บนโลกใบนี้ อะไรก็ตามที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากก็ย่อมต้องต่อสู้กับแรงดึงดูดหรือ gravity ที่จะกระทำต่อวัตถุที่มีมวลมหาศาล รถยนต์ก็เป็นวัตถุชนิดหนึ่งที่มีน้ำหนักมาก ไม่ว่ามันจะเล็กหรือใหญ่ หากน้ำหนักตัวมากเกินไป มวลน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะกลายตัวการที่คอยบั่นทอนประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ วิศวกรจึงต้องคิดค้นเครื่องยนต์ที่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะทำให้รถคันโตเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ปัจจุบัน รถยนต์ 1 คันมีชิ้นส่วนเฉลี่ยมากถึง 30,000 ชิ้น หรือมากกว่านั้น ชิ้นส่วนบางชิ้นต้องรับแรงมหาศาล เช่น แชสซี เครื่องยนต์ หรือชุดเกียร์ โดยเฉพาะรถสมรรถนะสูงคันใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการใช้งานอย่างครอบคลุม การออกแบบให้ตัวถังมีขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ความใหญ่ของมิติตัวรถ กับระบบขับเคลื่อนที่จะต้องมีกำลังมากพอ แนวคิดในการสร้างรถยนต์ยุคใหม่ ส่งผลไปถึงน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว แชสซีที่แข็งแกร่ง ทนทานต่อแรงบิดตัวที่เข้ามากระทำ อุปกรณ์ที่ช่วยให้การขับหรือโดยสารมีความสบายสูงสุด ส่งผลให้โครงสร้างหลักมีน้ำหนักมากกว่ารถทั่วไป เพื่อความแข็งแกร่งทนทานไม่บิดตัวหรือฉีกขาดเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เบรกแล้วเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง การลดน้ำหนักด้วยการใช้โครงสร้างที่เป็นโลหะเบาอย่างอะลูมิเนียม หรือแม้แต่คาร์บอนไฟเบอร์ แม้จะเข้ามาช่วยทำให้รถมีน้ำหนักน้อยลง แต่ระบบขับเคลื่อน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย กลับทำให้รถสมรรถนะสูงเหล่านี้อวบอ้วนขึ้นจนยากที่จะกำจัดน้ำหนักส่วนเกิน รถสปอร์ตซาลูนที่มีทุกสิ่งทุกอย่างครบครันกลับมีมวลน้ำหนักมหาศาลที่คอยบั่นทอนประสิทธิภาพของแรงบิดที่ถูกส่งออกมาจากเครื่องยนต์ผ่านระบบเกียร์ นั่นคือปัญหาที่ BMW M แก้ไม่ตก!  

...

BMW M5 ใหม่ เปิดตัวเมื่อสัปดาห์ผ่านมา ด้วยกำลังอันมหาศาล จากเครื่องยนต์ V8 พ่วงระบบปลั๊กอินไฮบริด นั่นดูเหมือนจะยอดเยี่ยม แต่ M5 รุ่นล่าสุดก็ถูกบดบังประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยมวลที่หนักอึ้งของรถ น้ำหนัก 2.4 ตัน หรือปาเข้าไป 2,444 กิโลกรัม ทำให้ซุปเปอร์ซาลูนสายแรงพลัง M รุ่นที่ 7 มีน้ำหนักบานเบอะมากกว่ารุ่นก่อนถึง 453 กิโลกรัม!!! ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นั่นเป็นความแตกต่างอย่างมาก ในด้านการสูญเสียพลังงานส่วนหนึ่ง (ซึ่งไม่น้อยเลยถ้าคิดดีๆ) เพื่อแบกน้ำหนักตัวและทำอัตราเร่ง 0-100 ใน 3.0 วินาที 

...

...

M5 G90 ประจำปี 2024 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนมาก ด้วยความยาว 5,095 มิลลิเมตร กว้าง 1,971 มิลลิเมตร และสูง 1,508 มิลลิเมตร ทำให้มันยาวกว่า M5 รุ่นที่แล้ว 106 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 68 มิลลิเมตร และสูงกว่า M5 "F90" ก่อนหน้านี้ 40 มิลลิเมตร M5 G90 ยังใหญ่กว่า New Series-5 รุ่นปกติเล็กน้อย นับเป็น M5 รุ่นแรกที่มีขนาดความกว้างมากกว่า New Series-5 นอกจากนี้ ตัวเลขความยาวฐานล้อยังเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับรูปทรงของช่วงล่างที่แตกต่างกันจาก New Series-5 รุ่นมาตรฐาน 

...

