Honda Mobilio รถแวนครอบครัวแบบ 5 ประตู 7 ที่นั่ง ถูกเปิดตัวในเดือนกันยายนปี 2013 ก่อนที่จะเข้ามาขายในประเทศไทยรวมถึงตลาดรถเล็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปี 2014 นี่คือรถยนต์สเตชั่นแวกอน 7 ที่นั่ง ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถเล็กรุ่น Brio โดยขยายความยาวฐานล้อเพิ่มเป็น 2,650 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มเติมพื้นที่ใช้สอยภายใน ทำให้รูปลักษณ์ของ Mobilio แตกต่างไปจาก Brio ด้วยขนาดความยาวของตัวถังที่มากกว่า รถรุ่น Mobilio ประสบความสำเร็จในประเทศอินโดนีเซีย จากความนิยมรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีลักษณะคล้ายกับรถ MINI MPV ในปี ค.ศ. 2017 ค่าย Honda ในประเทศอินโดนีเซียได้ทำการปรับโฉม Mobilio ใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ส่วนหน้าให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Mobilio รุ่น RS ที่มีอุปกรณ์ครบครันมากกว่าทุกรุ่นเนื่องจากเป็นรุ่นสูงสุดนั่นเอง
...
...
Honda ดีไซน์ชิ้นส่วนด้านหน้าของ Mobilio RS ใหม่ เช่น ไฟหน้า ฝากระโปรงหน้า สปอยเลอร์สปอร์ตของ Mobilio รุ่น RS ทำให้ใบหน้าของมันดูดีขึ้นมาก ดีไซน์ไฟหน้ามีชิ้นงานพลาสติกโครเมี่ยมต่อเชื่อมกับชิ้นส่วนกระจังหน้า คล้ายกับ Honda Civic และ New CR-V เจ้า Honda Mobilio RS ออกแนวสปอร์ตแวกอนด้วยกระจังหน้าพลาสติกสีดำ สปอยเลอร์หน้า-หลังแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ยัดยาง 185/65R15
...
...
แนวเส้นด้านข้างตัวถังที่ทะแยงขึ้นด้านบนจากซุ้มล้อหน้าลากไปจนถึงประตูบานหลังทำให้มันมีรูปลักษณ์แปลกตา มือจับที่เปิดประตูโครเมี่ยม เสา A หรือเสาหน้ามีองศาความลาดเอียงมากกว่าปกติ เสาท้ายออกแบบให้กระจกบังลมปิดบังเสาท้ายครึ่งหนึ่งตามแบบของรถยนต์สมัยใหม่ ไฟท้ายใหญ่โตมโหระทึก สปอยเลอร์บนหลังคาของรุ่น RS ทำให้เจ้า Mobilio สีส้มคันนี้ดูวัยรุ่นขึ้นมาอีกนิด ฝาท้ายเปิดออกได้ด้วยมุมสูงสำหรับการขนสัมภาระชิ้นโต กระจกบานฝาท้ายติดตั้งใบปัดน้ำฝนมาให้
สปอยเลอร์หลังของ Mobilio RS เต็มไปด้วยรายละเอียด เช่น แผ่นพลาสติกสะท้อนแสง เส้นโครเมี่ยมที่คาดกลางสปอยเลอร์หลังยกระดับมุมมองทำให้ดูหรูหรามากขึ้น ฝาท้ายติดตั้งสัญลักษณ์บ่งบอกรุ่น RS พร้อมท่อไอเสียสแตนเลส มิติตัวถังมีขนาดความกว้าง 1,683 มิลลิเมตร ยาว 4,398 มิลลิเมตร และสูงถึง 1,603 มิลลิเมตร ความสูงที่มากกว่ารถเก๋งทั่วไปช่วยทำให้บรรยากาศของห้องโดยสารมีความโปร่งโล่ง ความยาวฐานล้อ 2,652 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,472 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,475 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 189 มิลลิเมตร ความจุถังเชื้อเพลิง 48.5 ลิตร ตัวหนักถึง 1,173 กิโลกรัม
ภายในเน้นความกว้างนั่งสบายด้วยความสูงของหลังคาที่มากกว่ารถเล็กทั่วๆ ไป แม้ Honda จะบอกว่ามันเป็นรถ 7 ที่นั่ง แต่ที่นั่งเบาะหลังแถวที่สองตรงกลางนั้นคับแคบมากๆ ไม่เหมาะกับการนั่งไกลๆ หากคุณไม่ใช่คนแคระหรือหมาชิวาวา ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการนั่งโดยสารแค่ 6 ที่นั่งจะทำให้นั่งได้สบายเนื้อสบายตัวมากกว่า เบาะแถวที่สามมีพื้นที่วางเท้ามาให้พอสมควร ไม่ถึงกับอึดอัดคับแคบเหมือนรถ 7 ที่นั่งบางรุ่นบางยี่ห้อที่พยายามยัดเบาะแถวที่สามลงไปแต่นั่งไม่ได้นาน แค่หย่อนก้นลงไปเดี๋ยวเดียวก็เริ่มปวดเมื่อยกันแล้ว เบาะแถวหลังพับได้อย่างหลากหลาย ขอบคุณ Honda ที่จัดรูปแบบของการพับเบาะหลังใน Mobilio ได้ดี ช่วยทำให้คุณสามารถปรับพื้นที่ภายในได้ตามใจชอบ
