ยอดขายกว่าหมื่นคันหลังการเปิดตัว รวมถึงรายละเอียดต่างๆ กับราคาของ Yaris Cross ทั้งสามรุ่น คงผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้ว วันนี้เลยจะมาสรุปความน่าใช้ของ  Yaris Cross ใหม่นั้น จุดไหนที่โดนใจ ตามมาด้วยยอดขายที่พุ่งแรง เป็นครอสโอเวอร์ไซส์เด็กเล็กแต่มีพื้นที่ใช้สอยไม่เล็กตามขนาด นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกสไตล์กระโห้น้อยที่คุ้นตามาจาก Corolla Cross แล้ว ความสามารถในการขับถือว่าใช้ได้สมราคา จะเอาดีกว่านี้ก็ต้องจ่ายถึงหลักล้านกลางๆ  สำหรับคนที่กำลังมองหารถใหม่ในช่วงสิ้นปีนี้ ราคาเกือบ 900,000 บาทของรุ่นท็อป HEV Premium Luxury กลายเป็นรุ่นที่ลูกค้าพี่โตให้ความสนใจมากที่สุด! 

...

1-ให้ของมาเยอะ
แม้ดูเหมือนจะแพง แต่ถ้าเทียบกับอุปกรณ์และอัตราสิ้นเปลืองในกลุ่มรถเล็กไฮบริด Yaris Cross ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งอยู่นิดๆ นั่นรวมถึงอุปกรณ์ที่ใส่มาให้ในรุ่นท็อปสุด เมื่อลูกค้าต้องการก็เลยจัดออปชั่นมาให้เยอะจนใช้แทบไม่หมด ยกตัวอย่างเช่น หลังคากระจกไฟฟ้า Panoramic Roof ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า กระจกหลังคา Panoramic Roof เปิด-ปิดได้แค่ม่านบังแดด ตัวกระจกไม่สามารถเลื่อนเปิดเพื่อรับอากาศจากภายนอกได้ ซึ่งจริงๆ แล้วอาจดูแปลกประหลาด แต่ก็ตัดปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมเมื่อซีนยางเริ่มเสื่อมสภาพ ดีกว่าเปิดได้ครึ่งเดียวแล้วใช้ไปนานๆ ยางหุ้มกระจกหลังคาเสื่อมสภาพก็จะเจอกับปัญหาน้ำรั่วซึม กระจกหลังคาทำหน้าที่แค่ความเท่และเอาแสงเข้ามาให้ความโปร่งโล่ง ล้ออัลลอยสีเงินสลับดำ ขอบ 18 นิ้ว อันนี้จะได้ล้อที่ดูดีขึ้นมาอีกนิด ยางนุ่มเงียบจากโยโกฮามา ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ Kick - Activated อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย กล้องมองภาพรอบคัน PVM ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS ไฟส่องสว่างบริเวณประตูคู่หน้า Welcome Lamp ลำโพง pioneer 6 ตำแหน่ง กล้องบันทึกภาพด้านหลัง เรียกว่าจัดมาให้แบบไม่เกรงใจรถจีนกันเลยทีเดียว

...

2-หน้ากระโห้เล็ก! 
หน้าตามีทั้งคนที่ชอบและเฉยๆ หรือไม่ชอบเลย แต่ยอดขายหมื่นกว่าคันก็คงจะมีคนชอบหน้าตาของ Yaris Cross มากกว่าไม่ชอบนั่นแหละ รูปลักษณ์ของครอสโอเวอร์เล็กรุ่นนี้ ยังยึดโยงกับโมเดลอื่นๆ ของ Toyota ด้วยชุดกระจังแนวหน้าปลากระโห้เล็ก ถูกปรับให้เข้ากับส่วนหน้าของรถ ความยาวตัวถังสั้นกว่า Corolla Cross แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ เมื่อลองเข้าไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารตอนหลังแล้วไม่รู้สึกอึดอัด พื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะมีมากพอที่จะทำให้นั่งได้อย่างสบายๆ จุดนี้ถือว่าทำได้ดีโดยเฉพาะเบาะหลัง เวลานั่งเดินทางไกล ฝาท้ายไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ที่ต้องเอาเท้าแหย่ให้ตรงกับตำแหน่งมีความสะดวกในการใช้งาน แม้จะไม่ได้พับเบาะหลัง พื้นที่ห้องเก็บสัมภาระท้ายมีมากพอ ใต้ห้องเก็บสัมภาระยังมีพื้นที่เก็บของที่ลึกลงไปด้านใน ซึ่งเป็นพื้นที่ของยางอะไหล่ รุ่น HEV Premium Luxury สีทูโทนหลังคาดำตัวถังสีน้ำเงิน Drak Turquoise Black Roof และสีส้ม Spicy Scarlet Black Roof สวยงามพอใช้ได้ไม่ขี้เหล่ 

3-เครื่องไฮบริดเน้นประหยัดน้ำมัน 
ส่วนใหญ่ค่ายรถมักโชว์ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่บ่งบอกให้เห็นว่า นี่โคตรจะประหยัดแล้วนะครับ! เครื่องยนต์ของ Yaris Cross ใช้เครื่องเบนซินไฮบริด 1.5 ลิตร แถวเรียงสี่สูบ 2NR-VEX ความจุ 1,496 ซีซี กำลัง 91 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตร ดูเหมือนจะไม่ได้รุนแรงอะไร ออกจะอืดด้วยซ้ำแต่เดี๋ยวก่อน อย่าลืมครับมันมีมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงบิดที่อยู่ในชุดเกียร์ มอเตอร์มีกำลัง 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ทั้งสองระบบร่วมกันเค้นกำลังได้ 111 แรงม้า กับแรงบิด 141 นิวตันเมตรที่พอจะเร่งออกตัวแบบไม่ต้องรอนานก็ไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับช้าๆ เวลารถติด แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุ 4.3 แอมป์/ชั่วโมง ช่วยจ่ายไฟให้มอเตอร์วิ่งช้าๆ สลับหยุดเวลารถติดไม่ค่อยกินน้ำมัน ขับเรื่อยๆ ทำได้ 23 กิโลเมตรต่อลิตร ขับเร็ว 18.5 กิโลเมตรต่อลิตร ประหยัดกว่ารถที่คุณขับหรือไม่ก็ลองเทียบกันเอาเอง จุดที่ง่ายต่อการใช้งานก็คือ ไม่ต้องรอชาร์จไฟฟ้า เติมน้ำมันเต็มถังก็ไปได้เฉียดๆ 500 กิโลเมตร  

...

...

4-ระบบการทำงานของไฮบริด HEV จาก Toyota เจเนอเรชันที่สี่ 
เครื่องยนต์สตาร์ต มอเตอร์ G1 ทำหน้าที่เจเนอเรเตอร์ปั่นกระแสไฟฟ้าไปเก็บในแบตเตอรี่ ชุดอินเวอร์เตอร์แปลงกระแสไฟฟ้า ส่งไปยังมอเตอร์ G2 เพื่อเสริมแรงบิดเมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น เครื่องยนต์ส่งกำลังไปที่ล้อขับเคลื่อนคู่หน้า 50% และเมื่อออกตัวในย่านความเร็วต่ำ 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าใน EV Mode (ในระยะทางสั้นๆ) 

5-ช่วงล่างกลางๆ พอใช้งานได้
แมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลงที่ด้านหน้า เป็นรูปแบบง่ายๆ ของระบบรองรับใน Yaris Cross ด้านหลัง เพื่อต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระและลดต้นทุนพวกชิ้นส่วน ทอร์ชันบีมพร้อมเหล็กกันโคลง จึงเหมาะกับรถไซส์นี้ ถ้าเซตดีๆ ทอร์ชันบีมก็ไม่ได้ห่วยอะไร คนขับใช้งานทั่วไปวิ่งกันไม่เร็วมากเหมือนสื่อขับทดสอบที่มักจะไปกันแทบจะสุดคันเร่ง ดิสก์เบรกสี่ล้อ เบรกก็พอใช้ได้ น้ำหนักตัวไม่มากทำให้เบรกไม่ต้องรับภารกรรมเยอะ สัมผัสของช่วงล่างออกมาในแนวเป็นกลางๆ ไม่นิ่ม หรือแข็งเกินไป อยู่ในเกณฑ์พอดี อาการโคลงตัวมีบ้างเมื่อขับผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ พวงมาลัยไฟฟ้า EPAS มีระยะฟรีตรงกลางมากกว่า Corolla Cross เล็กน้อย ขับเร็วเข้าโค้ง ระบบบังคับเลี้ยว ช่วงล่างและยาง Yokohama Bluearth XT AE61 เงียบและเกาะถนนใช้ได้ รถมีความสมดุลในโค้งดีจากแพลตฟอร์ม TNGA แต่ความนิ่งของช่วงล่างยังสู้ C-HR ที่ใช้มัลติลิงก์ไม่ได้ ส่วนใหญ่ คนที่ไม่เคยลองก็จะเหมาว่าช่วงล่างแบบนี้ยังไม่ดีพอ แต่พอขับดูแล้วก็จะเปลี่ยนความคิดนั้น ช่วงล่างของกระโห้เล็ก Yaris Cross ถือว่าเซ็ตค่าการทำงานของสปริงและโช้คอัพมากลางๆ เพื่อให้สอดรับกับสภาพผิวถนนที่หลากหลายซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะเรียบนั่นแหละ!

6-ภายในรุ่นท็อป HEV Premium Luxury 
ภายในของ Yaris Cross HEV Premium Luxury รุ่นท็อปมี Panoramic Roof เปิดได้เฉพาะม่านบังแดด เบาะหุ้มหนังสีเทาเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้า เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะคนนั่งหน้า ปรับมือ เบาะหลังนั่งสองคนจะสบายกว่า เบาะหลังมีพื้นที่วางขาพอสมควรสำหรับคนตัวสูงกว่า 175 เซนติเมตร นั่งแล้วยังเหลือพื้นที่ใกล้หัวเข่าพอสมควร จอภาพมอนิเตอร์กลางขนาด 10.1 นิ้ว ใส่ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุม เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เชื่อมต่อโทรศัพท์บลูทูธ วิทยุ กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor เครื่องเสียง pioneer พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง เบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบปรับอากาศอัตโนมัติกรองฝุ่น PM 2.5 ช่องแอร์ด้านหลัง แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger ช่องเชื่อมต่อ USB Type C และ Type A ช่องจ่ายไฟ 12V ถ้าคิดว่านี่ยังไม่พอก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว....


Toyota Yaris Cross 1.5 HEV รุ่นและราคา


Toyota Yaris Cross 1.5 HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท

Toyota Yaris Cross 1.5 HEV Premium ราคา 849,000 บาท

Toyota Yaris Cross 1.5 HEV Smart ราคา 789,000 บาท

สีตัวถัง
สีขาว Platinum White Pearl
สีเงิน Silver Metallic
สีดำ Attitude Black Mica
สีขาวมุก Platinum White Pearl
สีส้ม Spicy Scarlet
สีน้ำเงิน Drak Turquoise
สีเงิน Metal Stream Metallic

รุ่นหลังคาดำ Black Roof 1-Spicy Scarlet Black Roof 2-Metal Stream Metallic Black Roof