รถญี่ปุ่น ครองส่วนแบ่งทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศ หรือการผลิตเพื่อส่งออกมานานหลายทศวรรษ โดยมีแบรนด์หรูจากเยอรมนีและแบรนด์รถยนต์จากเกาหลีใต้ท่ีผลิต และส่งออกรถยนต์จำนวนมากสู่ตลาดโลก ด้วยสมรรถนะ ความหรูหรา แต่ปี พ.ศ.2566 อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีนกำลังจะถล่มรถยนต์จากญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้ ด้วยราคาที่ได้เปรียบจากการอุดหนุนของภาครัฐบางประเทศ ด้านการลดหย่อนภาษีตามสนธิสัญญาทางการค้า ออปชันจัดเต็มในรถบางรุ่น รวมถึงรูปแบบที่ทันสมัย ทำให้จีนกลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก ประจำปี 2566 ไปโดยปริยาย


...
เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีรายงานว่าการส่งออกรถยนต์ของจีน ทั้งไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และพลังงานไฟฟ้า แซงหน้าญี่ปุ่นในไตรมาสแรกของปี 2566 ล่าสุดรถยนต์จีนสามารถขยายความเหนือกว่า ทั้งการปรับเปลี่ยนพลังงานขับเคลื่อนให้ตรงกับกระแสความต้องการของคนรุ่นใหม่ รูปแบบที่ทันสมัยทั้งภายนอกและภายใน โดนใจผู้ใช้ที่เห็นความแตกต่าง ทำให้จีนสามารถขยายอัตราส่วนการส่งออกยานยนต์ไปขายในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) รายงานว่า ประเทศจีน ส่งออกรถยนต์ระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน ปี 2566 รวมทั้งสิ้น 4.41 ล้านคัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 58 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย ได้รายงานถึงตัวเลขการส่งออกรถยนต์ญี่ปุ่น 3.99 ล้านคัน ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 (เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์)


แม้ยานยนต์พลังงานสะอาดของจีนจะยังไม่ได้รุกล้ำเข้าสู่ประเทศที่ถือเป็นคู่แข่งทางการค้าอย่างสหรัฐฯ รถยนต์ของจีนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการรุกเข้าสู่ตลาดรถยนต์ของยุโรป แต่แผนงานการสร้างแบรนด์ และส่งออกรถยนต์ไปขายทั่วโลกของจีนนั้นแพร่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งเม็กซิโก และรัสเซีย ก็มีบริษัทรถยนต์ของจีนเล็งเข้าไปตั้งโรงงานประกอบเพื่อการส่งออก ศักยภาพ และความสามารถในการเข้าถึงตลาดรถยนต์ทั่วโลกของยานยนต์จากแดนมังกร ทำให้ตัวเลขการส่งออกของรถยนต์จีนพุ่งสูงขึ้นจนแซงหน้าญี่ปุ่นในช่วงปลายปี 2566


...
สำนักข่าวนิกเคอิ รายงานว่า จีนส่งออกรถยนต์จำนวน 730,000 คัน ไปยังรัสเซียระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม เพิ่มขึ้นเจ็ดเท่า เมื่อเทียบกับปี 2565 ถึงแม้ว่าตัวเลขการส่งออกรถยนต์จีนไปยังประเทศเม็กซิโกยังไม่สูงมากเท่าไรนักที่ 330,000 คัน แต่การส่งออกไปยังดินแดนอเมริกาใต้ก็เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 71 ผู้ผลิตรถยนต์จีนเล็งไปยังเม็กซิโก หลายแบรนด์กำลังเจรจาเพื่อตั้งฐานการผลิต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์บางคนคิดว่าอเมริกาใต้จะถูกใช้เพื่อช่วยให้แบรนด์จีนเข้าถึงสหรัฐอเมริกา โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าที่เข้มงวดมากนัก
อย่างไรก็ตามการส่งออกรถยนต์ของจีนบางส่วนไม่ได้มีเฉพาะแบรนด์รถยนต์จีนล้วน แม้ว่า BYD จะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการส่งออกยานยนต์ของประเทศจีน แต่ Tesla, Volvo, BMW และ Buick ที่มีโรงงานประกอบรถยนต์ในจีน ก็ผลิตเพื่อทำการส่งออกไปขายในต่างประเทศเช่นเดียวกัน


...

บริษัทรถยนต์ของจีนได้ขยายการส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีทั้ง เวียดนาม ไทย ลาว เขมร และพม่า ซึ่งแบรนด์ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่ แต่การเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปภายใน ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าของญี่ปุ่นนั้นล่าช้าเกินไป ส่งผลในภูมิภาคนี้รถยนต์ญี่ปุ่นจึงมีส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง
ระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม การส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีนไปยังตลาดอื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย เพิ่มขึ้นสองเท่าในปีที่แล้ว แซงหน้าการส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรของรถยนต์ไฟฟ้าจีน “จากนี้ไป นี่จะกลายเป็นยุคของการต่อสู้กับญี่ปุ่นในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนกล่าว
โทโมยูกิ ซูซูกิ กรรมการผู้จัดการของบริษัทที่ปรึกษา AlixPartners ของสหรัฐฯ มองว่า เงินอุดหนุนจากภาครัฐของประเทศไทยกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออก “การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน เพื่อขยายห่วงโซ่อุปทานสำหรับการผลิต และการขายยานยนต์แบบข้ามพรมแดน ทำให้แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนพุ่งมาเบียดกับแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี” ซูซูกิ กล่าว.
...