หลังจากปล่อยภาพรถต้นแบบหน้าตาประหลาด Jaguar ที่เพิ่งจะแจ้งให้โลกรู้ถึงการรีแบรนด์เมื่อไม่นานนี้ (เพราะขายไม่ดี) ก็โดนแฟนคลับเสือกระโดดวิพากษ์วิจารณ์อย่างยับเยิน เมื่อเหล่าคนรักรถ Jaguar เห็นภาพรถ Concept พลังงานไฟฟ้าที่ถูกตั้งเป้าให้เป็นคู่แข่งของ Porsche, Bentley และ Aston Martin การวางตำแหน่งตัวเองอยู่ในกลุ่มยานยนต์หรูระดับบนเป็นเรื่องที่ยากลำบากหากทำรถที่ไม่มีความสวยงามออกมาขาย หลายปีก่อน โมเดลของแบรนด์สัญชาติอังกฤษ เช่น XE sedan, F-Pace SUV รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า I-Pace ไม่สามารถทาบรัศมี หรือสร้างชื่อให้ตัวเองเพื่อขึ้นเป็นคู่แข่งของ BMW, Mercedes-Benz Audi หรือแม้แต่แบรนด์หรูแดนปลาดิบอย่าง Lexus ได้

ยอดขายที่ยังตามหลังแบรนด์หรูเหล่านั้นทำให้ Jaguar ต้องคิดทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายเกินไป แผนงานใหม่ของค่ายเสือกระโดดที่จะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มตลาด Premium เฉพาะกลุ่มมากขึ้น ดูเหมือกลยุทธ์นี้จะสมเหตุสมผลแค่บนกระดาษ เมื่อเห็นภาพรถต้นแบบ คนรุ่นเก่าในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์รับรู้ได้เลยว่า Jaguar ในยุคใหม่ กำลังทำลายมรดกตกทอดที่สง่างามของตัวเองลงอย่างจงใจ ด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ไปในทางที่ประหลาดมากกว่าจะสวยงามน่าขับหรือพลิ้วไหวอ่อนช้อยเหมือนเมื่อก่อน

...

Jaguar มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์หลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนเหมือนกับยังหาตัวตนไม่เจอ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของรถสปอร์ต XK-120 มาเป็น XK-150 ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรถสปอร์ต XK-E (E-Type) และ XJ-S หลังจากนั้น Jaguar กลับมาใช้ดีไซน์แบบดั้งเดิมในรถ XK-8/R หากเปรียบเทียบกับรถยนต์สมรรถนะสูงของเยอรมัน รถ Jaguar มักจะมีเส้นสายที่ดูอ่อนหวานและสง่างามมากกว่า เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ที่เป็นธรรมชาติ Jaguar รุ่น E-Type ถือเป็นรถยนต์ที่สวยงามที่สุดรุ่นหนึ่งเท่าที่เคยผลิต

Tata Motors ผู้ครอบครอง Jaguar กำลังหลงประเดนอย่างหนัก ผู้บริหารอ้างว่า ต้องกล้าเสี่ยงที่จะโดดเด่นกว่าคู่แข่ง และดึงดูดผู้บริโภครุ่นใหม่ที่อายุน้อยกว่า ร่ำรวยมากกว่า (แนวๆ อายุน้อย 100 ล้าน) และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

...

Type 00 เปิดตัวด้วยสีชมพูโมโนลิธิก ทรงของรถกึ่งๆ ผสมผสานกันระหว่าง Rolls-Royce Spectre และ Tesla Cybertruck เป็นตัวอย่างของทิศทางใหม่ในงานดีไซน์ Gerry McGovern หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Jaguar กล่าวว่า Type 00 เป็นการแสดงออกถึงปรัชญาการสร้างสรรค์ของ Jaguar นี่คือผลลัพธ์ของความคิดสร้างสรรค์ที่กล้าหาญ ไร้ขีดจำกัด และความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ เป็นการแสดงออกทางกายภาพและเป็นรากฐานของยานยนต์ Jaguar ในอนาคตที่จะไม่เหมือนกับรถรุ่นไหนที่คุณเคยเห็นมาก่อน” ช่างกล้าเสียจริงๆ

พูดตามตรง Type 00 ในคอลัมน์ของ Top Gear ถูกอวยแบบเขียนเยินยอมากเกินไปหน่อย ทั้งๆที่คอลัมนิสต์เวปรถดังจากอังกฤษเจ้านี้ ถือว่ามีฝีปากจัดจ้านเอาเรื่องเอาราวอยู่แล้วหากทำอะไรที่ออกมาแล้วดูไม่ได้เรื่อง แต่คราวนี้กลับลำว่าสวยซะอย่างนั้น !

...

