การมาถึงของ Mercedes-benz new S-Class ยานยนต์รุ่นเรือธงของแบรนด์ตราดาว ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การจัดงานแนะนำรถรุ่นนี้ ต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่โดยใช้การเปิดตัวทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ S-Class รุ่นใหม่ ก็ยังคงทันสมัยไฮเทคมากกว่าเดิม เทคนิคใหม่ๆ ที่ถูกนำมาใช้ เป็นนวัตกรรมสุดล้ำที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับและผู้โดยสารตอนหลัง ความสะดวกสบายจากอุปกรณ์ใหม่ ระบบความปลอดภัยที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น ควบรวมกับการใช้งานแบบอินเทอร์แอกทีฟ ผ่านระบบดิจิทัลในทุกรายละเอียด เหมือนกับยานพาหนะในอนาคต ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงคอยประคบประหงมคนขับและคนนั่งหลัง!


...


Ola Källenius ประธาน Daimler AG และ Mercedes-Benz AG กล่าวในวันเปิดตัวว่า "S-Class ใหม่ตอกย้ำข้อเรียกร้องต่อ Mercedes-Benz ในการผลิตรถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก" ส่วน Markus Schäfer สมาชิกคณะกรรมการบริหาร Daimler AG และ Mercedes-Benz AG กล่าวว่า "นี่คือจุดที่ความหรูหรามาบรรจบกับความปลอดภัยและความสะดวกสบายระดับสูง" S-Class เดินทางมาถึงตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 พร้อมความหรูหราทันสมัย ที่คนของแบรนด์ตราดาวบอกว่า S ใหม่ ก้าวไปอีกระดับ โดยเฉพาะงานตกแต่งภายในที่เอาใจผู้บริหารระดับสูงยามเดินทาง ดีไซเนอร์และวิศวกรของ Mercedes พยายามสร้างบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยและสบาย ด้วยเอกลักษณ์ของห้องโดยสารแบบใหม่ ที่ปรับปรุงให้มีความหรูหรา วัสดุคุณภาพสูง พร้อมความโปร่งโล่ง แดชบอร์ดแบบใหม่ การออกแบบพื้นผิวสัมผัสที่ยอดเยี่ยม จัดวางจอแสดงผลตามหลักสรีรศาสตร์ ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของ New S-Class ในด้านของความรู้สึกขณะใช้งาน ด้วยคุณภาพการขับขี่ที่ถูกปรับให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้า การปรับระดับเสียงรบกวนจากภายนอกให้ลดลง รวมถึงโปรแกรม ENERGIZING Comfort ที่หลากหลาย พูดง่ายๆ ก็คือ รถเรือธงอย่าง S-Class ถูกทำออกมาเพื่อดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของผู้โดยสาร ว่ากันขนาดนั้นเลยทีเดียว



...

Mercedes-Benz S-Class รุ่นใหม่ ดีขึ้นในหลายๆ ด้านรวมถึงประสบการณ์การขับขี่ก้าวไปอีกระดับ นวัตกรรมดิจิทัล เช่น MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ร่วมด้วยการพัฒนาใหม่ที่เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับเคลื่อนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เทคนิคใหม่ ได้แก่ การบังคับเลี้ยวที่เพลาล้อหลัง (ไม่มีในรุ่นที่ขายในประเทศไทย) นวัตกรรมด้านความปลอดภัยแบบใหม่ เช่น ถุงลมนิรภัยด้านหลัง ในฐานะที่เป็นฟังก์ชันใหม่ของ PRE-SAFE® Impulse Side ระบบกันสะเทือน E-ACTIVE BODY CONTROL แบบแอกทีฟ การพัฒนาอย่างเป็นระบบ ของฟังก์ชันช่วยเหลือการขับก้าวไปอีกขั้นสู่การขับขี่แบบอัตโนมัติ ระบบการจอดรถอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับได้รับการสนับสนุนด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยในแบบอัตโนมัติมากขึ้น เมื่อต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ ระบบต่างๆ จะเฝ้าระวังและควบคุมการเคลื่อนที่ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย การรวมระบบต่างๆ เข้ากับ MBUX เพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการแสดงภาพผ่านจอมอนิเตอร์ที่เข้าสู่มิติใหม่ทั้งหมด

...



