“ยักษ์เขียว” นี่แหล่ะตำนานสงครามส่งด่วนตัวจริง จะส่งเหลืองส่งส้มส่งสีไหนคงไม่มีใครไวเท่าพี่ยักษ์เขียวอีกแล้ว “ตำนาน” คือการกล่าวขานของคนรุ่นหลัง นี่คือตำนานติดล้อที่ยังโลดแล่นอยู่บนถนน ตำนานที่ยังคงเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง ตำนานที่ไม่มีใครกล้าวัดรอยล้อ เพราะพี่ยักษ์เขียวเค้าส่งด่วนส่งจริง ถ้ารถคุณไม่แรงพอและตัวคุณเองไม่แกร่งพอ ต้องแกร่งขนาดที่ว่ากรุงเทพฯ-เชียงใหม่สามารถซัดยาวได้โดยไม่แวะเยี่........เอ๊ย!! ปัสสาวะระหว่างทาง บอกเลยว่าตรูขับรถมาทั่วประเทศทุกช่วงเวลา ไม่เคยเห็นพี่ยักษ์เขียวจอดฉี่เลย นอกจากไม่เห็นพี่เค้าแวะเข้าห้องน้ำแล้ว ยังไม่เคยเห็นพี่เค้าแวะเติมน้ำมันอีกด้วย อ้าว ไหงเป็นงั้นไป !!

ราวกับว่า....ภายใต้หัวเก๋งนั้นมีเครื่องยนต์อันทรงพลังที่ต้องใช้เชื้อเพลิงพิเศษเฉพาะ ซึ่งก็คงไม่แปลกเพราะไม่เคยเห็นควันดำออกจากตูดพี่ยักษ์เขียวเลย แล้วก็แรงกว่าสิบล้อซิ่งที่ใส่ปลายท่อราวกับถังสีเรียงกัน 4-5 ใบ เวลายกคันเร่งทีเสียงท่อดัง…ปู๊วววว์ว์ว์ว์!!! แต่ไม่เห็นจะแรงอะไรเลย แถมควันก็ดำ สู้พี่ยักษ์เขียวไม่ได้สักคัน
...

ถ้าตำนานของรถทัวร์พ้มยกให้ “ถาวรฟาร์ม” ในเรื่องของตำนาน “สงครามส่งด่วน” นั่นพี่เค้าส่งด่วนแบบเร็วแรงแซงนรกจริงๆ มีข่าวให้เห็นเกือบทุกเดือน เบรกแตก แหกโค้ง ลงเหว กลายเป็นส่งผู้โดยสารกลับบ้านเก่าเป็นประจำ

ส่วนพี่ยักษ์เขียวตำนานส่งด่วนนั้นไม่ได้เร็วมาก แต่รถพี่แรงแซงขาดไม่ต้องลุ้น วิ่งตามหลังไม่เคยเห็นพี่เค้าพ่นควันออกมาเลย เคยพยายามจะหนีพี่เค้าตั้งแต่นครสวรรค์ถึงลำพูน บอกเลยหนีไม่ออกเผลอยกคันเร่งแป๊บเดียวพี่เคยมาจ่อตูดแล้ว ไม่เค้าไม่ได้ขับเร็วนะ ความเร็วสม่ำเสมอมากอย่างกับใช้ Adaptive Cruise Control วิ่งคงที่นิ่งๆ นิ่มๆ แค่ปล่อยลื่นไหลไปตามสภาพการจราจร เหมือนพี่เค้าสำเร็จวิชา “เบรคอยู่ที่ใจ” คือถ้าคุณใจถึงก็ไปถึง เหมือนพี่เค้าขับอยู่ในอุโมงค์แห่งความเร็วไม่เห็นใดๆ รอบข้างเห็นแต่ปลายอุโมงค์อย่างเดียว ไม่รู้ว่าเหมาคนขับจากถาวรฟาร์มมาหรือเปล่า?

ช่วงกลางดึกคืนหนึ่งระหว่างลำปางไปอุตรดิตถ์เมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีทีแล้ว ทางมืดมากแล้วเป็นทางคดเคี้ยวขึ้นเนินลงเนินตลอดเวลา ขณะกำลังง่วงๆ มีรถบรรทุกมาจ่อท้ายแต่พี่เค้าเว้นระยะห่างพองาม เราเริ่มรู้สึกว่าทำไมแต่ละโค้งพี่เค้าไม่เบาเลยฟระ! จะเบรกตรูก็ไม่กล้ากลัวพี่เค้าดันตกดอย มีจังหวะเลยตีไฟเลี้ยวซ้ายให้พี่เค้าแซงไป พอหัวรถบรรทุกมาเสมอข้าง…“ตรูว่าแล้ว!! พี่ยักษ์เขียวนี่เอง!!

...
ขับตามพี่เค้าจนถึงอุตรดิตถ์ ได้แต่บอกตัวเองว่า ”นี่มันทาคุมิแห่งหุบเขาอากินะชัดๆ“ พี่เค้าขับไม่เร็วมากความเร็วยืนพื้นประมาณ 60-70 กม./ชม. ในหลายๆ โค้งที่ผ่านไปแทบไม่ได้เห็นไฟเบรกจากรถพี่เค้าเลย และอีกหลายโค้งที่รู้สึกว่ารถคันที่ขับกระบะสี่ประตูยกสูง 4WD ซะด้วย เข้าความเร็วเท่าพี่ยักษ์เขียว ตรูยังเสียวสันหลังอิ๊บอ๋ายยยยเร้ย!! นั่นสิบล้อนะนั่นที่พี่ขับอยู่อ่ะ ลีลาที่พริ้วไหว จังหวะการเล่นเกียร์ดี เหมือนทุกโค้งอยู่ในความทรงจำแทบจะหลับตาขับได้ เข้าได้สวยงามทุกโค้งเราวิ่งตามแบบรอยล้อทับรอยล้อ ทำให้รู้เลยว่าความเร็วของตัวรถไม่สำคัญเท่าความพริ้วไหว เมื่อถึงปลายทางรู้เลยว่าใช้เวลาน้อยลงไปเยอะทั้งๆ ที่ไม่ได้ขับเร็วอะไรนัก เหมือนดั่งคำที่ว่า ”มังกรพลัดถิ่นฤาจะสู้งูดินเจ้าที่“


...


หลังจากนั้นมาเวลาไปต่างถิ่นก็มักจะมองหาพี่ยักษ์เขียวเสมอ ถ้าเจอก็ตามรอยยางของพี่เค้าไป แล้วจะรู้ว่าในเส้นทางภูเขา “ยิ่งช้ายิ่งเร็ว” เป็นยังไง? ขับตามพี่ยักษ์เขียวแล้วรู้สึกปลอดภัยกว่าเยอะ ถ้าเผลอไปนำพี่เค้าหล่ะ บอกเลยเหนื่อย!!
Pakpoom Plin Wannaseang