Toyota Motor Thailand เปิดตัว Toyota Majesty ใหม่ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ภายในงานบิ๊กมอเตอร์เซลส์ Majesty เป็นรถครอบครัวแนว MPV ไซส์กลางออกแนวหรูหรามีระดับ และมีค่าตัวที่ถูกกว่า Toyota alphard / vellfire รถตู้รุ่นเรือธงของแบรนด์สามห่วงทนหายห่วง Toyota Majesty ออกแบบในสไตล์เรียบแต่หรู รูปลักษณ์ภายนอกมีสไตล์คล้ายกับ Toyota alphard / vellfire แต่ออกไปในแนวเรียบๆ ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบโครเมี่ยม รุ่นสูงสุดติดตั้งที่นั่งแบบ Captain seat พร้อมระบบบริหารหลังไฟฟ้าและการออกแบบเครื่องยนต์วางหน้า (Semi-Bonnet) เน้นการเก็บเสียงเพื่อทำให้ห้องโดยสารมีความเงียบมากกว่าเดิม ระบบรองรับใช้ช่วงล่างแบบใหม่ มาตรฐานความปลอดภัยครบ Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ เครื่องยนต์ดีเซลถูกปรับให้รองรับน้ำมันดีเซล B20
...
...
Toyota Majesty 2019 รุ่นและราคา
Toyota Majesty Grande 2,199,000 บาท
Toyota Majesty Premium 1,899,000 บาท
Toyota Majesty Standard 1,709,000 บาท
สีขาวมุก เพิ่ม 15,000 บาท
...
ประเทศไทยมีแนวโน้มความต้องการรถตู้ MPV ระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดขายของรถ MPV รุ่นเรือธงอย่าง Toyota alphard / vellfire ซึ่งกลายเป็นรถครอบครัวที่ผู้บริหารระดับสูงนิยมใช้ ลูกค้า VIP ในกลุ่มนี้กำลังมองหารถส่วนตัวเพื่อใช้ชีวิตประจำวันทั้งในแง่การใช้งานเป็นรถประจำตำแหน่ง ตลอดจนเป็นยานพาหนะสำหรับครอบครัวในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งบางส่วนในกลุ่มนี้เลือกใช้ Toyota alphard และ vellfire ซึ่งมีราคาที่สูงกว่า Toyota Majesty ในฐานะที่เป็นรถตู้ระดับพรีเมียมและเป็นยานพาหนะที่ใช้ได้ในทุกรูปแบบ Toyota คาดว่า Majesty จะทำตลาดได้ดีในประเทศไทย
...
ทาคุโอะ อิชิกาวะ หัวหน้าวิศวกร Toyota Motor Corporation เผยว่า “การพัฒนารถรุ่นนี้เกิดจากการที่ Toyota ค้นพบว่าความต้องการใช้รถตู้แบบพรีเมียมมีมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว Toyota ได้พัฒนารถตู้ใหม่นี้ภายใต้แนวคิด Luxury Mover โดยมีเป้าหมายในการสร้างรถ MPV ที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและความหรูหราตลอดการเดินทาง ซึ่งประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับมีดังนี้
1. การออกแบบ
Toyota Majesty ได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นสวยงามด้วยดีไซน์ใหม่ ความทันสมัยของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และราคาค่าตัวที่ไม่แพงจนเกินไป
2. ความสะดวกสบายในการโดยสาร
Toyota Majesty ออกแบบมาให้ตรงตามความคาดหวังของรถระดับพรีเมียม พร้อมกับที่นั่งแบบ Captain seats และแบบ Big seats การออกแบบให้เครื่องยนต์วางหน้า พร้อมโครงสร้างแบบวงแหวนและช่วงล่างด้านหลังใหม่แบบ 4 ลิงค์ คอยล์สปริง ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี Toyota Majesty ยังเน้นในเรื่องของการลดเสียงยางและเสียงลมด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ขนาดความจุ 2.8 ลิตร ถูกปรับปรุงระบบจ่ายเชื้อเพลิงใหม่เพื่อรองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20 ระบบส่งกำลังติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
3. ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยของ Toyota Majesty ควบรวมการปกป้องผู้โดยสารด้วยถุงลมเสริมความปลอดภัย 9 ตำแหน่ง ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ กล้องมองรอบคัน Toyota Majesty รุ่น Grande ติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense ประกอบไปด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชนระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน ระบบควบคุมพร้อมปรับลดความเร็วอัตโนมัติ และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
4. อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
Toyota Majesty มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกขั้นสูง เช่น บานประตูสไลต์ เปิด-ปิด อัตโนมัติ ระบบสตาร์ตอัจฉริยะ ช่องเชื่อมต่อ USB 7 ตำแหน่ง ม่านบังแดด ไฟอ่านหนังสือ
5. คุณภาพงานประกอบและความคงทน
Toyota Majesty ถูกทดสอบอย่างหนักก่อนการดันสู่ไลน์ผลิตในโรงงานของ Toyota โดยเน้นไปที่ความทนทานจากการใช้งานอย่างหนัก
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยอดขายรถตู้ MPV ระดับพรีเมียม หรือ luxury van มีตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูงมักมองหายานพาหนะขนาดใหญ่ที่มีความสะดวกสบายในการขับหรือโดยสาร โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการรถตู้ระดับพรีเมียม คือ