...


โมเดล S-Class กลายเป็นจุดศูนย์กลางของแบรนด์ตราดาว ในฐานะยานยนต์รุ่นสูงสุดที่ Mercedes-Benz จะต้องแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมยานยนต์ นับเป็นรถระดับตำนานและถือเป็นมรดกแห่งงานฝีมือ เข้ากับนวัตกรรมดิจิทัลอันก้าวล้ำ ผสมผสานปัญญาประดิษฐ์หรือ AI หล่อหลอมกับประสบการณ์ที่ได้รับจากงานวิศวกรรมยานยนต์ยาวนานถึง 135 ปี เมื่อประมาณ 70 ปีที่ผ่านมา Mercedes-Benz ได้วางรากฐานสำหรับยานพาหนะระดับสูงของผู้บริหาร นับตั้งแต่เปิดตัวสู่ตลาดรถหรูในปี 1951 รถยนต์ S-Class มากกว่า 4 ล้านคันถูกส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลก การกำหนดชื่อ "S-Class" ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการกับ Series- W116 ในปี 1972 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา S-Class W222 ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และเยอรมนี โดยรวมแล้ว นับตั้งแต่การเปิดตัวของ W222 ซาลูน S-Class ทั้งรุ่นฐานล้อมาตรฐานและฐานล้อยาว กว่า 500,000 คันถูกจำหน่ายไปทั่วโลก ซึ่งมีทั้งเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ นักธุรกิจ นักการทูต โรงแรมชั้นนำ และผู้นำระดับประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าประมาณ 80% อยู่ในยุโรปตะวันตก และกว่า 70% ของลูกค้าในสหรัฐอเมริกาที่เคยขับรถ S-Class ก็ยังกลับมาเลือกรถรุ่นใหม่อีกครั้ง ข้อมูลที่สำคัญบ่งชี้ว่า ลูกค้าประมาณ 9 ใน 10 คน ที่ตัดสินใจเลือกใช้ S-Class จะเลือกรุ่นฐานล้อยาว LWB



MBUX รุ่นที่สองเปิดตัวใน S-Class ใหม่ ภายในรถเป็นแบบดิจิทัลและชาญฉลาดยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มีความก้าวหน้าอย่างมาก: การแสดงผลบนหน้าจอขนาดใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี OLED ทำให้การควบคุมรถและฟังก์ชันความสะดวกสบายต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ความเป็นไปได้สำหรับการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณและการใช้งานง่ายนั้นกว้างขวางขึ้น การควบคุมสามารถทำได้ในตำแหน่งคนขับและผู้โดยสารตอนหลัง ผู้ช่วยไฮเทค ระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes นั้นล้ำหน้ากว่าและสามารถสนทนาได้ผ่านการเปิดใช้งานบริการออนไลน์ในแอป Mercedes me นอกจากนี้ การดำเนินการบางอย่าง สามารถทำได้แม้ไม่มีคีย์เวิร์ด โดยเปิดใช้งานระบบสั่งงานด้วยเสียง "Hey Mercedes" ซึ่งรวมถึงการรับสายโทรศัพท์ อธิบายการทำงานของรถและตอบคำถามความรู้ทั่วไปอีกด้วย ใน S-Class ระบบสั่งงานด้วยเสียงถูกออกแบบให้สามารถควบคุมได้จากเบาะหลัง








