เป็นประจำทุกเดือนที่ผู้บริหารของ Toyota ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ จะรายงานสรุปยอดขายรถยนต์ในไทย โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีพ.ศ. 2568 โดยมียอดขายสะสมตลาดรวม 302,694 คัน แน่นอนว่าหล่นทั้งหมด เนื่องจากรัฐบาลที่บริหารงานเศรษฐกิจดูเหมือนวันๆ จะแก้ปัญหาของตัวเองจนแทบไม่ทำอะไรเลย หรือทำแต่ไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ลืมตาอ้าปากได้เหมือนเดิม ยอดขายที่ห่อเหี่ยวหดวูบวาบบั่นทอนกำลังใจทั้งผู้ที่ลงทุนและบรรดาลูกจ้างที่ร้อนๆหนาวๆ ว่าจะไปไม่รอดแล้วถูกปิด ไม่ว่าจะเป็นปิดโชว์รูมหรือปิดโรงงาน ยอดขายรถยนต์ในไทย ครึ่งปีหลัง สรุปรวม ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 117,482 คัน ก้ยังลดลง 1.5% สำหรับยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกการเจริญเติบโตของธุรกิจมีตัวเลขอยู่ที่ 185,212 คัน ลดลง 1.8%  รถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายสะสม 94,715 คัน ลดลง 12.7% 

สำหรับยอดขายประจำเดือนมิถุนายน 2568 ประเทศไทย มียอดขายรถยนต์สะสมตลาดรวม 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายสะสม 15,307 คัน ลดลง 8.2% 

...

 


ตลาดรถยนต์ครึ่งปี พ.ศ. 2568 มียอดขาย 302,694 คัน ลดลง 1.7%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขายสะสม 117,482 คัน ลดลง 1.5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มียอดขายลดลง 1.8% ด้วยยอดขาย 185,212 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 94,715 คัน ลดลงถึง 12.7% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 132,493 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.8% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 21.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ HEVอยู่ที่ 67,202 คัน ซึ่งยอดขายรวมอยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 56,529 คัน เติบโตขึ้น 54.5 % 

 



...

ตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 มียอดขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้น5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 9.4% ด้วยยอดขาย 19,397 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 2.5% ด้วยยอดขาย 30,682 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขาย 15,307 คัน ลดลง 8.2% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 21,915 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.7% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 30.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดขายรถยนต์ HEV เติบโตขึ้น 11.6% ด้วยยอดขาย 11,034 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์BEV อยู่ที่ 9,743 คัน เพิ่มขึ้น 59.9% 

 

ตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคม มีแนวโน้มทรงตัว หรือลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนอาจลดหรือชะลอการลงทุนและการใช้จ่ายออกไป เพื่อรอความชัดเจนด้านต่างๆ จากสถานการณ์ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้า รวมถึงความไม่แน่นอนระหว่างสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา

...

นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก Toyota มียอดขายรถยนต์รวมที่ 113,889 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดถึง 37.6% โดยเฉพาะ ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up + รถกระบะดัดแปลง PPV) มียอดขายรวมอยู่ที่ 42,430 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์เซกเมนต์นี้ถึง44.8% สำหรับยอดขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 39,644 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 33.7% อีกทั้ง Toyota ยังมียอดขายรถยนต์ไฮบริดถึง 31,793  คัน หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 24% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่มตลาด xEV ทั้งหมด  

...

ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีแรก 2568 เริ่มส่งสัญญาณมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขยอดขายรวมครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 302,694 คัน หรือลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 1.7% เมื่อเทียบกับปี 2567 โตโยต้ายังคงคาดการณ์ระดับตลาดในปี 2568 ที่ระดับ 600,000 คัน สำหรับโตโยต้า ตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 231,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5% สร้างส่วนแบ่งทางการตลาด เท่ากับ 38.5% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด โดยในครึ่งปีหลัง โตโยต้ามีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่น ทั้งในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงตลาด xEV ซึ่งเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าชาวไทย เพื่อร่วมส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน”

 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2568

 


ตลาดรถยนต์รวม 
ปริมาณการขาย 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1%                       
อันดับที่ 1 Toyota 19,105 คัน เพิ่มขึ้น  3% ส่วนแบ่งตลาด  38.1%
อันดับที่ 2 Isuzu 5,625 คัน ลดลง 20.5% ส่วนแบ่งตลาด  11.2%
อันดับที่ 3 Honda 5,149 คัน ลดลง 15.9% ส่วนแบ่งตลาด  10.3%

