ในยุค 90s การถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์มีให้เลือกอยู่สามช่องทางหลัก คือสื่อสิ่งพิมพ์ เช่นนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ ต่อมาคือสื่อทางเสียง เช่นรายการวิทยุ และท้ายสุดคือโทรทัศน์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เมื่อคีย์บอร์ดกับอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่าย โลกของรถยนต์ก็ถูกถ่ายทอดผ่านตัวอักษรผ่านทางเว็บไซต์ ในปัจจุบัน การทำคลิปวิดิโอกับรูปภาพกลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่ายด้วยเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนและ Social Network ที่มีให้เลือกทั้งแบบคลิปสั้นและยาว ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่องรถ แต่ยังไม่แน่ใจว่าอยากทำคอนเทนต์แนวไหน มาทางนี้ครับ
...
คอลัมน์ไทยรัฐวันอาทิตย์นี้ได้รับคำถามจากรุ่นหลานที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งแล้วอยากลองเข้ามาสัมผัสโลกของการเป็นคนทำคอนเทนต์รถดูบ้าง ด้วยความที่หลานเป็นคนชอบรถ มีความรู้เรื่องรถพอสมควรและตัวเขาเองก็ชอบดูคลิปเวลาพวกน้าๆลุงๆไปรีวิวรถทั้งในและนอกประเทศ ดูแล้วจึงอยากลองทำบ้าง ในฐานะรุ่นอา ก็ให้กำลังใจว่า อะไรที่ใจมันรัก เรามีแนวโน้มจะทำมันได้ดี แต่ประสบการณ์ของอาคือทำคอนเทนต์รถ ถ้าไม่ใช่ว่าฝีมือเราดีจริง มันจะไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วรวยนะลูก เราเห็นคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ ดูเก๋ ดูเท่ ให้ดูด้วยว่าปลาที่โชคดีอย่างคนเหล่านั้นมีกี่ตัว แล้วในบ่อแห่งคอนเทนต์รถนี่มีกี่ตัว สมัยอาเด็กๆ ประเทศไทยมีสื่อฯที่เล่นเรื่องรถจริงๆ ไม่น่าเกิน 10 เจ้า ทุกวันนี้เท่าที่เคยคุยกับ PR บางค่าย ถ้านับทุกช่องทางทั้งภาพและเสียง มีมากกว่า 240 เจ้าแล้วครับ
แต่ถ้าสมมติว่าคุณเหมือนหลานคนนี้ คือยังมีเงินและแรงมากพอที่จะทำตาม “ใจ” มากกว่าตาม “เงินในกระเป๋า” มันก็มีทางอยู่หลายแบบนะครับ แล้วถ้าจัดการภาพลักษณ์ดี ทำคอนเทนต์โดนใจคนเยอะ มันก็สามารถแปลงไปเป็นรายได้ มากหรือน้อย ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าให้แนะนำแนวหลักๆ ผมก็ลองคัดรูปแบบมาให้ เป็นจุดเริ่มต้นครับ คุณอาจจะทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือเลือกผสมกันก็ได้
...
สายรีวิวรถ
แนวแรก..ที่ป๊อปสุด น่าจะเรียกว่าสายรีวิวรถ ถ้าเอาตามความเข้าใจเราก็คือ การที่เราทำคลิปหรือถ่ายภาพรถบวก Caption หรือบทความ ซึ่งทำกับรถหลายๆคัน เลือกได้ว่าจะเป็นสายรถเก่าคลาสสิค หรือรถใหม่ป้ายแดง ทุกวันนี้มีคนทำคอนเทนต์ทั้งสองแบบไม่แพ้กัน ซึ่งสายรีวิว งานนั้นไม่ใช่แค่เอาสเป็คมาพูดๆๆนะครับ คุณลอง Google คำว่า Review ดูว่ามันแปลว่าอะไร ผมบอกให้ก็ได้ การรีวิว คือคุณต้องสามารถพูดข้อดีข้อเสียในมุมมองของคุณในคลิปได้ด้วย คุณต้องแสดงความเห็นได้ว่า ตรงไหนคือจุดที่คุณพอใจ และจุดที่คุณมองว่าอยากให้เปลี่ยนหรือปรับปรุง ส่วนใครที่บอกว่ารีวิวของแท้ต้องไม่มีความเห็นส่วนตัว ผมต้องถามกลับว่าคุณได้ค้นความหมายของคำว่า Review ดูสักครั้งหรือยัง
...
การทำงานสายนี้ มีความเสี่ยงนะครับ ถ้าคุณกล้าได้กล้าเสียจนมียอดผู้ติดตามเยอะ คุณก็จะสามารถพูดอะไรตรงๆได้โดยไม่มีเรื่องเดือดร้อน แต่บางทีถ้าช่องมี Subscriber น้อย ยอดวิวสามหลัก บริษัทรถก็อาจจะไม่อยากคบคุณต่อไป ฟังดูโหด แต่โลกแห่งความจริง ยอดผู้ติดตามกับ Engagement คือสิ่งสำคัญที่จะเสริมหรือลดอำนาจในการแสดงความเห็นของคุณครับ ผมคิดว่าสายนี้ ต้องแข็งจริง เพราะตอนเริ่มต้นไม่มีใครเริ่มจากยอดวิวหลักแสน ทุกคนเริ่มจาก 1-2-3 วิวแล้วพัฒนาไป คุณจะทนฝ่าฟันระยะแรกนี้ได้นานแค่ไหน และต้องคิดด้วยว่าจะทำให้ยอดวิวมันเพิ่ม ทำให้คนรู้จักเราเพิ่มได้อย่างไร และเมื่อคนรู้จักเรามากขึ้น เราต้องวางตัวอย่างไร และถ้าคำวิจารณ์ของเราทำให้บริษัทรถเกลียดคุณ คุณจะรับมือ เจรจา หรือหว่านล้อมอย่างไร ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ถนัดการใช้จิตวิทยา และท้อถอยง่าย ประสาทกินเมื่อมีปัญหา หรือคิดว่าอยากจะมาเพื่อเป็นซูเปอร์สตาร์ พูดหน้ากล้องอย่างเดียว ทำอย่างอื่นไม่เป็น หรือทนการที่คนด่าในความผิดที่คุณไม่ได้ก่อไม่ได้ อย่าทำสายรีวิว เชื่อผม
...
สายเจาะลึก
ถ้าคุณกลัวว่าการวิจารณ์ตรงไปตรงมาจะทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์เกลียดขี้หน้าเข้า คุณอาจจะเริ่มจากการเป็นสายเจาะลึกก่อนก็ได้ การเจาะลึกนั้น คือการทำคอนเทนต์ที่ทำให้คนดูได้รับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น มีทั้งแนวที่ยิงคอนเทนต์ตู้มเดียวเจาะลึกหลายอย่าง หรือเจาะทีละอย่างแล้วแยกเป็นหลายโพสท์หลายคลิปก็ได้ คุณเน้นไปที่การทำให้คนดูรู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณนำเสนอมากขึ้น โดยคุณอาจไม่จำเป็นต้องให้ความเห็นของคุณเอง ไม่จำเป็นต้องเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆของคู่แข่งก็ได้
ใครว่าการเจาะลึกง่าย? ไม่ได้ง่ายนะครับ ถ้าเปรียบสคริปต์หรือข้อมูลที่ต้องเตรียม คนทำรีวิวนั้นในชีทข้อมูลจะมีข้อมูลระดับกลางๆของตัวผลิตภัณฑ์และของคู่แข่งราคาใกล้กันมาไว้เทียบ คนทำเจาะลึก ชีทปึกหนาเท่ากันแต่ต้องมีข้อมูลของผลิตภัณฑ์นั้นล้วนๆ ดังนั้นถ้าใครคิดจะทำรีวิวเจาะลึก ก็คือคุณต้องรู้ลึกเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำและรู้ไปถึงของคู่แข่งด้วย บางคนก็ทำได้นะครับ มันไม่ง่าย แต่คนที่ตั้งใจจะทำก็สามารถทำได้ ความภูมิใจของพวกสายเจาะลึกจริงๆมีอยู่แค่สองอย่างคือ นำเสนอข้อมูลได้มากและลึกกว่าคนอื่น และสองคือนำเสนอมันได้ก่อนคนอื่น แต่ผมใบ้ให้ว่าคนที่สำเร็จจริงๆคือคนที่รู้และทำนายได้แม่นว่าคนดูอยากรู้เรื่องอะไรมากที่สุดและตอบสิ่งนั้นได้ชัดเจนสุด แม้ว่ามันจะไม่ได้ลึกขนาดนั้นก็ตาม
