ทศวรรษที่ 1960 และ 70 ผู้ผลิตรถยนต์บางแบรนด์อย่าง Mazda และ Nsu เชื่อว่าเครื่องยนต์โรตารีสูบหมุนเป็นก้าวต่อไปในวิวัฒนาการของเครื่องยนต์สันดาปภายใน บางครั้งคนรุ่นเก่า หรือนักเลงรถหน้าพาเลซมักจะเรียกเครื่องโรตารีว่า เครื่องยนต์ Wankel เพื่อเป็นเกียรติแก่ Felix Wankel ผู้ประดิษฐ์และให้กำเนิดเครื่องสูบหมุนคนแรกของโลก เครื่องยนต์โรตารีนั้นมีขนาดเล็กและเบากว่า โดยทั่วไปมีหลักการทำงานที่ง่ายกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบเรียง สูบวีหรือสูบนอน (Boxer) ข้อเสียที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ ทำให้เครื่องยนต์โรตารีไม่สามารถเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์ลูกสูบแบบปกติได้ และบริษัทบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ ไม่ได้ให้ความสนใจหรือความสำคัญกับเทคโนโลยีนี้ ยกเว้น Mazda ในช่วงทศวรรษ 1970


...

เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ลูกสูบชักขึ้นผลุบลงแบบปกติ เครื่องสูบหมุนโรตารีทำงานโดยใช้เชื้อเพลิงและอากาศผสมกัน ในเครื่องยนต์แบบลูกสูบ ส่วนผสมระหว่างเชื้อเพลิงและอากาศ จะจุดระเบิดในกระบอกสูบ แรงที่เกิดจากการจุดระเบิดจะดันลูกสูบลงเพื่อสร้างแรงหมุนที่เพลาข้อเหวี่ยง สำหรับเครื่องยนต์โรตารี ส่วนผสมของเชื้อเพลิงและอากาศจะถูกผลักไปรอบๆ ห้องรูปไข่ด้วยลูกสูบโรเตอร์ทรงสามเหลี่ยม เครื่องยนต์โรตารีไม่มีวาล์ว ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้โรตารีมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบปกติประมาณ 75% การไม่มีวาล์วเทรนและมวลที่หมุนได้น้อยลงทำให้เครื่องโรตารีสามารถหมุนได้อย่างอิสระมากขึ้นและมีความเร็วรอบสูงมาก เครื่องยนต์บางรุ่นของ Mazda สามารถทะยานไปถึง 10,000 รอบต่อนาที

ส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงจะเข้าสู่ตัวเรือนโรเตอร์ผ่านทางช่องไอดี ขณะที่ลูกสูบสามเหลี่ยมโรเตอร์หมุน กลไกของการหมุนจะบีบอัดส่วนผสมและเคลื่อนไปยังส่วนของตัวเรือนซึ่งมีหัวเทียนอยู่ ส่วนผสมของเชื้อเพลิงและอากาศจะจุดระเบิด เพื่อสร้างแรงที่ทำให้โรเตอร์เคลื่อนที่ ซึ่งจะหมุนเพลาส่งกำลังที่ส่งถ่ายแรงบิดไปยังชุดเกียร์ ส่วนสุดท้ายในการหมุนของลูกสูบโรเตอร์จะเคลื่อนก๊าซไอเสียออกไปทางช่องไอเสีย เนื่องจากรูปแบบเครื่องยนต์ในลักษณะนี้ เครื่องยนต์โรตารีมีแนวโน้มที่จะทำงานนุ่มนวลกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบปกติ สามารถพัฒนากำลังได้มากขึ้นโดยมีการสูญเสียกำลังน้อยลง


...
เครื่องยนต์โรตารีหลายรุ่นเคยติดตั้งกับรถยนต์ที่ผลิตออกขายในอดีต ส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์แบบสองโรเตอร์ Mercedes-Benz ทดลองการออกแบบเครื่องยนต์แบบ 3 และ 4 โรเตอร์ สำหรับวางลงในรถยนต์ต้นแบบ C111 ส่วน Mazda ไปได้ไกลกว่านั้นโดยชนะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในรายการ FIA 24 Hours of Le Mans ในปี 1991 ด้วยรถแข่ง 787B เครื่องสูบหมุนโรตารีแบบสี่โรเตอร์