การออกแบบภายนอกของ The new S-Class ถ่ายทอดความหรูหราออกมาภายใต้คอนเซปต์ Sensual Purity ในภาษาดีไซน์ที่ได้รับการยกระดับขึ้นในทุกๆ ส่วน ภายใต้การตีความใหม่ให้ดูโมเดิร์นยิ่งกว่าที่เคย
ตั้งแต่ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ล้อ AMG ขนาดใหญ่สูงสุด 20 นิ้ว กับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากถึง 51 มิลลิเมตร เส้นโค้งหลังคา Catwalk line ที่กดองศาของหลังคาให้ต่ำลง ทำให้รถยนต์คันนี้ดูสปอร์ตขึ้น พื้นที่ห้องโดยสารไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มพื้นที่มากขึ้น การออกแบบให้มือจับประตูเป็นแบบไร้รอยต่อ (Seamless door handles) ยังช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง และช่วยให้การล็อกและปลดล็อกประตูทำได้อย่างสะดวกสบายเพียงใช้มือสัมผัสที่มือจับประตู มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 5,289 มิลลิเมตร กว้าง 2,109 มิลลิเมตร สูง 1,503 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,216 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,389 กิโลกรัม


ด้วยระยะยื่นด้านหน้าที่ปรับให้สั้นลง ระยะฐานล้อยาวขึ้นเล็กน้อย และระยะยื่นด้านหลังที่มีความสมดุล The new S-Class ได้รับการออกแบบให้เป็นรถซาลูนรูปทรงคลาสสิกที่มีสัดส่วนสมบูรณ์แบบ ฐานล้อกว้างพร้อมล้อแบบใหม่ขนาด 20 นิ้ว พร้อมการออกแบบหน้าตาที่มีความทันสมัยส่วนข้างของรถทำให้ดูมีกล้ามเนื้อ เส้นสายด้านข้างตัวถังลดลงอย่างมากตามด้วยพื้นผิวที่โค้งมนอย่างชาญฉลาดบริเวณส่วนท้าย เป็นรูปลักษณ์ที่แกะสลักเพื่อสร้างเอฟเฟกต์แสงแบบพิเศษ ส่วนหน้ายังโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบคลาสสิกและตราสัญลักษณ์แบบดั้งเดิมที่แปะติดอยู่บนฝากระโปรง







ไฟหน้า Adaptive New Multibeam LED บ่งบอกลักษณะด้านหน้าของรถ ด้วยระบบส่องสว่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำงานระยะไกลถึง 650 เมตร ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบสามจุด (LED Daytime Running Light) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ S-Class มือจับประตูแบบไร้รอยต่อ (อุปกรณ์มาตรฐาน) เป็นการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ระบบประตู ต่อเชื่อมด้วยไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์แบบแอกทีฟ เมื่อคนขับเข้าใกล้ หรือสัมผัสพื้นผิวด้านนอกของที่จับประตู การเข้ารถแบบไม่ใช้กุญแจนั้นให้บริการโดย ฟังก์ชัน KEYLESS-GO รูปลักษณ์ไดนามิกของรถจากส่วนหน้าเชื่อมต่อไปที่ด้านหลัง ด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ไฟท้ายมีส่วนทำให้เกิดความประทับใจในคุณภาพการผลิตขั้นสูง ทำให้ S-Class ใหม่มีดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งกลางวันและกลางคืน


ตัวเลขค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศ (cd) 0.22 ทำให้ New S-Class เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ลู่ลม หรือมีตัวเลขแอโรไดนามิกดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มซาลูนสุดหรู แม้ว่าพื้นที่ด้านหน้า (A) ของ S-Class ใหม่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศกลับลดลง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน หลังจากปรับแต่งชิ้นส่วนที่ส่งผลกระทบต่อตัวรถ ช่วงล่าง และชิ้นส่วนที่ถอดออกได้ ทำให้ประสิทธิภาพการแหวกอากาศดีขึ้น เมื่อนำไปทดสอบในอุโมงค์ลมรวมถึงการขับทดสอบบนถนนปกติ การจำลองการไหลของอากาศอย่างครอบคลุม ดำเนินการโดยใช้คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง ในช่วงระยะเริ่มต้นของการพัฒนา W223


