Mercedes-Benz กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการทำระยะทางไกลของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ ด้วยยานยนต์ต้นแบบแนวคิด VISION EQXX แสดงให้เห็นว่า สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าด้วยระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแบตเตอรี่ครั้งเดียว ซึ่งเท่ากับการใช้พลังงานน้อยกว่า 10 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบภายนอก หลักการแอร์โรไดนามิก ซึ่งปรับรูปลักษณ์ของมันจนได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ ที่ 0.17 ตัวถังรถแบบใหม่ ปฏิวัติเรือนร่างของยานยนต์อนาคตไปอีกขั้น VISION EQXX แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ กลายเป็น Mercedes-Benz รุ่นใหม่ในอนาคต ด้วยการออกแบบที่ไหลลื่น วัสดุมวลเบา นวัตกรรมแบตเตอรี่แบบใหม่ และระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบโครงข่ายไฟฟ้า

...

ตัวเลขสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของ EQXX นั้นควรค่าแก่การจดจำ เมื่อมองที่ค่าสัมประสิทธิ์ 0.20 ในยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง EQS ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่มีรูปลักษณ์ลื่นไหลสุดๆ บนท้องถนนในปัจจุบัน แต่ตัวเลข 0.17 เป็นสถิติที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน จากรุ่นปัจจุบันของ Model S ด้วยการออกแบบที่ลื่นไหลและเพรียวบาง ทำให้ตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศในระดับที่ต่ำมากถึง 0.17 ของ EQXX ตัวเลขดังกล่าว เอาชนะรถที่ลู่ลมที่สุดในปัจจุบันได้อย่างฉิวเฉียด รถต้นแบบไฟฟ้า VISION EQXX บดขยี้รถยนต์พลังงานผสมแบบไฮบริดที่ใช้งานได้จริงเพียงคันเดียวในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ เป็นรถที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงประสิทธิภาพด้านแอร์โรไดนามิกสูงสุด รถคันนั้นก็คือ XL1 ของ Volkswagen ซึ่งเป็นรถไฮบริดที่เกิดจากแนวคิดคล้ายคลึงกันในช่วงต้นปี 2010 เจ้า XL1 รักษาสถิติก่อนหน้านี้ ด้วยตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์ 0.189 หากสถิติด้านความลู่ลมของ EQXX ยังไม่สาแก่ใจ Mercedes ยังเสริมว่า EQXX เอาชนะคน (0.8 ถึง 1.2) นักปั่นจักรยาน (0.6 ถึง 0.8)  และนักอเมริกันฟุตบอล (0.18 ถึง 0.2) ลามไปจนถึงการที่มันสามารถเอาชนะประสิทธิภาพแอร์โรไดนามิกของนกเพนกวินได้ (0.05)

...

วิธีการที่จะทำให้รถไฟฟ้ามีระยะทางมากขึ้นก็คือ ความลู่ลมจากงานออกแบบที่คำนึงถึงหลักการทางอากาศพลศาสตร์ วิจิตรศิลป์ของแอโรไดนามิก เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว ทั้งการออกแบบรถทดสอบค่าแอร์โรไดนามิก เช่น Mercedes-Benz Concept C 111 จากปี 1970 ปัจจุบัน ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธง EQS ซึ่งกลายเป็นรถยนต์โมเดลบุกเบิกระดับหรูหรา และครองสถิติโลกสำหรับรถยนต์ที่ผลิตตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด VISION EQXX กำลังสร้างก้าวต่อไปของระบบอากาศพลศาสตร์ที่มีศักยภาพสูงสุด ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศเพียง 0.17 (cd 0.17) ค่าที่บันทึกไว้นี้มีความสำคัญ ออกแบบรูปทรงที่ไหลลื่น ลดแรงต้านทานอากาศในทุกตำแหน่ง สำหรับการยกระดับการทำระยะทางของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เนื่องจากยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ต้องใช้พลังงานไฟมากถึง 2 ใน 3 เพื่อต่อต้านแรงต้านทานของกระแสลม

...

...

