วันที่ 14 ธันวาคม 2564 Toyota ได้เปิดเผยกลยุทธ์ในการลดมลพิษบนท้องถนน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนพลังงานขับเคลื่อนในอนาคตอันใกล้ กระแสเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปเป็นยานยนต์พลังงานสะอาดที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ล่าสุด รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่จำนวนมากของแบรนด์สามห่วง พร้อมแล้วที่จะทยอยออกสู่ตลาด “ยินดีต้อนรับสู่โชว์รูมแห่งอนาคตของเรา” Mr. Akio toyoda ประธานบริษัท Toyota Motor กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
...
นานมาแล้วที่ Toyota พัฒนาระบบ Hybrid ควบคู่ไปกับการวิจัยและทดสอบแบตเตอรี่แบบใหม่ที่มีขนาดเล็กลงแต่มีความจุกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในรถ Electric Car สำหรับอนาคตที่อยู่ไม่ไกลนับต่อจากนี้ การแถลงข่าวใหญ่ในครั้งนี้ บริษัท Toyota ชี้แจงว่า กำลังวางแผนงานสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึงในอีก 8 ปีข้างหน้า ด้วยการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ มากว่า 30 รุ่น พร้อมชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ทั้งหมดทั้งปวง จะออกมาขายในปี 2030 ถือเป็นส่วนผสมของการเพิ่มโมเดลที่มีความหลากหลายให้กับรถยนต์ที่มีอยู่ รวมถึงไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็น Electric ล้วนๆ อีกด้วย ในส่วนของยานยนต์แบบพิเศษ เช่น ซุปเปอร์คาร์รุ่นใหม่พลังงานไฟฟ้าของแบรนด์ Lexus เป็นที่น่ายินดีที่ท่านประธาน Toyoda จะนำจิตวิญญาณของ LFA กลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบของระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด BEV สำหรับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางที่ปล่อยมลพิษ เมื่อมองดูในกลุ่มของยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่นำมาจัดแสดง ดูเหมือนว่า Toyota กำลังจะฟื้นคืนชีพรถสปอร์ตรุ่น MR2 ในตำนาน โดยปรับเปลี่ยนจากเครื่องยนต์วางกลางขนาด 2.0 ลิตร มาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางคร่อมอยู่เหนือเพลาหลังเพื่อขับเคลื่อนล้อหลัง!
Toyoda แจกแจงแผนใหม่นี้ด้วยยานพาหนะสองแบบ – หนึ่ง รถยนต์ carbon reducing’ cars ที่เข้ามาช่วย 'ลดการปล่อยคาร์บอน' และอีกแบบหนึ่ง ‘carbon neutral’ หรือ 'ค่าคาร์บอนที่เป็นกลาง'
มีการกล่าวถึง bZ4X ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ ที่พัฒนาร่วมกับ Subaru นอกจากนั้น ยังมี Toyota Electric อีกเวอร์ชันที่เล็กกว่าซึ่งเรียกว่า 'bZ Small Crossover' นั่นคือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ออกแบบมาสำหรับตลาดยุโรปและญี่ปุ่น และ "เอสยูวีขนาดกะทัดรัดที่สุดในซีรีส์" ควบคู่ไปกับ "bZ Compact SUV" ขนาดกลางที่ดูดีมากจริงๆ
...
ในกลุ่มของยานยนต์พลังไฟฟ้ายังมี 'Mid Box' รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ซึ่งดูเหมือนกล่อง 'Micro Box' (เดาว่ามันคืออะไร) ครอสโอเวอร์อีกตัวหนึ่ง 'Compact Cruiser EV' ที่ดูเหมือน Land Cruiser คันเล็ก และปิกอัพไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยมซึ่งคล้ายกับ Toyota Tacoma
...
null
...
Toyota และ Lexus มีแผนที่จะเปิดตัวยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% 30 รุ่น ภายในปี 2030 มาครบทั้งรถเก๋ง รถสปอร์ต รถอเนกประสงค์เอสยูวีและรถกระบะเชิงพาณิชย์ ทั้งหมดจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวหรือมอเตอร์คู่ พร้อมระยะทำการที่ไกลแบบสะใจ แบรนด์สามห่วง ทนหายห่วงยังมองไกล หมายคงความเป็นเบอร์หนึ่งด้านยอดขายอย่างต่อเนื่องหลังจากค่อยๆ ลดการผลิตรถยนต์สันดาปภายใน โดยตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ 3,500,000 คัน ต่อปี โดยจะมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกมาขาย นับจากปีนี้ ไปจนถึงปี 2030 กว่า 30 รุ่น เน้นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ทั่วโลก สำหรับรุ่นของรถไฟฟ้าจากพี่โตที่จะเริ่มทยอยออกมาทำตลาดได้แก่
Toyota bZ4X
Toyota bZ Small Crossover
Toyota bZ Compact SUV
Toyota bZ SDN
Toyota bZ Large SUV
Toyota Mid Box
Toyota Micro Box
Toyota SPORTS EV
Toyota Crossover EV
Toyota Compact Cruiser EV
Toyota Pickup EV
Toyota Small SUEV
ส่วนแบรนด์หัวลูกศรสุดหรูอย่าง Lexus มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่น RZ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดต่อจาก ซุปเปอร์คาร์ราคาแพง LFA นั่นคือ RZ ซึ่งเป็นรถสปอร์ต SUV อีกรุ่นหนึ่ง และซีดานไฟฟ้า ที่ดูสวยงามเรียบง่าย ส่วนข่าวลือเรื่องการยุติสายการผลิตรถซีดานและซาลูนสุดสวยดูเหมือนจะเป็นข่าวปลอมซะมากกว่า!
อันที่จริง Toyoda ให้คำมั่นสัญญาว่า Lexus จะกลายเป็นแบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เน้นที่ ความสะดวกสบายสูงสุดขณะขับขี่ โดยรวมแล้วแบรนด์หัวลูกศร ควักเงินลงทุนในการพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตต มาตั้งแต่ปี 2551 ทั้ง Toyota และ Lexus มีแผนจะขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงกว่า 3.5 ล้านคัน นับจากนี้ไปจนถึงปี 2573 Lexus Electrified เป็นชื่อทางการตลาดที่จะใช้ในการสื่อสารถึงยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของ Lexus ซึ่งมีทั้งรถสปอร์ต 2 ประตู ที่ได้แรงบันดาลใจ และต่อยอดมาจาก Lexus LFA นอกจากนี้ยังมีรถไฟฟ้าหรูที่ใช้รูปแบบตัวถัง SUV อีกด้วย
Lexus Electrified Sport
Lexus RZ
Lexus Electrified Sedan
Lexus Electrified SUV
“ที่ Toyota เราเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์ที่ดีอย่างแท้จริง จะสร้างประสบการณ์ใหม่ของการขับเคลื่อนให้กับลูกค้า ปรับปรุงทิศทางไลฟ์สไตล์ที่พวกเขาเลือกในการใช้ชีวิตด้วยยานยนต์พลังงานสะอาด” Akio Toyoda ท่านประธานใหญ่ของ Toyota Motor กล่าว “จากมุมมองนั้น รถยนต์ไฟฟ้าแต่ละคันควรมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความพิเศษด้านพิสัยของการขับ ไม่เพียงแค่บนแพลตฟอร์มเฉพาะทางแบบใหม่ แต่ยังรวมถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด”