ฟอร์ดฉลองครบรอบ 100 ปี ประกาศเสริมทัพรถกระบะอย่างเป็นทางการ ด้วยการเผยโฉม 'ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้' ครั้งแรกของโลก

Ford Ranger Super Duty หรือ ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนเม.ย 68 ที่ผ่านมา โดยฟอร์ดเองระบุว่า รถรุ่นดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นจากการรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าอย่างรอบด้าน เพื่อเติมเต็มความต้องการในตลาดรถกระบะที่มีสมรรถนะสูงพร้อมลุยภารกิจหนักได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ Ford Ranger Super Duty ออกแบบด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ในวงการรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ มาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่นจากโรงงาน ทั้งความสามารถในการลากจูงและบรรทุกที่เหนือชั้น

ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มนักเดินทางสายลุย ที่ต้องการรถที่มีสมรรถนะสูง รวมถึงผู้ประกอบการหรือลูกค้าองค์กรที่ต้องการรถสำหรับภารกิจหนัก ซึ่งรถกระบะทั่วไปอาจไม่สามารถรองรับได้

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับรถกระบะที่จำหน่ายในปัจจุบัน ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้1 มอบความสามารถที่เหนือกว่าหลายด้าน เช่น

...

จุดเด่นของกระบะ Ford Ranger Super Duty

- ลากจูงได้มากขึ้น รองรับการลากจูงสูงสุด 4,500 กิโลกรัม

- บรรทุกได้มากขึ้น น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (GVM) สูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม

- น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (GCM) สูงสุดถึง 8,000 กิโลกรัม

นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ คือการพลิกโฉมวงการรถกระบะ อันเกิดจากการรับฟังและรวบรวมความคิดเห็นของลูกค้าจากหลากหลายประเทศ

ขณะเดียวกันรถรุ่นนี้พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะ ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นทั้งการใช้ลุยงานหนัก การผจญภัย รวมถึงการดัดแปลงพิเศษสำหรับภารกิจเฉพาะ และด้วยประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เราภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้นำรถกระบะรุ่นพลิกโฉมวงการนี้มาให้กับลูกค้าชาวไทยในเร็วๆ นี้

ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ พร้อมสร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถกระบะที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกภารกิจหนัก ด้วยการผสานเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูง ความอเนกประสงค์ การเชื่อมต่อ และความสะดวกสบายที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถที่มีสมรรถนะระดับนี้ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยดีไซน์อันดุดัน สะท้อนเอกลักษณ์และดีเอ็นเอความแกร่ง พร้อมรับมือทุกงานหนักที่แสนท้าทาย

สำหรับ Ford Ranger Super Duty จะผลิตขึ้นที่โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ โรงงานเอเอที และจะเริ่มจำหน่ายในประเทศไทย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในปี 2569 นอกจากนี้ ยังมีแผนวางจำหน่ายในตลาดอื่นๆ ผ่านโกลบอล ฟลีต โซลูชันส์ (Global Fleet Solutions) ซึ่งสามารถให้บริการดัดแปลงรถยนต์ได้อีกด้วย