1. กลุ่มครอบครัวสมัยใหม่
กลุ่มคนเหล่านี้มีความต้องการใช้รถสำหรับตนเองและครอบครัว โดยมีปัจจัยในการเลือกซื้อรถ คือ ความกว้างขวาง ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและความคุ้มค่า
2. กลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหาร
เนื่องจากต้องเดินทางไปประชุมหรือตรวจงาน ผู้บริหารส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักมีรถประจำตำแหน่งที่ไม่ได้ขับเอง หรือต้องการรถ MPV เพื่อการเดินทางไปดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการรถที่มีภาพลักษณ์หรูหราและความสะดวกสบายเป็นเลิศ
เพื่อตอบสนองความต้องการ Toyota Majesty จึงได้รับการออกแบบและพัฒนารูปลักษณ์ให้มีความหรูหรา อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เมื่อเปรียบเทียบรถตู้รุ่นพี่อย่าง Toyota alphard / vellfire เช่น ที่นั่งแบบ Captain seat นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมายที่จะทำให้การเดินทางของทุกท่านสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และภายใต้แนวคิดการพัฒนาแบบ “Ever-Better Car” ทำให้ Toyota Majesty มาพร้อมกับระบบ Toyota Safety Sense ที่ถือเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยสูงสุดในตลาด ด้วยถุงลมเสริมความปลอดภัย 9 ตำแหน่ง ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ กล้องมองรอบคัน
สำหรับท่านที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อสำรองวันทดลองขับได้ที่ศูนย์ขับทดสอบรถยนต์ Toyota (Toyota Driving Experience Park) ที่ถนนบางนา-ตราด กม. 3 หรือติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของโตโยต้าและผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
Toyota Majesty 2019 มีให้เลือก 2 สี
สีขาวมุก – White Pearl
สีดำ – Black Mica
Toyota Majesty 2019 รุ่นและราคา
Toyota Majesty Grande 2,199,000 บาท
Toyota Majesty Premium 1,899,000 บาท
Toyota Majesty Standard 1,709,000 บาท
สีขาวมุก เพิ่ม 15,000 บาท
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Toyota Majesty ใหม่
กระจังหน้าโครเมียม
ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน
ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED
ไฟตัดหมอก
กระจกมองข้างพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว
ล้ออัลลอย 17 นิ้ว
เบาะหลังพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
ประตูบานสไลด์อัตโนมัติ 2 ด้าน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
อุปกรณ์ภายใน
พวงมาลัยตกแต่งด้วยลายไม้พร้อมปุ่มควบคุม
มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID
ที่นั่งปรับนอนไฟฟ้าพร้อมที่รองขาปรับอัตโนมัติ
จุดยึดเบาะหนังสำหรับเด็ก 4 ตำแหน่ง
ที่นั่งแบบ Captain Seat พร้อมระบบบริหารหลังไฟฟ้า
ระบบควบคุมอุณหภูมิให้ความเย็นสบายตลอดการเดินทาง
ที่วางแก้วน้ำและช่องต่อ USB 7 ตำแหน่ง
ม่านบังแดดและไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
บันไดขึ้น-ลงกว้างขึ้น
ระบบความปลอดภัย
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
ไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal)
ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Difference)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
TOYOTA SAFETY SENSE
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
เครื่องยนต์ GD 2.8 ลิตร รองรับน้ำมันดีเซล B20
กำลังสูงสุด 120 กิโลวัตต์ (163 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,200 รอบ/นาที
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท
ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบโฟร์ลิงค์คอยล์สปริง
ระบบ T-CONNECT TELEMATICS
GEO-FENCING ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กำหนด
FIND MY CAR เช็กตำแหน่งรถผ่านแอปพลิเคชัน
SOS EMERGENCY SERVICE ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง* (*อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในบางกรณี)
MY TOYOTA WI-FI เชื่อมต่อความบันเทิงออนไลน์ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 9 อุปกรณ์* (*ตามเงื่อนไขที่กำหนดในแพ็กเกจ)
PARKING ALERT ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ตหรือเคลื่อนที่
OPS (OPERATOR SERVICE)ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านอาหารชั้นนำ.