เจนเนอรัล มอเตอร์ส ใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมากเพื่อพยายามทำให้เครื่องยนต์โรตารีมีการทำงานที่สมบูรณ์แบบ ผู้บริหารของ GM วางแผนที่จะสร้างเครื่องยนต์โรตารี (ในจำนวนจำกัด) ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 GM ทำการจดสิทธิบัตรสำหรับเครื่องยนต์มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ โดยจะวางลงในรถ Chevrolet Vega หลังจากแก้ไขปัญหาด้านการออกแบบและการผลิต

...
Vega วางเครื่องยนต์โรเตอร์โรเตอร์คู่ กำลัง 180 แรงม้า ค่าย GM ยังใช้ระบบขับเคลื่อนนี้วางลงในรถยนต์ต้นแบบ Corvette XP-897 GT ซึ่งเปิดตัวในปี 1973 สิ่งที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ของ XP-897 GT วางกลางลำ (mid Engine) ด้วยเหตุผลด้านขนาดที่กะทัดรัด การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ต้นแบบแนวคิดที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ทั้ง Corvette และ Vega ถูกพับโครงการลงไปเงียบๆ หลังจากนั้น GM ก็หยุดพัฒนาเทคโนโลยี Wankel ในช่วงกลางทศวรรษที่ 70

Ford ทำการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์โรตารีด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้รับใบอนุญาตในการออกแบบเพื่อพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์สูบหมุนในเวอร์ชันของตัวเอง แต่ก็ไม่เคยเปิดตัวรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Wankel ไครสเลอร์ไม่ได้มองโลกในแง่ดีนัก: Alan Loofbourrow รองประธานฝ่ายวิศวกรรมคาดการณ์ว่าเครื่องยนต์โรตารี "จะกลายเป็นจินตนาการที่ไม่น่าเชื่อมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก" ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 1972

...

Mazda เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์โรตารีมากที่สุด โดยมีการเปิดตัวรถ Cosmo Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องโรตารีเป็นคันแรกของแบรนด์เมื่อปี 1967 หลังจากที่วิศวกร Mazda ได้แก้ไขข้อบกพร่องหลักบางประการของเครื่องยนต์สูบหมุน รวมถึงการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากเกินไป และข้อกังวลที่เกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือในระยะยาว แม้ว่า Cosmo Sport (เรียกว่า 110S ในบางตลาด) จะเป็นรถสปอร์ต แต่เครื่องยนต์โรตารีตกทอดมาสู่รถยนต์ที่มีราคาไม่แพง ปี 1972 Mazda ขายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องโรตารีได้ประมาณ 100,000 คัน (ปี พ.ศ. 2515) รวมถึงรถกระบะขนาดเล็ก ซึ่ง Mazda อ้างว่าเป็นรถกระบะที่ขับเคลื่อนด้วยโรตารีเพียงคันเดียวในโลก

เครื่องยนต์โรตารีกลายเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ภายใต้แบรนด์ Mazda เป็นขุมกำลังที่ประจำการอยู่ในรถสปอร์ตโมเดล RX มายาวนาน Mazda RX-7 รุ่นแรกเปิดตัวในปี 1978 หลังจากนั้นก็มี RX ตามออกมาอีกสามรุ่น ก่อนที่จะส่งมอบเทคโนโลยีสูบหมุนที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องไปยัง RX-8 ปี 2003 การผลิต RX8 สิ้นสุดลงในปี 2012 หลังจากนั้น Mazda ยุติสายการผลิตเครื่องยนต์โรตารี แต่การพัฒนายังคงดำเนินต่อไปจนถึงปัจจุบัน

