เมื่ออาคารสูง ตึกระฟ้า โรงงานที่เต็มไปด้วยถังสารเคมี หรือแม้แต่ป่าเขาลำเนาไพร เกิดเพลิงไหม้รุนแรง อากาศยานขึ้น-ลงทางดิ่งหรือเฮลิคอปเตอร์ คืออีกหนึ่งปัจจัยสำหรับใช้ในการควบคุมเพลิง จากสมรรถนะและประสิทธิภาพทางการบินที่เหมาะสมกับการผจญเพลิงหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว...

...

พื้นที่ป่าสงวน หรือโรงงานสารเคมี อาคารสูงหรือตึกระฟ้า ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองใหญ่ หากเกิดเพลิงไหม้รุนแรง การใช้รถกระเช้าเพื่อทำการดับเพลิงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และหากระบบควบคุมเพลิงไหม้ของอาคาร หรือโรงงานใหญ่ๆ เกิดขัดข้อง จะกลายเป็นข้อจำกัดและหายนะร้ายแรงที่ก่อให้เกิดความสูญเสียตามมา ในปัจจุบัน เมืองหลวงใหญ่ของโลกหลายแห่งมีการนำเอาอากาศยานปีกหมุนหรือเฮลิคอปเตอร์มาใช้ในการปฏิบัติภารกิจผจญเพลิง เฮลิคอปเตอร์ที่สามารถบรรทุกน้ำหรือสารเคมีที่ใช้ดับไฟ โดยบินลอยตัวอยู่เหนือพื้นที่เพลิงไหม้เพื่อทิ้งน้ำหรือสารเคมีสำหรับดับเพลิงได้ อากาศยานขึ้น-ลงทางดิ่งจึงกลายมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการผจญเพลิง เพราะไม่มีอุปสรรคด้านการจราจรเหมือนรถดับเพลิงที่ต้องแล่นฝ่าสภาพรถหนาแน่น คับคั่ง บินถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว แม้จุดต้นเพลิงจะอยู่ในจุดที่มีความเสียหายอย่างร้ายแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟได้ การบินขึ้นไปดับเพลิงทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เฮลิคอปเตอร์ผจญเพลิง ได้รับความนิยมในหลายประเทศ 

เฮลิคอปเตอร์ที่ใช้งานในการดับเพลิง มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับไฟ โดยมีถังบรรจุน้ำติดตั้งไว้กลางลำตัว เมื่อน้ำที่ใช้ดับเพลิงหมดลง นักบินสามารถบินหาแหล่งน้ำแล้วใช้ท่อยาวติดตั้งผ่านปั๊มน้ำเพื่อสูบน้ำ เข้าไปเก็บยังถังกลางลำตัว เฮลิคอปเตอร์บางรุ่นจะใช้เครื่องมือคล้ายตะกร้าจุ่มถังน้ำลงในทะเลสาบใกล้เคียงกับที่เกิดเพลิงไหม้ ถังใส่น้ำที่ติดตั้งในเฮลิคอปเตอร์ซึ่งได้รับความนิยม ได้แก่ Bambi Bucket สามารถเติมน้ำที่พื้นจากรถบรรทุกน้ำหรือดูดน้ำขึ้นจากทะเลสาบ แม่น้ำลำคลอง และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กโดยสูบผ่านท่อสนอร์เกิลแบบแขวน เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงที่ได้รับความเชื่อถือในการใช้งานผจญเพลิงไหม้อาคารสูงเหล่านี้ ได้แก่ Bell 204 / Erickson S64 Aircranc ส่วนยักษ์ใหญ่แห่งวงการผจญเพลิงกลางเวหา ได้แก่ Mil Mi26 เฮลิคอปเตอร์ขนาดมหึมาของรัสเซีย สามารถบรรทุกน้ำได้ถึง 19,600 ลิตรต่อเที่ยว มีระบบควบคุมด้วยไฟฟ้าระยะไกล เพื่อใช้ในการสูบน้ำเข้าสู่ถังกักเก็บ ก่อนจะบินไปทิ้งน้ำเหนือพื้นที่ไฟป่าหรืออาคารที่กำลังถูกไฟไหม้ ส่วน KA-32A 11B อากาศยานปีกหมุนผจญเพลิงของไทยลำดังกล่าว หลังจากเข้าประจำการในปี พ.ศ. 2562 โดยใช้ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันสาธารณภัยต่างๆ เช่น การควบคุมไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ KA-32 ออกแบบเพื่อปฏิบัติภารกิจทางการบินที่มีความหลากหลาย เช่น ภารกิจค้นหากู้ภัยในพื้นที่ยากที่จะเข้าถึงด้วยการเดินเท้า การดับไฟป่า ดับเพลิงอาคารสูง เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง มีประสิทธิภาพด้านการบินลอยตัว หรือมีอัตรายกตัวสูงกว่า ฮ. แบบอื่นขณะบรรทุกน้ำมาเต็มความจุของถัง รวมถึงยังเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีความเสถียร เนื่องจากไม่มีโรเตอร์ท้าย สามารถบินฝ่ากระแสลมแรงบริเวณหุบเขาที่เกิดไฟป่าได้ดีกว่า ฮ. แบบอื่น

...

...

พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ว่า ขณะนี้ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์สมรรถนะสูง จำนวน 2 ลำ มาประจำการที่ พล.ร.7 อ.เเม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อรับภารกิจขึ้นบินปฏิบัติการควบคุมไฟป่า แก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งจังหวัดที่ประสบปัญหาไฟป่าใน 17 จังหวัดภาคเหนือ สามารถร้องขอการใช้เฮลิคอปเตอร์ไปดับไฟได้ โดยให้ระบุพิกัดเป้าหมาย มาที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เพื่อพิจารณาความเร่งด่วน ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะเดียวกัน ขอให้จังหวัดสำรวจแหล่งน้ำในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งจะต้องมีขนาดประมาณ 50 x 50 เมตร และมีความลึกไม่น้อยกว่า 50 เมตร ที่สำคัญไม่ควรมีต้นไม้สูงและสิ่งปลูกสร้างในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนหาพื้นที่สำหรับใช้ในกรณีที่เฮลิคอปเตอร์มีความขัดข้องจำเป็นจะต้องลงทำการตรวจสอบ ซึ่งต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยขนาด 50x50 เมตรต่ออากาศยาน 1 ลำ หลังจากเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ถังสารเคมีอย่างรุนแรงในโรงงานพลาสติก ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เขตอุตสาหกรรมในซอยกิ่งแก้ว KA-32A 11BC ต้องบินลงมาจากเชียงใหม่ แล้วรับหน้าที่เข้าดับไฟที่เกิดจากการลุกไหม้ของสารเคมี

...

KA-32A 11BC
เฮลิคอปเตอร์ผจญเพลิง KA-32A 11BC ผลิตโดยบริษัท Kamov ประเทศรัสเซีย เป็นอากาศยานขึ้น-ลง ทางดิ่งอีกรุ่น ที่ถูกใช้งานในหน่วยงานดับเพลิงและบรรเทาสาธารณภัยมากกว่า 30 ประเทศ ฉายาเจ้าปักเป้าของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ เกิดจากลำตัวที่อ้วนกลมเหมือนปลาปักเป้า ใช้ใบพัดประธานสองชั้นหมุนสวนทางกัน ทำให้ KA-32A 11BC มีความคล่องตัวและมีความน่าเชื่อถือสูงในการบินปฏิบัติภารกิจดับไฟ หรือช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในอาคารสูงระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้ การท่ีมันไม่มีโรเตอร์ท้ายหรือใบพัดหาง ทำให้ Kamov KA32A 11BC มีกำลังในการยกตัวสูงมาก สามารถยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากๆ อย่างตะกร้าถุงใส่น้ำขนาดใหญ่ หรือบินลอยตัวได้นิ่งและมั่นคงมากกว่า ฮ. แบบอื่น สามารถบินไปทิ้งหรือฉีดน้ำหรือสารเคมีดับไฟไปยังจุดเกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ และยังมีประสิทธิภาพสูงในการลอยตัวท่ามกลางหมอกควันที่เกิดจากการเผาไหม้ได้ดีอีกด้วย KA-32A 11BC สามารถติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงได้มากกว่าสี่สิบชนิด สำหรับการกู้ภัยบนอาคารสูงเจ้าปักเป้าจะติดตั้งรอกคว้านชนิดพับเก็บได้บริเวณข้างลำตัว ภายในลำตัวยังมีพื้นที่สำหรับเปลพยาบาลสองที่สำหรับรองรับผู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

Kamov KA32A 11BC ทำการบินได้ในเกือบทุกสภาพอากาศ เช่นในบริเวณที่มีลมพัดแรง ใบพัดประธานแบบสองชั้นเหมาะมากกับการบินที่มีกระแสลมแรงกว่าปกติซึ่งเฮลิคอปเตอร์แบบมีใบพัดที่หางไม่สามารถทำการบินได้ มันมีความยืดหยุ่นตัวสูง สามารถปฏิบัติการต่อต้านไฟป่า ซึ่งมักเกิดขึ้นในหุบเขาสูงชัน ซึ่งอาจเกิดกระแสลมช่องเขาที่รุนแรงในบางขณะ และอาจก่อให้เกิดปัญหาสำหรับเฮลิคอปเตอร์แบบโรเตอร์ท้าย สำหรับอายุการใช้งานของ KA32A 11BC อยู่ที่ 16,000 ชั่วโมงบิน เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีค่าบำรุงรักษาต่ำ จึงได้รับความสนใจและถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์ การบินค้นหาและกู้ภัย รวมถึงการผจญเพลิงซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของเจ้าปักเป้าลำนี้ 

ปัจจุบัน พัฒนาการของจักรกลอากาศยานที่มีความเหมาะสม ถูกออกแบบมาเพื่อผจญเพลิง ช่วยทำให้การดับเพลิงอาคารสูง โรงงานขนาดใหญ่ หรือป่าเขาลำเนาไพร มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้งานร่วมกับเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงทางภาคพื้นดิน เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา การมีเครื่องมือที่เหมาะสมและมีสมรรถนะดี จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้หากเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณที่เข้าถึงได้อย่างยากลำบาก ซึ่งกระเช้าหรือเจ้าหน้าที่นักดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงใจกลางของพื้นที่เกิดเหตุได้ ขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยให้กับการสูญเสีย ซึ่งเกิดจากความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่จะเข้าช่วยเหลือ ของเจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานพลาสติกซอยกิ่งแก้ว 21 ด้วยครับ.

KA-32A 11BC Specification

Weights
Max.take-off weight 11.000 kg
With underslung load 12.700 kg
Engine Rating (2хTV3-117 VMA)
Take-off power 2.200 H.P.
Contingency power 2.400 H.P.
Fuel Capacity
3 x tanks 605 liters
4 x tanks 711 liters
5 x tanks 870 liters
Crew
Pilots / Passengers 1-2 / 13
External Dimensions
Length (rotors turning) 11,215 mm
Width 3,805 mm
Height 5,450 mm
Volume 7.30 m3
Performance
Hovering IGE 10,600 ft
Max speed 260 km/h
Service ceiling 5,000 m
Max range 650 km

ภาพบางส่วนจาก
https://thaiarmedforce.com/2020/08/30/gallery-fire-fighting-nemo/