สายกิจกรรมไลฟ์สไตล์
ถ้าคุณยังไม่แกร่งพอสำหรับการรีวิวและไม่มั่นใจกับการนำเสนอข้อมูลจำนวนมาก การทำคอนเทนต์รถจะมีอยู่แบบนึงที่บางคนเรียกว่า Advertorial บางคนเรียกว่าโฆษณาแฝง ผมขอเรียกแบบให้เกียรติคนหากินกับรถด้วยกันว่าสายกิจกรรมไลฟ์สไตล์ คือ คุณจะทำอะไรก็ไปทำแหละ แต่จะมีรถเป็นส่วนประกอบของคอนเทนต์คุณในนั้น ในมุมมองของผม ถ้าคุณจะไปขายงานบริษัทรถ แบบนี้ขายง่ายครับเพราะมันไม่ใช่การรีวิว บริษัทรถนั้นถึงแม้จะมีเจ้าที่ติก็ได้ชมก็เอา แต่ส่วนใหญ่ลึกๆไม่ชอบให้ใครด่ารถของเขาหรอกครับ งานแบบนี้ขายง่าย ถ้า..ถ้า..ถ้าคุณสามารถสร้างยอดวิวได้เยอะนะครับ
การทำกิจกรรม จะเป็นอะไรก็แล้วแต่เหมาะสม ถ้าจะขายรถตู้รถ MPV ก็อาจจะเป็นการพาครอบครัวไปเที่ยว ถ้าจะขายรถใช้งานก็อาจจะขับพาไปทำกิจกรรมอะไรก็ได้ คอนเทนต์แบบนี้คุณต้องตอบโจทย์สองแง่คือ บริษัทรถต้องการให้คุณโชว์อะไรให้คนดู และแง่ที่สองคือ คนที่ดูเขาได้อะไรจากคลิปหรือโพสท์ของคุณ แน่นอนว่าคนที่บ้าข้อมูลจัดๆหรือชอบสไตล์งานรีวิว ก็ไม่ควรที่จะมาดูคลิปไลฟ์สไตล์แล้วคาดหวังอะไรแน่นๆ ดังนั้นคุณก็ใส่อย่างอื่นเข้าไป ใส่วิวทิวทัศน์ดีๆ ใส่ความรู้สึกพลังบวกที่ดี ใส่ความตลกโปกฮาเบาสมองลงไป คุณก็สามารถมีกลุ่มผู้ชมของคุณได้ และบางคนก็สามารถทำได้ดีมากด้วย
สายนักเล่า/นักเขียน
บางคนอาจจะเรียกว่า Podcast ก็ได้ หรือจะเป็นการเล่าเรื่องเฉยๆก็ได้เช่นกัน สายนักเล่านี่ผมว่าคุณสมบัติที่จำเป็นมากที่สุดคือ “เสียง” ครับ การมีเสียงที่มีจุดเด่น เช่นอ่อนหวานชวนเคลิ้ม หรือหนักแน่นน่านับถือ หรือมีจังหวะจะโคนที่น่าติดตาม ไม่ใช่ฟังแล้วเหมือนให้ Siri มาอ่าน ต่อให้บางคนบอกว่าสาระสำคัญกว่าเสียงแต่ผมบอกเลยว่ามันสำคัญไม่แพ้กัน คุณอาจจะเล่าเรื่องรถดังจากอดีต เล่าเรื่องการขับทดสอบรถ เล่าเรื่องเทียบรถจากสองค่าย ได้หมด ถ้าคุณทำให้มันน่าฟังได้ สำหรับคนที่เป็น Introvert ด้านรูปลักษณ์ คือไม่อยากเผยหน้าตา งานแบบนี้ก็ไม่เลวนะครับ คุณดังได้ถ้าคาแร็คเตอร์โดนใจคน ผมถามหน่อยว่าคุณรู้จักอีเจี๊ยบเลียบด่วนไหม? แล้วใครเคยเห็นหน้าเขาไหม นั่นล่ะครับ