Citroën และ NSU เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์โรตารีในตลาดยุโรป โดยมีฐานการผลิตอยู่ในฝรั่งเศสและเยอรมนีตะวันตก ทั้งสองแบรนด์ ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ Comotor เพื่อออกแบบและสร้างเครื่องยนต์โรตารี Citroën เปิดตัวรถสองรุ่นที่เรียกว่า M35 และ GS Birotor ซึ่งผลิตในจำนวนเพียงน้อยนิด Citroën ทดลองสร้างเฮลิคอปเตอร์เครื่องยนต์โรตารีต้นแบบต้นแบบแนวคิดในปี 1973 ส่วน NSU ประสบความสำเร็จมากกว่า โดยมีการผลิตรถยนต์รุ่น Ro80 ที่ดูล้ำสมัยมาตั้งแต่ปี 1967 ถึง 1977

สาเหตุหนึ่งที่เครื่องยนต์โรตารีไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เนื่องมาจากปัญหาความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อต้องซ่อมบำรุง สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษอย่างมโหฬาร ซึ่งทำให้เกิดปัญหามลพิษตามมา นั่นเป็นสาเหตุที่ GM, NSU และ Mazda ยุติสายการผลิตรถยนต์เครื่องโรตารี ภายหลังวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันที่เขย่าขวัญผู้คนทั่วโลกในช่วงทศวรรษ 1970

ความน่าเชื่อถือยังคงเป็นจุดอ่อนของเครื่องยนต์โรตารี ซีลเอเพ็กซ์ซึ่งผนึกส่วนปลายของโรเตอร์เข้ากับผนังห้อง มีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพเร็วกว่าเครื่องยนต์สูบปกติ เครื่องยนต์โรตารีต้องโอเวอร์ฮอลใหญ่ที่ระยะ 120,000 กิโลเมตร หรืออาจน้อยกว่านั้น เทียบกับเครื่องยนต์ลูกสูบปกติที่ต้องซ่อมบำรุงใหญ่เมื่อผ่านระยะ 200,000กิโลเมตร หรือมากกว่านั้นหากเป็นเครื่อง Toyota





ย้อนกลับไปสู่อดีตอันรุ่งเรืองของเครื่องยนต์สูบหมุน หรือเครื่องยนต์โรตารีของ Mazda เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ Zoom Zoom ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตโลก ด้วยการคว้าแชมป์โลกในรายการแข่งรถระยะไกล 24h Lemans ด้วยรถ Mazda 787B เครื่องยนต์โรตารี 4 โรเตอร์ อัดอากาศด้วยเทอร์โบ อนุพันธ์รถแข่งเอนดูลานซ์ รุ่น 787B เป็นรถแข่งในประเภทกรุ๊ป C ถูกสร้างขึ้นโดยทีมแข่งของ Mazda สำหรับใช้ในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระยะไกล ในรายการสปอร์ตเวิลด์แชมเปียนชิพของประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นรถแข่งคันนี้ได้ถูกปรับแต่งอย่างดี และส่งลงทำการแข่งขันในรายการแข่งรถแบบ 24 ชั่วโมง ที่เลอมังค์ ในฤดูกาลแข่งขันของปี 1990-1991 รถแข่ง Mazda 787B ซึ่งมีน้ำหนักรวมทั้งคันแค่ 850 กิโลกรัม วางเครื่องยนต์โรตารีที่ให้กำลังถึง 700 แรงม้า