BMW X5 XDrive 50e เป็นปลั๊กอินไฮบริดที่มีเครื่องยนต์หกสูบเรียงเล็กและเบากว่า น้ำหนักอยู่ที่ 2495 กิโลกรัม หัวใจสำคัญของ X5 50e xDrive คือเครื่องยนต์ "B58" ที่มีความจุ 3.0 ลิตรและเทอร์โบชาร์จเจอร์เดี่ยว ส่วนเครื่องยนต์ V8 รหัส "S68" ที่ใส่ใน M5 ใหม่นั้นมีขนาด 4.4 ลิตร ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัดพร้อมเทอร์โบพิเศษ การดันเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่ามากไว้ใต้ฝากระโปรงหน้า อธิบายได้ว่าเป็นการปรับน้ำหนักของ M5 แบตเตอรี่มีความจุ 18.6 kWh ส่วน X5 ปลั๊กอิน มีแบตฯ ที่ใหญ่กว่าด้วยความจุ 29.5 kWh 

i5 M60 ซาลูนไฟฟ้าตัวท็อป มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ามาก ที่ 81.2 kWh เทียบกับ 18.6 kWh สำหรับ M5 แล้ว ถือว่าแบตฯ M5 ใหม่นั้นโคตรเล็ก! การกระจายน้ำหนักก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากส่งผลต่อปัจจัยด้านความเสถียร BMW i5 มีน้ำหนักตกด้านหน้า 50.1 เปอร์เซ็นต์ และด้านหลัง 49.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วน M5 นั้น เกือบจะสมบูรณ์แบบ ด้วยตัวเลขกระจายน้ำหนักที่สมมาตรในระดับ 50:50 แม้จะมีเครื่อง V8 ที่หนักมากวางอยู่ด้านหน้า การกระจายน้ำหนักถือว่าทำได้อย่างสมดุล

ถ้าเรื่องน้ำหนักเป็นปัญหา มันจะแย่ลงไปอีกเมื่อ M5 Touring ใหม่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ และจะหนักกว่าเดิมเนื่องจากตัวถังสเตชั่นแวกอนของมันมีแนวโน้มที่จะหนักกว่า M5 ซาลูน

สถานการณ์ที่เป็นไปได้ประการหนึ่งก็คือ หากไม่เลือกใช้ปลั๊กอินไฮบริด BMW คงประสบปัญหาในการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปที่เข้มงวดกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้น มาพร้อมกับภาษีที่สูงขึ้นซึ่งเจ้าของรถต้องจ่าย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม M5 ใหม่จึงจำเป็นต้องใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริดที่สร้างน้ำหนัก เนื่องจากมีเครื่องยนต์ตัวโตแบบ V8 ที่ยังคงหาอะไรมาทนแทนได้ยาก นอกจากจะพัฒนาเครื่องหกสูบเรียงให้มีกำลังมากกว่า 700 แรงม้า นั่นอาจทำได้แต่ยังไม่ใช่ในปีนี้ 

การรวมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ ความจุ 4.4 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ BMW M5 มีกำลังรวม 717 แรงม้า แรงบิดมหาศาลที่ 738 ปอนด์-ฟุต (1,000 นิวตันเมตร) เมื่อดูข้อมูลอย่างละเอียด M5 ใหม่ แสดงให้เห็นว่า เครื่องยนต์สันดาปรหัส “S68” (S68B44T0) ผลิตพลังงานได้ 577 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร แรงบิดสูงสุดปลดปล่อยออกมาระหว่าง 1,800 ถึง 5,400 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุดตั้งแต่ 5,600 ถึง 6,500 รอบต่อนาที และจำกัดรอบสูงสุดอยู่ที่ 7,200 รอบต่อนาที e-motor ติดตั้งอยู่ในเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด ให้กำลัง 194 แรงม้า และแรงบิด 207 ปอนด์-ฟุต (280 นิวตันเมตร)

การลดขนาดเครื่องยนต์ถูกตัดออกไปในขั้นตอนของการพัฒนา เนื่องจากเครื่องยนต์สูบเรียงแบบ 6 กระบอกสูบจะทำให้ส่วนหน้ายาวเกินไป ตามความเห็นของหัวหน้าแผนก M นอกจากนี้ M5 ใหม่จำเป็นต้องมีกระปุกเกียร์ที่แตกต่างจากที่ M3 หกสูบใช้ เนื่องจากจะต้องรับมือกับแรงบิดมหาศาลระดับ 1,000 นิวตันเมตร จากเครื่อง V8 เสริมแรงบิดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในเกียร์ 8 สปีด บางทีการใช้พลังงานไฟฟ้าเข้าช่วยอาจเป็นสิ่งที่น่าเบื่อแต่ก็มีความจำเป็น และความจำเป็นนั้นส่งผลให้ M5 ใหม่หนักเกินไปจริงๆ.