จีนเพิ่งเปิดตัวเครื่องบินรบเทคโนโลยีล่องหนหรือสเตลท์ โดยมีชื่อรุ่นว่า J-35A ออกแบบมาเพื่อเสริมกำลังทางอากาศและเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายป้องกันภัยทางอากาศของประเทศ เครื่องบินรบสเตลท์ J-35A เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอาวุธของกองทัพอากาศให้มีความทันสมัย ปิดช่องว่างด้านเทคโนโลยีเมื่อเทียบกับเครื่องบินรบของ ทอ. สหรัฐฯ เครื่องบินรบสเตลท์ J-35A เป็นเครื่องบินรบสเตลท์อเนกประสงค์ที่นั่งเดียว สองเครื่องยนต์ สำหรับทุกสภาพอากาศ ผลิตโดย Shenyang Aircraft Corporation ล่าสุด มีภาพถ่ายที่ถูกเปิดเผยว่านี่คือเครื่องสเตลท์รุ่นใหม่อีกลำที่มีชื่อว่า Shenyang J-50 เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 มีรายงานว่าสร้างโดยบริษัท Shenyang Aircraft Corporation ด้วยการออกแบบปีกเป็นรูปตัววีและเครื่องยนต์ 2 เครื่อง
...
เครื่องบินรบ J-50 ถูกบันทึกภาพเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2024 ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีภาพเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนรุ่นใหม่ของจีน ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นเครื่องบินรบประจำภูมิภาค J-50 บินขึ้นจากรันเวย์ในสำนักงานใหญ่ของบริษัทเสิ่นหยาง แอร์คราฟต์ คอร์ปอเรชั่น (SAC) โดยบินผ่านพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และได้รับการคุ้มกันโดยเครื่องบินรบรุ่น Flanker ของจีนในระหว่างการทดสอบการบิน
การผลักดันเทคโนโลยีทางทหารของจีนเพื่อความเหนือกว่าโดยเฉพาะการรบทางอากาศสะท้อนให้เห็นได้จากการพัฒนาเครื่องบินขับไล่สเตลท์รุ่นใหม่ Shenyang J-50 เครื่องบินรบล่องหนรุ่นใหม่ของ ทอ. จีนเป็นเครื่องบินรบล่องหนแบบสองเครื่องยนต์พร้อมระบบควบคุมแรงขับแบบ 2 มิติ มีช่องรับอากาศที่ด้านข้างลำตัว อาจเป็นช่องรับอากาศความเร็วเหนือเสียงแบบ Diverterless Supersonic Inlets (DSI) ซึ่งแต่ละช่องจะป้อนอากาศให้เครื่องยนต์เทอร์โบแฟนหนึ่งเครื่อง
J-50 ติดตั้งระบบลงจอดแบบสามฐานล้อ ระบบลงจอดที่ส่วนหัวของตัวเครื่องเป็นล้อคู่ ติดตั้งช่องอาวุธทั้งบริเวณใต้ท้องและด้านข้างที่เปิด-ปิดได้ ส่วนนูนบนลำตัวเครื่องด้านล่างห้องนักบินน่าจะเป็นจุดที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ออปติกไฟฟ้า ซึ่งคล้ายกับเซ็นเซอร์ EOTS ที่พัฒนาขึ้นสำหรับเครื่องบินรบ J-35 ปลายปีกของเครื่องน่าจะออกแบบให้เคลื่อนที่ได้
...
การออกแบบปีกในลักษณะดังกล่าวจะมีความซับซ้อนและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพโครงสร้างที่ลดลงและหน้าตัดเรดาร์ (RCS) ที่เพิ่มขึ้น ข้อดีก็คือ พลวัตทางการบินที่ความเร็วต่ำ การมีหางแนวตั้งจะช่วยให้มีเสถียรภาพของการควบคุมทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในสภาวะที่ซับซ้อน เช่น เครื่องยนต์เหลือแค่ตัวเดียว อีกตัวไม่ทำงาน ผู้เชี่ยวชาญทางการบินให้ความเห็นว่า ปีกของ J-50 ช่วยเพิ่มอัตราส่วนด้านกว้างและยาว มีประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์เหนือกว่าปีกแบบสี่เหลี่ยมคางหมู เช่น ปีกแบบที่เสิ่นหยางใช้กับเครื่องบิน J-35 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆนี้
...
เครื่อง J-50 และ Flanker ทั้งสองลำบินมาตอนกลางวันแสกๆ เหนือพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นและถูกบันทึกภาพเอาไว้ได้ ภาพถ่ายถูกแชร์อย่างอิสระในสื่อโซเชียลโดยที่ทางการจีนไม่ได้เข้ามาแทรกแซงแต่อย่างใดทั้งสิ้น.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/