787B วิ่งเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 1 คว้าชัยชนะอันน่าจดจำเหนือรถแข่งจากทีมแข่งชั้นนำของยุโรป ซึ่งส่งรถแข่งเข้าร่วมลงทำการแข่งขันเป็นจำนวนมาก นับเป็นรถแข่งคันแรกหนึ่งเดียวจากทวีปเอเชียที่สร้างโดยคนเอเชีย ได้รับตำแหน่งชนะเลิศในรายการแข่งแบบมาราธอน 24 ชั่วโมงเป็นครั้งแรก โรเตอร์สูบหมุนของเครื่องยนต์โรตารีใน 787B สามารถทำให้รอบความเร็วเพิ่มขึ้นถึงจุดเรดไลน์อย่างรวดเร็ว วิศวกรของ Mazda ทำการปรับแต่งจนสามารถอัพกำลังของเครื่องได้มากกว่า 930 แรงม้ากับเรดไลน์ที่ 10,500 รอบต่อนาที ในระหว่างการตรวจสอบเครื่องยนต์หลังจบการแข่งขัน พวกเขายังค้นพบว่าทุกด้านของเครื่องยนต์ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม และสามารถลงแข่งขันต่อไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ หัวเทียนชนิดพิเศษบนโรเตอร์ทำให้รถประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น สมรรถนะที่เป็นเลิศของเครื่องยนต์ ควบรวมกับระบบอากาศพลศาสตร์ของ 787B กับฝีไม้ลายมือของทีมแข่งจากเอเชียสร้างชื่อเสียงอย่างยิ่งใหญ่ให้กับค่ายซูมซูมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เครื่องยนต์สูบหมุนโรตารีขึ้นชื่อในเรื่องของความร้อน การสึกหรอ สูบน้ำมันเชื้อเพลิง กินน้ำมันเครื่องและสกปรก แต่ Mazda พบหนทางในการทำให้เครื่องโรตารีรุ่นใหม่ประหยัดและแรงยิ่งขึ้น รวมถึงยังสะอาดมากพอที่จะผ่านค่าไอเสียในยุโรปและอเมริกา เหลือแค่ความเหนียวแน่นคงทนของเครื่องยนต์เท่านั้นที่ยังเป็นปัญหา และต้องลงมือลงแรงปรับแต่งกันต่อไป ปัญหาด้านคุณภาพของเครื่องในรถ RX-8 รุ่นที่แล้วส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าผู้จงรักภักดี ทำให้วิศวกรของ Mazda ต้องทดสอบการทำงานของเครื่องยนต์พร้อมไปกับการปรับปรุงวัสดุมากกว่าที่เคยทำมา ข้อได้เปรียบของแนวคิด เล็กเบาและทรงพลัง สักวันหนึ่งในอนาคต เครื่องยนต์โรตารีของแบรนด์ซูมซูมอาจกลับมาอีกครั้ง ในฐานะของเครื่องปั่นไฟใส่แบตเตอรี่ แบบเดียวกับ Nissan Kicks และรถแข่งแชมป์ดาการ์หมาดๆอย่าง Audi RS Q e-tron รถแข่งแรลลี่แชมป์ 2024 ดาการ์ มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร TFSI ซึ่งรับหน้าที่ปั่นไฟใส่แบตฯ ด้วยหลักการเดียวกัน

หลายปีก่อนหน้านี้ เครื่องยนต์โรตารีที่มีลูกสูบแบบสามเหลี่ยมและไม่มีเพลาข้อเหวี่ยง ได้รับความนิยมและกลายเป็นที่รู้จักของผู้คน ข้อดีของเครื่องยนต์ชนิดนี้ก็คือน้ำหนักที่เบาหวิว ขนาดที่เล็กกะทัดรัดและมีกำลังในรูปของแรงบิดเหนือชั้นกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป เครื่องโรตารีซึ่งครั้งหนึ่งเคยโด่งดังสุดๆ ค่อยๆ จางหายไปจากวงการยนตรกรรม ปัญหาในเรื่องของมลพิษที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ซึ่งถูกพ่นออกมากับไอเสียเกิน 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ catalytic converter ไม่สามารถลดระดับของมลพิษที่ปล่อยออกมาได้ เนื่องจากน้ำมันเครื่องที่ lube ห้องเผาไหม้ยังจำเป็นต้องเข้าไปหล่อลื่น ปัญหาในเรื่องการสูบกินเชื้อเพลิงเบนซินและการกินน้ำมันเครื่อง โรตารีถูกออกแบบให้มีรอบการทำงานที่จัดจ้าน เครื่องสูบหมุนของ Mazda บางรุ่นมีรอบเครื่องเกินหมื่นรอบต่อนาที และทำให้เกิดอาการร้อนจัดจากการหมุนของโรเตอร์ ส่งผลให้สายไฟและอุปกรณ์อื่นๆ ในเครื่องยนต์รวมถึงสูบโรเตอร์แบบสามเหลี่ยมเสื่อมสภาพสึกหรอจากการหมุนที่รอบสูง รวมถึงชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์มีราคาแพง และมีต้นทุนในการผลิตสูงกว่าเครื่องยนต์สูบเรียง

หลักการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี ซึ่งไม่มีลูกสูบชักขึ้น - ลง เหมือนเครื่องยนต์ปกติ ไม่มีก้านสูบ ลิ้นและสปริงรวมถึงเพลาลูกเบี้ยวที่ค่อนข้างมีความเสถียรน้อยกว่าเมื่อทำงาน เครื่องยนต์โรตารีจึงเป็นเครื่องยนต์ที่มีห้องเผาไหม้แบบเดี่ยว ภายในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ชนิดนี้มีส่วนที่เคลื่อนไหวอยู่สองส่วนคือ โรเตอร์หรือลูกสูบทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ชิ้นส่วนอีกชิ้นคือ แครงชาร์ฟที่อยู่ในโรเตอร์ ปลายทั้งสามของโรเตอร์ จะหมุนไปรอบๆ ห้องเผาไหม้ ส่วนที่แบ่งออกเป็นสามส่วนของผนังสูบจะทำให้กำลังอัดของเครื่องโรตารีเพิ่ม หรือลด แล้วแต่การหมุนของโรเตอร์ว่าอยู่ในตำแหน่งใด หลักแนวคิดของเครื่องยนต์โรตารีหรือเครื่องยนต์ Wankel (คิดค้นขึ้นโดยวิศวกรชาวเยอรมันชื่อ Felix Wankel) ใช้โรเตอร์หนึ่งตัวรูปสามเหลี่ยม หมุนอยู่ในเสื้อสูบรูปวงรี การหมุนครบหนึ่งรอบมีระบบการทำงานที่คล้ายเครื่องยนต์สี่จังหวะ คือดูด อัด ระเบิด คาย โดยโรเตอร์เพียงตัวเดียวทำหน้าที่ทั้งหมด ในยุคแรกเริ่ม เครื่องยนต์ชนิดนี้ถูกนำมาวางในรถเยอรมันยี่ห้อ NSU และได้รับความนิยมพอสมควรแต่ไม่ค่อยกว้างขวางเท่าใดนัก

เมื่อเครื่องยนต์โรตารีถูกออกแบบให้มีการส่งถ่ายกำลังอยู่ในแกนเดียวกัน ทำให้สามารถวางเครื่องในระดับที่ต่ำมาก ส่งผลไปถึงค่า Center Of Gravity (CG) ที่ต่ำกว่าปกติ ได้เปรียบรถยนต์แบบอื่นในด้านการทรงตัว รอบเครื่องที่จัดจ้านมากกว่าเครื่องสูบเรียงทำให้ขับสนุกและให้ย่านกำลังแรงบิดที่ต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูงสุด การที่มันไม่มีชิ้นส่วนพวกวาล์ว โดยผนังด้านข้างเสื้อสูบจะมีพอร์ตหลัก 2 พอร์ตคือ พอร์ตไอดีและพอร์ตไอเสีย ทำหน้าที่ป้อนไอดีหรือเชื้อเพลิงกับอากาศ และพอร์ตไอเสียสำหรับการระบายไอเสียจากการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ออกจากกระบอกสูบ รูปทรงรีของผนังกระบอกสูบและเพลาเยื้องศูนย์จะให้มุมของลูกสูบทั้งสามมุม เมื่อมันทำงานโดยหมุนตามเข็มนาฬิกาจะรีดทั้งไอดีและไอเสียไปตามผนังกระบอก สูบ หลังจากไอดีถูกดูดผ่านเข้ามาทางพอร์ตไอดีเป็นการทำงานในสเต็ปแรกแล้ว สเต็ปที่สอง-รูปทรงของผนังกระบอกสูบจะบังคับให้ไอดีดังกล่าวถูกบีบอัดลด พื้นที่ลง สเต็ปที่สาม เมื่อไอดีถูกบีบอัดจนร้อนและมีความดันสูงขึ้น มันจะระเบิดด้วยการจุดประกายไฟจากหัวเทียน 2 ตำแหน่ง แรงระเบิดจะเป็นแรงผลักดันให้ลูกสูบหมุนเคลื่อนที่ต่อไป จนกระทั่งไอเสียที่เกิดขึ้นจากการสันดาปผ่านพอร์ตไอเสียออกไปสู่บรรยากาศ หรือที่ช่างเครื่องยนต์เรียกกันทั่วไปว่า จังหวะคายนั่นเอง

