ค่ายเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี และค่ายเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ยังคงเดินหน้าในความมุ่งมั่นสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราให้แข็งแกร่ง

ล่าสุดได้ฉลองความสำเร็จด้วยการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้กับคนไทยครบ 10,000 คันแล้ว

หลังจากที่ได้จุดประกายเปิดตลาดรถไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อปี 2562 ด้วยการเปิดตัว NEW MG ZS EV รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แนวคิด EASY ซึ่งถือเป็นยนตรกรรมที่สร้างจุดเปลี่ยนให้กับแวดวงยานยนต์ประเทศไทย ทำให้การใช้รถไฟฟ้าเป็นเรื่อง “ง่าย” สำหรับคนไทย

ทั้งนี้ ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพ โอกาส และความเป็นไปได้ในการเติบโตของตลาดรถไฟฟ้าในประเทศไทย เอ็มจีจึงยังคงเดินหน้าแนะนำรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ใช้รถเอ็มจีจึงได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

อาทิ NEW MG EP สเตชันวากอนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในไทย, NEW MG4 ELECTRIC แฮตช์แบ็กพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลังที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อปีที่แล้ว

ล่าสุด ในปีนี้กับ 2 โมเดลใหม่ นำโดย NEW MG ES สเตชันวากอนไฟฟ้า 100% แนวใหม่กับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ และการเปิดรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มใหม่ครั้งแรกของประเทศไทยกับ NEW MG MAXUS 9 รถลักชัวรี MPV ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง

โดยในระยะเวลา 5 ปี เอ็มจีได้มีส่วนสำคัญในการสร้างและผลักดันสังคมยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นในประเทศได้อย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนประชากรรถไฟฟ้าที่ส่งมอบถึงมือลูกค้าแล้ว 10,000 คัน

เอ็มจียังตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ปีนี้ ได้วางศิลาฤกษ์พื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK เตรียมพัฒนาพื้นที่ภายในโรงงานกว่า 75 ไร่ ให้เป็นพื้นที่พัฒนาชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ร่วมกับพาร์ตเนอร์ และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

...

โดย “เอสเอไอซี มอเตอร์–ซีพี” ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตรถยนต์เอ็มจี และจำหน่ายภายในประเทศไทย รวมทั้งการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน โรงงานตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จ.ชลบุรี บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ มีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 100,000 คันต่อปี ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ได้ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้แล้วกว่า 300 ไร่

ประกอบด้วย โรงงานประกอบตัวถัง โรงงานพ่นสีรถยนต์ โรงผลิตตัวถัง ซึ่งไลน์ผลิตทั้งหมดประกอบไปด้วยเทคโนโลยีการติดตั้งหุ่นยนต์สำหรับใช้ในสายการผลิต

สำหรับพื้นที่อีก 137.5 ไร่ที่เหลือ ในช่วงแรกจะถูกพัฒนาให้เป็นพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 75 ไร่ เพื่อให้รองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ประกอบไปด้วย อาคารโรงงานสำหรับการพัฒนาชิ้นส่วนโมดูลแบตเตอรี่ รวมถึงไลน์การผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจี และพื้นที่สำหรับพัฒนาชิ้นส่วนสำหรับการประกอบรถยนต์เอ็มจีร่วมกับพาร์ตเนอร์บริษัทชั้นนำ

ทั้งนี้ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK แบ่งเป็น 3 ระยะการก่อสร้าง โครงการระยะแรกตั้งเป้าแล้วเสร็จพร้อมใช้งานในเดือน ต.ค.นี้ มูลค่าการลงทุนสำหรับโครงการระยะแรกมากกว่า 500 ล้านบาท!!!

อัลคาโปน
motorwars@thairath.co.th