MG แบรนด์รถยนต์ของจีน ล่าสุดกับการประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่ ในรูปแบบของรถซีดานหน้าดุ ด้วยรถสายหล่อโหดอย่าง All New MG5 โดยเปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปรีวิวรถ พร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด สำหรับการเปิดตัวพร้อมราคาของ NEW MG5 ซีดานหน้าดุลำนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 นี้ 

...

...

เมื่อมองจากด้านหน้า คุณจะพบกับความดุดันแบบหน้าจิก ด้วยกระจังหน้า 3 มิติ Digital Burning Grille กระจังดำเงาลายตะแกรงทำจากพลาสติก ไฟหน้าใช้ทรงคล้ายกับไฟของ Mercedes-Benz CLA ติดตั้งระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ รูปแบบของการส่องสว่างด้วยหลอด LED Projector ที่เฉียบก็คือ ไฟส่องสว่างกลางวัน Daytime Running Light ออกแบบได้คมกริบ นับเป็นความกล้าของดีไซเนอร์ในค่าย MG ที่ใช้กระจังหน้าขนาดใหญ่ ทำจากพลาสติกสีดำ รูปแบบของกระจังหน้า ติดตั้งแทนกันชนหน้าได้อย่างกลมกลืน ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ของชุดกระจังครอบคลุมตั้งแต่ด้านบนไปจนถึงชายล่าง ฝากระโปรงหน้า ยกสันนูนตามสมัยนิยมบริเวณขอบของแก้มข้าง ระยะโอเวอร์แฮงก์หน้าที่ไม่ยื่นยาวมากจนเกินไป ทำให้ส่วนหน้าของ MG5 ดูสมบูรณ์แบบ บวกกับความดุดันของชุดไฟและกระจังใหม่

...

...

ด้านข้างดูไหลลื่นจากองศาความลาดเอียงของเสาหน้า ผืนหลังคา ค่อยๆ ลดระดับลงไปที่เสาท้าย คล้ายกับทรงของ CLA กระจกมองข้างใช้กรอบสีเดียวกับตัวถัง รวมถึงที่จับมือเปิดประตูก็ยังเป็นสีเดียวกับตัวถัง กรอบกระจกบานประตู เดินเส้นด้วยงานโครเมี่ยมเพื่อยกระดับความหรู เสาท้ายถูกรีดจนเรียวบาง เพื่อให้รถออกมาในลักษณะของคูเป้ซีดาน ซุ้มล้อขนาดกำลังดี ใส่ล้ออัลอยลายกงจักร ขอบ 17 นิ้ว มิติตัวถังของ MG5 ใหม่ มีขนาดความยาว 4,675 มิลลิเมตร กว้าง 1,842 สูง 1,480 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร

บั้นท้ายแปลกตา ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยลงตัวเท่าที่ควร จากการเลือกใช้ไฟท้ายทรงเล็ก แทนที่จะใช้ไฟท้ายยาวขนานไปกับฝาท้ายตามสมัยนิยม ทรงของไฟท้าย LED ดีไซน์ Leopard Claw คล้ายกับรถ Peugeot ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ฝาท้ายไม่มีระบบเปิดไฟฟ้า ออกแบบให้ทรงของฝาท้ายมีความโค้งมน ที่ดูดีก็คือ กันชนหลังและชุดท่อระบายไอเสียโครเมี่ยมสีเงินทรงสี ฝั่งละท่อ 

พื้นที่ภายในห้องโดยสาร มีการปรับรูปแบบใหม่ให้ทันสมัยมากกว่าเดิม ในจุดนี้ ถือว่า MG มีความตั้งใจในการปรับดีไซน์ภายในให้ลงตัวและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ถือว่าทำออกมาได้ดี มีความน่าใช้งาน จากรูปแบบของคอนโซล เบาะและอุปกรณ์พวกจอภาพ TFT รวมถึงความใส่ใจในการเติมความหรู ห้องโดยสารของ NEW MG5 มีพื้นที่วางเท้า และพื้นที่เหนือศีรษะ Headroom เบาะหนังสังเคราะห์ทรงสปอร์ต เน้นความนุ่มของตัวเบาะและโทนสีที่ตัดกันคล้ายกับสไตล์การออกแบบของรถสปอร์ตในยุค 1990 จุดเด่นของตัวเบาะที่เล่นสีแดง เทา และสีครีม เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง 

แผงคอนโซล 3D Diamond Design บริเวณแผงคอนโซลที่ตกแต่งด้วยชิ้นงานพลาสติกสีเทาดำ MG5 ยังมีอุปกรณ์สร้างความเท่ แต่ไม่ค่อยได้ใช้งานอย่าง หลังคา Sunroof สำหรับจอภาพมอนิเตอร์กลาง ติดตั้งหน้าจอ Touchscreen ขนาดความยาว 10 นิ้ว อยู่ด้านบนกึ่งกลางของคอนโซล สั่งงานด้วยการแตะที่จอภาพ ควบรวมระบบต่างๆ เช่น ระบบนำทางด้วยดาวเทียม การปรับตั้งค่าต่างๆ ระบบอินโฟเทนเมนต์ มาตรวัดเปลี่ยนมาใช้จอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด TFT 7 นิ้ว พวงมาลัยทรงสามก้าน พร้อมสวิตช์มัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียง ปุ่มรับ - วางสายโทรศัพท์ กระจกมองหลังแบบตัดแสง ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เครื่องเสียงติดตั้งลำโพง 6 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร ระบบอินโฟเทนเมนต์ รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ระบบกุญแจรีโมตอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start ระบบปรับอากาศดิจิทัล พร้อมกรองอากาศป้องกัน PM 2.5

NEW MG5 ใช้เครื่องยนต์ของ MG ZS เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง แบบ 4 กระบอกสูบ ความจุ 1.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ มีกำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนําที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติสายพายพูเลย์ CVT อัตราทดแปรผัน 8 สปีด ระบบรองรับ MG แจ้งว่า NEW MG5 ใช้ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และระบบที่ส่งเสริมการขับในด้านต่างๆ

หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ

ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)

ช่วงล่างหน้ํา MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง

ช่วงล่างหลัง Torsion Beam

เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)

ระบบความปลอดภัย
NEW MG5 ใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame)  Synchronized Protection System ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ซึ่งมีการผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว

ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
ระบบป้องกันกํารไหลของรถโดยไม่องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold)
ระบบระบบควบคุมกํารเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
ระบบช่วยการออกตัวบนทํางลําดชัน HAS (Hill Start Assist System)
ระบบสัญญําณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบดึง
รั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing
Door Lock)

NEW MG5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ i–SMART เชื่อมต่อยุคดิจิทัล พร้อมเทคโนโลยีใหม่ Digital Key สามารถใช้งานรถผ่านกุญแจดิจิทัล โดยรับ-ส่งโค้ดจากแอปพลิเคชัน i-SMART สามารถสั่งการ
เปิด-ปิด และสตาร์ตรถยนต์ รวมถึงการส่งกุญแจดิจิทัลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน i-SMART

Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย

กุญแจดิจิทัล
ระบบสั่งกํารผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
ค้นหําข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทาง Travel Plan จํากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน
สามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจ (Point Of Interest ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
เล่นเพลงทั้งรูปแบบออนไลน์และสตรีมมิง
ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวบนแผนที่นำทาง
รายงานการจราจรแบบ Real Time
เรียกดูข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน และข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศ
อัปเกรดระบบต่างๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)

Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็ก ประกอบไปด้วย
ตรวจสอบสถานะของประตูรถ
ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทํางไปยังรถยนต์ผ่านฟังก์ชัน FIND MY CAR โดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้ํา ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า
ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย
ระบบช่วยค้นหําศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
ระบบแจ้งเตือนเมื่อควํามผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบกํารทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
กำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 ม. ถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้า-ออกในขอบเขตที่กำหนดไว้

NEW MG5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี
ได้แก่
สีเหลือง (Nuclear Yellow)
สีขาว (Arctic White)
สีดำ (Black Knight)
สีเงิน (Silver Metallic)
สีแดง (Scarlet Red)
สีเทํา (Metal Ash Grey)

NEW MG5 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมราคา ในรูปแบบออนไลน์ (Online Launch) ในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.00 น. ผ่านช่องทําง Official Facebook Page : MG Thailand

คาดว่า ถ้าทำราคารุ่นสูงสุดไม่เกิน 730,000 และรุ่นต่ำสุดไม่เกิน 650,000 น่าจะทำตลาดรถเล็กซีดานในไทยได้ดีเลยทีเดียว รอตามราคากันอีกทีในวันเปิดตัวครับ.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mailchang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/