New S-Class ยังได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมในด้านการผลึกตัวถังด้วยวัสดุแบบใหม่ เพื่อป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก ความแข็งแกร่งของโครงตัวถัง เป็นพื้นฐานสำหรับความสบาย ลดเสียงรบกวนของลมและยาง รวมถึงอาการสั่นสะเทือน ด้วยการปรับแต่งแบบละเอียด ยกตัวอย่างเช่น รูสำหรับปลอกยางกันสายไฟในไฟร์วอลล์มีซีลสองชั้น เพื่อให้ได้เสียงเครื่องยนต์ที่ถือว่าประณีต และไม่สร้างความรำคาญภายในห้องโดยสาร ฉนวนกันไฟของไฟร์วอลล์ ถูกขยายไปยังพื้นที่ด้านข้างของเสา A และพื้นที่พื้นรถ Mercedes-Benz ยังใช้โฟมอะคูสติกในส่วนต่างๆ ของตัวถังเพื่อปรับให้เสียงแปลกปลอมจากภายนอกเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้






ดีไซน์ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นที่มอบทั้งความหรูหรา คุณภาพระดับสูงและวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีที่สุด พรั่งพร้อมด้วยระบบ ENERGIZING comfort control ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 เฉดสี ระบบปรับอากาศพร้อม AIR BALANCE package ที่ทำให้ห้องโดยสารสะอาดยิ่งขึ้น และระบบเครื่องเสียงจากลำโพง Burmester® 3D surround sound system ที่ให้คุณภาพเสียงที่มีมิติลุ่มลึก ฯลฯ เทคโนโลยีหลอดเรืองแสง LED ทำให้ S-Class ใหม่ ก้าวกระโดดในด้านระบบไฟตกแต่งภายในรถ Mercedes-Benz ตระหนักถึงสภาพแสงภายในแบบอินเตอร์แอกทีฟ เป็นครั้งแรกที่ระบบไฟส่องสว่างแบบแอกทีฟ (อุปกรณ์เสริม) รวมอยู่ในระบบช่วยเหลือการขับ สามารถเสริมการแจ้งเตือนด้วยสายตาได้ สิ่งนี้ยังทำให้การตอบกลับที่สอดคล้องกับความเป็นไปได้ เพื่ออำนวยความสะดวกขั้นสูง หรือใช้กับระบบควบคุมสภาพอากาศ ผ่านผู้ช่วย ด้วยคำสั่ง Hey Mercedes (อีกแล้ว) ห้องโดยสารแบบนิวดิจิทัล ตอบรับความต้องการของผู้โดยสารในทุกที่นั่ง ตั้งแต่เบาะที่นั่งตอนหน้าเรื่อยไปจนถึงตอนหลัง


















เริ่มตั้งแต่การออกแบบคอนโซลหน้าด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูโมเดิร์นขึ้นและตอบรับกับสรีระของผู้ใช้มากขึ้น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Nappa leather และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ Digital Instrument clusters ขนาด 12.3 นิ้ว มีการนำทุกปุ่มควบคุมตรงคอนโซลส่วนกลางให้เข้ามาอยู่บนหน้าจอ MBUX7 แบบทัชสกรีนขนาด 12.8 นิ้วทั้งหมด โดยใช้หน้าจอแบบ OLED ที่มอบพื้นที่การใช้งาน (active area) บนหน้าจอที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมกว่า 64% ภายใต้การออกแบบในลักษณะฟรีฟอร์มดูบางเบาทว่าตอบสนองฉับไว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันการทำงานของรถยนต์และฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องโดยสารด้วยการใช้นิ้วสัมผัส ผสานการทำงานร่วมกับระบบจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint scanner) ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขับขี่แต่ละคนเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลตลอดการขับ




เบาะที่นั่งตอนหลังแบบมัลติคอนทัวร์ ยังมาพร้อม Rear Seat Comfort Package ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายในการโดยสารสูงสุด ทั้งการเป็นเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งได้ และฟังก์ชันการนวด ENERGIZING ที่สามารถเลือกโปรแกรมการนวดได้สูงสุด 6 โปรแกรม










