การเข้าเยี่ยมชมส่วนต่างๆ ของโรงงานประกอบรถยนต์ VinFast ในศูนย์อุตสาหกรรมเมืองท่าไฮฟอง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงฮานอย เกิดจากการเชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ของไทย บินไปทดสอบรถรุ่นใหม่ (VinFast VF5/VF6/VF7) และเข้าชมโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าของ VinFast ไลน์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดยักษ์ในเวียดนามแห่งนี้ เป็นอาคารขนาดใหญ่มีพื้นที่รวม 830 เอเคอร์ ใช้ผลิตรถยนต์ส่วนบุคคลขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รถประจำทางพลังงานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ซึ่งผลิตทั้งแบบมีเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โซนประกอบชุดแบตเตอรี่ โรงพ่นสี โรงปั๊มขึ้นรูปชิ้นส่วนตัวถัง โรงงานเชื่อมตัวถังและประกอบชิ้นส่วนต่างๆ จนเสร็จสิ้นกระบวนการผลิตพร้อมส่งมอบโชว์รูม พื้นที่ขนาดใหญ่ยังเป็นที่ตั้งของซัพพลายเออร์ที่ร่วมกันผลิตชิ้นส่วนให้กับรถยนต์แบรนด์ VinFast อีกด้วย


...






...



...



...



โรงงานประกอบรถยนต์ในเวียดนามของ VinFast นับว่ามีความทันสมัยมาก เมื่อเทียบกับโรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัทรถญี่ปุ่นบางแบรนด์ นั่นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในด้านการผลิตที่ยืดหยุ่น ควบคุมด้วยระบบดิจิตอล ทั้งๆ ที่แบรนด์รถยนต์เวียดนามเพิ่งจะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์โลกเพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น สายการผลิตยานพาหนะไฟฟ้าที่หลากหลายของ VinFast พร้อมระบบส่งกำลังตั้งแต่ชุดแบตเตอรี่ ไปจนถึงมอเตอร์ไฟฟ้า ขั้นตอนในการขึ้นรูปโครงรถ เทคนิคใหม่ๆ ของการเชื่อมด้วยหุ่นยนต์ โรงพ่นสีและโรงประกอบชิ้นส่วนต่างๆ จนเสร็จสิ้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ทั้งหมดเกิดขึ้นในสายการผลิตเดียวกัน





เครื่องจักรโดยเฉพาะหุ่นยนต์ที่ทำงานได้อย่างหลากหลาย การวางระบบสายการผลิตรถยนต์แบบใหม่ที่ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในอดีต จากความทันสมัยของระบบควบคุมซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมการทำงานล่วงหน้าได้ โรงงาน VinFast มีมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด มีการลดการใช้พลังงาน และลดมลพิษในขั้นตอนการผลิตทุกกระบวนการ การทำงานทั้งหมดภายในโรงงานทุกขั้นตอน ส่วนใหญ่ใช้ระบบอัตโนมัติทำงานโดยหุ่นยนต์ และมีวิศวกรและช่างคอยควบคุม ตั้งแต่การปั๊มขึ้นรูปโครงตัวถังไปจนถึงการตรวจสอบรถยนต์ที่ประกอบเสร็จแล้ว การส่งมอบชิ้นส่วนและส่วนประกอบย่อยต่างๆ ของรถยนต์ในไลน์ผลิต VinFast เน้นความทันสมัยและง่ายต่อการปฏิบัติงานโดยใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมด ด้วยหุ่นยนต์รถพร้อมระบบนำทางอัตโนมัติที่จะขนส่งชิ้นส่วนต่างๆ ไปยังไลน์ประกอบอย่างรวดเร็ว






















โรงงานแห่งนี้ถือเป็นการบุกเบิกสายการผลิตรถยนต์ครั้งแรกของ VinFast นับเป็นโรงงานผลิตรถยนต์แบบใหม่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยที่สุดในโลก! VinFast ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 และพื้นที่ของโรงงานแห่งนี้ก็เคยเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของท่าเรือ Hai Phong ซึ่งสร้างเสร็จภายในเวลาเพียงแค่ 21 เดือน เริ่มจากทำการถมพื้นที่และปรับระดับเพื่อทำการก่อสร้างในขั้นตอนแรก ในขณะเดียวกันก็วางผังออกแบบอาคารไลน์ประกอบต่างๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนายานพาหนะไฟฟ้าสามรุ่นแรกที่ผลิตในเวียดนาม สำหรับตัวเลขการผลิตของโรงงาน VinFast มีกำลังการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 250,000 คันต่อปี รถโดยสารไฟฟ้า 3,000 คันต่อปี และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 250,000 คันต่อปี ในอนาคต VinFast มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 950,000 คันต่อปี







ปัจจุบัน โรงงานแห่งนี้กำลังผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกอย่าง VinFast e34 รถ SUV ขนาดกลางใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ VinFast VF 8 และ VinFast VF 9 แผนเดิมคือการประกอบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ควบรวมกับยานพาหนะไฟฟ้า EV 100% ในปี 2022 Pham Nhat Vuong ประธานกลุ่ม Vingroup เจ้าของแบรนด์ VinFast ตัดสินใจยุติสายการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทั้งหมด เพื่อเดินหน้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เช่น VinFast VF6 และ 7 รถ SUV ขนาดกะทัดรัด รวมถึง VinFast VF 5 แฮตช์แบคไฟฟ้าไซส์เล็ก คู่ต่อสู้ของ Neta V II ที่จะเปิดตัวในไทยเดือนมิถุนายนนี้ การปรับปรุงโรงงานโดยเปลี่ยนไลน์ผลิตจากเครื่องยนต์สันดาปไปเป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าใช้เวลาสามปี ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่มีราคาแพง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักพักเพื่อชดเชยต้นทุน Pham Nhat Vuong ประธาน VinFast กล่าวว่า “นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีราคาแพง แต่พิสูจน์ให้เห็นว่า VinFast กำลังเดินตามเส้นทางแห่งอนาคตข้างหน้าเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น เราต้องการมีส่วนเพื่อทำให้โลกนี้ดีขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป”





VinFast VF5 ซึ่งประกอบในโรงงานแห่งนี้จะถูกส่งมายังประเทศไทย ตามด้วยรถเอสยูวีไฟฟ้าไซส์เล็กอย่าง VinFast VF6 และ 7 ในอนาคตอันใกล้ ทัวร์โรงงานประกอบรถยนต์ในเวียดนาม เริ่มต้นด้วยโรงปั๊มขึ้นรูปตัวถังและชิ้นส่วนประกอบหลักของโครงรถ ด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยของเยอรมัน ทำให้เครื่องปั๊มขึ้นรูปโลหะแบบใหม่ ผลิตชิ้นส่วนได้ 4,200 ชิ้นต่อชั่วโมง หุ่นยนต์ Kuka สามารถผลิตชิ้นส่วนโลหะได้ 1,200 ชิ้นต่อชั่วโมง




แผนกเชื่อมตัวถังเป็นแบบอัตโนมัติเกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประกายไฟจากหุ่นเชื่อมตัวถังที่ทำงานอย่างแม่นยำและเร็วกว่าการเชื่อมด้วยมือของมนุษย์ แผนกเชื่อมตัวถัง VinFast ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 1 ล้านตารางฟุต โดยมีหุ่นยนต์ ABB จำนวน 1,200 ตัว ที่ปัจจุบันรับหน้าที่เชื่อมตัวถังได้ 38 คันต่อชั่วโมง โดยผลิตโครงรถยนต์ VinFast รุ่นใหม่ล่าสุดได้ 207 คันต่อวันในกะเดียว ผู้บริหารของ VinFast แจ้งว่า ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มความเร็วในสายการผลิตเป็น 60 คันต่อชั่วโมง แต่ยังไม่ใช่การเร่งความเร็วในสายการผลิตที่จะเกิดขึ้นในปีนี้





VinFast ก่อตั้งโรงงานในเดือนกันยายน 2017 บนพื้นที่ 828 เอเคอร์ (3,350,000 ตารางเมตร) ในสวนอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่บนเกาะ Cat Hai ใกล้กับเมือง Hai Phong โรงงานที่มีห้องพ่นสี ปั๊มตัวถัง จุดประกอบชิ้นส่วนหลัก จุดประกอบชิ้นส่วนภายใน และระบบส่งกำลังไฟฟ้า VinFast ลงทุนด้วยมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับระยะแรกของโครงการก่อสร้างโรงงานเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งรถส่วนบุคคลและรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า รวมถึงจักรยานยนต์ทั้งเครื่องยนต์และไฟฟ้า มีการรวบรวมวิศวกรนักออกแบบผู้มีความรู้ความสามารถด้านยานยนต์จากบริษัทชั้นนำทั่วโลก โดยร่วมมือกับพันธมิตรด้านการออกแบบทางวิศวกรรม และเทคโนโลยีการผลิตของยุโรป โดยเฉพาะบริษัทที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการผลิตหุ่นยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานและการจัดการโรงงานที่เน้นลดมลพิษและลดการใช้พลังงาน

VinFast ร่วมมือกับ Siemens ก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งนี้ภายในเวลาเพียงแค่ 21 เดือน กลุ่ม Siemens Xcelerator รับผิดชอบการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่นี้ รวมถึงการสร้างสายการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ของ VinFast ในโรงงานผลิตยานยนต์ที่เขียวขจี ภายในระยะเวลาของการก่อสร้างไม่ถึงสองปี ถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากขายรถไฟฟ้าในบ้านเกิดของตัวเองแล้ว VinFast ยังออกไปแข่งขันในตลาดยุโรป อเมริกา และเอเชียอีกด้วย เป้าหมายที่ทะเยอทะยานนั้นทำให้บริษัทฯ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของวิศวกรเยอรมันของบริษัท Siemens เพื่อวางรากฐานทางเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในสายการผลิตรถยนต์ VinFast ส่งผลให้เกิดระบบการผลิตแบบดิจิทัลของผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้า โรงงานประกอบรถยนต์แห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้าง 21 เดือน เร็วกว่าปกติถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการออกแบบให้โรงงานสามารถปรับขนาดพื้นท่ีได้ง่ายและหลากหลายสำหรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต


VinFast ใช้ข้อเสนอที่ครอบคลุมจาก Siemens ที่ควบรวมซอฟต์แวร์ Product Lifecycle Management (PLM) เช่น กลุ่ม Tecnomatix ชั้นนำของอุตสาหกรรม เข้ากับ Manufacturing Operations Management (MOM) ผ่านทางกลุ่มผลิตภัณฑ์แบบองค์รวม Siemens Opcenter เพื่อเน้นการผลิตแบบ Lean ในทุกขั้นตอน ด้วยระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร เช่น หุ่นยนต์ สายพานลำเลียง เครื่องปั๊มขึ้นรูปชิ้นส่วนรถยนต์ฯ






แนวทางการผลิตรถยนต์แบบองค์รวม เพิ่มความเร็วและความยืดหยุ่นในการทำงาน ทำให้มั่นใจในมาตรฐานการผลิต มีการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อทำให้โรงงานประกอบรถไฟฟ้าสามารถเพิ่มจำนวนการผลิตเพื่อรองรับอนาคต สำหรับการขยายตลาดเพิ่ม การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ที่จะเข้าสู่สายการผลิต ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องมือดิจิทัล ทำให้เกิดภาพเสมือนจริงที่มีรายละเอียดครบถ้วน ซึ่งก็คือ Digital Twin ระบบดิจิทัลแฝดที่สร้างข้อมูลเชิงลึก ด้วยการผสมผสานระหว่างการจำลองทางฟิสิกส์ การวิเคราะห์ข้อมูลในสภาพแวดล้อมเสมือนจริงเต็มรูปแบบ ทำให้สามารถพัฒนาและสร้างรถยนต์รุ่นใหม่ได้รวดเร็วและเชื่อถือมากขึ้น ข้อมูลประสิทธิภาพการผลิต สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และป้อนกลับเข้าสู่วงจรการพัฒนา ช่วยทำให้ VinFast ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าด้วยกระบวนการที่ทันสมัยตั้งแต่เริ่มต้นจนออกจากสายการผลิตไปถึงมือลูกค้า.