ถ้าให้พูดอีกที สายนักเล่า ก็มีความเหมือนดีเจ หรือสื่อรถยนต์ทางวิทยุสมัยก่อนครับ แต่นักเล่าที่ทำเป็นคลิป Youtube หรือ Tiktok ก็สามารถใส่ภาพใส่คลิปประกอบเป็นลูกเล่นให้คนเห็นภาพได้ชัดเจน ยิ่งถ้าเก่งในการทำ Infographic คุณจะยิ่งได้เปรียบมาก ส่วนคนที่ไม่มั่นใจในหน้าตัวเอง แล้วบังเอิญเสียงก็ไม่ได้ดี ก็ไปเป็นนักเขียนครับ น้องๆบางคนไปเอาดีทางด้านนี้ได้และดังด้วย ถ้าคุณรู้จักวิธีการเขียนที่ถูกใจคน ผมใช้คำว่าถูกใจ เพราะคนหลายกลุ่มก็ชอบงานเขียนไม่เหมือนกัน ถ้าคุณไม่รู้จะเขียนยังไง ก็ลองนึกดูก่อนว่า คุณอยากให้คนแบบไหนอ่านงานของคุณ แล้วก็ไปค้นหาว่ากลุ่มคนเหล่านั้นชอบสไตล์แบบไหน งานเขียนอาจเป็นสิ่งที่คนยุคนี้ติดตามน้อยลง แต่ก็ยังมีคนชอบอยู่ คุณเองก็ต้องเขียนโดยพิจารณาไปด้วยว่า คนอ่าน อ่านแล้วได้อะไร ได้ข้อมูล หรือได้ความสนุก หรือทั้งสองอย่าง ถ้าไม่ได้ทั้งสองอย่าง แล้วเขาจะอ่านทำไม นั่นล่ะครับ
สายโมฯ/ล้วงแคะแกะเกา
สายนี้จะมีคำขวัญเล่นๆอยู่ว่า อะไรก็ตามที่ทำมาจากโรงงาน มันยังไม่สุด เราต้องหาร่องช่องทางทำให้มันดีขึ้น ถ้าให้ดูตัวอย่าง ก็คงเป็นคลิปของพวกสำนักแต่ง อู่จูน โมดิฟาย กลุ่มนี้ฐานคนดูจะน้อยหน่อยเพราะ จากจำนวนคนที่ซื้อรถใช้ น่าจะมีแค่ 20-30% ที่อยากจะซนปรับแต่งรถของตัวเอง แต่ถ้าเกิดคุณจับอะไรแล้วเจ๊ง เอ้ย เจ๋ง หรือปรับปรุงรถไปแล้วมีคนไปลองสูตรตามแล้วเวิร์ก คุณก็อาจได้รับศรัทธาและความเชื่อ คนดูของโมฯกับสายล้วงแคะแกะเกามักอายุไม่เยอะครับ พวกนี้ชอบใครชอบนานและชอบจริง บางทีถ้าไม่ได้โมดิฟายตกแต่งรถ ก็สอนวิธีดูแลรถ สอนวิธีซ่อมอุปกรณ์ต่างๆของรถด้วยงบที่ประหยัด หรือพาไปชมอู่ซ่อม หรือร้านตกแต่งรถก็ได้ ผมรู้จักนักโมฯนักล้วงแคะสองสามคนที่ทำไปทำมา บริษัทรถเชิญไปรีวิวรถใหม่ป้ายแดงด้วยก็มี
แต่สายนี้ ผมบอกเลยว่า ถ้าคิดจะเอา ต้องเอาให้สุด คือนอกจากเก่งเรื่องงานที่ทำ คุณยังต้องมีบุคลิกที่สร้างศรัทธาในหมู่ผู้ติดตามได้ ต้องขยันออกงาน ขยันทำตัวให้ผู้ติดตามเข้าถึง ไม่เช่นนั้น คุณจะเป็นที่รู้จักในมุมเงียบๆ ซึ่งมันดีในแง่ความสงบสุขแต่ไม่เป็นผลดีต่อรายได้ครับ
สายเอาฟีล