ราคาของ Honda Mobilio RS AT คันรีวิวอยู่ที่ 763,000 บาท เป็นราคาที่แพงกว่า Mobilio ทุกรุ่น จ่ายไปขนาดนั้น คุณจะได้มาตรวัดแบบเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์แถวที่สองคอยให้ความเย็นกับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบควบคุมการเปิดประตูที่มีความปลอดภัย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อีกเพียบ ทั้งระบบภาพและเสียงผ่าน HDMI น่าเสียดายที่ Honda ละเลยคุณภาพของพลาสติกที่ใช้ตกแต่งภายใน การใช้พลาสติกเกรดต่ำทำให้ห้องโดยสารของ Mobilio ดูด้อยลงไปพอสมควร
เบาะหุ้มผ้าทุกตำแหน่งสีดำสลับสีแดงเลือดหมู เย็บเดินตะเข็บตัวเบาะด้วยด้ายสีแดง ซุ้มเกียร์เรียบง่ายสีเงิน พร้อมที่วางแก้วน้ำสำหรับคนชอบจิบกาแฟ คอนโซลพลาสติกออกแบบช่องแอร์ทรงสี่เหลี่ยมล้อมกรอบด้วยพลาสติกสีเงิน พวงมาลัย 3 ก้านหุ้มรอบวงด้วยไวนิลพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง มาตรวัดเรืองแสงสีแดง ใช้เข็มวัดรอบและวัดความเร็วสีแดงบนตัวเลขสีขาวที่ทำให้อ่านค่าได้ง่าย จอมาตรวัดด้านขวาสุดเป็นจอแสดงผล MID multi information display แจ้งเตือนระดับเชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่ไปถึง เวลา อุณหภูมิด้านนอก ทริปมิเตอร์ A/B นักออกแบบของ Honda กลัวว่ายามขับในทะเลทรายอาจทำให้คุณกระหายน้ำ จึงใส่ที่วางแก้วมาให้มากถึง 11 ตำแหน่งรอบๆ ห้องโดยสาร รวมถึงช่องจ่ายไฟสำรองขนาด 12v สำหรับการชาร์จสารพัดอุปกรณ์ไฟฟ้า
เบาะนั่งแถวที่ 2 ได้รับการเพิ่มพื้นที่วางขา พื้นที่บริเวณเข่าและพื้นที่วางเท้า โดยเบาะนั่งสามารถพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับจังหวะเดียว (One Motion) พนักพิงสามารถพับราบและปรับเอนได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ยังสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลังได้ 100 มิลลิเมตร (เฉพาะรุ่น RS และ V) ซึ่งทำให้ผู้โดยสารแถวที่ 3 เข้า-ออกจากรถได้ดี
เบาะนั่งแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น RS และ V) เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย จึงได้ออกแบบให้ที่นั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่วางขาเพียงพอ ไม่คับแคบ ซึ่งเบาะนั่งยังอยู่ในช่วงระยะฐานล้อ และสามารถพับแยกแบบ 50:50 หรือพับไปด้านหน้า 2 จังหวะ คือพับเบาะลงได้เรียบและพับต่อไปด้านหน้าเพื่อให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายมาก ส่วนพนักพิงยังปรับเอนได้ 2 ระดับ
Honda Mobilio ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบเบนซิน 4 สูบ แถวเรียงวางตามขวางขับเคลื่อนล้อหน้า i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SOHC PGM-FI ขนาด 1.5 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,497 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 73.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 89.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.3 : 1 กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พัฒนาภายใต้ Earth Dreams Technology เครื่องยนต์รองรับเชื้อเพลิงพลังงานทางเลือก E85 ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช็คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape ระบบเบรก ด้านหน้าใช้ดิสเบรกแบบมีช่องระบายความร้อน ส่วนเบรกหลังเป็นแบบดรัมเบรก ล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว ยาง 185/65/R15
การพัฒนาระบบส่งกำลังภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams เพื่อยกระดับอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใหม่นี้ เกิดขึ้นจาก 2 เทคโนโลยีลดแรงเสียดทานใหม่คือ
1. Cooling Control Spacer (CSS) ที่อยู่ในวอเตอร์แจ็กเก็ต ซึ่งจะปรับอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมโดยทันที และขยายช่องว่างของลูกสูบด้วยน้ำอุ่น ส่งผลให้มีแรงเสียดทานน้อยลงและช่วยประหยัดน้ำมัน