จังหวะของการหมุนในสเตปถัดไป ก็จะหมุนเวียนไปเข้าสู่จังหวะดูดอีกครั้ง ต่อเนื่องวนเวียนอยู่แบบนี้จนกว่าเชื้อเพลิงในถังจะหมดลง เช่นเดียวกับวัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์สูบชัก 4 จังหวะ แต่เครื่องยนต์แบบโรตารีของ Mazda RX-8 จะใช้การทำงานของลูกสูบแบบสามเหลี่ยมที่หมุนเป็นวงกลมภายในผนังกระบอกสูบรูปทรงรี การหมุนของลูกสูบในเครื่องโรตารีจำนวน 1 รอบ จะได้กำลังจากการระเบิดถึง 3 ครั้ง ในขณะที่เครื่องยนต์แบบสูบชักจะต้องหมุนถึง 2 รอบ แล้วสร้างกำลังได้แค่ครั้งเดียว เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เครื่องโรตารีของ RX-8 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องสูบชักในปริมาตรความจุซีซีเท่ากันถึง 6 เท่า การพัฒนาเครื่องสูบหมุนที่ไม่เคยหยุดยั้งของค่าย Zoom Zoom ก่อกำเนิดวิศวกรรมทางการขับเคลื่อนที่เป็นเอกเทศ ถึงแม้มันจะไม่ค่อยได้รับความนิยมจากปัญหาในเรื่องของความร้อนและการสึกหรอ ที่มากกว่าเครื่องสูบชักจากการหมุนที่รวดเร็วของลูกสูบ แต่ปัญหาดังกล่าวได้รับการปรับปรุงแก้ไขอยู่ตลอดเวลาในห้องทดสอบเครื่องยนต์ ของบริษัท Mazda การใช้วัสดุที่แข็งแกร่งทนทานมากขึ้นช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถ Mazda ที่วางเครื่องโรตารี เช่น โมเดล Crossmo ในยุค 70′ ถัดมาในยุค 80′ ด้วยตัวรถที่ร้อนแรงรุ่น RX-3 ต่อเนื่องด้วย RX-7 อีกสามโมเดล คือรหัส FA/FC/FD และมาถึงยุคปัจจุบันในโมเดล RX-8



การปรับปรุงเพื่อลบล้างจุดด้อยบางอย่างของเครื่องโรตารีใน Mazda RX-8 เช่น เพิ่มความคงทนด้วยการเคลือบผนังห้องลูกสูบด้วยสารหล่อลื่นพิเศษ ลดการใช้เชื้อเพลิงจากเครื่องโรตารีในรุ่นเก่าที่ใช้เชื้อเพลิงในปริมาณมากกว่าเครื่องสูบเรียง (จากที่ต้องหมุนในรอบสูงกว่ามากและผ่านการอัดอากาศจากเทอร์โบในรุ่นที่แล้ว) รวมถึงการลดมลพิษจากการปล่อย CO2 ได้ดีขึ้น ผ่านมาตรฐานการควบคุมมลพิษของยุโรปที่เข้มงวด เครื่อง Renesis Rotary ของ RX-8 จึงเป็นเครื่องสูบหมุนที่หายใจด้วยตัวเองโดยไม่มีระบบอัดอากาศมาคอยเพิ่มแรงม้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น การออกแบบผนังกระบอกสูบรูปวงรีใหม่หมด ด้วยการจัดวางพอร์ตไอดีและพอร์ตไอเสียใหม่ เพื่อทำให้จังหวะการ Overlap หมดไป (จังหวะ Overlap คือจังหวะที่พอร์ตไอดีและพอร์ตไอเสียเปิดขึ้นพร้อมกัน) ไอดีของเครื่อง Renesis Rotary รุ่นใหม่ที่วางอยู่ใน RX-8 จะไม่หลุดไปทางพอร์ตไอเสียเหมือนเครื่องโรตารีในรถสปอร์ตตระกูล RX รุ่นเก่า เปลี่ยนหัวฉีดเชื้อเพลิงจากหัวเดี่ยวมาเป็นแบบคู่ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/