัวร์และเอาไปคุยเกทับเพื่อนไม่ได้ ถ้าคิดว่าวันนี้ยังไม่รวย แต่วันข้างหน้าตั้งใจจะรวย การใช้รถที่บางคนดูถูกว่าเป็นรถคนจนเลยตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของชีวิต คุณจะเหลือเงินเก็บไว้ใช้วันหน้าเยอะ ไม่ต้องสนหรอกครับว่าใครจะว่ายังไง อย่าเดินตามแนวผม ยังไม่รวย เลือกรถแบบคนรวย สุดท้ายก็จนครับ

Pan Paitoonpong