ระบบมัลติมีเดีย MBUX7 (Mercedes-Benz User Experience)
เจเนอเรชันใหม่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ขึ้นอีกขั้น ทั้งการมี MBUX Interior Assistant ที่จะทำงานอย่างฉับไวในการตอบรับการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้โดยสาร โดยระบบ Gesture Control 2.0
จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือ ศีรษะ และร่างกาย เพื่อแปลความต้องการของผู้ใช้ นำไปสู่การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ เช่น หากยื่นมือขึ้นหรือลงทางกระจกมองหลัง ไฟอ่านหนังสือจะติดขึ้นหรือดับลงเองโดยอัตโนมัติ ฯลฯ ส่วนระบบ MBUX High-End Rear Seat
Entertainment ทำงานร่วมกับ Rear Tablet หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ยกระดับการควบคุมความบันเทิงของผู้โดยสารตอนหลังให้สะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะการควบคุมความบันเทิงบนหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง โดยภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมระบบเสียง Burmester® 3D surround sound system
พร้อมชุดลำโพง 15 ตัวด้วย ใน The new S-Class ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้าอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเป็นครั้งแรก
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Parking Package with 360° camera) ที่มอบมุมมองรอบรถยนต์แบบ 360 องศาที่เสมือนจริงยิ่งกว่าที่เคย ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ
PRE-SAFE® PLUS ที่ดีขึ้น ระบบ ATTENTION ASSIST รุ่นใหม่ที่ช่วยตรวจจับความผิดปกติของผู้ขับขี่และส่งสัญญาณเตือนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัยที่รวมอยู่ใน Driving Assistance Package เจเนอเรชันล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น Evasive Steering Assist ที่ช่วยดึงให้รถยนต์กลับมาอยู่ในเลนหากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน Active Emergency Stop Assist หรือระบบการหยุดรถฉุกเฉินที่จะทำงานตลอดเวลา รวมถึงฟังก์ชัน Exit Warning ที่จะทำงานหากมือของผู้โดยสารมีการขยับไปใกล้ที่จับประตูด้านใน





เบาะที่นั่งทุกตำแหน่งของ New S-Class W223 เชิญชวนให้คุณนั่งและรู้สึกผ่อนคลาย ธีมการออกแบบเลเยอร์สามมิติที่ลื่นไหล ในขณะที่การตกแต่งอันหลากหลาย ด้วยหนัง Nappa แบบโปรเกรสซีฟลายเพชร และหนัง Nappa ลวดลายแบบ Exclusive ให้รูปลักษณ์ที่คลาสสิกและแสดงออกถึงความหรูหรามากขึ้น มอเตอร์เตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กมากถึง 19 ตัว ติดตั้งที่เบาะนั่งด้านหน้า ช่วยทำให้คุณสามารถปรับเบาะได้ตาใจชอบ จำนวนของมอเตอร์ในเบาะนั่ง เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนของเทคโนโลยีที่ติดตั้ง ที่นั่งของมันจึงมีมากกว่าความสะดวกสบาย เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบความปลอดภัย และแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงความอยู่ดีมีสุข เบาะที่นั่งทุกตำแหน่งใน S-Class ใหม่ มีตราประทับการอนุมัติโดยแคมเปญที่นั่งเพื่อสุขภาพ!





S-Class ใหม่มีโปรแกรมการนวดที่แตกต่างกัน 6-10 โปรแกรม (แล้วแต่รุ่นและออปชั่น) สิ่งเหล่านี้ใช้มอเตอร์แบบสั่นและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการนวดเพื่อผ่อนคลายด้วยการเพิ่มความอบอุ่นบนหลักการหินร้อน ว่ากันไปนั่นเลยทีเดียว ในการสร้างสรรค์สิ่งนี้ ระบบทำความร้อนของเบาะจะถูกรวมเข้ากับช่องลมแบบเป่าลมในที่นั่งหรือมัลติคอนทัวร์แบบแอกทีฟ มีการออกแบบช่องระบายอากาศอยู่ใกล้กับพื้นผิวเบาจึงควบคุมและสัมผัสได้ง่ายขึ้น รุ่น Executive Line เบาะที่นั่งด้านหลังสามารถปรับได้อย่างหลายรูปแบบ ลูกค้าสามารถกำหนดค่าด้านหลังของ S-Class ให้เป็นพื้นที่ทำงานหรือพักผ่อนได้ คุณลักษณะใหม่ประการหนึ่งก็คือ เบาะรองนั่งเพิ่มเติมแบบทำความร้อนได้สำหรับพนักพิงศีรษะ (ออปชั่นเสริม) ซึ่งมีให้สำหรับเบาะหลังปรับด้วยไฟฟ้าทั้งสองที่นั่ง ระยะการปรับและมุมของเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าในรูปแบบคนขับและเบาะปรับเอนด้านหลังได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อทำให้เหนือกว่า S-Class รุ่นที่แล้ว





