Honda CR-V เป็นรถครอสโอเวอร์-เอสยูวีรุ่นแรกที่เข้ามาทำตลาดประเทศไทย โดยมีการเปิดตัว CR-V เจเนอเรชั่นแรกในปี 2539 หลังจากการทำตลาดอย่างเข้มข้นและปากต่อปากของลูกค้าที่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน CR-V มีกระแสการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจนถึงเจเนอเรชั่นที่ 5 ในปัจจุบัน ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2560

...

ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา Honda CR-V ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถเอสยูวีของประเทศไทย ถือเป็นรถอเนกประสงค์ 5-7 ที่นั่ง ซึ่งเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดเอสยูวีของไทย ทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะของการใช้งาน ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของผู้คนในปัจจุบันที่นิยมรถยนต์อเนกประสงค์แบบครอบครัว ทำให้ Honda CR-V ครองใจลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่องจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ จากเจเนอเรชั่นแรกสุดมาจนถึงเจเนอเรชั่นล่าสุด ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กระแสความนิยมในรถเอสยูวีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระจายไปในทุกระดับความต้องการของกลุ่มลูกค้า

Honda CR-V เจเนอเรชั่นที่ 5 มีการออกแบบที่คำนึงถึงความสวยงามและการใช้งาน โดดเด่น ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูแข็งแกร่งและให้ความหรูหราในทุกมิติ ภายในเน้นพื้นที่ของการใช้สอย โดยออกแบบห้องโดยสารให้มีความกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายยามเดินทาง และครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ก้าวล้ำ CR-V เจเนอเรชั่นที่ 5 นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ Honda ได้นำเสนอขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ขนาด 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO เป็นเครื่องยนต์ดีเซลตัวเล็กความจุแค่ 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ two stage turbocharger ให้กำลังแรงบิดบนเครื่องยนต์ 4 สูบขนาดเล็กเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหญ่ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง ความจุ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรคับคั่ง รวมไปถึงการขับขี่บนเส้นทางไฮเวย์ต่างจังหวัดในวันหยุดพักผ่อน

...

New CR-V มีสัดส่วนความยาว 4,571 มิลลิเมตร กว้าง 1,855 มิลลิเมตร สูง 1,667 มิลลิเมตร ฐานล้อวัดจากดุมหน้าไปถึงดุมหลัง 2,662 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,603 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,613 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องน้อยกว่า PPV-SUV โดยมีระยะห่างจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถอยู่ที่ 208 มิลลิเมตร พอที่จะลุยน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร แม้จะใช้เครื่องดีเซลตัวเล็กแค่ 1.6 ลิตร แต่ CR-V ใหม่รุ่นท็อปสุดนั้น ยัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเอาไว้บานเบอะ ทำให้น้ำหนักตัวพุ่งถึง 1,742 กิโลกรัม หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันเมื่อเทียบกับรุ่นเบนซิน 2.4 ลิตรที่มีน้ำหนัก 1,613 กิโลกรัม ซุ้มล้อทั้ง 4 ข้างหุ้มด้วยพลาสติกกันกระแทกสีดำ ล้ออัลลอยลายกงจักรขนาด 18.7.5J ยัดยางเนื้อนิ่ม Toyo รุ่น Proxes R45 ไซส์ 235/60R18 แถมยางอะไหล่ขนาดเดียวกันกับล้อปกติ

...

...

ห้องโดยสารของ New CR-V โอ่โถงมีพื้นที่เหลือๆ สำหรับผู้โดยสารและคนขับรวม 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 3 ที่เพิ่มเข้ามาเหมาะกับเด็กตัวเล็กมากกว่าจะให้ผู้ใหญ่ตัวสูงนั่งโดยสาร หากไม่ขนกันไปทั้งตระกูล เบาะแถวที่ 3 มักจะถูกพับลงกับพื้นเพื่อเปิดพื้นที่สำหรับการใส่สัมภาระ ส่วนเบาะแถวที่ 2 ก็สามารถพับเพื่อเปิดพื้นที่กว้างๆ สำหรับการยัดรถจักรยานได้เหมือนกัน โดยสามารถยัดเสือหมอบไซส์ 54 แบบไม่ต้องถอดล้อกันเลยทีเดียว แต่ก็จะเสียพื้นที่โดยสารด้านหลังไปทั้งหมด