2. การเคลือบสารโมลิบดีนัมไดซัลไฟด์ (MoS2) ที่กระโปรงลูกสูบและแบริ่งหลัก ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างยิ่งในการลดแรงเสียดทานระหว่างลูกสูบกับผนังกระบอกสูบ สาร MoS2 เป็นสารหล่อลื่นสมรรถภาพสูง ที่ช่วยลดความฝืดลูกสูบ ทำให้ประหยัดน้ำมันดีขึ้น
นอกจากนั้น ท่อไอดีพลาสติกน้ำหนักเบาแบบชิ้นเดียวก็มีส่วนช่วยในการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น EGR plate บนมานิโฟลด์ไอดีของเสื้อสูบ (Cylinder Block Intake Manifold) ก็ช่วยให้ Mobilio RS ประหยัดน้ำมันได้ดี เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT Earth Dreams Technology ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ภายใต้แนวคิด Earth Dreams Technology ของ Honda ใช้สายพานเกียร์ที่มีความแข็งแรงสูง 12 เส้น เพื่อให้ได้อัตราทดเกียร์ที่กว้าง แต่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักของระบบเกียร์เบาลง ในขณะที่แรงบิดสูงเพิ่มมากขึ้น ด้วยแรงเสียดทานที่ต่ำทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น ระบบเกียร์ CVT ใหม่ ใช้ปั๊มน้ำมันเกียร์ที่มีระบบวิเคราะห์ประสิทธิภาพในตัวแรงดันของน้ำมันต่อพูลเลย์ โดยจะถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดในทุกสภาพการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีการควบคุมแบบใหม่ นอกจากนั้น G-Design Shift ซึ่งเป็นระบบควบคุมและประสานงานแบบใหม่สำหรับเกียร์ลิ้นปีกผีเสื้อและระบบควบคุมไฮดรอลิกจะให้การตอบรับอย่างรวดเร็วต่อแรงที่เข้ามา ช่วยรักษาอัตราเร่ง G ให้ราบรื่นและเป็นแบบลีเนียร์
รถทดสอบ Honda Mobilio รุ่นท็อปสุด RS เป็นรถแม่บ้านที่มีความสามารถพอตัว ใช้ขับไปทำงาน ขับรับ-ส่งลูกๆ ไปโรงเรียน หรือวันหยุดก็ขับออกทางไกลไปเที่ยวกับครอบครัวจากจำนวนเบาะโดยสารที่มากกว่ารถเก๋งเล็กแบบอื่นๆ สภาพการควบคุมออกไปในทางเบาสบายขับง่ายและมีความคล่องตัวพอสมควร แม้จะมีตัวถังที่ค่อนข้างยาว แต่มีกล้องมองหลังเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับถอยหลัง พวงมาลัยไฟฟ้าเบามือ ทำให้การขับในเมืองหรือขับเข้าออกจากที่จอดรถคับแคบทำได้ราวกับกำลังขับรถคันเล็กๆ
วิศวกรของ Honda เคลมว่า ความเร็วสูงสุดของ Mobilio RS อยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เอาเข้าจริงๆ เมื่อลองกดคันเร่งกันจนสุดแบบแช่ยาวๆ มันสามารถทำความเร็วปลายได้ 168 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สภาพการควบคุมในย่านความเร็วสูง เนื่องจากเป็นรถแบบสเตชั่นแวนกอนที่เน้นความนิ่มนวล อาการโยนตัวเมื่อพบเจอกับผิวถนนที่ไม่สม่ำเสมอในย่านความเร็วสูง จึงยังปรากฏอาการอยู่บ้างซึ่งเป็นธรรมชาติของรถยนต์ที่มีระดับราคาขนาดนี้
เสียงรบกวนจากภายนอกไม่มาก แต่ก็ไม่ได้เงียบกริบ มาตรการป้องกันเสียงจากภายนอกทำออกมาได้ดีพอใช้ เสียงลมปะทะกับตัวถังและเสียงยางที่บดลงไปบนพื้นถนนเริ่มได้ยินเมื่อความเร็วทะยานผ่าน 100 กิโลเมตร แต่ไม่ได้ดังจนน่ารำคาญ การเบรกและการถ่ายเทน้ำหนักในขณะที่เบรกอย่างเต็มกำลังมีอาการดึงเล็กน้อย ซึ่งเป็นปกติสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าเมื่อใช้เบรกหนักๆ ที่ย่านความเร็วสูง
ส่วนการทดกำลังของเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีความนิ่มนวลราบเรียบ กดคันเร่งลึกๆ ECU ของเครื่องยนต์และเกียร์จะผสานการทำงานและช่วยทำให้อัตราทดมีความเหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ได้ดี การเร่งความเร็วแบบฉับพลันทันทีเพื่อแซงรถช้าควรกะระยะแซงเผื่อไว้ในด้านของความปลอดภัย สำหรับการทรงตัวในย่านความเร็วเดินทางอยู่ในค่าที่รับได้ มันส่งถ่ายความสบายหลังพวงมาลัยในย่านความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ แทบจะไม่แตกต่างไปจากรถซีดาน 4 ประตู
