ครั้งแรกกับการจัดงานทดสอบยางรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ในงาย BFGoodrich Day ประจำปี 2566 ถือเป็นการเปิดประสบการณ์เอ็กซ์คลูซีฟกับการขับขี่บนทางเรียบในสนาม 8 สปีด และสนามออฟโรด ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ตลอดการจัดงานระหว่างวันที่ 3-11 พฤศจิกายน 2566 มีผู้จัดจำหน่าย สื่อมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์มากกว่า 200 คน จาก 8 ประเทศทั่วภาคพื้นเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย เข้าร่วมงาน งานนี้ประกอบด้วย พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ 5 ฐาน
BFGoodrich แบรนด์ยางระดับโลกจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมทำการทดสอบและสัมผัสประสิทธิภาพของยางรุ่นใหม่ภายใต้ตราสัญลักษณ์ BFGoodrich ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ครบทุกรุ่น ทั้งยางออฟโรด ได้แก่


...






...



...



...





บีเอฟกู๊ดริช เทรล เทอร์เรน ที/เอ (BFGoodrich Trail Terrain T/A)
รถทดสอบ Ranger Hilux REVO Rocco Everest ในสถานีทดสอบบนผิวทางออฟโรดที่หลากหลาย ทั้งลูกรัง ทราย ดิน โคลนและทางเรียบลาด ยาง BFGoodrich Trail Terrain T/A มีประสิทธิภาพด้านความนุ่มเงียบ ยึดเกาะกับผิวทางที่หลากหลายได้ดี ให้ความมั่นใจบนผิวถนนแบบไฮเวย์ รวมถึงการขับลุยฝ่าทางวิบากด้วยลายดอกยางแบบผสม














บีเอฟกู๊ดริช ออล-เทอร์เรน ที/เอ เคโอ2 (BFGoodrich All-Terrain T/A KO2)
รถทดสอบ Fortuner GR Sport Everest Ranger Raptor ยาง All-Terrain T/A KO2 ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งและความเงียบ ดอกยางท่ีออกแบบให้ยึดเกาะกับพื้นผิวที่เต็มไปด้วยทราย ดินลูกรัง โคลนและหินได้ดี เส้นทางทดสอบที่โหดร้ายบนเขายางเที่ยงนั้น All-Terrain T/A KO2 ฟันฝ่าอุปสรรคออกมาได้อย่างทุลักทุเล เนื่องจากสภาพเส้นทางที่ค่อนข้างอันตรายต่อช่วงล่างและยาง ซึ่งมีทั้งร่องน้ำตามธรรมชาติ หินบนภูเขาและลูกรังกับหินลอย










บีเอฟกู๊ดริช มัด-เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็ม3
ยางออฟโรดเต็มรูปแบบที่ใส่ในรถทดสอบ ATV ในสถานีทดสอบที่เต็มไปด้วยหล่มดินและโคลน BFGoodrich Mud-Terrain T/A KM3 ให้ความมั่นใจในการลุยฝ่าเส้นทางที่ทุรกันดาน ทางหฤโหดที่ยางปกติไม่สามารถฟันฝ่าออกมาได้ ประสิทธิภาพในการตะกุยทราย ดิน โคลน เอาตัวรอดจากหล่มลึกหรือบนภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหิน
ยางทางเรียบ ได้แก่










บีเอฟกู๊ดริช แอดแวนเทจ ทัวร์ริ่ง (BFGoodrich Advantage Touring)
รถทดสอบ Honda Civic 1.5 Turbo กับยาง BFGoodrich Advantage Touring ยางสปอร์ตที่เหมาะกับรถยนต์สมรรถนะสูง ออกแบบดอกยางให้สร้างแรงยึดเกาะ รีดน้ำได้ดีและมีความนุ่มเงียบอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ เป็นยางฝนที่เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย ดอกยางออกแบบให้สร้างแรงยึดเกาะรวมถึงรีดน้ำได้เร็ว การทำระยะเบรกที่น่าพอใจขณะขับท่ามกลางฝนตกหนัก










บีเอฟกู๊ดริช จี-ฟอร์ซ ฟีนอม ที/เอ (BFGoodrich g-Force Phenom T/A)
รถทดสอบ Toyota GT86 Honda Civic RS e:HEV และ BMW 330i บนสนามทดสอบท่ีเปียกลื่น เพื่อทดสอบระยะเบรกขณะที่ผิวถนนมีน้ำเจิ่งนอง การทรงตัวและการรีดน้ำเมื่อขับผ่านโค้ง เป็นยางสปอร์ตที่เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทย ดอกยางออกแบบให้สร้างแรงยึดเกาะรวมถึงรีดน้ำได้เร็ว การทำระยะเบรกที่น่าพอใจ




ปีนี้เป็นปีแรกที่ BFGoodrich จัดงาน BFGoodrich Day ประจำปี 2566 โดยมีการเปิดโอกาสให้แขกพิเศษที่เข้าร่วมงานและสื่อมวลชน ได้สัมผัสประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการทดสอบประสิทธิภาพของยางรุ่นใหม่ ทั้งคุณสมบัติ การใช้งาน ตลอดจนการขับขี่บนผิวถนนที่หลากหลายของยาง BFGoodrich ทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง เรียนรู้ประวัติความเป็นมาอันยาวนานของ แบรนด์ BFGoodrich ชมและสัมผัสประสิทธิภาพของยาง ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันครบทุกรุ่น









