Plug in Hybrid เริ่มเข้ามาทดแทนรถยนต์ Hybrid อย่างต่อเนื่อง เป็นมาตรการขั้นต่อไปของบริษัทรถยนต์ที่จะต้องหาตัวตายตัวแทนในการหยุดยั้งเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่กำลังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง สภาวะภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลงเนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาของหมู่มวลมนุษยชาติ บริษัทรถยนต์บางเจ้าจึงหันมาประกาศว่าจะทำตัวให้สะอาดขึ้นด้วยการปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนและลดการปล่อย Co2 ทั้งๆ ที่รู้ว่าทำได้ยากก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย รถยนต์แบบเสียบปลั๊กชาร์จเริ่มเข้ามาทดแทนรถไฮบริดที่ถึงแม้จะประหยัดและปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถปกติแต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับความสามารถของรถปลั๊กอินไฮบริด ในปัจจุบัน  

...

ไม่ว่าจะเป็น bmw iperformance / mercedes benz EQ ต่างก็หาหนทางที่จะนำพาลูกค้าไปยังรถยนต์ประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ Plug in Hybrid จาก Toyota ในรุ่น Prius ก็เช่นเดียวกัน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม Toyota Motor Thailand ไม่ได้นำรถรุ่นนี้เข้ามาขายในประเทศไทย เจ้า Prius เวอร์ชั่นเสียบปลั๊กชาร์จมีหน้าตาที่ทันสมัยขึ้นคล้ายๆ กับรถต้นแบบ เส้นสายรอบตัวรถดูดี เป็นความพยายามของทีมออกแบบจากแบรนด์สามห่วงที่ต้องการให้ทรงของรถดึงดูดสายตามากเป็นพิเศษ เป็นกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม 

...

ชุดแบตเตอรี่ของ Prius Plug in Hybrid เป็นแบตฯลิเทียมไอออน พัฒนาใหม่ให้มีประสิทธิภาพดีกว่าแบตฯ รุ่นเดิม มีขนาด 8.8Kw สามารถปั่นล้อให้หมุนได้โดยไม่ต้องติดเครื่องยนต์ไกล 31 ไมล์ หรือประมาณ 40 กิโลเมตร แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทาง หากเป็นทางขึ้นเขาลงห้วยสูงชัน ระยะทางก็จะหดสั้นลง การทำระยะโดยไม่ติดเครื่องยนต์และวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ของมันไกลกว่ารถรุ่นพี่ถึงสองเท่า เกิดจากแบตฯ รุ่นใหม่และมอเตอร์ขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง E-Motor และ Generator ที่ทำงานร่วมกันทั้งขับเคลื่อนเพียวๆ เสริมแรงบิดให้กับเครื่องยนต์และปั่นกระแสไฟ ทำให้ Toyota กลายเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นระบบดังกล่าว

...

Toyota Prius Plug in Hybrid ทำความเร็วจากมอเตอร์เพียวๆ ได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่การเร่งความเร็วด้วยมอเตอร์ทำให้สิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้า เครื่องยนต์ Atkinson ขนาด 1.8 ลิตร มีกำลังไม่มากแต่ก็มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา เหมาะกับการเอามาใช้ในรถปลั๊กอิน แบตเตอรี่แบบใหม่ ส่งผลให้สมรรถนะในการวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ มากกว่ารุ่นเก่าถึง 2 เท่า มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงนั้นมีประสิทธิภาพมากพอในการวิ่งด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่เครื่องยนต์ไม่ติดแต่วิ่งด้วยกำลังไฟจากแบตฯ ได้ไม่ไกล พอเร่งความเร็วมากๆ เข้าไฟในแบตเตอรี่ก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเงินในกระเป๋าของคุณช่วงต้นเดือน เครื่องยนต์เบนซินแบบ Atkinson 1.8 ลิตร มีความประหยัดในระดับที่คุณเองก็คาดไม่ถึงที่ 202 ไมล์ต่อแกลลอน ปล่อย Co2 แค่ 32 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร การเสียบไฟชาร์จทิ้งไว้ที่บ้านในตอนกลางคืน คุณจะใช้เวลาในการชาร์จไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ของเจ้า Prius Plug in Hybrid นานแค่ 2 ชั่วโมงกับอีก 20 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าชาร์จไฟเร็วกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร

...

สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศดีขึ้นที่ตัวเลข 0.24 (cd 0.24) ความสูงที่ถูกปรับให้ต่ำลง 20 มิลลิเมตร ทำให้ Prius Plug in Hybrid 2016 ลู่ลมสุดๆ ตามด้วยค่าทางแอร์โรไดนามิกที่มีส่วนทำให้มันรีดกระแสลมได้ตามที่วิศวกรต้องการ รุ่นท็อปสุดมีหลังคาแบบโซลาเซลล์ คอยชาร์จไฟเพิ่มเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ หมายความว่าในวันที่แดดจัด การขับใช้งานเจ้า Prius Plug in Hybrid ก็จะยิ่งเพิ่มความประหยัดมากยิ่งขึ้น ระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบใหม่ในเครื่องยนต์ Atkinson 1.8 ลิตร มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงการปรับใช้ปั๊มไฟฟ้าในระบบทำความเย็น หรือระบบปรับอุณหภูมิในห้องโดยสาร แชสซีใหม่ของมันทำให้เกิดความสมดุล และขับได้เนียนกว่ารถ Prius รุ่นพี่เห็นๆ น่าเสียดายที่ Toyota Motor Thailand ไม่นำเข้ามาขายในประเทศไทย รวมถึงภาครัฐเองก็ควรจะลดภาษีนำเข้ารถยนต์ประหยัดพลังงานแบบนี้เสียที อัตราภาษีของรถนำเข้าแบบเสียบปลั๊กชาร์จแม้จะลดลงมาบ้างแต่ก็ยังสูงอยู่ดี หากคิดที่จะทำให้อากาศของประเทศไทยสะอาดขึ้นก็ควรสนับสนุนรถแบบนี้มากกว่าจะมาคิดอัตราภาษีแพงๆ เพื่อเอาเงินเข้ารัฐนะครับ.