รูปแบบไหลลื่นอย่างไร้ที่ติ จากด้านหน้าเหนือซุ้มล้อ ไปจนถึงส่วนท้ายของรถ สัมผัสได้ถึงหลักการแอร์โรไดนามิกที่มีประสิทธิภาพของขอบสปอยเลอร์หลัง รายละเอียดอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า VISION EQXX ได้รับการออกแบบให้ด้านหน้ามีขนาดเล็กกว่า CLA ดังนั้นจึงมีความต้านทานอากาศลดลง ซุ้มล้อหลังที่แคบลง ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฝาครอบภายนอกแบบโปร่งใสบนล้อ ช่วยป้องกันการปั่นป่วนของอากาศแทบจะทั้งหมด ขอบล้อแมกนีเซียมสีโรสโกลด์ปรับให้อากาศไหลผ่านได้อย่างราบรื่น 

Mercedes-Benz เดินตามแนวทางใหม่ในการพัฒนาภายในของยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ VISION EQXX มีการผสมผสานวัสดุที่ยั่งยืนซึ่งถูกนำมาใช้ตกแต่งภายใน ตั้งแต่เห็ดไปจนถึงไม้ไผ่ กระบองเพชร และผ้าไหม สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ายังคงมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุถึงความหรูหราในยานยนต์โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ในขณะที่สร้างความรู้สึกสบายระดับพรีเมียมที่เลียนแบบไม่ได้ การเดินทางอันน่าทึ่งนี้ได้ลดรอยเท้าคาร์บอนของหนังเพียงครึ่งเดียว

ความคล่องตัวและความสามารถในการทำระยะทางไม่ได้วัดตัวเลขแรงม้า แรงบิด อัตราเร่ง กม./ชม. หรือวินาที แต่ความคล่องตัวของอนาคตที่กำลังจะมาถึง ถูกวัดอย่างมีประสิทธิภาพด้วยระยะทางของการวิ่งต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของยานยนต์ต้นแบบ VISION EQXX ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 95% ซึ่งหมายความว่า 95% ของพลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่จะลงไปที่ล้อขับเคลื่อน โดยการเปรียบเทียบ รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีประสิทธิภาพมีสมรรถนะประมาณ 30% และนักวิ่งระยะไกลโดยเฉลี่ยของมนุษย์ทำได้ประมาณ 50% ทีมวิศวกรของ Mercedes-Benz ที่ทุ่มเททำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแข่งรถจากระบบส่งกำลังประสิทธิภาพสูง (HPP) และ Mercedes-Benz Grand Prix (MGP) เพื่อพัฒนาระบบส่งกำลังไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพสูง แบตเตอรี่แพ็กน้ำหนักเบา Mercedes-Benz ใช้เวลานานหลายปีในการทำงานบนรถต้นแบบคันนี้ เพื่อลดแรงเสียดทานของกลไกให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อส่งกำลังลงไปยังล้อขับเคลื่อนโดยมีการสูญเสียแรงบิดน้อยที่สุด

เมื่อต้องการระยะทำการไกลมากกว่าเดิม แทนที่จะทำให้แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น Mercedes-Benz มองไปที่ความหนาแน่นของพลังงาน ซึ่งจะต้องได้รับการปรับปรุงอย่างมาก พลังงาน 200 Wh/kg มีการปรับตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบควบคุมให้ทำงานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยให้แบตเตอรี่ของ VISION EQXX สามารถจัดเก็บไฟฟ้าได้ถึง 100 kWh ในขณะที่ใช้พื้นที่น้อยลงถึง 50% และมีน้ำหนักเบากว่าแบตเตอรี่ที่มีความจุเท่ากัน หรือเบากว่าถึง 30% ยกตัวอย่างเช่น การใช้ซิลิคอนแอโนดที่ล้ำสมัย ร่วมกับวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษจากทีม Mercedes Formula One ซึ่งทำให้ความจุของแบตเตอรี่ใน VISION EQXX เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ระบบไฟฟ้าซึ่งจ่ายพลังงานให้กับยูนิตเสริมหลายตัวใน VISION EQXX จะดึงพลังงานเพิ่มเติมจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา ซึ่งจะช่วยลดความต้องการพลังงานของระบบไฟฟ้าแรงสูง และนำไปสู่ช่วงระยะทางการวิ่งใช้งานที่มากขึ้น ในวันที่มีสภาพอากาศเหมาะสม EQXX สามารถเพิ่มระยะทางแบบพิเศษได้ถึง 25 กิโลเมตร สำหรับการเดินทางระยะไกล

ความเบา ประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ศักยภาพสูงสุดในด้านแอร์โรไดนามิก และการต้านทานการหมุน ตามลำดับความสำคัญทั้งหมด Mercedes กล่าวว่า ประสิทธิภาพทางไฟฟ้าของ Vision EQXX แปลงการใช้พลังงานเป็น 235 MPG เปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซิน นั่นจะทำให้ EQXX เป็น "รถยนต์ 1 ลิตร" หมายถึงสามารถวิ่งได้ 100 กิโลเมตร โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 1 ลิตร ตรงกับเป้าหมายแรกที่ Volkswagen XL1 สร้างขึ้นเมื่อหลายปีก่อน รถคันนั้นผลิตอย่างจำกัดสี่ปีหลังจากเปิดตัว แต่อนาคตของ EQXX ยังคงไม่มีความชัดเจนว่ามันจะเป็นรถบ้านหรือรถสปอร์ต หรือเป็นทั้งสองอย่างแบบผสมผสานกัน

Vision EQXX เป็นการแสดงตัวอย่างที่ทีมประสิทธิภาพของ Mercedes EQ ยานยนต์ต้นแบบแนวคิดที่เรียนรู้จากการวิจัยและพัฒนา ถูกรวมเข้ากับสถาปัตยกรรมโมดูลาร์รุ่นต่อไป สำหรับรถยนต์ขนาดกะทัดรัดและขนาดกลาง (EQC / EQE) 

EnergyWizard: โดยรวมแล้ว ความสำเร็จด้านวิศวกรรมอย่างมีประสิทธิภาพทำให้สิ้นเปลืองพลังงานน้อยกว่า 10 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อ 100 กม. (ประสิทธิภาพมากกว่า 6 ไมล์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง)

ElectricDrive: ระบบใหม่สุดขั้วที่ออกแบบและสร้างขึ้นภายในองค์กร – มีประสิทธิภาพมาตรฐาน 95% ตั้งแต่แบตเตอรี่ไปจนถึงล้อ

RangeBuster: มากกว่า 1,000 กม. (มากกว่า 620 ไมล์) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ช่วยขจัดความวิตกกังวลเกี่ยวกับระยะทาง

ความหนาแน่นของพลังงาน: ด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการคิดของ Formula 1 นักเคมีแบตเตอรี่บีบพลังงานของ EQS ให้กลายเป็นรถยนต์ขนาดกะทัดรัด ชุดแบตเตอรี่ใน VISION EQXX ใช้พลังงานได้เกือบ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่มีปริมาณน้อยลง 50% และเบากว่าชุดมาตรฐานใน EQS ถึง 30%

AeroChamp: นักออกแบบภายนอกและนักอากาศพลศาสตร์ส่งมอบ ค่าสัมประสิทธิ์การลากมาตรฐาน cd 0.175

วัสดุที่ยั่งยืน: วัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืชที่เป็นนวัตกรรมใหม่ช่วยขจัดของเสียออกจากหลุมฝังกลบและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

UpliftMindset: วิศวกร Mercedes-Benz ทำงานร่วมกับห้องทดลองการแข่งขันที่เร็วที่สุดในโลกที่ High Performance Powertrains (HPP) และ Mercedes-Benz Grand Prix (MGP) เพื่อออกแบบระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพสูง

BionicEngineering แรงบันดาลใจจากรูปแบบธรรมชาติและการร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่เป็นนวัตกรรมใหม่ วิศวกรใช้เครื่องมือดิจิทัลขั้นสูงเพื่อลดน้ำหนักและลดของเสีย ด้วยการนำวัสดุส่วนเกินออกโดยใช้การแม่พิมพ์ 3 มิติ

RollingEfficiency ยางต้านทานการหมุนต่ำเป็นพิเศษพร้อมรูปทรงแอโรไดนามิกที่ปรับให้เหมาะสม รวมกับล้อแมกนีเซียมน้ำหนักเบาสำหรับระยะที่เพิ่มขึ้น

BrakingLightly จานเบรกน้ำหนักเบาทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ VISION EQXX และช่วยลดน้ำหนัก

EfficiencyOnTheRoad แชสซีเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมซับเฟรม F1 น้ำหนักเบา ประสิทธิภาพการแข่งรถมาสู่ท้องถนน


SolarPower แผงหลังคาบางเฉียบ ป้อนไฟฟ้าใส่ระบบแบตเตอรี่ได้ไกลถึง 25 กม. ในโหมดระยะไกลพิเศษ

HumanMachineMerge ส่วนต่อประสานผู้ใช้ ออกแบบให้ใช้งานง่ายและชาญฉลาด พร้อมคำแนะนำและความช่วยเหลือสำหรับการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ นำความใกล้ชิดให้มากยิ่งขึ้นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า

SensualPurity การออกแบบภายนอก/ภายใน ของ EV สมัยใหม่ เน้นย้ำบทบาทในฐานะรถยนต์อนาคตพลังงานไฟฟ้า


FastTechProg: จากคลีนชีตสู่ท้องถนนในเวลาเพียง 18 เดือน VISION EQXX เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมเทคโนโลยีที่สามารถปรับเป็นนวัตกรรมสำหรับการผลิตจริงได้เร็วกว่าที่เคย


Transformation: VISION EQXX สาธิตการเปลี่ยนแปลงของ Mercedes-Benz ให้เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและซอฟต์แวร์

SoftwareDriven: แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์เพื่อความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ และกระบวนการพัฒนาที่รวดเร็ว ซึ่งรวมถึงระบบการจัดการแบตเตอรี่ที่ก้าวล้ำ.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/