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ตัวเดียวกับที่วางอยู่ใน Jazz กำลัง 117 แรงม้า กับแรงบิด 146 นิวตันเมตร ขับคนเดียวมีปลิว แต่ถ้านั่งกันครบทุกตำแหน่งแบบ 7 ที่นั่งพร้อมสัมภาระก็พอได้แค่อาศัยแบบไหลไปเรื่อยๆ อัตราสิ้นเปลืองในและนอกเมืองทำได้ 11.4-12.2 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่กินแต่ก็ไม่ประหยัด อยู่ที่การลงน้ำหนักเท้าของคุณมากกว่า กดมากก็กินมาก แตะเรื่อยๆ พอแค่ไหลๆ ก็จะได้ความประหยัดกลับคืนมา ช่วงล่างพอได้ ขับออกทางไกลในย่านความเร็วเดินทาง 110 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ยังมั่นใจได้ดี อาจมีอาการโคลงตัวบ้างเมื่อเจอเข้ากับถนนที่ไม่เรียบ แต่โดยภาพรวมช่วงล่างของรถเล็กคันนี้ก็มีดีที่ความนิ่มนวลนั่งสบาย เป็นรถครอบครัวที่มีความอเนกประสงค์จากพื้นที่ใช้สอยภายใน แต่นิสัยของคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยจะชอบรถแนวสเตชั่นแวกอนทำให้ Honda Mobilio ขายไม่ดีเท่าที่ควร.
Honda Mobilio ราคา
Honda Mobilio S AT 659,000 บาท
Honda Mobilio V AT 699,000 บาท
Honda Mobilio RS AT 763,000 บาท (คันรีวิว)
NEW HONDA MOBILIO รุ่น RS 763,000 บาท
อุปกรณ์ภายนอก
– กระจังหน้า แบบ Gloss Black
– ไฟตัดหมอกคู่หน้า
– สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
– กันชนหน้าและหลังแบบสปอร์ต
– สเกิร์ตข้าง
– ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส
– สัญลักษณ์ RS บนกระจกหน้าและฝากระโปรงท้าย
– ล้อ อัลลอย 15 นิ้ว แบบ RS
อุปกรณ์ภายใน
– มือจับประตูด้านใน สีเงิน
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
– ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
– มาตรวัดเรืองแสง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
– กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับไฟฟ้า
– ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
ระบบเครื่องเสียง
– ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1″
– สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
– รองรับการเชื่อมต่อ Smart Phone*
– ช่องเชื่อมต่อ HDMI
ระบบความปลอดภัย
– กล้องส่องภาพด้านหลัง
อุปกรณ์ภายนอก Honda Mobilio RS
– กระจังหน้าแบบ Gloss Black พร้อมกันชนหน้าแบบสปอร์ต และไฟตัดหมอกคู่หน้า
– ไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟหรี่แบบ LED
– กันชนหลังแบบสปอร์ต พร้อมปลอกท่อไอเสียสเตนเลส
– สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
– สเกิร์ตข้าง และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ต
อุปกรณ์ภายใน
แผงคอนโซลดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชั่นการใช้งานได้ง่ายด้วยระบบสัมผัส ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส รองรับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI
– Home Screen – หน้าจอเมนูหลัก พร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– ช่องเชื่อมต่อ USB พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI
– สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
– มาตรวัดเรืองแสง พร้อมหน้าจอแสดง ข้อมูลการขับขี่ MID
– ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ – (Push Ignition System)
– ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ – (Honda Smart Key System)
ระบบความปลอดภัย
– ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ช่วยปกป้อง และลดการบาดเจ็บของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า เมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า
– ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA (Vehicle Stability Assist)
– จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
– โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON
– กล้องมองภาพด้านหลัง
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/