อีซูซุ เปิดตัว MU-X 2025 THE NEXT PEAK พิเศษเพิ่มรุ่น RS ราคาเริ่ม 1.6 ล้าน

อีซูซุ เขย่าตลาดรถอเนกประสงค์ PPV เปิดตัว ISUZU MU-X 2025 THE NEXT PEAK เพิ่มรุ่น RS ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกจดภายใน ทั้งชุดกันชนหน้าใหม่ แบบ Fighter Jet มาพร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา ภาพคมชัดระดับพรีเมียม มีให้เลือก 4 รุ่น ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 67 มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด หรือ ISUZU กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเลือกซื้อรถโดยพิจารณาจากอรรถประโยชน์ของรถที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์และการใช้งานได้อย่างหลากหลายจึงทำให้รถอเนกประสงค์เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ครบทุกด้าน ตลอดจนความสะดวกสบาย เทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ที่มากกว่า

ทั้งนี้ อีซูซุจึงขอแนะนำใหม่ MU-X THE NEXT PEAK ซึ่งเป็นรถอเนกประสงค์ที่ดีที่สุดในคลาส และได้รับการพัฒนาขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่าในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะ NEW! MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS ที่ออกแบบพลิกโฉม MU-X ให้โดดเด่น มาพร้อมชุดแต่ง RS Design รอบคัน โดยไตรมาส 1/67 ที่ผ่านมา อีซูซุสามารถสร้างยอดขายที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า MU-X THE NEXT PEAK รุ่นใหม่นี้ จะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน และสามารถครองใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ราคารถยนต์  ISUZU MU-X 2025 THE NEXT PEAK  

- ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS ราคาอยู่ที่ 1,659,000 บาท

- ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น ULTIMATE ราคาอยู่ที่ 1,544,000 บาท

- ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น Elegant ราคาอยู่ที่ 1,419,000  บาท

-  ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น Active ราคาอยู่ที่ 1,184,000 บาท

ISUZU MU-X THE NEXT PEAK รุ่น RS

การออกแบบครั้งใหม่ที่พลิกโฉม MU-X ให้โดดเด่น และสปอร์ต ผ่านเส้นสายที่มีความ DYNAMIC รอบคันมาพร้อมสีสันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ 

- กระจังหน้าใหม่ BLACK DIAMOND GRILLE พร้อมสะท้อนความพีกด้วยสัญลักษณ์ RS ด้วยวัสดุ Black Chrome

- ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade พร้อมผสานดีไซน์สปอร์ตของชุดไฟท้ายด้วยเส้น Embrace Line

- สปอร์ตด้วยล้ออัลลอยใหม่ RS Design ขนาด 20 นิ้ว เพิ่มความสปอร์ตด้วย Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS

- ชุดกันชนหน้าใหม่ แบบ Fighter Jet ดุดันพร้อม Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์

- ดีไซน์ใหม่ เร้าใจอารมณ์สปอร์ต กับสีใหม่ล่าสุด! EIGER GRAY Opaque และหลังคาดำ Black Roof พร้อมสัญลักษณ์ RS โดดเด่นเท่สะดุดตาด้วยสี LIME GREEN

- เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตใหม่ นั่งสบายโอบรับสรีระ พร้อมโดดเด่นด้วยการเดินด้ายสี LIME GREEN และสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ

- บรรยากาศภายใน Red Ambient Light คอนโซลสีดำดีไซน์ใหม่เหนือระดับทุกรายละเอียด ตกแต่งด้วย Matte Silver

- กล้องรอบคัน 360O Surround View Camera ให้ภาพคมชัดแบบ 3D พร้อมมุมมองใต้ท้องรถเฉพาะ รุ่น RS

- พวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering)

- Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ และอื่นๆ

- Smart Tailgate with Step Sensor ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection

- ที่นั่งโดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch

- ระบบความปลอดภัย ADAS (Advanced Driver Assistance System) เพิ่มเติมใหม่ 5 ระบบ กล้องหน้าคู่ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และ เซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS

- ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA

- ELK ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

- ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP

- ระแบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อม LDW

- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB พร้อมระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA

- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and GO ACC

- ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW

- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB

- ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM

- ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System

- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB

- ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB

- ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM

- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB

- ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL

- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA และระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS 

- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS

- ระบบควบคุมการทรงตัว ESC

- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA

- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC

- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC

- โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile แกร่ง และทนทาน

ขุมพลัง และ performance ของ MU-X THE NEXT PEAK

- เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า 450 นิวตัน-เมตร

- เครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 150 แรงม้า 350 นิวตัน-เมตร

- Professional 4WD มีระบบ Terrain Command ลุยได้ทุกสภาพถนนด้วย

- ระบบขับเคลื่อนที่สามารถเลือกได้ทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ ทนทาน และประหยัดน้ำมันกว่า

- ระบบ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสม เพื่อสามารถผ่านอุปสรรคได้ดีขึ้น ใช้ได้ทั้งในโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อทรงตัวเยี่ยม

- นุ่มนวลนั่งสบาย ด้วยช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone และช่วงล่างหลังแบบ 5-Link Suspension เอกสิทธิ์เฉพาะ MU-X

- ตำแหน่งเครื่องยนต์เยื้องหลังเพลาหน้าแบบ Semi-Midship กระจายน้ำหนัก เกาะถนน ทรงตัวดียิ่งขึ้นคล่องตัวทุกการขับขี่ ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.6 เมตร

MU-X 2025 THE NEXT PEAK มีให้เลือกถึง 6 สีด้วยกันได้แก่

1. ไอเกอร์ เกรย์ โอเพค (Eiger Gray Opaque)
2. ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite White Pearl)
3. แดง เอทนา ไมก้า (Etna Mica)
4. ดำ บาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica)
5. เงินไอซ์เบิร์ก ไมก้า (Iceberg Silver Mica)
6. เงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic)

เรียบเรียง : กมลทิพย์ หิรัญประเสริฐสุข kamonthip.h@thairathonline.co.th 
ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย