ปี 1983 - quattro GmbH ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Audi Sport GmbH ได้ถูกก่อตั้งขึ้น แผนกเล็กๆ ที่เริ่มต้นด้วยการขายอุปกรณ์เสริมสำหรับตกแต่งรถยนต์ของแบรนด์สี่ห่วงให้กับลูกค้าที่ชอบความแตกต่าง อีก 11 ปีต่อมา Audi Sport GmbH กลายเป็นเสาหลักสำคัญที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อการปรับแต่งรถรุ่นธรรมดาให้กลายเป็นรถยนต์สมรรถนะสูง ลูกค้า Audi Sport ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่สามารถปรับแต่งรถของตนได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการจูนอัพเครื่องยนต์ เปลี่ยนล้อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ปรับแต่งระบบรองรับให้มีศักยภาพของแรงยึดเกาะและความสบายที่เพิ่มขึ้นจากเดิม รวมถึงการเปลี่ยนระบบห้ามล้อให้มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นสแตนดาร์ด จากนั้นเทคโนโลยีที่ Audi ใส่เข้าไปในรถยนต์ RS รุ่นใหม่ ช่วยเพิ่มพลวัตในการขับขี่ เสถียรภาพ การยึดเกาะ และความปลอดภัย แผนก Audi Sport GmbH ได้สร้างพื้นฐานสำหรับความสำเร็จด้านยอดขาย พร้อมๆ ไปกับการคว้าชัยในในกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่เป็นเหมือนสนามประลองความสามารถของบริษัทรถยนต์ชั้นนำ 

...

Audi Sport quattro GmbH สร้างอุปกรณ์ตกแต่งและตัวเลือกสำหรับการปรับแต่งรถยนต์ Audi เพิ่มเติม นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของ Audi รุ่นมาตรฐาน แผนกนี้รับงานทั่วไป ตั้งแต่การพ่นสีภายนอกและงานตกแต่งภายในอันน่าตื่นตาตื่นใจที่เลือกสรรและกำหนดความต้องการโดยลูกค้า การออกแบบที่สวยงาม คุณภาพของวัสดุที่อยู่ในระดับสูงสุด ไปจนถึงเทคโนโลยีระบบส่งกำลังและลวดลายใหม่ของล้อแบบสปอร์ต ทุกวันนี้ Audi RS กลายเป็นของใช้ส่วนตัวที่ไม่ซ้ำใคร ด้วยการผสมผสานแนวคิดเฉพาะตัว นั่นก็คือ แรง นั่งสบาย ใช้งานได้ทุกวัน! 

การเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของ Audi Sport GmbH เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2023 ที่ Nürburgring 24 Hours ในช่วงสุดสัปดาห์ รถแข่ง Audi R8 LMS จำนวน 4 คันของ Audi Sport Teams ลงทำการแข่งขันในรูปแบบย้อนยุค โดยใช้สีตัวถังที่อยู่ในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตของ Audi

สหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง สำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงของ Audi มาโดยตลอด ดังนั้น อะไรจะดีไปกว่าการฉลองครบรอบ 40 ปีของ Audi Sport มากกว่าการจัดงานค่ำคืนอันน่าจดจำที่ร้านอาหารในลอนดอน โดยเชฟมือทองระดับโลก Theo Randall แขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่เป็นลูกค้าและผู้บริหาร ต่างเพลิดเพลินกับอาหารสามคอร์สแสนอร่อย ปิดท้ายค่ำคืนด้วยการแสดงสุดเซอร์ไพรส์จากนักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ Jamie Cullum ผู้ซึ่งเป็น Brand Ambassador ของ Audi มานานกว่า 20 ปี

...

“เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน: เพื่อนำ DNA ของวงแหวนทั้งสี่ ไปสู่อนาคตทางไฟฟ้าจนสำเร็จ” Oliver Hoffmann สมาชิกคณะกรรมการบริหารเพื่อการพัฒนาทางเทคนิคของ AUDI AG และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาของ Audi Sport GmbH กล่าว ส่วนกรรมการผู้จัดการ Sebastian Grams กล่าวเสริมว่า “Audi Sport ยังคงยึดมั่นในตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมาและมีความกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆ จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมนี้ ยังคงเป็นลักษณะเฉพาะของแบรนด์ การกำหนดอนาคตของการขับเคลื่อนในกลุ่มยานยนต์ประสิทธิภาพสูง ด้วยแนวทางที่ยั่งยืนและก้าวหน้า คงหนีไม่พ้นพลังงานไฟฟ้า”

...

ปี 2023 Audi Sport ลงแข่งขัน 872 รายการทั่วโลก ขึ้นโพเดี้ยม 771 ครั้ง ชัยชนะในปีที่ผ่านมา (2023) ไม่ได้มีส่วนทำให้อัตราการเข้าชมการแข่งขันรถยนต์สูงขึ้นมากนัก สำหรับทุกคนที่คุ้นเคยกับความสามารถพิเศษของ Audi ในด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่โดดเด่นในกีฬามอเตอร์สปอร์ต Vorsprung Durch Technik คือมนตร์เสน่ห์ที่มีมานานกว่า 40 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1978 Audi Sport คว้าแชมป์ Le Mans 13 รายการ, DTM touring 12 รายการ และถ้วยรางวัล World Rally Championship ที่น่าจดจำจำนวนหนึ่ง พร้อมกับระบบขับเคลื่อน Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สี่ห่วง

นี่คือจุดที่เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้น Audi Quattro ปฏิวัติรถยนต์สมรรถนะสูงที่ใช้งานบนท้องถนนเมื่อเปิดตัวในปี 1980 ทำให้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อดูเซ็กซี่และขับได้ดีกว่าที่เคยเป็นมา เป็นเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับความพยายามบนเส้นทางออฟโรด เพลิดเพลินกับการหมุนตัว 180 องศา ไปสู่ทิศทางที่เร็วขึ้นและสนุกสนานยิ่งขึ้น 

...

ตำนานของ Quattro ได้รับการหล่อหลอมบนเวทีแรลลี่ระดับโลก แม้ว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะพลิกสถานการณ์ครั้งใหญ่ในวงการแรลลี่โลก และส่งผลให้เกิดความสำเร็จอย่างรวดเร็ว กล่าวคือ การคว้าแชมป์โลกประเภทนักขับและแชมป์โลกบริษัทผู้ผลิตใน WRC “เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อในความแตกต่างระหว่างระบบขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ” Stig Blomqvist ตำนานบนเวทีแรลลี่โลกชาวสวีเดนเล่า “ผมยังจำการขับรถ Quattro ครั้งแรกที่อิงกอลสตัดท์ได้ ตอนที่ได้ทดลองขับรถบนถนนลูกรังบางเส้น มันเหลือเชื่อมาก หลังจากนั้นผมก็ไม่อยากขับรถขับเคลื่อนสองล้ออีกต่อไป”

รถแข่ง WRC ใช้ระบบ 4WD เพียงอย่างเดียวมาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ไม่มีบริษัทรถยนต์หรือทีมแข่งทีมไหนจะนำแนวคิดการบุกเบิกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อดังกล่าวมาสู่การแข่งขัน 24 Hours of Le Mans ที่โคตรจะหฤโหด ในปี 1999 Audi R8 Prototype พร้อมระบบ Quattro ขึ้นโพเดี้ยมเป็นครั้งแรกหลังเปิดตัว ก่อนที่จะได้รับชัยชนะอย่างขาดลอยในการแข่งขัน Endurance Classic สามรายการถัดมา และคว้าชัยชนะในการแข่งขันรถสปอร์ตทั่วโลกในห้วงเวลาเดียวกัน

ปี 2006 Audi Sport Team Joest กลายเป็นหัวข้อข่าวดัง ด้วยการคว้าแชมป์ Le Mans ครั้งที่ 6 ในรอบเจ็ดปี ด้วยรถ R10 TDI เป็นรถแข่งที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ในปี 2012 Audi Sport ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยชูถ้วยรางวัล Le Mans อันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยชัยชนะอันเด็ดขาดของรถ R18 e-tron quattro ซึ่งเป็นรถแข่งเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ในช่วงเวลาที่พลังงานไฮบริดยังไม่ได้รับความนิยม ชัยชนะของรถแข่งพลังงานผสมไฮบริด กระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเพิ่มพูนความรู้ทางอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ เช่น วิธีการคิดค้นระบบ regenerative braking แบบใหม่ การระบายความร้อนของแบตเตอรี่ มอเตอร์เสริมแรงประสิทธิภาพสูงที่ขั้นอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ ความรู้ที่เป็นแก่นแท้ของรถไฮบริด TFSIe และ e-Tron EV ในปัจจุบัน ของ Audi ส่วนใหญ่ พัฒนามาจากสนามแข่งแทบทั้งสิ้น

หลังจากชัยชนะ 13 ครั้งในรอบเกือบหลายปี เมื่อเครื่องยนต์เดินทางมาถึงยุคสุดท้าย.... พร้อมๆ กับโลกที่เต็มไปด้วยยานยนต์พลังไฟฟ้า ในการแข่งขัน Formula E ทีม Audi Sport คว้าแชมป์โลกในปี 2018 ในรายการ DTM รถแข่งทางเรียบของแบรนด์สี่ห่วง ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของช่างและวิศวกร Audi ด้วยแนวคิดใหม่ด้านอากาศพลศาสตร์ รวมถึงความท้าทายที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเกิดขึ้นในรายการ Dakar Rally คนกลุ่มเล็กๆ ที่บ้าความเร็วของ Audi Sport ได้ลงมือปรับแต่งเครื่องยนต์ 2.0 TFSI จนกลายเป็นเครื่องปั่นไฟให้กับมอเตอร์พลังสูง ท่ามกลางการผจญภัยครั้งสุดท้ายของเครื่องสันดาปภายใน กับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในรายการ Dakar

Audi RS Q e-tron เปิดตัวในปี 2021 ผสมผสานมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับขุมพลังเบนซิน DTM เพื่อขับตะลุยทะเลทรายอาหรับ “RS Q e-tron เป็นการผสมผสานระหว่างวิจิตรศิลป์และศาสตร์ด้านวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูง” Stefan Dreyer หัวหน้าฝ่ายพัฒนาของ Audi Sport กล่าว “มันเป็นการจับคู่ที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีและความโหดร้าย การพัฒนาและสร้างรถแข่งรุ่นนี้ที่ Audi Sport เต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากความซับซ้อนของระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างอย่างมากจากรถแข่งในโปรเจกต์อื่นๆ ที่เราเคยทำสำเร็จในอดีต”

ขณะที่ Audi Sport Team มุ่งหน้าไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อลงแข่งในรายการ Dakar 2024 ความตื่นเต้นก็รออยู่ข้างหน้า ภายใต้กฎระเบียบใหม่ของ FIA ที่ต้องการรถแข่งพลังงานไฟฟ้าให้เพิ่มจำนวนขึ้นพร้อมกับความยั่งยืน 100%

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/