รถสปอร์ตโรดสเตอร์ตระกูล 718 ให้อัตราเร่งที่เร็วและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ตอบสนองการขับเหนือระดับ ด้วยการบังคับควบคุมที่มีประสิทธิภาพ หลังคาผ้าความหนาสามชั้นเปิดประทุนน้ำหนักเบา พร้อมกลไกระบบการทำงานแบบ manual โครงสร้างแชสซีน้ำหนักเบาพิเศษ มีน้ำหนักโดยรวม 1,410 กิโลกรัม เครื่องยนต์ปราศจากระบบอัดอากาศ ให้การดูดอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ ด้วยช่องรับอากาศด้านข้าง กำลังสูงสุด 500 แรงม้า/368 กิโลวัตต์ เป็นเครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่นำมาจาก Porsche 911/992 GT3
...
กว่า 30 ปีหลังการนำเสนอรถยนต์ต้นแบบ Boxster แบรนด์รถสปอร์ตอย่าง Porsche ทำการเปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์เครื่องยนต์วางกลางรุ่นยอดนิยม Porsche 718 Spyder RS ใหม่ เวอร์ชันทรงพลัง เครื่องยนต์สูบนอนรอบจัดจ้านแบบไม่พึ่งพาระบบอัดอากาศ เครื่องยนต์รุ่นนี้ยกมาจากตัวแรงอย่าง Porsche 911/992 GT3 ปรับเปลี่ยนจากเครื่องยนต์วางท้ายใน 911/992 มาเป็นวางกลางลำแบบเปิดประทุนสองที่นั่งใน 718 Spyder RS การยกระดับสมรรถนะของรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางสายพันธุ์ 718 เน้นไปที่การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพการขับสูงสุด Porsche 718 Spydet RS แฝดผู้น้องแบบเปิดหลังคาในโมเดล 718 Cayman GT4 RS ในเวอร์ชันเปิดประทุนสองที่นั่ง นับเป็นครั้งแรกที่นำเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ แบบไร้ระบบอัดอากาศจาก 911 GT3 ให้กำลังสูงสุดกว่า 500 แรงม้า มาใช้กับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางเปิดประทุน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รอบจัดน้ำหนักเบา บล็อกเดียวกับรถแข่งตัวแรงอย่าง Porsche 911 GT3 Cup น้ำหนักส่วนเกินถูกรีดออกจนเบาเป็นพิเศษ หลังคาประทุนแบบ soft-top ทำงานด้วยระบบกลไกไฟฟ้า พร้อมเสียงเครื่องยนต์ดุดันจากท่อไอเสียแบบสปอร์ตทำจากสเตนเลสสตีลน้ำหนักเบา การออกแบบจัดวางตำแหน่งช่องรับอากาศด้านข้าง บริเวณหลังพนักพิงศีรษะใหม่หมด
ระบบขับเคลื่อนของ Porsche 718 Spyder RS มาในแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับสปอร์ตคูเป้ Porsche 718 Cayman GT4 RS เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ ความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร รอบเครื่องยนต์สูงสุดกว่า 9,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ (PDK) 7 สปีด อัตราทดสั้น อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.4 วินาที เร่งจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 10.9 วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับ 718 Spyder ที่ไม่ใช่รุ่น RS รถรุ่นเรือธงลำใหม่ล่าสุดนี้นอกจากจะมีกำลังที่เพิ่มขึ้นถึง 80 แรงม้าแล้วยังให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0 จนถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าถึง ครึ่งวินาที ความเร็วสูงสุดเพิ่มแตะระดับ 308 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่รุ่นเดิมทำได้ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Porsche 718 Spyder RS ติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ (PDK) เช่นเดียวกับรถสปอร์ต RS รุ่นใหม่ ระบบส่งกำลังชุดนี้ทำงานด้วยการเปลี่ยนอัตราทดทั้ง 7 สปีดด้วยความรวดเร็วจากคลัตช์ที่มีถึงสองชุด เปลี่ยนเกียร์เร็วราวสายฟ้าแลบ แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หลังพวงมาลัย Paddle Shift ช่วยให้ทั้งสองมือของสัมผัสกับพวงมาลัยอยู่ตลอด แม้ขณะเปลี่ยนเกียร์แบบ manual สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ได้จากคันเกียร์บริเวณคอนโซลกลาง ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ นอกจากเครื่องยนต์อันทรงพลังแล้ว Porsche 718 Spyder RS ยังมีน้ำหนักตัวที่เบาจนสัมผัสได้ถึงสมรรถนะที่ดีขึ้น น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 1,410 กิโลกรัม เบากว่า 718 Spyder ที่ติดตั้งระบบเกียร์ PDK ถึง 40 กิโลกรัม และยังเบากว่า 718 Cayman GT4 RS 5 กิโลกรัม Porsche 718 Spyder RS ตัวแทนของความเหนือระดับรุ่นล่าสุด จากสายพันธุ์สปอร์ตเครื่องวางกลางที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559
...
ตัวถังด้านหน้าของ Porsche 718 Spyder RS มีเอกลักษณ์ที่แทบจะไม่แตกต่างจาก Porsche 718 Cayman GT4 RS ฝากระโปรงหน้าผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) เพิ่มขนาดของช่องอากาศบนกันชนหน้าให้ใหญ่ขึ้น ครีบดักอากาศ NACA ทั้งสองฝั่ง ทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับระบบเบรก ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าสัมประสิทธ์แรงเสียดทาน (Coefficient of Drag) อุปกรณ์ Sideblades บริเวณมุมกันชน ช่วยสร้างแรงกด ลิ้นสปอยเลอร์หน้ามีขนาดสั้นกว่า Porsche 718 Cayman GT4 RS ประสานการทำงานกับปีกหลังขนาดใหญ่ สร้างแรงกดโดยรวมสูงกว่า และเนื่องจากการตัดสินใจเลือกเพิ่มขนาดของลิ้นสปอยเลอร์ เพื่อเสริมความสมดุลย์ให้ระบบอากาศพลศาสตร์แทนการใช้ปีก ส่งผลให้รูปทรงของ 718 Spyder RS มีเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมในสไตล์ ducktail อุปกรณ์ด้านอากาศพลศาสตร์ทั้งหมดถูกดีไซน์ให้ทำงานร่วมกันเพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างสมดุล รวมทั้งให้เสถียรภาพสูงสุดขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
...
Porsche 718 Spyder RS ติดตั้งหลังคาประทุน single-layer lightweight soft-top น้ำหนักเบาพิเศษ ควบคุมการทำงานด้วยระบบกลไกไฟฟ้า งานดีไซน์ที่สลับซับซอนของกลไกการพับเก็บหรือกางออกเพื่อปิดคลุมส่วนหลังคา ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลัก 2 ชิ้น ได้แก่ แผงบังแดด sun shield และแผ่นกันลม weather deflector อุปกรณ์ทั้งสองถอดประกอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถจัดเก็บรวม หรือแยกจากกันเอาไว้ในรถได้อย่างกลมกลืน หรือเลือกใช้เพียงแค่แผงบังแดด sun shield เพื่อเป็นหลังคาแบบ ‘Bimini top’ สำหรับป้องกันแสงแดดให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในกรณีนี้พื้นที่ฝั่งผู้โดยสารจะเปิดโล่งไปจนถึงด้านข้างและด้านหลัง และเมื่อใช้งานร่วมกับแผ่นกันลม weather deflector และปิดกระจกประตูจนสนิท จะทำหน้าที่เป็นหลังคาป้องกันน้ำฝน โครงสร้างหลังคา รวมทั้งชิ้นส่วนกลไกมีน้ำหนัก 18.3 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักที่เบากว่าหลังคาของ 718 Spyder ถึง 7.6 กิโลกรัม และเบากว่า 718 Boxster 16.5 กิโลกรัม ลดน้ำหนักมวลรวมได้ถึง 8 กิโลกรัม ด้วยการถอดหลังคาเก็บไว้ที่บ้าน และขับรถออกไปสัมผัสสายลมและแสงแดดในวันที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย
...
ช่วงล่างของ Porsche 718 Spyder RS ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ 718 Cayman GT4 RS และ 718 Spyder รวมทั้งแนวคิดในการดีไซน์ เพื่อรองรับการขับสไตล์สปอร์ต ระบบควบคุมการทำงานของช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ ลดระดับความสูงลง 30 มิลลิเมตร เสริมด้วยระบบ Porsche Torque Vectoring (PTV) เฟืองท้าย limited-slip differential รวมทั้ง ball-jointed suspension bearings ล้อ forged aluminium ขนาด 20 นิ้ว ระบบช่วงล่างถูกปรับตั้งให้สอดรับกับความเฉียบคมแม่นยำของระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัยไฟฟ้าอัตราทดน้ำหนักแปรผัน ให้ความปราดเปรียวคล่องตัว และการบังคับควบคุมที่เป็นธรรมชาติ ความสูงใต้ท้องรถ มุม camber ความกว้างฐานล้อ และเหล็กกันโคลง anti-roll bar ปรับตั้งได้อย่างอิสระ เมื่อเปรียบเทียบกับ 718 Cayman GT4 RS ค่าความแข็งของสปริง และโช้คอัพ ได้รับการปรับแต่งลดลงเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลผ่อนคลาย การ set-up ตัวรถจะเป็นไปตามบุคลิกเฉพาะตัวของรถเปิดประทุน
อารมณ์สปอร์ตคือสิ่งที่ได้รับการถ่ายทอดไปสู่บรรยากาศภายในห้องโดยสาร ลดฟังก์ชันที่ไม่จำเป็น และเพิ่มการใช้งานที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ พวงมาลัย RS sports หุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex พร้อมมาร์กแถบสีเหลืองที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เบาะนั่ง full bucket seats น้ำหนักเบาจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ลวดลาย carbon-weave รองรับสรีระของผู้ขับ ตัวเบาะหุ้มด้วยหนังแท้สีดำ ช่วงกลางของเบาะหุ้มด้วยวัสดุ Race-Tex ที่ให้ความแตกต่างของเฉดสีพื้นหลัง เลือกได้ทั้งสีเทา Arctic Grey หรือสีแดง Carmine Red ตราสัญลักษณ์ ‘Spyder RS’ ประทับบนหมอนรองศีรษะด้วยสีเดียวกับตัวเบาะ แผงคอนโซล และชิ้นงานตกแต่งภายในหุ้มด้วยหนังแท้
สีตัวถังภายนอก ตั้งแต่สีปกติ 4 สี, สีเมทาลิก 3 สี รวมทั้งสีใหม่ล่าสุด Vanadium Grey Metallic และสีพิเศษ Arctic Grey, Shark Blue และ Ruby Star Neo
ชุดแต่ง Weissach Package และนาฬิกา chronograph รุ่นพิเศษ
อุปกรณ์ชุดแต่งพิเศษ Weissach Package ลดน้ำหนักรวมของตัวรถให้เบาลง ล้อ forged magnesium สั่งเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด ปลายท่อไอเสียสปอร์ตผลิตจากวัสดุ titanium แรงบันดาลใจจาก Porsche 935 limited-edition ในปี 2561 ภายในห้องโดยสารที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนจาก anti-glare Race-Tex วัสดุหุ้มแผงคอนโซลหน้ามีคุณสมบัติลดแสงสะท้อน สามารถสั่งซื้อนาฬิกา chronograph จาก Porsche Design ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือคุณภาพสูง ผลิตภายใต้การดูแลของ Porsche จากโรงงาน Solothurn ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออกแบบดีไซน์ให้เข้าคู่กับรูปแบบการตกแต่งตัวรถ ตัวเรือนนาฬิกาน้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุ titani-um แผงหน้าปัทม์ผลิตจาก carbon สายรัดข้อมือตัดเย็บจากหนังแท้ แบบเดียวกับที่ใช้ในห้องโดยสาร ชุด rotor บนฝาหลังสะท้อนภาพของลวดลาย ปรากฏบนล้ออัลลอย
Andreas Preuninger หัวหน้าแผนก GT Cars กล่าวว่า 718 Spyder RS ยกระดับสุนทรียภาพแห่งการขับขี่รถสปอร์ตเปิดประทุน การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์จาก 911/992 รุ่น GT3, เกียร์อัตราทดสั้น, มิติตัวรถกะทัดรัด, น้ำหนักเบาพิเศษ, ช่วงล่างที่รองรับการขับสไตล์สปอร์ต รวมทั้งหลังคาที่เปิดรับบรรยากาศภายนอกได้อย่างเต็มที่
Porsche 718 Spyder RS ราคาเริ่มต้น 16,500,000 บาท มีกำหนดเปิดตัวครั้งแรกของโลกในเดือนมิถุนายน 2566 พร้อมวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ณ โรงงาน Stuttgart-Zuffenhausen หลังจากนั้นจะถูกนำไปเผยโฉมที่งาน Goodwood Festival of Speed ประเทศอังกฤษ.