ค่าย เอ.พี. ฮอนด้า เจ้าพ่อตลาดรถจักรยานยนต์ในบ้านเรา ยังคงตั้งปณิธานในการเป็นผู้นำตลาดตลอดกาล ด้วยการลั่นกลองรบรุกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีชวด

“ชิเกโตะ คิมูระ” ประธานกรรมการบริหาร ค่าย เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ประกาศลั่นว่า สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2563 ได้คาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมทุกยี่ห้อจะมีตัวเลขอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน ในส่วนของฮอนด้าตั้งเป้าขายที่ 1.35 ล้านคัน

ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2562 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนโดยรวมทุกยี่ห้ออยู่ที่ 1.74 ล้านคัน ปรับตัวลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สำหรับรถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.37 ล้านคัน ปรับตัวลดลง 2% ดีกว่าตลาดรวมราว 1% ส่งผลให้ เอ.พี. ฮอนด้า ครองตำแหน่งยอดจำหน่ายสูงสุด 31 ปีติดต่อกัน

“แม้ในปีที่ผ่านมาภาพรวมของเศรษฐกิจอาจจะไม่สู้ดีนัก แต่ฮอนด้ายังรักษาความสามารถในการแข่งขันและสามารถส่งมอบสินค้ารวมถึงบริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างดี”

ภายใต้แบรนด์คอนเซปต์ “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด”

สำหรับปีนี้ เอ.พี. ฮอนด้า ได้วางแนวทางปรับตัวการทำธุรกิจเพื่อให้เข้ากับยุคของการเปลี่ยนแปลง หรือ “Age of Disruption” ซึ่งเทคโนโลยีและการบริการแบบ “personalized” ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก

จึงได้วางแนวทาง ที่สำคัญไว้ 3 เรื่อง ดังนี้

1. New Product Development การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้สามารถตอบสนองความ ต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดยแบ่งการพัฒนาสินค้าออก เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ รถจักรยานยนต์ที่ใช้สำหรับชีวิตประจำวัน เหมาะกับสมาชิกทุกคนในครอบครัว, รถจักรยานยนต์ที่พัฒนาเพื่อการใช้งานตามความสนใจส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ที่แสดงสถานะทางสังคม

...

2. Customer Touchpoint Optimization การพัฒนาทัชพอยต์กับลูกค้า ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายจากเครือข่าย Honda Wing Center ซึ่งกำลังจะยกระดับสู่การเป็น Bikers’ Solution ของทศวรรษ 2020s สร้างความไว้วางใจและเชื่อมั่นจนเกิดเป็นแบรนด์ลอยัลตี้ (Brand Loyalty)

และ 3. Corporate Social Responsibility as the Market Leader การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจรถจักรยานยนต์ โดย เอ.พี. ฮอนด้า พร้อมให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือ การส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัย ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้ลูกค้าได้รับความสนุกจากการขับขี่ พร้อมๆไปกับการเรียนรู้วิธีขับขี่อย่างปลอดภัย และเป็นผู้ใช้รถใช้ถนนที่ดีของสังคม

ขณะเดียวกัน เอ.พี. ฮอนด้า ยังเดินหน้าพัฒนาในด้านรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV)

ด้วยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการพัฒนาระบบ EV Sharing ที่นักศึกษาสามารถแบ่งปันรถ PCX Electric ผ่าน Application โดยมี PCX Electric Smart Station เป็นฮับในการชาร์จพลังงาน

โดยปีนี้ เอ.พี. ฮอนด้า จะพัฒนาฟังก์ชันการสลับแบตเตอรี่ หรือ Battery Swapping อย่างเต็มรูปแบบ

ว้าว!!!

อัลคาโปน
motorwars@thairath.co.th