 

ตลาดรถยนต์นั่ง
ปริมาณการขาย 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4%                                  
อันดับที่ 1 Toyota 6,575 คัน เพิ่มขึ้น 22.4% ส่วนแบ่งตลาด  33.9%
อันดับที่ 2 Honda 3,130 คัน ลดลง 7.4% ส่วนแบ่งตลาด  16.1%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 876 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด   4.5%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์
ปริมาณการขาย 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5%                                 
อันดับที่ 1 Toyota 12,530 คัน ลดลง 4.9% ส่วนแบ่งตลาด 40.8%
อันดับที่ 2 Isuzu 5,625 คัน ลดลง 20.5% ส่วนแบ่งตลาด 18.3%
อันดับที่ 3 Honda 2,019 คัน ลดลง 26.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลงPPV
 ปริมาณการขาย 15,307 คัน ลดลง 8.2%                                 
อันดับที่ 1 Toyota  7,099 คัน ลดลง 10.6% ส่วนแบ่งตลาด 46.4%
อันดับที่ 2 Isuzu 4,756 คัน ลดลง 22.6% ส่วนแบ่งตลาด 31.1%
อันดับที่ 3 Ford 1,399 คัน ลดลง 14.5% ส่วนแบ่งตลาด 9.1%

ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,032 คัน 
อันดับที่ 1 Toyota Fortuner  1,258 คัน
อันดับที่ 2 Isuzu MU-X 988 คัน 
อันดับที่ 3 Ford Everest 578 คัน 
อันดับที่ 4 Mitsubishi Pajero Sport 129 คัน 
อันดับที่ 5 Nissan Terra 33 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up 
ปริมาณการขาย 11,269 คัน ลดลง19.9%                                  
อันดับที่ 1 Toyota Hilux 5,841 คัน ลดลง 16% ส่วนแบ่งตลาด 51.8%
อันดับที่ 2 Isuzu D-MAX 3,768 คัน ลดลง 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
อันดับที่ 3 Ford Ranger 821 คัน ลดลง 23.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.3%      

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 302,694 คัน ลดลง 1.7%                            
อันดับที่ 1 Toyota 113,889 คัน ลดลง 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
อันดับที่ 2 Isuzu 37,506 คัน ลดลง 18.9% ส่วนแบ่งตลาด 12.4%
อันดับที่ 3 Honda 35,355 คัน ลดลง 18.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.7%

 

ตลาดรถยนต์นั่ง 
ปริมาณการขาย 117,482 คัน ลดลง 1.5%                                 
อันดับที่ 1 Toyota 39,644 คัน เพิ่มขึ้น 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
อันดับที่ 2 Honda 19,672 คัน ลดลง 20.1% ส่วนแบ่งตลาด 16.7%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 5,915 คัน ลดลง 40.2% ส่วนแบ่งตลาด 5%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 
ปริมาณการขาย 185,212 คัน ลดลง 1.8%                     
อันดับที่ 1 Toyota  74,245 คัน ลดลง 10.6% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%
อันดับที่ 2 Isuzu 37,506 คัน ลดลง  18.9% ส่วนแบ่งตลาด 20.3%
อันดับที่ 3 Honda 15,683 คัน เพิ่มขึ้น 16.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.5% 

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลงPPV )
ปริมาณการขาย 94,715 คัน ลดลง 12.7%
อันดับที่ 1 Toyota  42,430 คัน ลดลง 14.6% ส่วนแบ่งตลาด 44.8%
อันดับที่ 2 Isuzu 32,804 คัน ลดลง 19.2%  ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับที่ 3 Ford 9,400 คัน ลดลง 16.7% ส่วนแบ่งตลาด  9.9%

ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 20,714 คัน
 อันดับที่ 1 Toyota Fortuner 7,294 คัน 
อันดับที่ 2 Isuzu MU-X 6,183 คัน
อันดับที่ 3 Ford Everest 3,717 คัน 
อันดับที่ 4 Mitsubishi Pajero Sport 888 คัน 
อันดับที่ 5 Nissan Terra 269 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up 
ปริมาณการขาย 73,995 คัน ลดลง17.4% 
อันดับที่ 1 Toyota Hilux 35,136 คัน ลดลง 17.7% ส่วนแบ่งตลาด 47.5%
อันดับที่ 2 Isuzu D-MAX 26,621 คัน ลดลง 23.2% ส่วนแบ่งตลาด 36%
อันดับที่ 3 Ford Ranger 5,683 คัน ลดลง 19% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%      

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th  
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://   
www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/