จุดเด่นของรถรุ่นนี้ยังอยู่ที่การออกแบบ และใช้วัสดุรองรับของเบาะคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้า เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหน้าก็ยังปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะหุ้มหนังของ New CR-V ออกแบบให้นั่งสบายขึ้นเยอะ ในจุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี (มาก) โดยเฉพาะพนักพิงศีรษะที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่น เอนหัวพิงลงไปก็พบกับความนุ่มของฟองน้ำที่ใช้รอง ไม่ดันจนหัวชะโงกไปข้างหน้าเหมือนรถบางรุ่น!

Honda New CR-V DT EL 4WD รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล เป็นเครื่องดีเซลเทอร์โบแบบแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว (4 วาล์วต่อสูบ) ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ป เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ Earth Dreams Technology ที่เน้นความสะอาดและความประหยัด โดยมีอัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 16.0:1 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มีปริมาตรความจุ 1,597 ซีซี ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงหรือคอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น ระบบอัดอากาศเทอร์โบแบบ 2 Stage Turbo ใช้เทอร์โบร้อยเรียงกันเป็นลูกปัดประกบด้านบนและล่าง คอยบูสต์อากาศให้กับระบบไอดี เครื่องดีเซลตัวเล็กของ Honda มีความกว้างกระบอกสูบ 76.0 มิลลิเมตร ช่วงชักยาว 88.0 มิลลิเมตร ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ หรือ 160 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดจัดมาให้ถึง 350 นิวตันเมตร หรือ 35.7 กิโลกรัมเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ไม่ได้แรงแต่ก็พอตัวจากสมรรถนะในด้านแรงบิดที่ต่อเนื่องครอบคลุมแม้จะรอบไม่จัดเท่าเครื่องเบนซินเทอร์โบ เครื่องดีเซล 1.6 ลิตร ปล่อย Co2 141 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร

นอกเหนือจากสมรรถนะและความอเนกประสงค์ที่นับเป็นจุดขายสำคัญของรถยนต์ประเภทนี้ Honda New CR-V เจเนอเรชั่นที่ 5 รุ่นใหม่ล่าสุด ยังมีฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกสบายในระดับพรีเมียม และช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

CR-V เจเนอเรชั่นล่าสุด ได้รับกระแสตอบรับที่ดีด้วยยอดขายสะสมสูงกว่า 15,000 คัน ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มจำหน่าย และมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 60% ของตลาดรถเอสยูวีขนาดใหญ่ โดยสามารถคว้า 2 รางวัลที่สุดของยนตรกรรมแห่งปีจาก 2 สถาบันชั้นนำ ได้แก่ รางวัล Thailand Car of The Year 2017 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย และรางวัล Car of The Year 2018 จัดโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชนของ ASEAN NCAP ซึ่ง New CR-V นับเป็นรถยนต์ของ Honda รุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ภายใต้หลักเกณฑ์การประเมินรูปแบบใหม่ ปี 2560-2563 ซึ่งทดสอบการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ (Adult Occupant Protection : AOP) การปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก (Child Occupant Protection: COP) และระบบความปลอดภัย (Safety Assist Technologies: SATs)

ปากต่อปากของลูกค้า CR-V หลังการขับใช้งานในชีวิตประจำวัน

CR-V ได้รับการยืนยันคุณภาพการใช้งานจากลูกค้าผู้ใช้งานจริง จากคุณวุฒาฑิตย์ จุลกะเศียน พนักงานบริษัทเอกชน กล่าวว่า “ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO ให้การตอบสนองที่รวดเร็วดั่งใจ พอเราเหยียบเร่งเมื่อไหร่ ก็ตอบสนองตามแรงที่เรากดลงไปทันที”

นพ.กิตติศักดิ์ เก่งสกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและสมอง กล่าวว่า “ระบบเกียร์ไฟฟ้า Shift by Wire ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่ราบรื่นไม่มีรอยต่อระหว่างการเปลี่ยนเกียร์แต่อย่างใด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมซื้อซีอาร์-วีคันนี้มา” ทั้งนี้ นพ.กิตติศักดิ์ยังได้ให้คำจำกัดความของ Honda CR-V ใหม่ ไว้ ดังนี้ “เขาไม่ได้ใหญ่โตแต่เขาพอดี เขาไม่ได้รุนแรงแต่พลังเขาเหลือเฟือ เขาน่ารัก เขาปลอดภัย เขาพาเราไปได้ทุกที่ เขาไม่ได้เป็นไฮบริดแต่เขาจิบน้ำมันนิดเดียว นี่แหละครับ Honda CR-V ใหม่”

จุดเด่นของ New CR-V

1- รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังสามารถเลือกใช้กำลังของเครื่องยนต์และปรับอัตราทดของเกียร์ให้มีความเหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ที่มีความหลากหลาย

2- ระบบ Idle Stop ทำหน้าที่ประสานกับระบบ Auto Brake Hold ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ขณะจอดรอการเคลื่อนตัว ช่วยลดมลพิษและลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

3- เทคโนโลยีใหม่ของขุมกำลังดีเซลเทอร์โบ 1.6 ลิตร ขนาดเล็ก มีแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร แต่มีขนาดของเครื่องยนต์เล็กกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ

4- ช่วงล่างยกสูงสไตล์ออฟโรด วิ่งลุยน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ได้ดี หรือขับลุยทางวิบากได้เหนือกว่ารถเก๋งทั่วไป

5- ช่วงล่างแบบมัลติลิงก์ให้การทรงตัวดี เกาะถนน และให้ความนุ่มนวลเมื่อขับบนผิวถนนที่ขรุขระ

6- ระบบรักษาเสถียรภาพในโค้ง หรือ Aglie Handling Assist เข้าโค้งแม่นยำ เกาะถนน และเพิ่มความมั่นใจในการควบคุม

7- พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้ายกว้างขวาง ฝาท้ายแบบไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกขณะขนสัมภาระเก็บในพื้นที่ใต้ฝาท้าย

8- กล้องมองภาพด้านซ้าย Honda Lanewatch ใต้กระจกมองข้างบริเวณด้านซ้าย เปิดมุมมองอับทึบ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทางจราจรไปทางซ้ายหรือเลี้ยวเข้าซอย 

9- Driver Attention Monitor ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนคนขับให้จอดพักเมื่อขับระยะทางไกล

10- Electric Parking Brake เบรกมือไฟฟ้า ไม่ต้องออกแรงดึงคันเบรกมือ แค่กดปุ่มใช้งาน 

11-Auto Brake Hold ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับท่ามกลางสภาพการจราจรที่ติดขัด ไม่ต้องมานั่งเหยียบแป้นเบรกแช่เท้าเอาไว้เพื่อรอการเคลื่อนตัว เหยียบเบรกแค่ครั้งเดียวจนรถหยุดนิ่ง ก็สามารถถอนเท้าออกจากแป้นเบรกได้เลย เมื่อต้องการเคลื่อนที่ก็แค่กดคันเร่งเบาๆ 

12- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดแบบกดปุ่มสั่งงาน Shift by Wire ในรุ่นดีเซล ใช้งานง่ายแค่กดปุ่ม ไม่ต้องเลื่อนคันเกียร์ไป-มา

13- ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay ย้ายหน้าจอของโทรศัพท์มือถือมาไว้บนจอภาพมอนิเตอร์กลางของรถ ทำให้มองเห็นและควบคุมสั่งงานได้ง่าย

Honda New CR-V DT-EL4WD ราคา 1,699,000 บาท

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/