ผมไม่รู้จะตั้งชื่ออย่างไร แต่เอาฟีล หมายถึง การนำเสนอสื่อในแบบที่ไม่ได้เน้นเรื่องการวิจารณ์ การเจาะลึก หรือการให้ความเห็น แต่เป็นการนำเสนองานคลิปหรืองานถ่ายภาพที่มีคุณภาพสูง การถ่ายทำที่เจ๋ง แสง สี มุมกล้องที่สุดยอด สะกดอารมณ์คนดูชนิดที่ว่า ในคลิปคุณอาจไม่มีบทพูดอะไรเลย แต่ผู้คนก็ยังอยากจะติดตามอยากจะแชร์งานของคุณตลอด กลุ่มนี้ไม่ค่อยเสี่ยงบาทาจากการขัดผลประโยชน์กับบริษัทรถหรอกครับ เพราะงานของคุณคือถ่ายและทำสิ่งที่ถูกจ้างให้ออกมาดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ความยากของงานประเภทนี้คือ การถ่ายให้จบ มันต้องผ่านอุปสรรคต่างๆมหาศาล อยากได้แสงสีส้มธรรมชาติจากดวงอาทิตย์กับวิวสวยๆ ต้องตื่นตีสามตีสี่ไปรอพระอาทิตย์ขึ้น อยากได้ช็อตวิ่งข้ามสะพาน ช็อตรถกำลังวิ่งสวยๆ คุณถ่ายๆไปจู่ๆมีรถของค่ายคู่แข่งวิ่งเข้ามาในฉาก คุณจะไปด่าเขาก็ไม่ได้ บางที วิ่งวน Rolling ที่เดิม ถ่ายซ้ำๆ 5-6 รอบ กินเวลาหลายชั่วโมงเพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ และดูดีเข้าขั้น ถ้าดีมากพอ วันนึงอาจมีคนจ้างคุณไปทำโฆษณาแบบ Official ก็เป็นไปได้
นี่คือ แนวทางการทำคอนเทนต์รถยนต์แบบคร่าวๆ สำหรับปี 2025 ซึ่งบางที คุณอาจไม่ได้ต้องยึดติดกับการเป็นนักทำคอนเทนต์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง บางครั้งก็มีการข้ามกันได้ เช่นอย่างคุณอู๋กับคุณซู่ Spin9 สามารถทำได้ทั้งเจาะลึก การนั่งเล่า และบางทีก็มีการรีวิวหรือไลฟ์สไตล์ น้าเต้ยช่อง AutolifeThailand ในสำนักเขามีทั้งสายรีวิว สายเจาะลึก แต่บางทีก็มีคอนเทนต์แนวไลฟ์สไตล์ คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณทำได้มาผสมกันเป็นสิ่งที่ถนัด แต่ก็ต้องคิดด้วยว่า ทำไปแล้วเกิดประโยชน์กับคนดู หรือกับตัวคุณบ้างไหม
อย่าทนทำในสิ่งที่คนอื่นได้ประโยชน์ แต่ตัวคุณแห้งตาย เพราะก่อนตัวคุณจะแห้งตาย คนรอบข้างของคุณก็จะลำบากไปด้วยกัน โลกอยู่ด้วยเงิน อย่าปฏิเสธความจริงข้อนี้ แค่ต้องไม่หิวเงินจนลืมว่าคนดูได้ประโยชน์อะไรจากเรา คุณนำเสนอความเห็นที่ตรงไปตรงมาก็ได้ หรือนำเสนอข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์ นำเสนอข้อมูลเชิงลึก หรือวิธีการทำรถ/ซ่อมรถ คนที่ดูก็ได้ประโยชน์ หรือถ้าทำอะไรไม่เป็นเลย ก็ทำให้คนดูอมยิ้มหรือหัวเราะได้บ้าง ก็ยังมีประโยชน์
ผมขอเพียงอย่างเดียวว่า เมื่อคุณมาเป็นสื่อฯ เชื่ออะไรก็เชื่อไป ทำอะไรก็ตั้งใจทำไป อย่าเป็นสื่อฯที่รีวิวสื่อฯอื่น พอครับ
Pan Paitoonpong