การเปิดตัวด้วยดีไซน์ใหม่ของรถ Type 00 มีการใช้คำว่า ความทันสมัยที่ล้นเหลือ สีตัวถังที่เลือกดูจะไม่เข้ากับสไตล์ของรถ Type 00 มีความยาวมากกว่าห้าเมตร และแทบจะไม่มีตรงไหนที่โค้งเว้าอย่างลงตัว พื้นผิวของรถเต็มไปด้วยเหลี่ยมมุมที่แปลกประหลาด ระบบส่งกำลังไฟฟ้ามอเตอร์คู่ มีเรี่ยวแรงมากกว่า 567 แรงม้า เฉพาะแบตเตอรี่หนักเฉียดๆ 1 ตัน ชาร์จเต็ม วิ่งไกล 692 กิโลเมตร หักกลบลบหนี้ ระยะทางไฟฟ้าของเสือกระโดดคันโตสูสีกับ Mercedses-EQS500 4Matic และรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ของอังกฤษคันนี้ จะมีราคามากกว่า 100,000 ปอนด์ (127,000 ดอลลาร์) หรือ 4,336,000 บาท ยังไม่รวมอัตราภาษีนำเข้า

ที่ผ่านมาภายใต้ร่มเงาของ Tata ต้องยอมรับว่าแบรนด์ Jaguar มีการบริหารจัดการที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง แต่แฟนคลับเก่าแก่ที่ชื่นชอบความสวยงามของเสือกระโดดในอดีตยังคงให้โอกาสและเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่รูปลักษณ์ของรถรุ่นใหม่จะเชื่อมโยงกับรถคลาสสิกรุ่นเก่าที่งดงามหยดย้อยซะที XK120 และ E-Type รวมถึงรถสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ อย่าง F-Type และ XE SV Project 8 โดยเฉพาะ E-Type ถือเป็นรถสปอร์ตที่สวยงามที่สุดรุ่นหนึ่งเท่าที่บริษัทรถยนต์เคยผลิตออกมา และรถฝีเท้าจัดจ้านอย่าง XE SV Project 8 ก็ถือเป็นรถสี่ประตูที่เร็วที่สุดในสนามนูร์เบิร์กริง

...

ปัญหาด้านคุณภาพของ Jaguar ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงโดยรวม Jaguar กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ถูกจัดอันดับเอาไว้ต่ำที่สุดจาก Vehicle Dependability Study ประจำปี 2023 รายงานโดยสถาบัน J.D. Power แต่ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ยังคงมีศักยภาพอีกมากที่จะขยายผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าไฮโซ

Jaguar มีมูลค่าแบรนด์สูงถึง 43,100 ล้านดอลลาร์ และเมื่อคุณหรือคนที่ชอบรถลองหันกลับไปมองที่แบรนด์รถสปอร์ตของเยอรมันอย่าง Porsche ความสำเร็จของม้าป่าจากสตุ๊ตการ์ท เป็นผลโดยตรงจากการที่บริษัทของเยอรมันเจ้านี้ ยังมุ่งมั่นที่จะรักษาตำนานและมรดกตกทอดของรถสปอร์ตรุ่น 911 มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปีแล้ว Porsche ยังคงไม่เปลี่ยนโฟกัสงานดีไซน์ของ 911 แม้จะหันไปผลิตรถทำเงินอย่าง Cayenne และ Taycan ซึ่ง Jaguar สามารถทำตามแบบแผนเดียวกันนี้ได้แต่ก็ไม่ทำ

แบรนด์ชั้นนำระดับโลกอย่าง BMW มีบทเรียนมากมายจากรถที่ไม่ประสบความสำเร็จ BMW มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในด้านประสิทธิภาพการควบคุม อารมณ์ ความรู้สึกหลังพวงมาลัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากคำขวัญที่ว่า “Ultimate Driving Machine” และ “Sheer Driving Pleasure”

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ความคิดเห็นว่า BMW จำเป็นต้องปรับตำแหน่งของตัวเองใหม่เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ท้ายที่สุดแล้ว การขับรถไม่ได้เป็นงานอดิเรกซึ่งเป็นที่นิยมอีกต่อไปเหมือนเมื่อก่อน คนรุ่นใหม่ชอบรถขับเองได้เพื่อที่จะะนั่งเล่นโซเชี่ยลระหว่างเดินทาง (บ้ามากๆที่ปล่อยให้เครื่องจักรมาคอยควบคุมชีวิตของคุณ) ลูกค้าจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงในอีกหลายๆ ประเทศที่เป็นคนรุ่นใหม่ กลับใส่ใจในเทคโนโลยีขับอัตโนมัติและระบบเชื่อมต่อดิจิทัลของรถรุ่นใหม่มากกว่าฟิลลิ่งการควบคุมที่ยอดเยี่ยม สุดท้าย การเปลี่ยนแปลงเพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในวงการรถยนต์ แต่บางแบรนด์ที่ทำผิดพลาดก็ต้องจมอยู่กับรถที่ขายไม่ออกต่อไป.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th 
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom 
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/