ทั้งนี้ มีผู้จัดจำหน่าย สื่อมวลชน และอินฟลูเอนเซอร์มากกว่า 200 คน จาก 8 ประเทศทั่วภาคพื้นเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย (ได้แก่ ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้, ประเทศไทย และเวียดนาม) เข้าร่วมงานดังกล่าวซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-11 พฤศจิกายน 2566 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
งาน BFGoodrich Day ประจำปี 2566 ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ และ กิจกรรมเชิงปฏิบัติการ 5 ฐาน โดยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์บีเอฟกู๊ดริชที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 150 ปี ทั้งนี้ บีเอฟกู๊ดริชเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2413 โดย ดร.เบนจามิน แฟรงคลิน กู๊ดริช และได้รวมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมิชลินตั้งแต่ปี 2533
นวัตกรรมที่โดดเด่นของ BFGoodrich ได้แก่ ยางเรเดียลรุ่นแรกที่ผลิตในอเมริกา, ยางเรเดียลรุ่นแรกของโลกสำหรับทุกสภาพภูมิประเทศ (All-Terrain) และสำหรับเส้นทางทุรกันดารที่ขรุขระและเป็นดินโคลน (Mud-Terrain), ยางล้อสำหรับกระสวยอวกาศ ‘โคลัมเบีย’ (Columbia) ฯลฯ นอกจากนี้ ยาง BFGoodrich ยังคว้าชัยในการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตยอดนิยมระดับโลกหลายรายการ เช่น เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง (Le Mans 24 Hours), บาฮา 1000 (Baja 1000) และ ดาการ์ แรลลี่ (Dakar Rally)
ภายในพื้นที่นิทรรศการยังจัดแสดงผลิตภัณฑ์ยาง BFGoodrich ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันครบทุกรุ่น ทั้งยางออฟโรด ได้แก่

‘บีเอฟกู๊ดริช เทรล-เทอร์เรน ที/เอ’ (BFGoodrich Trail-Terrain T/A) ยางระดับพรีเมียมที่ให้สมรรถนะเหนือกว่าบนทางเรียบและรองรับการขับขี่นอกเส้นทางลาดยาง ที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก,

‘บีเอฟกู๊ดริช ออล-เทอร์เรน ที/เอ เคโอ2’ (BFGoodrich All-Terrain T/A KO2) สุดยอดยางสำหรับรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4x4) และระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (4x2), รถเอสยูวี และ รถกระบะยกสูง ซึ่งมาพร้อมแรงยึดเกาะตะกุยที่ทรงพลัง จึงใช้งานออฟโรดได้ดีแม้ในภูมิประเทศสุดหฤโหด

‘บีเอฟกู๊ดริช มัด-เทอร์เรน ที/เอ เคเอ็ม3’ (BFGoodrich Mud-Terrain T/A KM3) ยางที่ลุยได้ทุกสภาพเส้นทางหฤโหดสำหรับชาวออฟโรดตัวจริง
ยางทางเรียบ ได้แก่

‘บีเอฟกู๊ดริช แอดแวนเทจ ทัวริ่ง’ (BFGoodrich Advantage Touring) ยางรถยนต์สำหรับวิ่งบนทางเรียบที่ให้ความคุ้มค่าเหนือกว่า ได้รับการออกแบบให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพถนน โดยเฉพาะการขับขี่ประจำวันในเขตเมือง

‘บีเอฟกู๊ดริช จี-ฟอร์ซ ฟีนอม ที/เอ’ (BFGoodrich g-Force PHENOM T/A) ยางรถยนต์สมรรถนะสูงพิเศษสำหรับวิ่งบนทางเรียบที่ออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพยานยนต์สู่อีกระดับที่เหนือกว่าทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง
ไฮไลต์พิเศษคือประสบการณ์ขับขี่สุดเร้าใจที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสจากกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ 5 ฐาน โดย 2 ฐานเป็นการขับแบบออฟโรด (ได้แก่ Cross Country, Hotlap และ Off-Road Buggy) ณ Wild Calling Farm Park ลานแคมปิ้งเอกชนท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อม อีก 2 ฐานเป็นการขับทางเรียบ (ได้แก่ Handling & Braking, Mini Circuit และ Hotlap) ณ 8 Speed Motor Track สถานที่สำหรับจัดกิจกรรมหลากรูปแบบบนพื้นที่ 50 ไร่ โดยไม่จำกัดอยู่เพียงการแข่งรถ และฐานสุดท้ายเป็นการขับบนเส้นทางออฟโรดสู่ “เขายายเที่ยง” เพื่อชมทิวทัศน์สุดตระการตาจากยอดเขา
BFGoodrich
‘บีเอฟกู๊ดริช’ (BFGoodrich®) เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ที่ทุ่มเทนำเสนอยางสมรรถนะสูงเพื่อผู้ที่รักการขับขี่ ในแทบทุกสภาพแวดล้อมอย่างแท้จริง ยางบีเอฟกู๊ดริชผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเข้ากับประสบการณ์ในกีฬา มอเตอร์สปอร์ตที่สั่งสมมายาวนานถึง 50 ปี เพื่อรังสรรค์ยางรถยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีในทุกสภาวะ ไม่ว่า จะเป็นยางสมรรถนะสูงสำหรับขับขี่บนทางเรียบหรือยางออฟโรด ภายใต้แนวคิดหลักคือการมอบสมรรถนะที่ดุดันถึง ขีดสุดให้กับผู้ใช้งาน คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.BFGoodrichTires.com, www.BFGoodrichRacing.com รวมถึงติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทาง Facebook, Twitter และ Instagram at @BFGoodrichTires