CCA หรือ Collaborative Combat Aircraft  (CCA) แปลว่า อากาศยานรบไร้นักบินที่ทำงานร่วมกับเครื่องบินรบที่มีนักบิน  ในอนาคตอันใกล้ ยานรบแบบไร้นักบิน จะเข้ามาแทนที่เนื่องจากประสิทธิภาพที่มากกว่าเครื่องบินที่มีนักบิน  CCA ทำการบินด้วยระบบนักบินกลอัตโนมัติ โดยปราศจากแรงกดดันต่างๆ มันไม่มีผลต่อแรงจี ไม่มีห้องนักบินและอุปกรณ์ทำการบิน ทำให้น้ำหนักลดลงไปมาก CCA สามารถปฎิบัติภารกิจบินร่วมกับเครื่องบินรบที่มีนักบินเป็นมนุษย์ได้อย่างราบรื่น  รูปทรงที่ยากต่อการตรวจจับของเรดาร์  ความเร็วมากกว่า 3.5 มัค ระบบอาวุธออกแบบให้ซ่อนอยู่ในลำตัวอย่างมิดชิด  สามารถปรับแต่งการปฎิบัติการณ์รบทางอากาศได้อย่างหลากหลายตามภารกิจโดยใช้การโปรแกรมมาล่วงหน้า 

ภารกิจที่มีความอ่อนตัวและหลากหลายของ CCA คือ คุ้มกันเครื่องบินที่มีนักบินขณะบินเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายหรือพื้นที่ทำการรบ ก่อกวนระบบป้องกันภัยทางอากาศของฝ่ายตรงกันข้าม  ทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ลาดตะเวณ ถ่ายภาพ ตรวจการหน้า หรือสำรวจและเก็บข้อมูลพื้นที่ต่างๆของฝ่ายตรงกันข้าม โจมตีเป้าหมายทั้งบนบก ในอากาศและทางทะเล เนื่องจากถูกออกแบบให้มีราคาถูกกว่าการสร้างเครื่องบินรบที่มีนักบินควบคุม สามารถส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงสูงได้โดยไม่สูญเสียชีวิตนักบิน

...

CCA ติดตั้งซอฟต์แวร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนด้วย AI โดยออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องบินที่มีมนุษย์เป็นนักบินได้อย่างราบรื่น เพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องบินรบที่มีคนขับ เพิ่มอัตราการเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่อันตรายขณะบินปฎิบัติการณ์รบ CCA  ถูกโปรแกรมให้ทำงานร่วมกับเครื่องบินรบหลายประเภท  โดยออกแบบให้ปฏิบัติการได้ทั้งในฐานะเครื่องบินร่วมรบแบบไร้นักบิน หรือเป็นส่วนหนึ่งของโดรนพิฆาตที่ทำงานร่วมกับเครื่องบินที่ใช้มนุษย์ควบคุม  CCA  ไม่ใช้การควบคุมจากมนุษย์โดยตรง การควบคุมทั้งหมดกระทำผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวล้ำ 


วันที่ 3 กันยายน 2568 ยานรบไร้คนขับสมรรถนะสูงของกองทัพจีน ถูกนำมาร่วมงานสวนสนามครบรอบ 82 ปี วันแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สองของกองทัพจีน เมื่อดูจากรูปทรงของ CCA จีน อากาศยานที่ถูกนำมาโชว์ในงานสวนสนามฉลองชัยชนะนี้ น่าจะเป็นเครื่องบินรบรุ่นที่หก ซึ่งมีความคล้ายกับเครื่องบินขับไล่ J-XDS ของบริษัทอากาศยานเสิ่นหยาง รูปทรงลิ่มที่แหวกอากาศได้ดี โดยไม่มีห้องนักบิน แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาทางทหารของกองทัพปักกิ่ง CCA คือหนึ่งในโครงการโดรนที่มีความหลากหลาย รวมถึงโดรนแบบไร้คนบังคับที่บินด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูง

 

...

เครื่องบินที่เห็นในภาพ มีลำตัวเครื่องและส่วนหัวที่แหลม ออกแบบให้มีความกลมกลืนตามหลักอากาศพลศาสตร์กับปีกที่อยู่ตรงกลางลำตัว ปีกกว้างมีปลายที่ถูกตัด  ขอบท้ายมีส่วนยื่นเป็นรูปสามเหลี่ยมลักษณะเป็นรูปตัว "W" ไม่มีแพนหางดิ่งแนวตั้งหรือพื้นผิวของหาง ลำตัวเครื่องกว้างและแบน ออกแบบให้เป็นที่เก็บเชื้อเพลิงและคลังเก็บอาวุธภายในลำตัว แต่รายละเอียดของช่องเก็บอาวุธ ไม่ปรากฏให้เห็นในมุมมองที่ถ่ายภาพ 

CCA รุ่นใหม่ของกองทัพจีนมีล้อลงจอดสามล้อยื่นออกมา  มีล้อหน้าแบบล้อคู่  อาจเป็นการออกแบบสำหรับปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน มีอุปกรณ์วัดข้อมูลทางอากาศอยู่ที่หัวเครื่องบิน สอดคล้องกับการทดสอบการบินในช่วงที่ผ่านมา  โดยรวมแล้ว การออกแบบในลักษณะดังกล่าว เพื่อให้มีความสามารถในการต่อต้านการตรวจจับจากเรดาร์ของฝ่ายตรงข้าม สอดคล้องกับเครื่องบินขับไล่แบบมีนักบินที่จีนเปิดตัวเมื่อปลายปี 2567 โดยภาพรวม CCA ลำนี้มีความคล้ายคลึงกับเครื่องบินรบรุ่นใหม่ที่เรียกว่า J-36  


มุมมองด้านหน้าและด้านหลังของเครื่องมี "ส่วนนูน" สองส่วนเหนือลำตัวด้านหลังแบบเครื่องยนต์แฝด ซึ่งค่อนข้างแปลกสำหรับโดรนไร้นักบินที่ติดตั้งเครื่องเทอร์โบแฟนถึงสองเครื่องยนต์ วัตถุประสงค์ดังกล่าวคือ เพิ่มศักยภาพในการทำความเร็วและการบรรทุกอาวุธ การมีสองเครื่องยนต์มีความเสถียรมากกว่าเครื่องบินรบที่มีเครื่องยนต์เดียว  สำหรับรายละเอียดอื่นๆ รวมถึงขนาดโดยรวม งไม่สามารถยืนยันได้ ผู้สังเกตการณ์ทางทหารคาดการณ์ว่าเครื่องบินลำใหม่นี้เป็นหนึ่งในโดรนรุ่นใหม่ของกองทัพอากาศจีน เป็นยานรบไร้คนขับที่ล้ำหน้าและมีขนาดที่เหมาะสมกว่าสำหรับการปฏิบัติการรบแบบอิสระโดยปราศจากนักบิน! 

...

CCA ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนในขบวนพาเหรดที่จัดขึ้นในวันที่ 3 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะของกองทัพจีนที่ต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในบรรดาโดรนรุ่นใหม่แบบ CCA มีหลายลำที่ ไม่มีหาง ใช้ปีกรูปสามเหลี่ยมคล้ายเพชร มีความยาวตั้งแต่ประมาณ 30 ถึง 38 ฟุต (9 ถึง 12 เมตร)  ช่วงปีกตั้งแต่ 20 ถึง 35 ฟุต (6 ถึง 11 เมตร)

...

โดรนพิฆาตของกองทัพจีนรุ่นแรกๆ  เป็นหัวใจสำคัญของแผนการพัฒนาและสร้างเครื่องบินรบไร้คนขับสำหรับปฏิบัติการรบทางอากาศอย่างอิสระ ด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่มีความก้าวล้ำ ระบบทำการบินและประเมินผล สามารถตัดสินใจด้วยตัวของมันเองอย่างอิสระปราศจากการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นการบินหลบหลีกทางยุทธวิธี หรือเข้าต่อตีเป้าหมายด้วยความเร็วสูง โดยมีพื้นผิวที่ยากต่อการตรวจจับด้วยเรดาร์ นอกเหนือจากภารกิจร่วมมือกับเครื่องบินที่มีนักบิน  เมื่อเร็วๆนี้ มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากองทัพจีนมีแผนที่จะดัดแปลงเครื่องบินที่มีนักบินให้สามารถปฏิบัติการร่วมกับโดรน CCA  

ปัจจบัน พัฒนาการด้านอวกาศทางทหารของจีนเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง มีโดรนรุ่นใหม่ จะกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่น่ากังวลสำหรับคู่ต่อสู้ที่มีศักยภาพอย่างสหรัฐอเมริกา โดรน CCA ถือเป็นการปฎิบัติงานคู่ขนานกับเครื่องบินขับไล่ที่มีนักบิน เป็นหนึ่งในระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน 

ท้ายที่สุดแล้ว กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA)น่าจะกำลังวางแผนทำในสิ่งที่แตกต่างจากการรบทางอากาศในยุคเก่า  จีนใช้ประโยชน์จากศักยภาพและขีดความสามารถด้านการบินอัตโนมัติขั้นสูง ทั้งหมด เกิดจากการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ การเรียนรู้ของเครื่องจักรกล เพื่อสร้างโดรนพิฆาตที่สามารถปฏิบัติการได้อย่างอิสระมากขึ้นเมื่อเทียบกับเครื่องบินรบที่มีนักบินประจำเครื่อง  รวมถึงเครือข่ายฝูงบิน CCA แบบไร้นักบินจำนวนหลายฝูงบิน ซึ่งปักกิ่งกำลังพัฒนาอย่างเข้มข้นเพื่อต่อต้านการครองโลกของพวกตะวันตก 

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมด อากาศยานไร้คนขับลำนี้ น่าจะเป็นเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า GJ-11 สามารถบินได้ระยะทางไกลกว่าและบรรทุกอาวุธได้มากกว่า รวมถึงสามารถปฏิบัติการได้อย่างอิสระ เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับเครื่องบินพิสัยไกล เช่น H-6, J-36 และเครื่องบินทิ้งระเบิด H-20 ในอนาคต จนกว่าจีนจะเปิดเผยข้อมูลของอากาศยานรบแบบไร้คนขับรุ่นใหม่นี้  ทั้งหมดตอกย้ำให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของภาคการบินและอวกาศทางทหารของจีน และความสามารถในการสร้างอาวุธที่มีความไฮเทคและล้ำอนาคตมากกว่าฝั่งตะวันตกที่มีสหรัฐเป็นลูกพี่ใหญ่.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://
www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/