เมื่อกดปุ่มหรือออกคำสั่งเสียง Hey Mercedes วิธีการแบบองค์รวมของ "Fit & Healthy" ในโปรแกรม ENERGIZING COMFORT จะมอบประสบการณ์ที่จับต้องได้ของระบบอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ใน S-Class จะมีโปรแกรมที่รวมเข้ากับโลกแห่งประสบการณ์ ในขณะเดียวกัน ระบบจะสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมภายในห้องโดยสาร เช่น สามารถเลือกการเพิ่มเติมพลัง ในกรณีที่ถนนที่ทอดยาวแบบจำเจ หรือความผ่อนคลายหากพวกเขาประสบกับระดับความเครียดที่สูงขึ้น ENERGIZING COACH ยังสามารถแนะนำโปรแกรมที่ทำให้มีชีวิตชีวาหรือสุขภาพที่เหมาะสม ตามข้อมูลยานพาหนะและการเดินทาง นอกจากนี้ยังนำข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับและระดับความเครียดมาสู่อัลกอริทึมอัจฉริยะ ที่เจ๋งมากก็คือ เมื่อกล้องภายในห้องโดยสารตรวจจับใบหน้าของคนขับได้ว่า กำลังมองไปที่กระจกมองข้าง ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ก็สามารถปรับกระจกด้านที่มองได้ทันทีโดยไม่ต้องกดสวิชต์ไปที่กระจก L หรือ R และหากกล้องตรวจพบว่าคนขับ หมดสติ เป็นลม หรืออยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถควบคุมรถได้ ระบบขับอัตโนมัติ จะเข้ามาทำหน้าที่ประคองทิศทางของรถ ยกไฟฉุกเฉิน แล้วหาที่จอดในตำแหน่งที่ปลอดภัยด้วยตัวของมันเอง เป็น Autonomous มาตรฐานที่ใส่มาให้ใน S-Class ทั้งสองรุ่นซึ่งกำลังทำตลาดในประเทศไทย






Mercedes-Benz ปรับปรุงการควบคุม ENERGIZING ใน S-Class ใหม่ด้วยนวัตกรรมต่างๆ เช่น การนวดที่อิงจากมอเตอร์สั่นในเบาะนั่งและการส่งสัญญาณเสียงสะท้อนในตัวผ่านระบบเสียงเซอร์ราวด์ Burmester® 3D surround sound system ผ่านลำโพง 15 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร กำลังขับกว่า 700 วัตต์ การสร้างเสียงสะท้อนโดยตรงในเบาะนั่ง ช่วยเพิ่มระดับประสบการณ์การฟังแบบสามมิติ - เสียง 3D ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการผลิตลำโพงอะคูสติกคุณภาพสูง ความเข้มของเสียงที่ปรับเปลี่ยนได้สำหรับแต่ละที่นั่ง

เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 6 สูบรุ่นใหม่ OM656 ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายการปล่อยมลพิษในอนาคตของยุโรป Euro 6d-TEMP (RDE-Real Driving Emissions) ส่วนประกอบทั้งหมดของตัวเครื่องเกี่ยวข้องกับการลดมลพิษ เทคโนโลยีแบบบูรณาการของระบบกำจัดมลพิษได้รับการปรับปรุงใหม่ การนำไอเสียหมุนวนกลับไปเผาไหม้ซ้ำเพื่อลด CO2 เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 6 สูบ รหัส OM656 ติดตั้งระบบหมุนเวียนไอเสีย (EGR) แบบหลายทาง เมื่อเลือกโหมดขับเคลื่อน ECO ฟังก์ชันการขับแบบประหยัดเชื้อเพลิงจะเริ่มต้นการทำงาน เกียร์ 9G-Tronic จะทดขึ้นสู่เกียร์สูงอย่างรวดเร็ว ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อความประหยัด ชิ้นส่วนต่างๆ ที่เคลื่อนไหวในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ของค่ายตราดาวยังถูกออกแบบให้มีแรงเสียดทานต่ำ ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิง คลัตช์ของชุดส่งกำลัง 9G-Tronic ทำงานอย่างนิ่มนวล แม้จะใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์ปรับเปลี่ยนอัตราทดด้วยตัวเองเกียร์ 9-G Tronic ก็ยังทำงานได้อย่างไหลลื่นและเงียบ
เครื่องยนต์ดีเซลแบบสูบเรียง 6 กระบอกสูบ Two Stage Turbo (เทอร์โบสองตัวประกบอยู่ใกล้ๆ กัน) ช่วยทำให้น้ำหนักลดลงถึง 10 กิโลกรัม เครื่องยนต์ใหม่รหัส OM656 แบบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป 4 วาล์วต่อสูบ มีปริมาตรความจุ 2,925 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 82.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 92.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.5:1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ Common rail Direct injection ให้กำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์ หรือ 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุดมากถึง 600 นิวตัน-เมตร มีตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมถึง 12 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อขับที่ความเร็ว 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 6% มีคุณสมบัติพิเศษของเครื่องยนต์ระดับสูงในตระกูลดีเซลตราดาว เช่น กระบวนการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบ เทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ two-stage turbocharging ควบคุมระบบวาล์วแปรผันด้วย CAMTRONIC การออกแบบประกอบด้วยการรวมกันของบล็อกเครื่องยนต์อะลูมิเนียมและลูกสูบเหล็ก รวมทั้งการเคลือบสารหล่อลื่น NANOSLIDE® ที่ผนังกระบอกสูบ ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic automatic transmission พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบใหม่ (Steering-wheel Gearshift Paddles)


ระบบกันสะเทือน E-ACTIVE BODY CONTROL ทำงานบนพื้นฐานของระบบ Mild Hybrid 48V มอบความสะดวกสบายและความคล่องตัว พร้อมการป้องกันเพิ่มเติมในกรณีที่เกิดการชนด้านข้าง ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ ADS+ ที่ปรับได้อย่างต่อเนื่องเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้วยเครือข่ายที่ใกล้ชิดระหว่างระบบกันสะเทือนและระบบควบคุมทั้งหมด ช่วยให้มั่นใจได้ถึงเสถียรภาพและความปลอดภัย Mercedes-Benz ได้เพิ่มฟังก์ชันใหม่ของ PRE-SAFE® Impulse Side เมื่อติดตั้ง E-ACTIVE BODY CONTROL ในการวัดระยะก่อนเกิดอุบัติเหตุ: เมื่อการชนด้านข้างคุกคาม ตัวรถสามารถยกขึ้นได้ ถึง 3 นิ้ว โดยระบบกันสะเทือน E-ACTIVE BODY CONTROL จะทำงานภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งช่วยลดภาระของโครงสร้างประตู เนื่องจากธรณีประตูสามารถดูดซับแรงกระแทกได้มากขึ้นด้วยตำแหน่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้การเสียรูปของโครงสร้างห้องโดยสารและน้ำหนักบรรทุกที่กระทำต่อผู้โดยสารลดลง เซนเซอร์เรดาร์ใช้เพื่อตรวจจับการชนด้านข้างที่อาจเกิดขึ้น
Mercedes-Benz S 350 d Exclusive ราคา 6,690,000 บาท
Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium ราคา 7,190,000 บาท.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/