Toyota Highlander เป็น SUV ขนาดกลางที่ขายอยู่ในแผ่นดินอเมริกา หลังจากออกขายมานานก็ถึงเวลาที่จะต้องปรับโฉมเพื่อเพิ่มแรงดึงดูดให้กับลูกค้าอเมริกันที่นิยมรถยนต์อเนกประสงค์ การวางตำแหน่งเอสยูวีรุ่นนี้ให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Toyota Rav4 แต่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน เกิดจากลักษณะการแข่งขันของคลาสและความน่าดึงดูดในการใช้งานเมื่อเทียบกับรถเอสยูวีของคู่แข่ง Toyota Highlander รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2020 ขจัดข้อบกพร่องที่สำคัญของตัวรถรุ่นเก่าออกไป ด้วยคุณลักษณะของการใช้งาน การขับขี่ที่สะดวกสบาย การตกแต่งภายในที่หรูหรา ส่วนประสิทธิภาพของระบบส่งกำลัง และการขับบนเส้นทางออฟโรด Highlander ยังอยู่ในระดับกลางๆ เบาะนั่งแถวที่สามมีพื้นที่ไม่มาก และเหมาะกับเด็กตัวเล็กมากกว่าจะให้คนตัวโตๆ เข้าไปนั่ง

...

Highlander รุ่นใหม่ล่าสุด เจนเนอเรชั่นที่ 4 ประจำปี 2020 มาพร้อมกับไฟหน้าแบบใหม่ Full LED ไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light กระจังหน้าแบบใหม่ทรงรังผึ้ง ไฟตัดหมอก LED อยู่ในกรอบพลาสติกสีดำเช่นเดียวกับกระจังหน้า กันชนหน้าแบบใหม่ออกแบบได้สวยงามลงตัวช่วยเพิ่มความดุให้กับรูปลักษณ์ด้านหน้า ด้านข้างตัวถังเรียบง่ายมีเส้นข้างลากจากส่วนล่างของบานประตูหน้าผ่านโป่งซุ้มล้อหลังไปจนถึงขอบของไฟท้าย ฝาท้ายไฟฟ้ากับไฟท้ายแบบใหม่ที่คล้ายกับ Fortuner เสาอากาศครีบปลาฉลาม และราวแรคหลังคาอะลูมิเนียม ล้ออัลลอย ขอบ 20 นิ้ว 

...

มิติตัวถังของ Toyota Highlander มีขนาดความกว้าง 1,930 มิลลิเมตร ยาว 4,950 มิลลิเมตร สูง 1,730 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,658 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,661 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 208 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,018 กิโลกรัม 

...

...

Toyota Highlander อยู่ในกลุ่มเดียวกับรถอเนกประสงค์ midsize SUVs เพิ่มพื้นที่เบาะแถวที่ 3 และห้องเก็บสัมภาระให้ใหญ่กว่าเดิม โดยมีคู่แข่งที่ขายในอเมริกา เช่น Mazda CX-9 Subaru Ascen Kia Sorento Ford Explorer และ Honda Pilot บนแผ่นดินอเมริกา โดย Honda Pilot และ Toyota Highlander เป็น SUV ขนาดกลางที่ได้รับความนิยมพอสมควร สำหรับ Highlander รุ่นใหม่ มีระบบ Apple CarPlay และ Android Auto เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น ในขณะที่การใช้ฟีเจอร์เหล่านั้นใน Honda Pilot จะกลายเป็นออฟชั่นที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกจากนี้ Toyota Highlander ให้หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่ Honda Pilot ไม่มี พื้นที่เก็บสัมภาระมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน

Toyota USA ปรับปรุงคุณภาพของวัสดุในห้องโดยสาร Highlander ใหม่อย่างเห็นได้ชัด หน้าจอแสดงผลสั่งงานด้วยระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วแบบใหม่ พร้อมระบบนำทางด้วยดาวเทียมเวอร์ชั่นล่าสุดที่มีความละเอียดมากกว่าเดิม

อุปกรณ์มาตรฐานใน Highlander 2020 รุ่นสูงสุดประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Amazon Alexa, Android Auto, พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 5 พอร์ต และการเชื่อมต่อระบบ Bluetooth, Wi-Fi hot spot ลำโพง JBL ระดับพรีเมียม 11 ตำแหน่ง การชาร์จอุปกรณ์ไร้สายที่รองรับ Qi วิทยุ HD Radio หลังคาไฟฟ้า panoramic moonroof เรียกว่าให้มาเต็มสูบกันเลยทีเดียว

ขุมกำลังของ Toyota Highlander มีให้เลือกสองแบบ โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินทั้งสองรุ่น เริ่มจาก Highlander รุ่นเครื่องยนต์มาตรฐาน วางเครื่องยนต์เบนซินแบบ V6 ความจุ 3.5 ลิตร Dual Overhead Cam (DOHC) 4 วาล์วต่อสูบ (24-Valve) ระบบจ่ายเชื้อเพลิง D-4S Injection พร้อมกลไกของฝาสูบแบบ Atkinson Cycle-capable ระบบวาล์วแปรผัน Dual Variable Valve Timing with intelligence (VVT-i) ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดรอการเคลื่อนตัว Auto Stop and Start Engine System เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.5 ลิตร ให้กำลัง 295 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 263 ปอนด์-ฟุต หรือ 360 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 ต่อนาที ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift-8 AT 8-speed electronically controlled automatic transmission มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า FWD และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Multi-Terrain Select (Mud/Sand, Rock/Dirt, Normal) โหมดขับเคลื่อน 3 รูปแบบ ECO / Normal / Sport

รุ่นไฮบริด วางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ความจุ 2.5 ลิตร ฝาสูบแบบ Atkinson Cycle-capable ระบบวาล์วแปรผัน Dual Variable Valve Timing with intelligence (VVT-iE) มอเตอร์ไฟฟ้า MG1/MG2 คล้ายกับเครื่องยนต์ของ Toyota Camry มีกำลัง 243 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT   

ระบบรองรับของ Toyota Highlander ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังใช้ช่วงล่างแบบมัลติลิงค์ ระบบบังคับเลี้ยวติดตั้งพวงมาลัยไฟฟ้า Electric Power Steering (EPS) power-assisted rack-and-pinion

Toyota Highlander รุ่นใหม่ วางขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกา โดยมีราคาประมาณ $34,600 ในรุ่นมาตรฐาน รุ่นรองท็อปมีค่าตัว $49,225 (Platinum AWD) ส่วนรุ่นสูงสุดราคาทะยานไปถึง $48,675 (Platinum Hybrid FWD) คิดเป็นเงินบาทไทยจะอยู่ที่ 1,506,900 บาท (ไม่รวมอัตราภาษีนำเข้า) สำหรับประเทศไทย กลางปีนี้ Toyota Fortuner รุ่นปรับโฉมจะโผล่ออกมาขายพร้อมๆ กับรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ประกอบในประเทศที่มีราคาไม่ถึงล้าน รวมถึงกระบะ Hilux ที่มีการปรับปรุงอัปเกรดเครื่องยนต์ให้มีกำลังมากกว่าเดิม. 

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/